บทที่ 181
การเปิดตัว
ณ มณฑลทางใต้
ฉูจงฉวนได้กลับมายังเมืองหมิงหนานอีกครั้ง เขาดูเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ปราศจากท่าทีรักอิสระไม่ขึ้นตรงกับใครไม่สนใจสิ่งใดเหมือนในอดีต
ทันทีที่เขาเข้ามาในตัวเมือง เขาก็ได้วิ่งแจ้นกลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลฉู หลังจากนั้นไม่นานเขาก็กลับมาสดชื่น ราวกับได้รื้อฟื้นความรุ่งเรืองในอดีต
“เย้ นางจากไปแล้ว”
ฉูจงฉวนกำลังยิ้ม
ลั่วอู๋โค้งปากของเขา ไม่ต้องเดาก็รู้ได้ว่า “นาง” ในปากของ ฉูจงฉวน คือสาเหตุที่ทำให้เขากลัวที่จะต้องกลับมาที่นี่อีกครั้ง
ข้าง ๆ เขามีเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่ดูเหมือนหยกที่ถูกแกะสลัก นางมีท่าทีอ่อนโยน ดวงตามีสีเข้มและน่ารักน่าชัง รอบตัวของสาวน้อยล้อมรอบด้วยใบกระบองเพชร ซึ่งใบกระบองเพชรเหล่านั้นต่างก็มีชีวิตชีวาและยังคงอยู่รอบตัวเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ แสดงถึงความขี้อายและรักสันโดษ
“ภูตทะเลทรายเจ้าอยากกินอะไรรึเปล่า?” ฉูจงฉวนถามเบา ๆ
เด็กหญิงส่ายหัวราวกับว่านางไม่สามารถพูดอะไรได้
สาวน้อยคนนี้คือภูตทะเลทราย นางได้รับการยกระดับเป็นระดับทองแดงมิติ 9 และมีความสามารถในการต่อสู้ขั้นพื้นฐาน
นางตัวใหญ่ขึ้นมากและตอนนี้ขนาดของนางก็เทียบเท่าเด็กผู้หญิงอายุเจ็ดหรือแปดขวบ
“เจ้าว่ามันแปลก ๆ ไหม ที่ภูตทะเลทรายของข้าทั้งฉลาดน่ารักและมีชีวิตชีวา แต่ตอนนี้นางกลับเป็นเพียงแค่ระดับทองแดงมิติ 9 ส่วนผีเสื้อตัวน้อยของเจ้าเป็นถึงระดับเงิน?” ฉูจงฉวนสงสัย
ลั่วอู๋กลอกตาของเขา “เจ้าไม่เหมือนกันข้า ข้าได้รับการยกระดับเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณระดับเงินมิติ 6 ส่วนเจ้านั้นยังติดอยู่ในที่เงินมิติ 10 ยังไม่ได้เลื่อนขั้นซะที”
“เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย ”
“ข้าก็บอกเจ้าอยู่ไม่ใช่เหรอว่า ข้ากำลังรอโอกาส”
ลั่วอู๋สูดอากาศ ทุกวันฉูจงฉวนเอาแต่เก็บตัวอยู่ในหอคอยราตรีนิรันดร์แล้วเมื่อไหร่โอกาสมันจะเกิดขึ้นล่ะ
อย่างไรก็ตามมีลมปราณของฉูจงฉวนนั้นก็แข็งแกร่งขึ้นกว่าครึ่งปีที่แล้วมาก ระยะทางในการฝึกฝนเองก็คงจะใกล้เคียงกับการเลื่อนขั้นระดับมิติวิญญาณแล้ว
“ว่าแต่เจ้าจะเลือกเปิดร้านใหม่ที่ไหนในมณฑลหนานจุนกันล่ะพี่ชาย ข้าสนับสนุนเจ้าเอง” ฉูจงฉวนตบหน้าอกของเขาและพูด
ลั่วอู๋ยิ้ม
เขาคิดแล้วว่าเขาจะไปเปิดร้านใหม่ที่ไหน
“นั่นไง” ลั่วอู๋ชี้ไปที่สถานที่แห่งหนึ่ง
ใบหน้าของ ฉูจงฉวนเปลี่ยนไปเล็กน้อย “เจ้าพูดจริงจังรึเปล่าเนี่ย?”
“ใช่ ข้าคิดว่าจะตั้งร้านที่นี่แหละ”
ลั่วอู๋หมายถึงสถานที่แห่งนี้จริง ๆ มันเป็นถนนที่รุ่งเรืองทอดยาวไปไม่มีที่สิ้นสุด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือถนนสายนี้เพิ่งมีศาลาไป่หยู่สาขาใหม่เปิดขึ้น
……
……
ลั่วอู๋ไม่ได้รีบร้อนที่จะเปิดร้าน
เขาใช้เวลาเตรียมตัวถึงสามเดือน
ที่นี่ไม่ใช่เขตหวงชา แต่เป็น 1 ใน 36 มณฑลของอาณาจักรภายใต้การปกครองของราชวงศ์มังกรเร้นกาย ทุก ๆ อย่างควรจะถูกยกระดับให้ดีขึ้นมากกว่าเดิม
อย่างน้อยยาเม็ดซังพิง ยารวบรวมพลังวิญญาณ และยาซีปิน ก็อยู่ในหมวดหมู่ทั่วไปและไม่สามารถดึงดูดลูกค้าจำนวนมากได้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว
ลั่วอู๋ต้องหาสูตรสังเคราะห์ยาที่มีค่ามากกว่านี้
มีนักเล่นแร่แปรธาตุสี่คนที่ยินดีติดตามลั่วอู๋มา ซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นก็คือมู่เถาเองซึ่งเป็นหัวหน้านักเล่นแร่แปรธาตุ เขาได้รับการยกระดับเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับสูง หลังจากได้ฝึกฝนอย่างหนักในสำนักโล่พิทักษ์โดยไม่คำนึงถึงทรัพยากรที่ต้องจ่าย
ส่วนอีกสามคนที่เหลือนั้นอยู่ในระดับสี่
นอกจากนี้ลั่วอู๋ก็ได้ส่งคนให้ไปซื้อยามาเพิ่ม มันง่ายมากที่จะหายาระดับกลางและระดับล่างมา แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่หายาระดับสูงมาได้
ลั่วอู๋คงต้องสังเคราะห์มันขึ้นมาทั้งหมดด้วยตนเอง
ขณะเดียวกันอาฟูและเสี่ยวชาก็พยายามหาแหล่งซื้อสินค้าเพิ่มเติม เพื่อดึงดูดนักเล่นแร่แปรธาตุและผู้ใช้พลังวิญญาณในพื้นที่ พวกเขาทั้งหาซื้อสัตว์วิญญาณแปลก ๆ และ อาวุธทุกชนิดมาในราคาที่สูง
เพื่อให้ทุกอย่างถูกเตรียมเอาไว้อย่างเป็นระเบียบ
อีกทั้งตอนนี้ในที่สุดฉูจงฉวนก็เริ่มฝึกฝนเสียที หลังจากที่เขาถูกลั่วอู๋เร่งเร้าทุกวัน แทนที่เขาจะมัวแต่รอโอกาสเหมือนเดิม เขาจึงเลือกที่จะขังตัวฝึกฝนให้ห้องแทน
หากเขาไม่ได้รับการยกระดับเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูงแล้วล่ะก็ เขาจะไม่มีวันออกไปข้างนอกโดยเด็ดขาด
ส่วนทางมิติไหก็ดูเหมือนจะมีสัตว์วิญญาณ เพิ่มมามากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเมื่อลั่วอู๋เห็นสัตว์วิญญาณที่เขาสามารถเอาชนะได้เขาก็จะจับมันลงไปในไหปีศาจโดยทันที
มิติไหกลายเป็นเหมือนโลกอิสระเล็ก ๆ ที่ขยายมากขึ้นเรื่อย ๆ
ระยะไกลมีภูเขาและแม่น้ำ หมอกนั้นเต็มไปด้วยพลังวิญญาณหนาแน่น สัตว์วิญญาณทุกชนิดในป่าต่างก็เริ่มมีข้อพิพาทและการต่อสู้บ้างเป็นครั้งคราว
อย่างไรก็ตามที่ส่วนกลางของมิติไหกลับไม่มีสัตว์วิญญาณใด ๆ เข้ามาใกล้
เนื่องจากตรงนี้เป็นพื้นที่ซึ่งลั่วอู๋สามารถควบคุมได้อย่างสมบูรณ์ โดยมีบ้านหลังใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่เขาจึงมีสิทธิ์ที่จะขับไล่สัตว์วิญญาณใด ๆ ก็ตามออกไป
ในสระน้ำที่ห่างไกลมีปลาทารกหลายสิบตัวที่ได้รับการผสมพันธุ์ พวกมันว่ายน้ำเล่นอย่างมีความสุข
เพราะเขาไม่ได้นำพวกมันออกไปสู่โลกภายนอกเลย
และลั่วอู๋นั้นจะจับปลาทารกขึ้นมาเพียงแค่ครั้งคราวเท่านั้น
โดยส่วนใหญ่ปลาทารกจะเป็นอาหารของต้าหวง และส่วนที่เหลือจะถูกกินโดยผีเสื้อปีกมายาเพลิงอมตะ ด้วยทักษะของปลาทารก ต้าหวงและผีเสื้อปีกมายาเพลิงอมตะ จึงได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว
ภายในสามเดือนนี้
ลั่วอู๋ได้พยายามลองหาสูตรสังเคราะห์ใหม่ ๆ ด้วยพลังของหอคอยสีขาว ต้องบอกว่าหอคอยสีขาวนั้นน่าทึ่งจริง ๆ แต่ก็ยังไม่มีความรู้สึกใด ๆ เหมือนกับตอนที่เขาได้สูตรสังเคราะห์มังกรกระดูกผีมา
เห็นได้ชัดว่ามันไม่มีสูตรใดที่เทียบได้กับสูตรระดับนั้นอีกแล้ว
แต่ก็ยังมีอะไรดี ๆ โผล่มาอยู่บ้าง
ลั่วอู๋พบสูตรสังเคราะห์ใหม่เกือบ 50 สูตร แต่มีเพียงไม่กี่สูตรที่มีคุณค่า ในฐานะที่เขาเป็นเจ้าของร้านมันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะยอมเสียเวลากับสินค้าทั้งหมดโดยไม่ได้คัดกรอง
ทางเลือกของลั่วอู๋ก็คือการใช้เส้นทางทำสินค้าที่มีเอกลักษณ์เท่านั้น
เขาสละสูตรสังเคราะห์ส่วนใหญ่และเลือกเพียงสูตรที่มีค่าที่สุดสามสูตร
สูตรแรกมันถูกสังเคราะห์โดยการใช้โรโดเดนดอนสองชิ้น
[ได้รับผงลวงตา (ปฐพี), แต้มเซียน + 8]
สูตรที่สองการใช้สัตว์วิญญาณหมีคำรามระดับเงิน และหนูอูชิงระดับทองแดง
[ได้รับ ด้วงเฟ็งฮัว สัตว์วิญญาณ ระดับทอง แต้มเซียน + 40]
สุตรที่สาม มันถูกสังเคราะห์มาจากตะขาบไป่หยินสัตว์วิญญาณระดับทอง, สมุนไพรจิวจิ๋ และหญ้าคูซาน
[ได้รับ สมุนไพร ซวนซูง สมุนไพรระดับสูง]
“เฮ้ออออออออออ”
ลั่วอู๋ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก
การสังเคราะห์นั้นใช้พลังวิญญาณไปมากโข
“น่าเสียดายที่วันนี้ เรายังไม่ได้เจอเรื่องน่าตกใจอะไรเลย” ลั่วอู๋กล่าวด้วยความเสียใจ
แต่มันก็ดีแล้วเพราะสำนักโล่พิทักษ์ในตอนนี้ยังถือว่าอยู่ห่างไกลจากร้านค้าชั้นสูงมาก พวกเขาจะมีสินค้าระดับสูงไม่มากมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
ยังไงซะรายละเอียดของร้านค้า และคุณภาพของพวกเขาก็อยู่ในระดับที่ไม่สามารถมองข้ามได้
พวกเขายังมีข้อได้เปรียบอยู่มากหากเทียบกับร้านค้าอื่น ๆ
……
……
ในที่สุดสำนักโล่พิทักษ์ ก็ได้เปิดตัวอย่างเงียบ ๆ ในสามเดือนต่อมา
มันไม่ได้ใหญ่นัก ซ้ำยังขนาดเล็กกว่าเมื่อก่อนเสียด้วยซ้ำ
มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรเลย แถบนี้มักจะมีร้านค้าเล็ก ๆ เหล่านี้เปิดขึ้นมาอยุ่ทุกปีและค่อยๆปิดตัวลงเพราะการแข่งขันทางการค้าต่างๆ
อย่างไรก็ตามร้านนี้ที่มีชื่อเรียกว่าสำนักโล่พิทักษ์ที่เปิดขึ้นโดยไม่มีการประชาสัมพันธ์ใด ๆ กลับได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
เพราะมันกล้าเปิดอยู่ตรงข้ามกับศาลาไป่หยู่
ไม่เคยมีร้านเล็ก ๆ ร้านไหนกล้ามาเปิด ฝั่งตรงข้ามกับร้านชั้นหนึ่ง อย่างศาลาไป่หยู่
เพราะการที่ต้องแข่งขันกับศาลาไป่หยู่ก็ไม่ต่างกับหาเรื่องให้ร้านตัวเองโดนปิดตัวลง
มันไม่มีทางทำธุรกิจในที่แบบนี้ได้
ใครจะยอมออกจากศาลาไป่หยู่ แล้วเข้าไปที่ร้านเล็ก ๆ กันล่ะ?
ทว่ามันกลับเป็นที่น่าอัศจรรย์ เมื่อสำนักโล่พิทักษ์สามารถดึงดูดลูกค้าจำนวนมากเข้ามาได้ในวันแรกที่เปิดทำการ
บางส่วนก็เพราะผู้คนต่างแปลกใจมาก ที่ได้รู้ว่าสาขาก่อนของสำนักโล่พิทักษ์ได้แขวนป้ายไปแล้ว
“เราจะมอบส่วนลด 50% สำหรับสินค้าพิเศษ ภายในเจ็ดวันแรกของการเปิดทำการ”
สิ่งนี้ทำให้หลายคนรู้สึกคลั่งไคล้
พวกเขาเสียเงินทุนไปเท่าไหร่กันแน่เพื่อโปรโมชันนี้
ใช่แล้วสำนักโล่พิทักษ์มีข้อได้เปรียบอย่างมากเหนือร้านค้าอื่น ๆ
พวกเขาสามารถขายสินค้าในราคาถูกได้
ตราบใดที่พวกมันเป็นผลิตภัณฑ์จากไหปีศาจ มันก็จะถูกจัดเป็นสินค้าพิเศษ
และมีส่วนลด 50%
ยิ่งไปกว่านั้นราคาเดิมของสินค้าเหล่านี้ที่กำหนดขึ้นโดยสำนักโล่พิทักษ์เองก็ไม่ได้สูงนัก ตอนนี้มันก็เลยยิ่งถูกและน่าสนใจมากยิ่งขึ้นไปอีก
แล้วลูกค้าที่ไหนจะไม่ชอบโปรโมชันส่งเสริมการขายแบบนี้กันล่ะ