ตอนที่ 144 ชะตาของเจ้า วันนี้ข้าจะริบมันเอง
ดวงตาของเจียงเฉินเย็นชา และร่างของเขาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยท่ามกลางสายตาของยาม
ปัง ปัง ปัง!
เสียงกระแทกดังขึ้นอย่างต่อเนื่องในทันที
ยามไม่ทันได้ตอบสนองใดๆ ร่างกายของพวกเขาก็ฐินออกไปราวกับว่าวที่สายป่านขาด
ในชั่วพริบตา…
ก็มีเสียงกรีดร้องมากมายดังมาจากยามเหล่านั้น
เจียงเฉินเหยียบหน้าอกของยามคนหนึ่งด้วยสีหน้าเย็นชา “บอกมา เกิดอะไรขึ้นกับเมืองคังซาน?”
ตั้งแต่หลินเทียงชงและหลี่ก้านร่วมมือกันเพื่อสังหารเจียงเฉินในวันนั้น เจียงเฉินก็ได้ฆ่าพวกเขาและขับไล่ตระกูลหลินกับหลี่ออกไปจากเมืองคังซานแล้ว
ตั้งแต่นั้นเจียงเฉินก็คิดว่าตระกูลหลี่และหลินนั้นไม่อาจเป็นภัยต่อตระกูลเจียงได้อีกต่อไป
แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่าตระกูลหลินจะกลับมาที่เมืองคังซานอีกครั้งเพื่อยึดเมือง !
เป็นฝีมือของหลินยู่รึ?
แต่ในเมื่อหลินยู่รู้แล้วว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา หลินยู่จะหาเรื่องรีบตายไปทำไม ?
“สาม…เมื่อสามวันก่อนหลินยู่ผู้นำคนใหม่ของตระกูลหลินได้พาตระกูลหลินของพวกเขามาที่เมืองคังซานเพื่อยึเมือง ”
“ตอนนี้ตระกูลเจียงได้พ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ พวกเขาทำได้เพียงอาศัยอาคมที่อยู่ในลานของตระกูลเจียงเพื่อยื้อเวลาเท่านั้น !”
“นะ…นายท่าน พวกเราทั้งหมดถูกบังคับโดยหลินยู่ ได้โปรดเมตตาพวกเราด้วย ”
ยามมองไปที่เจียงเฉินด้วยความสยดสยอง เขาไม่ลังเลสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดในเมืองคังซานอย่างรวดเร็ว
“ข้าเคยให้โอกาสพวกเจ้าไปแล้ว!”
“แต่พวกเจ้าไม่รู้ผิดชอบชั่วดู กล้าติดตามหลินยู่มาเพื่อยึดเมืองคังซานและต่อสู้กับตระกูลเจียง ”
“ในเมื่อเจ้าหาเรื่องตายด้วยตัวเองเช่นนี้ ข้าก็คงต้องสนองให้ !”
แสงที่เย็นยะเยือกประกายผ่านดวงตาของเจียงเฉิน จากนั้นฝ่ามือทั้งสองของเขาก็ขยับเล็กน้อยและเด็ดดวงชีวิตของเหล่ายามหลายคนไป
หลังจากจัดการยามที่ประตูเมืองเสร็จ ร่างของเจียงเฉินก็กลายเป็นภาดติดตาและมุ่งหน้าไปทางตระกูลเจียง
…
ในขณะเดียวกัน
ณ ลานกว้างของตระกูลเจียง ทางตะวันตกของเมืองคังซาน
หลินยู่ถือกระบี่ยาวในมือด้วยท่าทีเฉยเมย เขานำสาวกของตระกูลหลินหลายร้อยคนล้อมอยู่รอบๆประตูตระกูลเจียงไว้
ข้างหลินยู่มีชายวัยกลางคนที่ดูกำยำและชายชราผมขาวในชุดคลุมยืนอยู๋
ตรงข้ามกับหลินยู่และคนเหล่านี้คือ เจียงขุบและซูชาที่นำกลุ่มคนของตระกูลเจียงมาเฝ้าไว้ที่หน้าประตูตระกูล ตอนนี้พวกเขากำลังเผชิญหน้ากับหลินหยู่และคนเหล่านั้นอยู่ !
“เจียงขุย อาคมป้องกันของตระกูลเจียงตอนนี้ถูกข้าทำลายแล้ว !”
“ถ้าเจ้ายังมีลูกไม้อะไรอีกก็จงใช้มันออกมาซะ ”
“วันนี้ไม่มีใครหยุดข้าจากการทำลายตระกูลเจียงของเจ้าได้!”
หลินยู่จ้องไปที่เจียงขุยอย่างเย็นชา ดวงตาของเขาเป็นประกายด้วยแสงเย็นยะเยือก!
“หลินยู่ ขนาดตอนที่พ่อของเจ้ากับผู้นำกระกูลหลี่สู้กับผู้นำตระกูลเจียงของเรา พวกเขาก็ยังถูกฆ่าตายด้วยฝีมือของผู้นำของเราเพียงลำพัง!”
“ฉะนั้นเจ้าคิดหรือว่าเจ้าจะทำลายตระกูลเจียงของเราได้ ?”
เจียงขุยหัวเราะและมองไปที่ หลินยู่: “ถึงแม้เจ้าจะสามารถทำลายตระกูลเจียงของข้าได้จริงในวันนี้ แต่ตระกูลเจียงของข้าก็ไม่มีหายไป ในวันไหนที่ผู้นำตระกูลของเรากลับมา วันนั้นจะเป็นที่ตระกูลหลินของเจ้าพินาศ !”
“หึ อย่าว่าแต่ที่เจียงเฉินไม่อยู่ที่นี่เลย แม้ว่าเขาจะอยู่ที่นี่ด้วย ข้าก็ยังมั่นใจว่าจะสามารถทำลายตระกูลเจียงของเจ้าได้ !”
ขณะที่พูดถึงเจียงเฉินกับเจียงขุยเช่นนั้น หลินยู่ก็อดไม่ได้ที่ดวงตาจะฉายแววความอับอายขึ้น
เขาชักกระบี่ออกมาแล้วชี้ไปด้านหน้าพร้อมกับตะโกนออกมา “จัดการพวกมันซะ อย่าให้ใครรอดไปได้ !”
อย่างไรก็ตาม……
ในขณะที่หลินยู่กำลังจะพาคนของตระกูลหลินบุกเข้าคนของตระกูลเจียง
เสียงที่ดูโกรธเกรี้ยวและเย็นชาก็ดังเข้ามาในหูของทุกคน
“หลินยู่ เจ้ากล้ารึ!”
“เพื่อเห็นแก่หน้าหยานคังหมิงวันนั้นข้าก็ได้ไว้ชีวิตเจ้าแล้ว แต่ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าเจ้ายังจะมีหน้ามากระทำต่อตระกูลเจียงของข้าอย่างอุกอาจเช่นนี้อีก !”
ตอนที่ 141 นอกจากข้าไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์รังแกพวกเขา
“ผิดปกติ ! ศิษย์พี่เจียงเฉินไม่ใช่คนแล้ว!”
“พรสวรรค์ในการปรุงยาของเขาเองก็ถึงระดับที่เหนือคาดแล้วเช่นกัน !”
“มันไม่ใช่แค่แค่ผิดปกติแล้ว ! แม้แต่อัจฉริยะของตระกูลตันก็ยังถูกรังแกอย่างทารุณกรรมราวกับเป็นขยะซะงั้น !”
ช่วงเวลานี้เอง… …
นักเรียนเกือบทั้งหมดของวังหลิงหยุนต่างก็มองมาที่เจียงเฉินด้วยความชื่นชม
เมื่อเขาได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ ของเจียงเฉินและเสียงที่ดูแปลกประหลาดใจของเหล่านักเรียนวังหลิงหยุนรอบๆ
ใบหน้าที่หล่อเหลาของตัเสี่ยวหมิงก็กลายเป็นแดงขึ้นทันทีและเขารู้สึกราวกับว่าต้องการเอาหน้าแทรกลงไปที่แผ่นดินร
แต่ไม่ว่าใบหน้าของเขาจะอยู่ที่ใด เขาก็ยังคงอยู่ที่นี่ ท่ามกลางสายตาที่จ้องมองมานับไม่ถ้วน
หลังจากเอาชนะหวู่เฟยหลงและแก้ไขปัญหาตันเสี่ยวหมิงให้ซูหลิงเซียงได้แล้ว
เจียงเฉินที่ไม่ค่อยได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขนักในวังหลิงหยุนก็เริ่มมีเวลาผ่อนคลาย
อย่างไรก็ตาม……
วันที่สงบสุขเช่นนั้นกลับคงอยู่ได้ไม่นาน
วันนี้เอง ในขณะที่เจียงเฉินกำลังนั่งสมาธิอยู่ในห้อง ทันใดนั้นกระแสลมที่ทรงพลังก็ตกลงมาที่ลานบ้านของเขา
“นี่เป็นกลิ่นอายของผู้อาวุโสวังชั้นใน หยานชางหมิง หนิ ? เขามาทำอะไรที่นี่กัน?”
เจียงเฉินพึมพำกับตัวเองแล้วลุกขึ้นยืน จากนั้นก็ออกจากห้องไป
หลังจากออกจากห้อง เจียงเฉินก็พบกับหยานชางหมิงที่ยืนอยู่ที่ลานบ้าน
“ผู้อาวุโสหยาน ท่านมาที่นี่ด้วยเหตุอันใดรึ ?”
เจียงเฉินมองไปที่ หยานชางหมิงด้วยสายตาที่แปลกใจ
“ข้ามีเรื่องมาขอให้เจ้าทำ”
“นักเรียนหลายคนจากวังชางเหล่ยนั้นได้มาท้าทายนักเรียนของวังหลิงหยุนเราที่ลานประลองของวัง และตอนนี้นักเรียนที่งหมดของวังหลิงหยุนก็กำลังถูกทุบตีไปทีละคน ”
หยานชางหมิงกล่าวด้วยท่าทางที่ไม่น่าดู
เพราะความหยิ่งผยองและการดูดถูกจากเรียนวังชางเหล่ยมีหรือที่พวกเขาจากวังหลิงหยุนจะยอมเสียหน้า
เจียงเฉินมองด้วยความประหลาดใจและพูดว่า: “หวู่เฟยหลงกับหลินยู่ก็พ่ายแพ้เหมือนกันรึ ?”
“เจ้ายังมีหน้ามาพูดอีกเรอะ”
“หลังจากที่หลินยู่แพ้ให้กับเจ้า เขาก็ออกจากวังหลิงหยุนไปแล้วและไม่ได้กลับมาอีกเลย ”
“ส่วนหวู่เฟยหลงเองก็ถูกใครแถวนี้ทุบตีมาเมื่อสองวันก่อน ตอนนี้ยังรักษาตัวอยู่เลย”
หยานชางหมิงพูดด้วยสีหน้าหงุดหงิด “ตอนนี้วังหลิงหยุนของเราเหลือเจ้าเพียงคนเดียวแล้วที่จะสามารถจัดการกับเด็กพวกนั้นได้ อีกอย่างมีเด็กจากวังชางเหล่ยกล่าวท้าทายชื่อของเจ้าอีกด้วย !”
เมื่อได้ยินคำพูดของหยานชางหมิง เจียงเฉินก็อดไม่ได้ที่จะหรี่ตาลง
เด็กนักเรียนจากวังชางเหล่ยเพียงคนเดียวที่เขารู้จักก็คือ เหล่ยชิง ที่เขาเคยพบเจอเมื่อตอนไปยังภูเขาเมฆอัศนี
เป็นไปได้ไหมว่าชายคนนั้นจะมาที่วังหลิงหยุน ?
“ก็ได้ ข้าจะไปเจอกับพวกเขาเอง!”
เมื่อเขาถูกกล่าวชื่อท้าทายแล้ว มีหรือเจียงเฉินจะปล่อยให้คนอื่นมองว่าเขาเป็นเต่าหัวหด
อย่างไรก็ตาม ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ เขาเองก็กำลังรู้สึกร่างกายคันมือเช่นกัน หากได้ขยับกล้ามเนื้อกับกระดูกซะบ้างก็คงจะดี
หลังจากนั้นไม่นาน
เจียงเฉินก็มาถึงลานประลองของวัง
ทันทีเสียงเยาะเย้ยดูถูกก็ดังขึ้นในหูของเขาโดยตรง
“ฮี่ฮี่… นักเรียนของวังหลิงหยุนตกต่ำลงเรื่อยๆจริงๆ ”
“ใช่ พี่ใหญ่เหล่ยชิงคนเดียวก็สามารถเอาชนะอัจฉริยะทั้งหมดในรายชื่ออันดับของวังหลิงหยุนได้แล้ว ”
“พี่ใหญ่เหล่ยชิงทะลวงผ่านเข้าสู่ระดับก่อกำเนิดแล้ว ฉะนั้นในวังหลิงหยุนแห่งนี้สมควรไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้อย่างแน่นอน !“
เจียงเฉินเดินตามเสียงเหล่านี้และมองไป จากนั้นเขาก็เห็นนักเรียนโหลหนึ่งจากวังชางเหล่ยยืนอยู่ตรงกลางจัตุรัส
ชายหนุ่มร่างสูงที่ยืนอยู่หน้าสุดคือเหล่ยชิงที่เขาเคยเจอเมื่อตอนที่อยู่ภูเขาเมฆอัศนี
ข้างหน้าเหล่ยชิงมีนักรเยีนของวังหลิงหยุนห้าถึงหกคนกำลังตกอยู่ในสภาพทุกข์ทรมานอยู่ และเห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขาได้รับบาดเจ็บจากฝีมือของเหล่ยชิง
เมื่อเจียงเฉินเห็นฉากนี้ ดวงตาของเขาก็หรี่ลง และเสียงอันเย็นชาของเขาที่แผ่วเบาดัก็งก้องอยู่ในจัตุรัสโดยตรง
“หึ นักเรียกจากวังชางเหล่ยเพียงไม่กี่คนกลับช่างเหิมเกริมนักที่กล้ามาสร้างปัญหาให้กับวังหลิงหยุนของข้า !”
“นอกจากข้าแล้ว ! ไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์มารังแกคนของวังหลิงหยุนเด็ดขาด !“
ตอนนี้แปลถึงตอนที่ 850 แล้วนะครับ หากต้องการอ่านอย่างไม่ขาดตอนสามารถติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ที่ https://www.facebook.com/ReadGOS/
เพียงตอนละ 1 บาท เท่านั้น สามารถลดค่าเข้ากลุ่มได้โดยหักลบตามจำนวนตอนที่อ่าน เช่น ท่านอ่านถึงตอนที่ 145แล้วก็สามารถเข้ากลุ่ม 3 ได้ด้วยราคา 5 บาทเท่านั้น !
“ในเมื่อเจ้าอยากตายนัก วันนี้ข้าก็จะเป็นคนเด็ดชีวิตสุนัขของเจ้าเอง !“