ตอนที่ 38
หยานชิงซวนโกรธเป็นอย่างมาก
นักเล่นแร่แปรธาตุนั้นมีอยู่ด้วยกัน 9 ระดับ
ระดับ 1-3 คือนักเล่นแร่แปรธาตุสามัญ ระดับ3-6คือนักเล่นแร่แปรธาตุ ส่วนระดับ 7 ขึ้นไปนั้นคือนักแปรธาตุระดับสูง
ในฐานะยอดฝีมือด้านการเล่นแร่แปรธาตุระดับที่ 6 ความปรารถนาตลอดทั้งชีวิตของหยานชิงซวนก็คือการสามารถก้าวข้ามเส้นทางของนักเล่นแร่แปรธาตุไปเพื่อเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับสูงที่เหนือกว่าระดับ 7 !
อย่างไรก็ตามเขานั้นอยู่จุดสูงสุดของการหลอมยาในอาฯาจักรเซี่ยอันยิ่งใหญ่แล้ว
ในอาณาจักรต้าเซี่ยแห่งนี้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถคุยกับเขาเรื่องการเล่นแร่แปรธาตุได้
และสิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ หยานชิงซวนติดอยู่ที่นักเล่นแร่แปรธาตุระดับ 6 เท่านั้น เขาติดอยู่ระดับนี้มานานแล้วก็ยังทะลวงผ่านไปไม่ได้
ในที่สุดเขาก็ได้พบกับใครบางคนที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจในการเล่นแร่แปรธาตุให้กับเขาได้ แต่ไป๋จี้ซวนกลับขับไล่เขาไปอย่างงั้นหน่ะรึ ?
นี่จะไม่ให้หยานชิงซวนโกรธได้ยังไง?
“ไป๋จี้ซวน เจ้าข่างโอหังนัก ”
“เจ้ากล้ามาจากไหนกันถึงได้ขับไล่แขกผู้มีเกียรติของข้าออกไปจากจวนชิงซวนแห่งนี้?”
“ดูเหมือนว่าจวนชิงซวนของข้าคงไม่อาจทนรับความโอหังของเจ้าไว้ได้แล้ว จงออกไปจากที่นี่ซะ !”
ใบหน้าของไป๋จี้ซวนก็เปลี่ยนเป็นสีเทาในทันที การแสดงออกราวกับสูญสิ้นราวกับว่าเขาได้สูญเสียวิญญานทั้งหมดไปแล้ว
“เจียงเฉิน เจ้ามาทำอะไรที่นี่รึ”
ในขณะนั้นเอง จู่ๆ ก็มีเสียงตกใจดังขึ้นที่ลานบ้าน
เจียงเฉินก็เหลือบไปมองและก็พบกับซูหลิงเซียงที่เดินออกมาจากบ้าน
เจียงเฉิน?
หยานชิงซวนก็ตกตะลึงเมื่อได้ยินชื่อ
เขามองไปที่ซูหลิงเซียงด้วยท่าทางประหลาดใจ: “สาวน้อยหลิงเซียง สหายตัวน้อยของเขาคนนี้ไม่ใช่อัจฉริยะในการเล่นแร่แปรธาตุที่เจ้าพบเจอในชั้นเรียนระดับทองแดงหรอกรึ ?”
“ถูกต้องแล้วอาจารย์ เขาคือเจียงเฉินผู้เป็นอัจฉริยะที่มีความสามารถในการเล่นแร่แปรธาตุมากที่สุดเท่าที่ข้าเคยเจอมาในชีวิต ”
ซูหลิงเซียงพูดอย่างรวดเร็ว: “ด้วยคุณสมบัติของเขา เขาสามารถเป็นศิษย์ส่วนตัวของท่านได้และยังสามารถสืบทอดสิ่งที่ท่านเรียนรู้มาตลอดทั้งชีวิตได้อีกด้วย “
“สาวน้อยหลิงเซียง เจ้าอย่าทำให้ข้าอับอายเลย ข้าไม่มีคุณสมบัติพอจะเป็นอาจารย์ของสหายคนนี้หรอก ”
หยานชิงซวนหัวเราะอย่างโง่เขลา: “เจ้าก็ได้หยินหนิว่าสหายน้อยเจียงเฉินคนนี้เป็นคนเตือนเราว่าการใช้ผลจิตวิญญานน้ำแข็งเขียวนั้นเป็นสิ่งที่ผิด”
อะไรนะ?
ดวงตาที่สวยงามของซูหลิงเซียงก็แสดงออกว่าเหลือเชื่อ
นางมองไปที่เจียงเฉินด้วยความตกตะลึง : “เจียงเฉิน เจ้ารู้ได้ยังไงว่าผลจิตวิญญานน้ำแข็งเขียวนั้นคือข้อผิดพลาด ? เจ้ามีเม็ดยาฟื้นชีวิตที่สมบูรณ์แล้วงั้นรึ ? “
“ยาฟื้นชีวิตเป็นยาฉีตันโบราณที่สามารถเพิ่มอายุขัยได้ มันหายสาบสูญไปนานแล้ว ดังนั้นข้าจะมีเม็ดยาฟื้นชีวิตที่สมบูรณ์ได้ยังไงกัน ?”
เจียงเฉินส่ายหัวและหัวเราะ จากนั้นเขาก็เอายาฟื้นชีวิตไม่สมบูรณ์ให้ซูหลิงเซียงดู
“ตอนที่ข้ามาถึง พี่ชายไป๋ก็ได้ทดสอบว่าข้านั้นมีคุณสมบัติพอจะพบอาจารย์ของเขาหรือไม่ ”
“ดังนั้น เขาจึงให้เม็ดยาฟื้นชีวิตที่ไม่สมบูรณ์แก่ข้ามาและบอกให้ข้าทำมันให้สมบูรณ์ “
“และหลังจากที่ข้าสังเกตดูมันสักครู่ ข้าก็รู้ได้ว่าต้องทำยังไงกับมัน ”
“…”
เมื่อได้ยินคำพูดของเจียงเฉิน
แค่สังเกตดูคืออะไร?
เจ้าไม่เห็นหรือว่าข้ากับอาจารย์นั้นได้ค้นคว้าสูตรของยานี้กันมาหลายวันแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถหลอมเม็ดยาฟื้นชีวิตที่สมบูรณ์ขึ้นมาได้เลย
แต่เจ้าที่เพิ่งได้เม็ดยาไม่สมบูรณ์ไปกลับรู้วิธีได้หลังจากมองมันครั้งเดียวเนี่ยนะ…
แม้แต่ซูหลิงเซียงที่รู้อยู่ว่าเจียงเฉินน่ากลัวเพียงใดก็ยังตกตะลึง เธอไม่คิดเลยว่าเจียงเฉินจะมีความสามารถที่น่าสะพรึงกว่าที่เธอคิดไว้มาก
เด็กคนนี้น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว
“สหายน้อยเจียงเฉิน งั้นก็แปลว่าตอนนี้เจ้ารู้สูตรยาฟื้นฟูชีวิตที่สมบูรณ์แล้วใช่หรือไม่ ?”
ตอนนี้แม้แต่หยานชิงซวน ปรมาจารย์ด้านการเล่นแร่แปรธาตุระดับ 6 ก็ยังอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
เจียงเฉินเพียงพยักหน้า “ก็เกือบใช่”
หยานชิงซวนถอนหายใจออกมา
การเล่นแร่แปรธาตุนั้นสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสูตรในการเล่นแร่แปรธาตุนั้นมีอยู่เท่าไหร่และก็ยังมีอีกหลายสูตรมากที่ยังไม่สมบูรณ์
แต่ทว่าเด็กที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้กลับสามารถบอกสูตรยาที่สมบูรณ์แบบได้ด้วยการมองดูเท่านั้น !
นี่…ช่างเป็นตัวตนที่อยู่ค้ำฟ้าอย่างแท้จริง