บทที่ 131 มารดา
ลั่วอู๋คิดว่างูตัวใหญ่กับลิงยักษ์น่าจะสู้กับไปกว่า 300 รอบแล้ว แต่แล้วงูตัวใหญ่ก็เลื้อยถอยหลังออกมา
“งูตัวใหญ่ยอมถอยแล้วสินะ” หยู่เฮากระซิบ
ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเท่าไหร่
งูตัวใหญ่คงไม่อยากจะสู้จนตายไปพร้อมกับลิงยักษ์
ซึ่งลิงยักษ์เองไม่ต้องการเช่นกัน เห็นได้ชัดว่ามันกระตือรือร้นที่จะไปที่ถ้ำ ดังนั้นมันจึงไม่กลัวที่จะต้องต่อสู้ หรือจะต้องบาดเจ็บ
สุดท้ายแล้วงูตัวใหญ่จึงเป็นฝ่ายที่ยอมล่าถอยกลับไป
อย่างไรก็ตามหากลิงยักษ์ตัวนี้เข้าไปที่ถ้ำและได้ดูดซับพลังวิญญาณและความแข็งแกร่งจนพร้อมแล้ว มันก็คงจะไม่ออกไปชิงปล้นดินแดน และพลังวิญญาณในถ้ำเองก็ไม่ได้มีประโยชน์ต่องูตัวใหญ่
งูตัวใหญ่จึงตัดสินใจลากร่างของมันกลับออกไปอย่างช้า ๆ มันลืมไปแล้วว่าทีแรกมันตื่นขึ้นมาเพื่อจับ “หนู” ที่มารบกวนการนอนของมัน และตอนนี้มันต้องการการนอนหลับที่ดีเพื่อฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ
ลิงยักษ์คำรามและมุ่งเดินต่อไปที่ถ้ำ
ทำให้ผีเสื้อปีกมายาต้องรุดเข้ามาขัดขวางอีกครั้ง เพื่อปิดกั้นการก้าวเดินของลิงยักษ์ด้วยชีวิต
ลั่วอู๋ขมวดคิ้ว “ถึงแม้ว่างูจะถ่วงเวลาไปได้บ้าง แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่เพียงพอ เพราะตอนนี้ยังคงไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ จากทางด้านในถ้ำ”
……
……
ในถ้ำมืด
ราชาผีเสื้อปีกมายากำลังนอนพักอยู่ที่นั่น มันเริ่มรู้สึกเย็นเล็กน้อยเพราะมีพลังวิญญาณแปลก ๆ ไหลเข้ามาในช่องท้องของมันตลอดเวลา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าชีวิตเล็ก ๆ ในท้องของมันพร้อมแล้วที่จะถือกำเนิด
แรงสั่นสะเทือนจากภายนอกใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ
กลิ่นที่คุ้นเคยจำนวนมากกระจายเข้ามาและผู้พิทักษ์ที่คอยอยู่ด้วยเริ่มทยอยออกจากถ้ำไป เพราะพวกมันต้องมุ่งหน้าไปสมทบกับตัวอื่น ๆด้านหน้า
ท้ายที่สุดก็เหลือเพียงราชาผีเสื้อปีกมายาอยู่ตัวเดียวในถ้ำ
ในที่สุดมันก็ได้ตัดสินใจ
ลูก
เจ้าจะต้องเติบโตขึ้นอย่างปลอดภัย
ร่างกายของมันก็ค่อยๆหดตัวลงและปีกของมันก็เริ่มสูญเสียความมันวาว
……
……
“กรร…”
ลิงยักษ์ส่ายกำปั้นอย่างดุเดือด มันรุนแรงมากจนแม้แต่มิติเองก็ดูเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ คลื่นอันรุนแรงได้ไหลล้นกระจัดกระจายทำลายสังหารผีเสื้อปีกมายาจำนวนนับไม่ถ้วน
ปีกของผีเสื้อนับไม่ถ้วนฉีกขาดและร่วงหล่นลงมา
ดวงตาของลิงยักษ์นั้นช่างว่างเปล่า เหล่าผีเสื้อปีกมายาทั้งหมดที่ปรากฏตัวต่อหน้ามันจะต้องตาย โดยไม่มีเหลือรอดแม้แต่ชีวิตเดียว
ร่างของผีเสื้อปีกมายากองเต็มพื้นที่นอกถ้ำ
ฉากดังกล่าวทำให้ทุกคนรู้สึกหนาวสันหลัง
ลิงยักษ์ส่งเสียงคำรามอย่างพึงพอใจและในที่สุดมันก็ได้เดินไปที่ถ้ำโดยไม่มีสิ่งกีดขวาง
ทันใดนั้นแสงสีแดงก็สว่างขึ้น
พลังวิญญาณสีดำอันรุนแรงในถ้ำได้หลั่งไหลเข้าสู่แสงสีแดงอย่างรวดเร็วราวกับว่าจะกลืนมันลงไป
ลิงยักษ์รู้สึกได้ว่าพลังวิญญาณสีดำที่มันต้องการกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว มันคำรามด้วยความโกรธและดวงตาสีแดงของมันก็แสดงความบ้าคลั่ง
สัตว์วิญญาณระดับเพชรที่กำลังบ้าคลั่งนั้นมีเพียงแค่ไม่กี่คนที่จะสามารถควบคุมมันได้
ลิงยักษ์รีบวิ่งไปที่ถ้ำอย่างบ้าคลั่ง แต่แสงสีแดงก็ได้เผาผลาญพลังวิญญาณสีดำไปจนหมดเสียแล้ว
ทว่ามีผีเสื้อตัวใหญ่ตัวหนึ่งกำลังอาบแสงสีแดงลอยอยู่ในอากาศแสดงให้เห็นถึงความงดงามและความอัศจรรย์ใจ
มันคือราชาผีเสื้อนั่นเอง
ร่างกายของมันเหี่ยวเฉาราวกับซากศพและปีกที่เคยเต็มไปด้วยความงามอันแวววาวลวงตาดั้งเดิม นั้นหมดสภาพลง แม้กระทั่งความแข็งแกร่งในการกระพือปีกก็ยังสูญเสียไป
“กรร!” ลิงยักษ์คำรามขึ้นฟ้า
พวกเขาเห็นร่างของราชาผีเสื้อปีกมายาบินออกไปด้วยความเร็วที่รวดเร็วราวกับสายรุ้ง เหลือเพียงแต่เสียงคำรามด้วยโกรธของลิงยักษ์
ลั่วอู๋และพรรคพวกค่อย ๆ จากไปอย่างเงียบ ๆ
ฉากตระการตาของแสงสีแดงนั้นสวยงาม แต่ตอนนี้พวกเขาไม่มีเวลามาสนุกกับมัน สัตว์วิญญาณระดับเพชรที่บ้าคลั่งใครจะไปรู้ว่ามันคิดจะทำอะไร
ระหว่างที่กำลังหนีฉูจงฉวนก็งงงวย “เจ้าดูท่าทางจะยุ่งนะ ไปเอาเจ้างูตัวใหญ่นั่นมาได้ยังไง?”
“ทำได้ดีใช่ไหมล่ะ” ลั่วอู๋กล่าว
ฉูจงฉวนกะพริบตา “แต่เจ้าก็ไม่ได้ช่วยพวกผีเสื้อปีกมายาได้อยู่ดีนี่นา”
“เอ่อ … ” ลั่วอู๋พูดไม่ออก
นั้นมันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากลั่วอู๋จึงขอให้หลี่หยินเรียกเสี่ยวไป๋มาแล้วพูดว่า “เจ้าไปเอาหนังงูที่ลิงยักษ์ฉีกมาที่นี่สิ”
เสี่ยวไป่สามารถใช้ทักษะทะลวงมิติไปไกลได้หลายสิบลี้ด้วยตัวเอง
ในไม่ช้า เสี่ยวไป่ก็กลับมาพร้อมกับหนังงูขนาดใหญ่ เกล็ดบนหนังงูนี้เพียงพอแล้วที่จะสร้างเกราะเกล็ดงูได้หลายสิบตัว
ไม่ต้องพูดถึงเนื้อและเลือดของงูที่ติดมาด้วยจำนวนมาก ซึ่งเป็นของล้ำค่า
“เจ้าเห็นไหมอย่างน้อยข้าก็มีเจ้านี่” ลั่วอู๋กล่าวอย่างมีชัย
พลังวิญญาณที่มีอยู่ในเนื้อและเลือดของมันมีค่าสูงมาก หากเก็บรักษาเป็นยาหรือนำมาใช้รับประทานเป็นอาหาร ก็สามารถใช้เสริมพลังวิญญาณของผู้ใช้พลังวิญญาณและสัตว์วิญญาณได้
ลั่วอู๋ใส่หนังงูลงในไหปีศาจ
ทันใดนั้นแสงสีแดงก็สว่างวาบขึ้นบนท้องฟ้า จากนั้นมีบางอย่างตกลงมา กระแทกลงบนพื้นทราย
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย” ทุกคนต่างประหลาดใจ
ลั่วอู๋จับจ้องไปที่มันและรู้ได้ในทันทีว่ามันคือราชาผีเสื้อปีกมายา มันบินมาที่นี่ได้อย่างไรกัน?
อย่างไรก็ตาม ราชาผีเสื้อปีกมายาในขณะนี้แก่นวิญญาณของมันได้ขาดดุลจนถึงขีดสุดร่างกายทั้งหมดเหี่ยวแห้งเป็นดั่งรูปลักษณ์ที่ตายไปแล้วเยี่ยงศพ
แต่มันก็ยังไม่ตาย
มันอดทนอดกลั้นหายใจ เพื่อที่จะไม่ปล่อยให้ตัวเองตาย
เพราะมันยังมีสิ่งที่ต้องทำ
“ขอบคุณมากที่ช่วยถ่วงเวลาให้กับข้า ข้าติดหนี้บุญคุณเจ้า แต่ข้าคงต้องขอโทษที่ไม่สามารถชดใช้ให้เจ้าได้ ได้โปรดช่วยข้าปกป้องดูแลลูกของข้าด้วย”
เสียงที่อ่อนแอดังขึ้นในจิตใจของลั่วอู๋
ลั่วอู๋ไม่คาดคิดว่าสัตว์วิญญาณตัวที่สองของเขาจะถูกส่งมาให้โดยราชาผีเสื้อปีกมายา
ดักแด้ขนาดเล็กอันบอบบางสีแดงค่อย ๆ ดับลง แม้ว่ามันจะเป็นดักแด้ แต่ก็สวยงามราวกับอัญมณี
หลังจากได้ส่งต่อดักแด้ให้ลั่วอู๋แล้วราชาผีเสื้อปีกมายาก็หมดลมหายใจเฮือกสุดท้ายและสิ้นชีวิตไปในที่สุด
สายลมพัดผ่าน
เสียงกระพือปีกเล็กน้อยจากร่างกายของมัน
หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว ก็ได้รู้ว่าเนื้อและเลือดของมันหมดไปแล้วและทั้งตัวก็กลายเป็นเพียงแค่เปลือกที่ว่างเปล่า
เขาไม่รู้ว่ามันมาที่นี่ไหวได้อย่างไร
ลั่วอู๋ค่อย ๆ หยิบดักแด้ขึ้นมา หัวใจของเขาเต็มไปด้วยรสชาติขมขื่น เขาไม่รู้ว่าต้องรู้สึกอย่างไรเมื่อได้เผชิญกับเรื่องนี้
“เกิดอะไรขึ้น?” ทุกคนต่างก็กำลังสับสน
พวกเขาไม่ได้ยินคำพูดสุดท้ายของราชาผีเสื้อปีกมายา
ฉูจงฉวนโผล่ขึ้นมาอย่างสงสัยแล้วพูดว่า “เอ๊ะ? ดักแด้นี่เป็นลูกของมันหรือเปล่า ลั่วอู๋เจ้าโชคดีมากที่ได้พบกับโดยบังเอิญแบบนี้
“อืม.. ก็โชคดีนะ” น้ำเสียงของลั่วอู๋ซับซ้อนเล็กน้อย
ยกเว้นลั่วอู๋ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหรืออะไรเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อสังเวยให้กับการเกิดของชีวิตเล็ก ๆ นี้
ไม่มีใครรู้ว่าทำไมผีเสื้อปีกมายาถึงบินเข้าไปถึงตายติดต่อกัน
ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับราชาผีเสื้อปีกมายาตัวนี้และมันตายได้อย่างไร
แม้จะมีการต่อต้านจากเพื่อน ๆ แต่ลั่วอู๋ก็ได้กลับไปที่ถ้ำอย่างเงียบ ๆ เขาใช้ความพยายามอย่างมากในการขุดโพรงและฝังผีเสื้อปีกมายาทั้งหมดที่แทบไม่เหลือสภาพเดิม
ส่วนตัวที่กลายเป็นเศษผงแล้วเขาก็ทำอะไรไม่ได้
ลั่วอู๋ปิดท้ายด้วยการฝังร่างของราชาผีเสื้อปีกมายาไว้ที่ด้านบนของสุสานอย่างเคร่งขรึม เนื่องจากมันมีชีวิตอยู่ได้จนจบภารกิจจากการได้รับการปกป้องจากพรรคพวกของมัน หลังจากตายไปแล้วก็ถึงเวลาที่มันจะต้องคอยปกป้องพรรคพวกเหล่านั้นเป็นการตอบแทน
ลั่วอู๋หยิบดักแด้ออกจากไหปีศาจ มันเต็มไปด้วยพลังชีวิตเอ่อล้น ใครจะคิดว่ามันเป็นเพียงแค่ผีเสื้อปีกมายาที่ยังไม่เกิด
“ แม่ของเจ้าไม่ใช่ผู้นำที่ดี” ลั่วอู๋ลูบดักแด้และกระซิบ “แต่ข้ามั่นใจว่ามันเป็นแม่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ข้าเคยเห็นมา”