ตอนที่ 51 กลุ่มโลหิตอสูร คารวะนายท่าน
ซูชายอมจำนนด้วความจริงใจ และเจียงเฉินเองก็ไม่ได้ลงมือฆ่าเขา
ความชั่วร้ายของเลือดนี้ก็คือการเป็นปรมาจารย์ของ Yuqi แปดเท่า
ถ้ามีคนที่แข็งแกร่งคอยปกป้องตระกูลเจียงไว้ ฐานะของตระกูลเจียงในเมืองคังซานก็จะมั่นคงดั่งภูเขาไท่ซาน
“ยุบกลุ่มโลหิตอสูรซะ แล้วบอกให้คนที่เหลืออยู่ของเจ้าขนของทั้งหมดที่กลุ่มพวกเจ้ามีไปยังเมืองคังซาน ข้าจะไปรอเจ้าอยู่ที่นั่น ”
หลังจากที่เจียงเฉินควบคุมซูชาไว้ด้วยวิชาลับบางอย่างเขาก็หันไปสั่งซูชาโดยตรงแล้วหันหลังลับหายไป
ย้อนกลับไปที่เมืองคังซาง เจียงเฉินเห็นเจียงขุยกำลังนวบรวมคนในตระกูลจำนวนมากมาที่ประตูเมืองอยู่
รอบ ๆ มีผู้คนมากมายกำลังมองเจียงขุยและพวกเขาก็กำลังคุยกันนวนมากเฝ้าดูเจียงกุยและพวกเขากำลังพูดคุยกัน
“เฮ้ เกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆตระกูลเจียงถึงได้มารวมตัวกันที่นี่?”
“เจ้าไม่รู้หรอกรึ กลุ่มโลหิตอสูรได้ยึดสวนยาของตระกูลเจียงที่อยู่บนเขาซวนชางไป ”
“ห๊ะ ! อย่าบอกนะว่าตระกูลเจียงวางแผนจะไปทำสงครามกับกลุ่มอสูรโลหิต ?”
“ลุบขุย ท่านทำอะไรอยู่หน่ะ”
เมื่อเห็นสิ่งนี้ เจียงเฉินก็อดไม่ได้ที่จะก้าวออกไปและคุยกับเจียงขุย
“อาจารย์เฉิน กลับมาแล้วเหรอ?”
เจียงขุยมองไปที่เจียงเฉินที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นด้วยความตกตะลึง
“อาจารย์เฉิน ท่านไปที่ภูเขาซวนชางคนเดียว ข้ากังวลว่าท่านจะเผชิญหน้ากับศัตรูจำนวนมาก ดังนั้นข้าจึงรวบรวมคนของเรามาและวางแผนจะไปช่วยท่าน ”
แม้ว่าเจียงเฉินจะปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขาอย่างน่าประหลาดใจ แต่เจียงขุยก็ที่ฟื้นสติได้อย่างรวดเร็วก็พูดกับเจียงเฉิน
แต่เจียงเฉินก็ทำเพียงโบกมือและพูดว่า “อย่าลำบากเลย แล้วก็ท่านช่วยส่งคนไปดูแลสวนยาอีกครั้งที”
อะไรนะ?
เมื่อเจียงขุยได้ยินคำพูดของเจียงเฉนเขาก็ตกตะลึงอีกครั้ง : “อาจารย์เฉิน ท่านหมายความว่าไง “
เจียงเฉินก็ยิ้มจางๆ: “กลุ่มโลหิตอสูรถูกข้าจัดการแล้ว ไม่ต้องกังวล ส่งคนของเราไปดูแลสวนยาเถอะ “
อะไรนะ!?
ตามคำพูดของเจียงเฉิน ไม่เพียงแต่ทำให้เจียงขุยเท่านั้นที่ตกใจ
“เดี๋ยวก่อนนะ…. เป็นเรื่องจริงงั้นรึ ? เด็กคนนั้นจัดการกลุ่ทโลหิตอสูรได้จริงๆงั้นรึ?”
สำหรับกลุ่มโลหิตอสูรนั้นแทบไม่มีใครในเมืองคังซานที่ไม่รู้จัก
กลุ่มคนเหล่านี้ชั่วร้ายและแข็งแกร่งเป็นอย่างมากว่ากันว่าหัวหน้ากลุ่มซูชานั้นเป็นผู้ที่มีระดับการบ่มเพาะขั้นที่8ขอบเขตรวมปราณ
ในเมืองคังซานแห่งนี้ นอกจากเจียงวู่หยาซึ่งเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดแล้ว ไม่มีใครสามารถเอาชนะเขาได้อีก
แม้ว่า เจียงเฉิน จะเปลี่ยนจากขยะไปเป็นตัวตนที่เหลือยิ่งกว่าหลิยหยางอัจฉริยะคนแรกของเมืองคังซานแล้วก็ตาม
แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่นายน้อยผู้นี้จะสามารถจัดการกับกลุ่มโลหิตอสูรได้ใช่หรือไม่ ?
ตอนนี้เอง ทันใดนั้นก็มีเสียงดังก้องมาจากเส้นทางที่อยู่นอกเมืองคังซาน
ทันใดนั้น ชายร่างใหญ่กลุ่มหนึ่งก็ควบม้ามาที่เมืองคังชาน
“ดูนั่น นั่นพวกโลหิตอสูรไม่ใช่รึไง ทำไมจู่ๆพวกมันถึงได้มาที่เมืองคังซานกัน ?”
“หะ…ห๊า !! นั่นมันหัวหน้ากลุ่มอสูรโลหิตไม่ใช่รึไง ทำไมหัวหน้ากลุ่มผู้ชั่วร้ายคนนั้นถึงได้มาที่นี่ด้วยตัวเองได้ ”
“ต้องเป็นเจียงเฉินแน่ที่ทำให้กลุ่มโลหิตอสูรโกรธ ดังนั้นพวกมันจึงพาคนมาจัดการเมืองคังซาน “
“สาวกตระกูลเจียง เตรียมต่อสู้!”
เมื่อเห็นสิ่งนี้เจียงขุยก็รีบตะโกนใส่เหล่าคนของตระกูลเจียงที่อยู่ข้างหลังเขาอย่างรวดเร็ว และการแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนเป็นจริงจัง
“ลุงขุย ท่านอย่ากังวลไป พวกเขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อสร้างปัญหาอะไร”
เจียงเฉินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
เจียงขุยก็ผงะไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะเข้าใจความหมายในคำพูดของเจียงเฉิน กลุ่มโลหิตอสูรก็ได้มาถึงประตูเมืองแล้ว
ซูชาพลิกตัวและลงจากหลังม้า จากนั้นเขาก็คุกเข่าลงตรงหน้าเจียงเฉินภายใต้สายตาอันเหลือเชื่อนับไม่ถ้วนของผู้คน
“โลหิตอสูร คารวะนายท่าน ! “