ตอนที่ 50 โลหิตอสูรยอมจำนน
เจียงเฉินไม่สนใจความโกรธที่ซูชาระเบิดออกมา ก้าวภูติแสงของเขาทำงานสุดขีดและเขาก็ปรากฏตัวขึ้นข้างๆสมาชิกกลุ่มอีกคนในชั่วพริบตา
และในเวลาไม่ถึงวินาที
สมาชิกคนนี้ร่างกายก็กลายเป็นศพเย็นทันที
เมื่อเห็นฉากนี้ต่อหน้าเขา ซูชาก็โกรธจนตาแทบจะระเบิดออกมา
แม้ว่าเขาจะใช้ความเร็วจนสุดความสามารถแล้ว เขาก็ยังไม่สามารถตามเจียงเฉินได้ทัน สิ่งที่เขาทำได้ก็คือยืนมองเจียงเฉินจบชีวิตลูกน้องในกลุ่มของเขาไปทีละคน
หลังจากผ่านไปไม่ถึงหนึ่งนาที
สมาชิกเกือบทั้งหมดของกลุ่มโลหิตอสูรก็ได้ตกตายไป พวกเขาทั้งหมดล้มลงกับพื้นและใบหน้าก็ไร้ซึ่งสีสันใดๆอีก
“ดี เจ้าทำได้ดีนัก!”
ซูชามองไปที่เจียงเฉินด้วยความโกรธสุดขีดและยิ้มออกมา : “ไอ่หนู ถ้าวันนี้ข้าปล่อยเจ้าสออกไปจากเขาซวนชางได้อย่างมีชีวิตหละก็ อย่าได้มาเรียกข้าว่าซูชาอีก!”
ซูชาโกรธจนถึงขีดสุด!
นับตั้งแต่ก่อตั้งกลุ่มโลหิตอสูรมา ซูชาไม่เคยโกรธเท่านี้มาก่อนเลย
เขาไม่สนใจแล้วว่าเด็กคนนี้จะเป็นลูกชายของเจียงวู่หยาหรือไม่
ไม่ว่าไอ่เด็กคนนี้จะเป็นใคร วันนี้เขาจะต้องให้ไอ่เด็กเวรนี้ชดใช้สิ่งที่ทำลงไป!
“หมัดอสูรสีเลือด!”
ซูชาตะโกนออกมาและหมัดขวาของเขาก็เหวี่ยงออกไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับแสงสีเลือดที่พุ่งออกมาจากกำปั้นของเขา
ภายใต้การควบคุมของซูชา แสงเลือดก็มารวมตัวกันตรงหน้าเขาและกลายเป็นกำปั้นสีเลือดที่มีความยาวหลายฟุต
“ไอ้หนู ตายไปซะ!”
ซูชาจ้องไปที่เจียงเฉินอย่างดุร้ายและชกหมัดออกไป !
ในทันที หมัดสีเลือดขนาดใหญ่ก็เป็นเหมือนกับอุกกาบาตสีแดง พุ่งเข้าหาเจียงเฉินอย่างรวดเร็ว
สีหน้าของเจียงเฉินยังคงสงบนิ่งและหมัดมังกรฟ้าทลายสวรรค์ก็ปรากฏขึ้นที จากนั้นเขาก็เหวี่ยงหมัดของตัวเองออกไปประทะเข้ากับหมัดสีเลือด
เมื่อหมัดของเจียงเฉินถูกชกออกไป หมัดสีเลือดที่อยู่กลางอากาศก็สั่นสะเทือนและกลายเป็นบิดเบี้ยวอย่างรวดเร็ว ในที่สุดมันก็กลายเป็นประกายแสงสีเลือดและหายไปอย่างไร้ร่องรอย
และในขณะที่หมัดสีเลือดจางหายไป ร่างกายของซูชาก็เซและเข่าของเขาก็ทรุดลงกับพื้นโดยตรง เลือดไหลทะลักออกมาอย่างปากเขาอย่างรุนแรงโดยไม่อาจห้ามได้
“เจ้า…เจ้าเป็นใครกันแน่”
เขามองไปยังเจียงเฉินที่กำลังยืนอยู่ข้างหน้าเขาอย่างสงบด้วยความรู้สึกหวาดกลัวที่เกาะอยู่เต็มหัวใจ
หมัดที่ชายหนุ่มตรงหน้าส่งออกมานั้นทรงพลังกว่าหมัดของเขาเป็นอย่างมาก เขาเกรงว่าอย่างน้อยมันจะต้องเป็นวิชาต่อสู้ระดับลึกซึ้งขั้นกลางแน่นอน !
และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือรากฐานการบ่มเพาะของชายหนุ่มผู้นี้ที่อยู่สูงกว่าเขาเสียอีก ดูเหมือนอีกฝ่ายจะบรรลุขั้นที่9ขอบเขตรวมปรารแล้วนั่นเอง!
แม้แต่หลินยู่อัจฉริยะตนแรกของเมืองคังซานผู้มีชื่อเสียงของตระกูลหลินก็ยังไม่อาจมีความสามารถสูงส่งเช่นนี้ !
“ข้าคือหัวหน้าตระกูลเจียงคนปัจจุบัน เจียงเฉิน!”
เจียงเฉิมองไปที่ซูชาอย่างเย็นชา: “อย่างที่ข้าบอก นับตั้งแต่วันนี้ไป จะไม่มีกลุ่มโลหิตอสูรหลงเหลืออยู่ในเมืองคังซานอีก !”
เมื่อเสียงที่เย็นเยียบหายไป ร่างที่เลือนลางของเจียงเฉินก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าซูชาในพริบตาราวกับหายตัว
“หยุด… ท่านหัวหน้าเจียง ข้า… ข้ายอมจำนนทุกอย่างต่อท่านแล้ว ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย !”
เมื่อเห็นเจียงเฉินที่ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเขา ซูชาก็รู้สึกราวกับว่าวิญญานของเขาหลุดออกจากร่างไปและเขาก็กรีดร้องออกมาด้วยสีหน้าหวาดกลัวสุดชีวิตทันที
ความแข็งแกร่งของเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าเจียงวู่หยาเลย
หากเขาไม่ยอมจำนนต่ออีกฝ่ายหละก็ เขาคงถูกฝังอยู่ในภูเขาซวนชางแห่งนี้ไปตลอดกาลตั้งแต่วันนี้แน่นอน
เจียงเฉินก็กล่าวขึ้นอย่างเย็นชา: “แล้วข้าจะเชื่อเจ้าได้ยังไง ?”
“ข้ามีวิชาลับอันหนึ่งที่สามารถทำให้ผู้คนกลายเป็นทาสได้ หากท่านใช้วิชานี้กับข้าหละก็ ชีวิตของข้านับจากนี้ก็จะกลายเป็นของท่านอย่างไม่อาจขัดขืนได้ เพียงแค่ความคิดเดียวท่านก็สามารถฆ่าข้าได้ทันที“
หลังจากที่ซูชาพูดจบ เขาก็รีบหยิบม้วนวิชาลับจำนวนหนึ่งออกมาจากร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว