RC:บทที่ 578 คนมากมายในทะเล
เสียงของราชินีมังกรนั้นเย็นชาจนทั้งสามตระกูลต่างตกใจ
“รับทราบ! รับทราบ” เผ่าพันธุ์ทั้งสามตอบออกมาเป็นเสียงเดียวกัน
“ต่อไปนี้นางคือราชินีแห่งท้องทะเลนี้!” ราชินีมังกรกล่าว
“ขอรับฝ่าบาท!” ชาวเงือก, ชาวฉลาม, ชาวงู, ชาวไห่หลง ทั้งสี่เผ่าคุกเข่าลง
ฉากนี้ทำให้หลินเฟิงที่อยู่ด้านข้างเต็มไปด้วยความตกตะลึง ไม่รู้เลยว่าจะทำอย่างไร
แต่เวลานี้มันไม่สำคัญแล้วว่าจะเข้าใจหรือไม่
หลินเฟิงรีบเหวี่ยงราชาฉลามลงกับพื้นและคุกเข่าลงทันที
“เจ้าตัวน้อย มานี่เถอะ! ข้าจะช่วยเจ้า้ป๋ยครั้งสุดท้าย!” ราชินีเงือกเอ่ยขึ้น ร่างทั้งร่างค่อย ๆ สลายไปทีละน้อยจนในที่สุดก็กลายเป็นแสงสีทองลอยเข้าไปในร่างของเสี่ยวไช่
ทันใดนั้นลมปราณของเสี่ยวไช่ก็เพิ่มสูงขึ้นจนได้รับการเลื่อนขั้นไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ขั้นห้า
“ที่เหลือก็ขอรบกวนพวกท่านแล้ว” เสียงของราชินีเงือกที่สลายไปได้กล่าวขึ้นกลางอากาศ
ราชามังกรแห่งกาลเวลากับราชินีมังกร ทั้งสองต่างก็พยักหน้า
เมื่อเห็นเช่นนี้ หลินเฟิงก็คาดเดาว่าทั้งสามคงได้บรรลุเงื่อนไขบางอย่างแล้วจึงนำมาสู่เหตุการณ์ตรงหน้าเขา
สิ่งที่หลินเฟิงไม่รู้ก็คือส่วนใหญ่เป็นเพราะเขา
“ข้าจะมอบทะเลที่เหลือให้แก่เจ้า” ราชินีมังกรกล่าวพลางมองขึ้นไปบนฟ้าแล้วคำราม
กี๊ซ!!!
จากนั้นจึงเปลี่ยนไปเป็นร่างมนุษย์แล้วยื่นมือออกมา มีแสง ๆ หนึ่งลอยออกมาจากมือของนาง เข้าไปยังร่างของเสี่ยวไช่
ในชั่วพริบตา เสี่ยวไช่ก็รู้สึกได้ว่านางสามารถควบคุมท้องทะเลได้มากขึ้นเป็นสองเท่า
ความรู้สึกนี้คือการควบคุมทะเลได้อย่างแท้จริง ดูเหมือนว่าเมื่อนางนึกสิ่งใดขึ้นมา ทะเลก็จะพุ่งพล่าน
หลินเฟิงมองเห็นเช่นนี้จึงเข้าใจได้ในทันที
“น่าจะมีบางสิ่งที่เกี่ยวข้องกับหายนะครั้งต่อไป” หลินเฟิงคาดเดา
ในเวลานี้ราชามังกรแห่งกาลเวลาโบกมือให้หลินเฟิงแล้วเอ่ยขึ้นว่า “หลินเฟิง มานี่สิ!”
หลินเฟิงไม่เข้าใจนักแต่ก็เหาะไปหา
“ยังมีบางสิ่งที่เราจำเป็นต้องทำ เราจะยังไม่กลับไปหาเจ้า ระยะนี้คนอื่น ๆ ในเผ่ามังกรจึงต้องไปอยู่กับเจ้า โปรดดูแลพวกเขาด้วย!” ราชามังกรแห่งกาลเวลากล่าว
“ด้วยความยินดีครับท่าน” หลินเฟิงโค้งคำนับ
หลังจบช่วงเวลาที่ราชามังกรแห่งกาลเวลากับหลินเฟิงคุยอะไรบางอย่าง เขาจึงเหาะออกไปพร้อมกับราชินีมังกรโดยกลายร่างเป็นสองมังกรหมื่นเมตรและหายไปจากสายตาของหลินเฟิง
พอมาถึงเวลานี้ทุกอย่างจึงได้สงบลงจริง ๆ สักที
สามวันต่อมา!
ชายสองคนพุ่งออกมาจากทะเลลึกและเหาะสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า โดยเหาะจากทะเลไปสู่แผ่นดินใหญ่อย่างมีความสุข
ทั้งสองเหาะไปคุยไปอย่างมีความสุขมาก
สองคนนี้ก็คือหลินเฟิงกับเสี่ยวหยาง
ครั้งนี้ คนที่มีความสุขที่สุดก็คือหลินเฟิงอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะระดับของเขาได้รับการเลื่อนขั้นจากระดับสูงสุด SS จนถึงระดับสูงสุดของ SSS การเลื่อนขั้นที่น่าตะลึงนี้ก็น่าตื่นตะลึงแบบธรรมดา
แน่นอนว่ามันไม่คุ้มค่าที่จะเอ่ยถึงหากนำมาเปรียบเทียบกับเสี่ยวไช่
แต่สถานการณ์ของหลินเฟิงนั้นแตกต่างจากนาง เนื่องจากหลินเฟิงได้สร้างพันธะสัญญากับสัตว์วิญญาณหลายตัวในเวลาเดียวกัน
แม้หลินเฟิงจะสร้างพันธะสัญญากับสัตว์วิญญาณหลายตัว แต่เขาก็ได้รับพลังต่อสู้และพลังทางจิตวิญญาณของผู้อื่นมาหลายเท่า แต่ในขณะเดียวกันหลินเฟิงก็ใช้ประสบการณ์และทรัพยากรไปมากมายเพื่อระดับของสัตว์วิญญาณเหล่านี้
นี่คือเหตุผลว่าทำไมคนอื่น ๆ ถึงได้รับการเลื่อนขั้นขึ้นสูงมาก แต่ระดับของหลินเฟิงกลับไม่ได้เลื่อนขั้นขึ้นสูงนักในครั้งนี้
แต่ครั้งนี้หลินเฟิงก็ยังคงมีความสุขมากเพราะเขาไม่เพียงแต่ได้พัฒนาระดับของเขา แต่ยังได้ผูกมิตรกับราชินีเงือกแห่งท้องทะเลอีกด้วย กล่าวได้ว่าหลินเฟิงรู้สึกโชคดีจนตัวแทบระเบิด
หลินเฟิงกับเสี่ยวหยางกำลังเหาะอยู่ ทันใดนั้นก็เกิดการสั่นสะเทือนขึ้นอย่างรุนแรงต่อหน้าพวกเขา
ทั้งสองคนรู้สึกสงสัยจึงรีบเหาะไปด้านหน้า
หลังจากนั้นไม่นานหลินเฟิงก็เห็นเหล่าคนที่ในชุดแปลก ๆ จำนวนเจ็ดถึงแปดคน ลอยอยู่บนทะเล
แต่ละคนถือโซ่เหล็กเส้นหนาไว้ในมือและดูเหมือนว่ามีบางอย่างกำลังดิ้นรนอย่างรุนแรงใต้น้ำทะเล
เสี่ยวหยางที่ได้เห็นฉากนี้และกำลังจะรีบผ่านไปก็ถูกหลินเฟิงหยุดเอาไว้
“รอเดี๋ยว พวกเขากำลังทำอะไร?” หลินเฟิงกล่าว
หลินเฟิงกับเสี่ยวหยางฉีกพื้นที่ออกแล้วเข้าไปใกล้พวกเขา
ระดับของเสี่ยวหยางเข้าใกล้กับจุดสูงสุดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามเลยไม่ส่งผลใด ๆ หากจะพาหลินเฟิงเข้าไปในพื้นที่ด้วย
เมื่อพวกเขาเข้าไปใกล้อีกฝ่ายซึ่งห่างไปประมาณ 100 เมตร พวกเขาก็ไม่ได้เข้าใกล้อีกเพราะฝ่ายตรงข้ามก็มีดินแดนศักดิ์สิทธิ์อยู่คนหนึ่งเช่นกัน ผู้แข็งแกร่งแห่งฉงเทียนอาจตรวจพบได้หากพวกเขาเข้าไปใกล้มากเกินไป
ในเวลานี้ หลินเฟิงสามารถมองเห็นสมาชิกของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างชัดเจนแล้ว
ทั้งหมดรวมแปดคน ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ขั้นหนึ่ง หนึ่งคน, ขั้นสูงระดับ SSS สามคน, ขั้นสูงสุดระดับ SSS สี่คน!
สมาชิกที่แข็งแกร่งเช่นนี้ทำให้หลินเฟิงประหลาดใจนัก
เนื่องจากเหล่าสมาชิกพวกนี้ดูเกือบจะคล้ายกับคนของตระกูลสิบอันดับซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจจริง ๆ
ถึงหลินเฟิงจะเคยพบเห็นคนจากตระกูลสิบอันดับแรกมาบ้าง แต่ก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าหลินเฟิงไม่รู้จักคนเหล่านี้เลย พวกเขาไม่เพียงมีรูปร่างหน้าตาแปลก ๆ เท่านั้น แต่ยังสวมเสื้อผ้าที่แปลกประหลาดอีกด้วย
เห็นได้ชัดว่าเสื้อผ้าของคนเหล่านี้ไม่ใช่สไตล์ของยุคนี้ แต่คล้ายสไตล์ของยุคโบราณมากกว่า
“คนพวกนี้เป็นใครกัน? ทำไมแต่งตัวแปลก ๆ” หลินเฟิงสงสัย
เสี่ยวหยางมองซ้ำและตอบว่า “พี่หลินเฟิง คนพวกนี้น่าจะเป็นคนที่ฟื้นขึ้นมาจากสมัยโบราณ”
“หืม? ใครนะ?” พอได้ยินเช่นนี้ หลินเฟิงก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่นัก
“ก็แค่มีบางคนที่หายตัวไปในสมัยโบราณผุดขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสามเดือนที่ผ่านมาราวกับหน่อไม้ที่ผุดขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ และมีผู้ที่ทรงพลังและน่ากลัวอยู่ในหมู่พวกเขาจำนวนหนึ่ง!” เสี่ยวหยางกล่าว
“อะไรนะ? มีอย่างนั้นด้วยหรือ?” หลินเฟิงไม่คิดว่าการที่เขาหายตัวไปในสามเดือนนี้จะมีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น
หลินเฟิงคิดอีกครั้ง “พวกเขาไม่ปกติสินะ”
“เปล่า ทุกคนปกติดี!” เสี่ยวหยางตอบ
“แต่ทว่าในบรรดาผู้ที่ฟื้นคืนชีพ บางคนก็มีพลังสูงกว่าตระกูลสิบอันดับแรกด้วยซ้ำ เวลานี้แม้แต่นักพรตศักดิ์สิทธิ์เองก็ยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ในจีนได้!” เสี่ยวหยางกล่าวเสริม
“ดูเหมือนว่าเราควรจะกลับไปให้เร็วที่สุด เพราะข้ามักจะรู้สึกไม่สบายใจอยู่บ่อยครั้ง!” หลินเฟิงกล่าว
ขณะที่ทั้งสองคุยกันอยู่ ทันใดนั้นสิ่งที่อยู่ใต้ทะเลก็ดิ้นรนอย่างรุนแรง
กุรุ กุรุ นาเกตโต้!
น้ำทะเลเดือดพลุ่งพล่านและมีเสียงประหลาดดังขึ้นมาพร้อมกัน
เสียงร้องนั้นแปลกมากราวกับเสียงกู่ร้องของนกอินทรีแต่ก็ไม่น่าจะใช่ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอยู่ใต้น้ำหรือเปล่า หลินเฟิงได้ยินเสียงไม่ค่อยชัด
ในเวลานี้ที่เหนือผืนน้ำ มีสี่คนอยู่ทางซ้ายและสามคนอยู่ทางขวา ในหมู่พวกเขามีคนที่แข็งแกร่งขั้นดินแดนศักดิ์สิทธิ์อยู่ตรงกลางและเขาไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร
ชายแปดคนที่อยู่บนทะเลส่งเสียงคำราม จากนั้นจึงดึงโซ่ที่อยู่ในมือของพวกเขาเพื่อดึงสิ่งนั้นขึ้นมา
ทันใดนั้น หางขนาดใหญ่ก็ผุดออกมาจากน้ำพร้อมกับน้ำทะเลอันงดงามที่พุ่งขึ้นไปทางซ้าย
ปา ปา ปา ปา ปา ปา!
มีเสียงสี่เสียงดังขึ้น ผู้แข็งแกร่ง SSS ขั้นสูงสุดหนึ่งคนและผู้แข็งแกร่ง SSS ขั้นสุดท้ายสามคนได้ถูกดึงขึ้นมา
“เกิดอะไรขึ้น?”