ตอนที่ 47 ข้ามาที่นี่เพื่อตาย !
หลังจากที่เจียงเฉินจัดการกับเจยงเฉียนเหอเสร็จ เขาก็มอบเรื่องทั้งหมดของตระกูลเจียงให้กับเจียงขุยจัดการโดยมีเขาเป็นคนคอยคุม
อย่างไรก็ตามเจียงเฉินนั้นไม่ได้อยู่ที่บ้านตระกูลเฉยๆในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา
เขาขอให้เจียงขุย รวบรวมวัสดุยาและกลั่นยาจำนวนมากขึ้นมาเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของตระกูลเจียง
เจียงขุยยังประสบความสำเร็จในการทะลวงเข้าสู่ขั้นที่7ขอบเขตรวมปราณจากขั้นที่6อีกด้วย และนั่นก็เป็นเพราะความช่วยเหลือของเจียงเฉิน
ทุกในตระกูลเจียงกลับเข้าสู่เส้นนทางที่ถูกต้องและเจียงเฉินก็ไม่ต้องการอยู่ที่บ้านตระกูลเจียงต่อ
ในวันนี้ ขณะที่เจียงเฉินกำลังจะกลับไปที่หลิงหยุนวู่ฟู่ เจียงขุยก็รีบวิ่งมาหาเขา
“อาจารย์เฉิน เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว สวนยาของตระกูลเจียงในภูเขาซวนชางถูกกลุ่มเลือดอสูรยึดไป !”
เจียงขุยกล่าวด้วยท่าทางที่ไม่น่าดู
“กลุ่มเลือดอสูร จู่ๆพวกมันเข้ามายึดสวนตาของตระกูลเจียงเราได้ยังไง ”
เจียงเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย
เจียงเฉินพอรู้มาบ้างว่ากลุ่มคนเหล่านั้นชั่วร้ายเพียงใด
พวกเขาคือกองกำลังโจรที่ออกปล้นอยู่ใกล้เมืองคังซานและพวกเขาก็แข็งแกร่งไม่น้อยเลย
หัวหน้ากลุ่มเลือดอสูรนั้นเป็นยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงไปทั่วเมืองคังซานด้วยความแข็งแกร่งขั้นที่8ขอบเขตรวมปราณของเขา !
เป็นเพราะพลังและความชั่วร้ายของคนๆนี้ กลุ่มเลือดอสูรจึงอาละวาดและสร้างปัญหาไปทั่วเมืองคังซานจนมีชื่อเสียงที่ชั่วร้ายเลื่องลือไปทั่ว
แม้แต่สามตระกูลใหญ่ในเมืองคังซานเองก็ต่างหวาดกลัวกลุ่มเลือดอสูรอยู่ไม่น้อย
“ถ้าข้าเดาไม่ผิด ข้าเกรงว่าข่าวที่ท่านพ่อไม่อยู่ในตระกูลเจียงคงไปถึงหูของพวกกลุ่มเลือดอสูรแล้ว ”
เจียงขุยยิ้มอย่างขมขื่น
เจียงเฉินพยักหน้าด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
เจียงวู่หยาพ่อของเขานั้นเคยเป็นอันดับหนึ่งในเมืองคังซาน ด้วยความแข็งแกร่งขั้น9ขอบเขตรวมปราณ
เป็นเพราะตัวตนของพ่อเขา กลุ่มเลือดอสูรจึงไม่กล้าแตะต้องตระกูลเจียง
แต่ทว่าตอนนี้ เมื่อพ่อของเขาไม่ได้อยู่ที่บ้านตระกูลเจียงแล้ว ซูชาก็คิดว่าไม่มีใครในตระกูลเจียงที่สามารถจัดการเขาได้อีกต่อไป ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่เขาจะเริ่มสร้างปัญหาให้กับตระกูลเจียง อ
“หึ กลุ่มเลือดอสูรช่างกล้านัก ข้าจะไปหาพวกมันที่เขาซวนชางเอง ”
แสงเย็นวาบในดวงตาของเจียงเฉิน
สวนยาของตระกูลเจียงในภูเขาซวนชางนั้นเป็นหนึ่งในรายได้หลักของตระกูลเจียง
ดังนั้นเขาจะต้องนำสวนยาคืนมาจากกลุ่มเลือดอสูรให้ได้
คงจะดีหากไอ่พวกจิตใจชั่วร้ายพวกนั้นเขาใจ
มิฉะนั้น เขาก็ไม่รังเกียจที่จะบดขยี้กลุ่มเลือดอสูรซะเพื่อกำจัดสิ่งชั่วร้ายของเมืองคังซานเช่นพวกมันออกไป !
ภูเขาซวนชางนั้นตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมืองคังซานซึ่งอยู่ห่างจากเมืองคังซานเพียงสิบไมล์
เจียงเฉินรีบวิ่งไปตามทาง และในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เขาก็มาถึงภูเขาซวนชางอย่างรวดเร็ว
เมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นที่ประตูสวนยาของตระกูลเจียง เขาก็เห็นสมาชิกสองคนของกลุ่มเลือดอสูรที่เฝ้าประตูอยู่กำลังคุยกันอย่างตื่นเต้น
“เฮ้…คราวนี้เรายึดสวนยาของตระกูลเจียงมาได้แล้ว กลุ่มเลือดอสูรของพวกเราจะต้องเติบโตขึ้นอีกอย่างแน่นอน !”
“ตระกูลเจียงเป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองคังซาน มีหรือที่พวกมันจะยอมปล่อยสวนแห่งนี้ไป เราต้องระวังให้ดี ”
“ฮ่าฮ่า…เจ้าจะกลัวอะไร ตอนนี้เจียงวู่หยาไม่ได้อยู่ที่ตระกูลเจียงแล้ว จะมีใครในตระกูลเจียงกันที่สามารถจัดการกับพวกเราได้ หากพวกมันมาที่นี่ก็เท่ากับว่าหาเรื่องตายชัดๆ !”
เจียงเฉินจ้องมองอย่างเฉยเมยและเดินตรงไปยังสวนยาของตระกูลเจียง
“เจ้าหนู เจ้าเป็นใคร มาทำอะไรที่นี่”
“นี่คืออาณาเขตของกลุ่ใเลือดอสูร หากเจ้ารู้ว่าเราเป็นใครก็จงไสหัวไปให้ไกลซะ !”
ตอนนี้เอง หนึ่งในชายหัวล้านตัวใหญ่ก็เห็นเจียงเฉินกำลังเดินมาที่สวนยา ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกไปอย่างรุนแรง
เจียงเฉินก็เพียงกล่าวอย่างเฉยเมย: “ข้าคือคนที่จะมาหาเรื่องตายตามเจ้าว่านั่นแหละ”
“เจ้ามาจากตระกูลเจียงงั้นรึ?”
ชายหัวล้านสะดุ้งเล็กน้อย จากนั้นจ้องไปที่เจียงเฉินด้วยสีหน้าที่เยาะเย้ย
“เจ้าหนุ่ม ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะกล้ามาที่นี่คนเดียว ข้าคิดว่าเจ้าวู่วามไปซะหน่อยนะ !“