บทที่ 142 สุนัขที่กินไม่เลือก
ด้วยทักษะกลืนกินของต้าหวง มันสามารถกลืนกินเนื้อและเลือดที่มีพลังงานมหาศาลได้ในคราวเดียว
ลั่วอู๋รีบตามหาต้าหวงในโลกแห่งไห มันไม่ใช่เรื่องตลกที่จะมีเนื้อและเลือดของงูมากขนาดนี้ พลังงานเหล่านั้น เพียงพอที่จะทำให้สัตว์วิญญาณระเบิดความแข็งแกร่งสูงสุดจนถึงระดับทองคำได้เลย
ด้วยการเชื่อมต่อกันของจิตใจและพลังวิญญาณ ในไม่ช้าลั่วอู๋ก็พบต้าหวงตรงมุมหนึ่งของบ้าน
ต้าหวงนอนหลับอยู่บนพื้น แต่ทั่วทั้งตัวของมันเต็มไปด้วยแสงสีทอง ราวกับว่าไปอาบอยู่ในทะเลสีทองมา
บางครั้งต้าหวงก็ขมวดคิ้วและบิดตัวไปมาอย่างผิดปกติ เหมือนว่ากำลังเจ็บปวด
ต้าหวงเจ้าเป็นอะไร?
ลั่วอู๋เรียกต้าหวงผ่านทางจิตใจ
แต่การเชื่อมต่อระหว่างจิตใจและพลังวิญญาณถูกปิดกั้นโดยพลังที่ไม่สามารถอธิบายได้ ทำให้ลั่วอู๋ไม่สามารถรู้สึกได้ถึงต้าหวงได้
“มันเกิดอะไรขึ้น?”
ลั่วอู๋ตกใจเล็กน้อย
เขาไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปไกล้ ๆ เห็นได้ชัดว่าต้าหวงอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ถ้าหากเขาเข้าไปขัดขวาง เขาเกรงว่ามันจะเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นแน่ ๆ
“เจ้าโง่! เจ้ากินอะไรเข้าไป?”
ลั่วอู๋บ่นอยู่ในใจ เขาทำได้เพียงแค่ยืนรอ
เวลาผ่านได้ไป
ลั่วอู๋ก็หมดความอดทน
แต่แสงสีทองบนตัวต้าหวงนั้นกลับสว่างขึ้นเรื่อย ๆ ทันใดนั้น แสงสีทองเหล่านั้นก็รวมกันกลายเป็นกลุ่มแสงบนหน้าผากของต้าหวงและหายไป
มีรอยสีดำจาง ๆ ปรากฏออกมา
ต้าหวงตอนนี้ยังไม่ได้เข้าสู่สภาพการต่อสู้ และยังคงรูปร่างของสุนัขสีเหลืองธรรมดา ๆ ตัวหนึ่ง แต่มันกลับมีรอยดำปรากฏออกมา
ทันใดนั้นร่างของต้าหวงก็ดิ้นอย่างกระสับกระส่าย และหายใจอย่างรุนแรง มันกลิ้งตะเกียกตะกายไปมา ราวกับมีระเบิดเวลาอยู่ในท้องของมัน
“โฮ่ง! … ” ต้าหวงร้องด้วยความเจ็บปวด
ลมหายใจของมันเริ่มรุนแรงมากขึ้น แต่มันค่อนข้างผันผวน
ลั่วอู๋เดินไปรอบ ๆ อย่างเร่งรีบ
“ไม่ ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ ข้าต้องทำอะไรสักอย่าง ต้าหวงรั้งเอาไว้ไม่ได้แน่” ลั่วอู๋สงบตัวลง “แก่นวิญญาณไม่มั่นคง ลมหายใจก็ไม่มั่นคง ทำยังไงดี?”
“ลืมไปสนิทเลย ต้องเรียนรู้จากเรื่องราวในอดีตสิ!”
“เสริมแกร่ง!”
ลั่วอู๋เรียกส่วนต่อประสานที่ปรับแต่งแล้วออกมา
พลังวิญญาณอันบริสุทธิ์จากไหปีศาจกลายเป็นรูปร่างกระแสน้ำและไหลลงมายังร่างของต้าหวงอย่างรวดเร็ว เพื่อเสริมแกร่งร่างกายและปรับแต่งมิติของมัน
หลังจากใช้งานแต้มเซียนไปเกือบ 5,000 แต้ม ในที่สุดลมหายใจของต้าหวงก็อยู่ในสภาพคงที่อีกครั้ง
“ฟูว!”
ลั่วอู๋ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
มันเยี่ยมมากมันมีประโยชน์ชะมัด
ตอนนี้ลมหายใจของต้าหวงก็อยู่ในสภาพคงที่แล้ว และมิติของมันก็พัฒนาขึ้นเป็นระดับเงิน มิติที่ 4 อย่างไรก็ตาม มันจำเป็นต้องมีความมั่นคงในช่วงเวลาเพื่อที่จะเสริมแกร่งจากภายนอก
“โฮ่ง!”
ต้าหวงลืมตาขึ้นด้วยความเหนื่อยล้า มันมองมาที่ลั่วอู๋ จากนั้นมันก็ยืนขึ้นและวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ต้าหวงกระโดดเข้าไปในอ้อมแขนของลั่วอู๋ มันแลบลิ้นและสะบัดหางไปมา ลั่วอู๋ลูบไปที่หัวของมันเบา ๆ “เจ้าสุนัขโง่ อย่าไปกินอะไรตามอำเภอใจอีกล่ะ”
ต้าหวงกะพริบตาด้วยความไร้เดียงสา
“ให้ข้าดูหน่อย ว่ามีอะไรผิดปกติกับเจ้าหรือเปล่า?” ลั่วอู๋ตรวจสอบข้อมูลของต้าหวง
เผ่าพันธุ์: ??
คุณสมบัติ: เงิน
มิติ: ระดับเงิน มิติ 4
ทักษะ: พิชิตโค่นล้ม (S), กลืนกิน (A), ฉีกกระชาก (C), ก้าวพริบตา (A), พิธีศพกางเขนคลั่ง (A), ดำดิน (B), ลมหายใจของมังกร (SS)
พื้นเพ: สุนัขลึกลับที่วิวัฒนาการมาจากสุนัขธรรมดา ที่มีการผสมของเลือดมังกรวิญญาณเข้ากับร่างกายของมัน
ข้อมูลของต้าหวงเกิดการเปลี่ยนแปลง
ทักษะลมหายใจดั้งเดิม ถูกแทนที่ด้วยทักษะลมหายใจมังกร ระดับ SS
ลั่วอู๋เบิกตากว้าง
แล้วเผ่าพันธุ์ของมันคืออะไร?
“มานี่ต้าหวง มาให้ทดลองอะไรดูหน่อย!” ลั่วอู๋รู้สึกตื่นเต้น
เขาเดินมายังสถานที่โล่ง ๆ
ต้าหวงทำตามคำสั่งของลั่วอู๋ มันใช้งานทักษะลมหายใจมังกร
เมื่อต้าหวงอ้าปาก พลังงานที่แข็งแกร่งทั่วร่างเข้าไปรวมที่ปากของมันทันที รวมกันเป็นพลังคลับคล้ายกับมังกรอย่างช้า ๆ
ลมหายใจนี้เต็มไปด้วยพลังทำลายล้างอันน่าสะพรึงกลัว เมื่อเทียบกับลมหายใจธรรมดา มันก็เหมือนฟ้ากับเหว
แรงดันวิญญาณนั้น เต็มไปด้วยความรู้สึกของอสรพิษ
แม้ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ที่จะทะลวงสวรรค์และผืนดินดั่งอสรพิษยักษ์ในป่าหวงชา แต่แค่พลังระดับนี้สัตว์วิญญาณระดับเงิน ไม่มีทางสามารถต้านทานลมหายใจมังกรนี้ได้แน่
“ตูม!”
ลมหายใจมังกรพ่นขึ้นสู่ท้องฟ้า
เกิดแสงสว่างจ้าเป็นเวลานาน
หลังจากใช้งานทักษะลมหายใจมังกรแล้ว ต้าหวงก็เหนื่อยล้าและล้มลง ราวกับว่าร่างกายของมันกลวงโบ๋ แม้แต่พลังวิญญาณของมันก็ลดลงไปเพียงเล็กน้อย
ไม่ว่าทักษะนี้จะแข็งแกร่งขนาดไหน มันก็ยังต้องได้รับการสนับสนุนจากระดับมิติวิญญาณของผู้ใช้พลังวิญญาณที่เป็นเจ้าของด้วย
เห็นได้ชัดว่าต้าหวงยังไม่เชี่ยวชาญทักษะที่น่ากลัวเช่นนี้มากเพียงพอ
“ไปพักผ่อนให้พอซะ” ลั่วอู๋ลูบไปที่หัวของต้าหวง
สำหรับทักษะระดับ B ที่ใช้งานได้อยู่เป็นประจำ ถูกเปลี่ยนให้เป็นทักษะระดับ SS ที่ใช้งานได้เพียงครั้งเดียว
ถึงมันจะไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่มันก็เป็นกำไรอย่างหนึ่ง
……
ตกดึก
ยังคงมีเสียงอยู่
เสียงลมเบา ๆ นอกลานบ้าน และปีกของตั๊กแตนขู่เชิง ก็กระจัดกระจายเต็มพื้น
มีเงาดำแปดเงารวมตัวกันอยู่บนหลังคาของศาลาไป่หยู่ พวกมันเงียบมากและส่งเสียงเบากว่าแมวด้วยซ้ำ ดั่งกับผู้ส่งสารในความมืด
“ท่านพี่ชิง บุคคลเหล่านี้คือพี่น้องของทีมหวงชาที่เชี่ยวชาญในการฆ่ามากที่สุดของเราขอรับ, ผู้ใช้พลังวิญญาณ 2 คน และหนึ่งในห้าผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูงสุด” มีเสียงพูดออกมา
“ขอบใจมาก น้องชาย”
“ไม่ต้องขอบคุณขอรับ ทั้งหมดนี่ก็เพื่อเงิน”
“ตราบใดที่มันสำเร็จ ข้าจะมอบเงินเก็บครึ่งชีวิตทั้งหมดของข้าให้กับเจ้า”
“……”
ไม่นานเงาทั้งแปดก็กระจายออกไปในพริบตา
ในห้องธรรมดาของศาลาไป่หยู่ ชายวัยกลางคนลืมตาขึ้นและลุกขึ้นมาในทันทีทันที แรงดันวิญญาณของเขานั้นดูป่าเถื่อนราวกับสัตว์ร้าย
ชื่อของเขาคือหลงเซี่ย
หัวหน้าผู้คุมกันของตระกูลเฉิน
ร่างกายของเขาเหมือนดั่งเสือชีต้าผู้ว่องไว เขาเปิดหน้าต่างอย่างช้า ๆ ร่างของเขาเหมือนกับวิญญาณ เขาเดินไปที่ห้องของเฉินซังเทียนและกระซิบเบา ๆ “ผู้เฒ่าเฉิน มีใครไม่รู้กำลังมาที่นี่”
ในห้องนั้นเงียบไปสักพัก และก็มีเสียงของเฉินซังเทียนก็ดังออกมา “เจ้าไปปกป้องหมิงหยู่เอาไว้ พวกโจรกระจอกมันทำอะไรข้าไม่ได้หรอก”
“ขอรับท่าน”
เวลาต่อมาหลงเซี่ย ได้เดินมาที่ห้องของเฉินหมิงหยู่
“อ๊า!” เฉินหมิงหยู่ก็ลุกขึ้นมาคลุมผ้าห่มและจ้องไปยังคนที่เข้ามาทันที “ลุงหลง ท่านทำให้ข้ากลัว”
“มีมือสังหารกำลังเข้ามาขอรับ” หลงเซี่ยกล่าวอย่างเงียบ ๆ
เฉินหมิงหยู่ไม่ได้ตกใจอะไร “มันเป็นปัญหา สำหรับข้าหรือไม่?”
“ความแข็งแกร่งของพวกมันอยู่ในระดับปานกลาง มันไม่ได้จงใจเข้ามาหาพวกเราเป็นพิเศษ และตอนนี้ก็ไม่น่าจะมีใครรู้ว่า พวกเรากำลังอยู่ในพื้นที่ป่าหวงชาด้วย” หลงเซี่ยกล่าว
เฉินหมิงหยู่สงบใจลงและพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไร มันต้องเป็นศัตรูที่ศาลาไป่หยู่ไปยั่วโมโหเมื่อเร็วนี้ ๆ แน่นอน เราไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมัน ปล่อยปัญหาของพวกเขาไป”
“นี่… ” หลงเซี่ยลังเล “นี่มันไม่ใช่เรื่องดีแน่ ลั่วอู๋เป็นอาจารย์ของท่านไม่ใช่เหรอ?”
เฉินหมิงหยู่เม้มปากด้วยความโมโห “ฮึ่ม! มันก็ไม่แปลกที่ปู่ของข้าจะไปสัญญาเอาไว้ แต่ตอนนี้ข้ากำลังโมโห ดังนั้นข้าไม่สนใจหรอก!”
“ขอรับนายหญิง” หลงเซี่ยพยักหน้า
อย่างไรก็ตามภารกิจของเขาก็คือการปกป้องเฉินซังเทียนและเฉินหมิงหยู่ เท่านั้น