บทที่ 256 สัตว์วิญญาณกลายพันธุ์ชนิดใดที่ดีที่สุด
บทที่ 256 สัตว์วิญญาณกลายพันธุ์ชนิดใดที่ดีที่สุด
หนิงปิงหลันนั้นทั้งเย็นชาและดูไม่แยแสต่อสิ่งใด สายตาของนางดูเหมือนว่าไม่มีอะไรที่สามารถกระตุ้นความสนใจของนางได้
ความรู้สึกแรกของลั่วอู๋ เขาคิดว่าหนิงปิงหลันและผู้บัญชาการหลิงหลงมีอารมณ์ที่คล้ายคลึงกันมาก แต่ทางนี้ดูจะมีความสามารถในการควบคุมอารมณ์น้อยกว่า
ด้านนอกสำนักย่อยการปรับแต่ง เหล่าอาจารย์หลายคนที่ถูกรบกวนด้วยเสียง ต่างก็ออกมาตรวจสอบสถานการณ์ แน่นอนว่ารวมถึงจางฉีฮงก็ด้วย
หนิงฮัวถูกทิ้งไว้ที่หน้าประตูเหงื่อ ขาของเขาบิดเป็นรูปทรงแปลก ๆ ราวกับว่ากระดูกนั้นแหลกไปจนหมด
“อ่า … ” เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
ทันใดนั้นเหล่าอาจารย์หลายคนก็หันศีรษะไปในทางเดียวกัน
นี่มันโหดร้ายมาก
“ข้าหวังว่าเหล่าอาจารย์จะยอมยกโทษให้กับเขา” หนิงปิงหลันพูดอย่างใจเย็น “ในเมื่อเขารู้แล้วว่าตัวเองผิดพลาด”
อาจารย์หลายคนต่างก็รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่
เพราะนี่เป็นข้อเสนอที่ส่งผ่านออกมาโดยมตติของทั้งสำนักย่อยการปรับแต่ง คนเพียงไม่กี่คนตรงนี้นั้นไม่สามารถตัดสินใจกันเองได้
จางฉีฮงขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “พาเด็กคนนี้ไปโรงพยาบาลก่อน ทำไมเจ้าถึงโหดเหี้ยมใจร้ายทำลายขาของเขาให้เป็นลักษณะเช่นนี้ได้กัน?”
“อย่าใส่ใจไปน่า” หนิงปิงหลันส่ายหัว “ถ้าเรื่องนี้ไม่สามารถแก้ไขได้ เขาก็จะโดนผู้อาวุโสของตระกูลจัดการอยู่ดี”
จางฉีฮงเหมือนถูกมัดลิ้นอยู่ครู่หนึ่ง
เขารู้ว่าผู้อาวุโสของตระกูลหนิง แม่ทัพหนิง เป็นผู้ชายแบบนั้นจริง ๆ
ดวงตาของหนิงปิงหลันจับจ้องไปที่ร่างของลั่วอู๋ “เจ้าคงจะเป็นลั่วอู๋สินะ เรื่องนี้มันเกิดขึ้นจากเจ้า ข้าหวังว่าเขาจะได้รับการให้อภัยจากเจ้า”
“มันไม่ใช่ธุระอะไรของข้า” ลั่วอู๋ส่ายหัว “ ข้าไม่มีอำนาจสั่งการมากมายขนาดนั้น”
หนิงปิงหลันกล่าว “ผู้อาวุโสของตระกูลลั่ว ทั้งสามคนจะเต็มใจที่จะออกคำสั่งนี้ให้แก่เจ้า”
ลั่วอู๋หัวเราะและกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่จู่ ๆ ร่างที่คุ้นเคยของหญิงสาวสองคนก็มาถึง
พวกนางคือเฉินหมิงหยู่และหนิงหลิงหลิง
หนิงหลิงหลิงเห็นน้องชายของนางในสภาพอดสู ดวงตาของนางก็แสดงออกถึงความเสียใจ แต่นางก็ไม่ได้ก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยเขา
ส่วนเฉินหมิงหยู่ยังทำอะไรไม่ถูก เห็นได้ชัดว่านางโดนขอร้องให้มาโดยหนิงหลิงหลิง
“ถ้าลูกหลานของตระกูลเฉินยินดีที่จะพูดสักสองสามคำ ข้าคิดว่าเหล่าอาจารย์ในสำนักย่อยการปรับแต่งคงจะเต็มใจที่จะพิจารณาคำสั่งนั้นอีกครั้ง” หนิงปิงหลันกล่าว
ตระกูลลั่วและตระกูลเฉิน
ทั้งสองตระกูลเป็นตระกูลของผู้ปรับแต่งที่มีชื่อเสียงมาก
ผู้ปรับแต่งส่วนใหญ่ ต้องเกรงใจทั้งสองตระกูลนี้กันอยู่แล้ว
สายตาของทุกคนดูเหมือนจะจับจ้องไปที่ลั่วอู๋
ลั่วอู๋คิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดออกมาว่า “ข้าจะลองไปขออ้อนวอนดู แต่ทำไมข้าถึงต้องทำแบบนั้น ? ในเมื่อข้าไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับหนิงฮัวเลย?”
นี่คือความจริง
หนิงฮัวไม่เคยสุภาพกับลั่วอู๋ แม้ว่าลั่วอู๋ขี้เกียจที่จะใส่ใจเขา แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาชอบที่จะถูกปฏิบัติแบบนี้
“อีกยี่สิบวันเจ้าจะต้องประลองกับสองพี่น้องตระกูลเอ๋าใช่ไหม?” หนิงปิงหลันถามอย่างกะทันหัน
ลั่วอู๋ยกคิ้วเล็กน้อย “ใช่ ทำไมเหรอ?”
“ภายในยี่สิบวันนี้ ข้าจะสอนทักษะการต่อสู้ให้กับเจ้า”
หัวใจของลั่วอู๋ขยับในทันที ทักษะในการต่อสู้เป็นจุดอ่อนของเขา แม้ว่าเขาจะมีความมั่นใจในตัวเองว่าจะสามารถพึ่งพาวิธีการต่าง ๆ เพื่อชดเชยส่วนนั้นได้ แต่ถ้าเขาสามารถปรับปรุงทักษะในการต่อสู้ของตัวเองได้ มันจะเป็นการดีกว่าแน่
“ตกลง แต่ข้าไม่สามารถรับประกันได้นะว่ามันจะสำเร็จ” ลั่วอู๋ตอบ
หนิงปิงหลันพยักหน้า “ดี ไม่มีปัญหา”
ลั่วอู๋และเฉินหมิงหยู่เข้าไปในสำนักย่อยการปรับแต่งด้วยกัน ลั่วอู๋ไปหาผู้อาวุโสที่ชื่อลั่วซงในขณะที่เฉินหมิงหยู่ก็ไปหาผู้อาวุโสของตระกูลเฉิน
ลั่วซงดูเหมือนจะไม่แปลกใจกับคำขอของลั่วอู๋ และตอบตกลงในทันที
ต้องบอกว่ามันดีมากที่มีคนคอยสนับสนุนเขาอยู่เช่นนี้
ตระกูลเฉินและตระกูลลั่ว ต่างมีอิทธิพลพิเศษ ผู้ปรับแต่งหลายคนในสำนักย่อยการปรับแต่งมีความผูกพันธ์กับทั้งสองตระกูลมาก ยิ่งไปกว่านั้นการปรากฏตัวที่ดูน่าสังเวชของหนิงฮัว ก็ทำให้หลายคนรู้สึกอยากผ่อนปรนให้ ดังนั้นข้อเสนอในการยกเลิกการกีดกัน จึงผ่านไปในไม่ช้า
แต่มันก็แค่การเปลี่ยนบริบทในการกีดกัน
ภายในระยะเวลาหนึ่งร้อยปีหนิงฮัว จะไม่สามารถเข้าสู่สำนักย่อยการปรับแต่งได้
แต่ไม่รวมสมาชิกในตระกูลหนิง คนอื่น ๆ อีกแล้ว
ทุกคนมีความสุข หนิงปิงหลันแสดงร่องรอยของความโล่งอก นางเดินมาหาหนิงฮัว “ข้าช่วยเจ้าแก้ไขเรื่องนี้ให้แล้ว”
“ขอบคุณ ท่านป้า” หนิงฮัวขบฟันเพื่อพูด พร้อมร้องไห้ออกมาโดยไม่รู้ตัว
“ข้ารู้ว่าเจ้าเกลียดข้า แต่มันไม่สำคัญหรอก” หนิงปิงหลันพูดอย่างใจเย็น “เกลียดข้าให้มากกว่านี้ก็ได้ มันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรหรอกนะ”
ใบหน้าของหนิงฮัวค่อนข้างซีด เหงื่อและเลือดเปียกไปทั่ว เขาพูดอย่างไม่มีพลังว่า “ข้าเข้าใจข้าจะต้องแข็งแกร่งกว่าท่านให้ได้สักวันอย่างแน่นอน”
ดวงตาของหนิงปิงหลันฉายแววผิดหวังเล็กน้อยอีกครั้ง จากนั้นก็ใช้ฝ่ามือก็ตบหนิงฮัว
“หนิงหลิงหลิง พาเขาไปหาหมอสิ” หนิงปิงหลันกล่าว เบา ๆ
หนิงหลิงหลิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “ท่านป้าขาของหนิงฮัวถูกหักขนาดนี้ ดังนั้นเขาจึงเจ็บปวดเกินกว่าที่จะเข้าใจเจตนาดีของท่านได้”
หนิงปิงหลันมองไปที่หนิงหลิงหลิงแล้วยกปากขึ้น “มันจะไปมัวเจ็บอะไรขนาดนั้น ? ข้าขี้เกียจคิดวิธีอื่นเลยใช้วิธีนี้ “ถ้ามีปัญหาอะไรก็มาหา ข้าจะให้คำแนะนำแก่พวกเจ้าเอง ”
“รับทราบเจ้าค่ะ” หนิงหลิงหลิงพยักหน้าอย่างรีบร้อน
แม้แต่ปู่ของนางก็ยังยกย่องในทักษะการต่อสู้ของท่านป้า
หนิงปิงหลันมองไปที่ลั่วอู๋ “เจ้าอยากจะเริ่มฝึกเมื่อไหร่ ก็กำหนดเวลามาได้เลย”
ลั่วอู๋คิดว่า “วันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน ตอนนี้ข้ามีอย่างอื่นที่ต้องทำ”
หนิงปิงหลันพยักหน้า จากนั้นก็หันศีรษะไปทางซ้ายเดินกลับไปโดยไม่ลังเล
ลั่วอู๋มีบางอย่างที่ต้องทำ
เขาไปที่ห้องโถงหวันฝาอีกครั้งแล้วแก้ไข “ใบประกาศ” เดิมของเขา โดยเปลี่ยนลายเซ็นของเขาเป็น ลั่วอู๋จากสำนักย่อยการปรับแต่ง
หากมีการรับรองจากสำนักย่อยการปรับแต่งเช่นนี้ คงจะมีผลแตกต่างกันอย่างมาก
จากนั้นเขาก็ได้ตรวจค้นตามใบประกาศบนห้องโถง
“ข้าจำได้ว่าเคยเห็นใบประกาศเสนอให้รางวัลสำหรับสัตว์วิญญาณกลายพันธุ์แถว ๆ นี้นะ” สายตาของลั่วอู๋มองหาผ่านประกาศต่างๆ
ไม่นานลั่วอู๋ก็พบใบประกาศที่เขาหา
สนใจรับสัตว์วิญญาณกลายพันธุ์ ระดับทอง มีงบให้ 100,000 คะแนนต่อตัว ไม่จำกัดประเภท ยิ่งหายากก็ยิ่งเสนอขึ้นราคาได้
ลั่วอู๋หยิบใบประกาศมาทันที
จากนั้นลั่วอู๋ก็ไปที่คฤหาสน์หวู่หยู่ เมื่อเข้าไปแล้วเขาก็ถามว่า “สัตว์วิญญาณกลายพันธุ์ระดับทองชนิดไหนดีที่สุด?”
เจ้าของร้านได้แต่งง
เขามาถามเรื่องแบบนี้ทำไม?
หลังจากนิ่งไปสักพักเจ้าของร้านก็ตอบว่า “ข้าตัดสินใจไม่ได้หรอกว่าชนิดไหนดีที่สุด แต่หมาเพลิง ระดับทองนั้นเป็นที่นิยมมาก มันมีขนสีแดงปนสีขาวเป็นสีดั้งเดิมและจะเปลี่ยนเป็นสีทองเมื่อกลายพันธุ์ นอกจากนี้เปลวไฟสีแดงดั้งเดิมเองก็กลายเป็นทองเมื่อมันกลายพันธุ์”
ลั่วอู๋สนใจเป็นอย่างยิ่ง
หมาเพลิงเป็นสัตว์วิญญาณประเภทสุนัขยอดนิยมชนิดหนึ่ง มันทั้งมีคุณสมบัติสูง มีพลังและก็หน้าตาดี พลังในการต่อสู้ของมันเองก็ไม่เลว นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นพาหนะได้อีกด้วย
“งั้นข้าขอซื้อหมาเพลิงหน่อยสิ” ลั่วอู๋กล่าว
เจ้าของร้านมองลั่วอู๋ด้วยสายตาแปลก ๆ “ค่าใช้จ่าย 5000 คะแนน”
ลั่วอู๋ตรงไปตรงมามากในการจ่ายคะแนน จากนั้นเขาก็รับหมาเพลิงเข้าสู่มิติไห ด้วยความพึงพอใจ
ตอนนี้ลั่วอู๋กำลังจะลองสิ่งหนึ่งที่เขาคิดเอาไว้ได้สักพักแล้ว
เมื่อเข้าไปในมิติไห ลั่วอู๋ก็รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นหมาเพลิงตรงหน้าเขา มันสูงและดูดีมากเหมือนในตำนาน ขนสีแดงและสีขาวของมันนุ่มมากและดูไม่ดุร้าย
“เปิดใช้การแก้ไขคุณสมบัติ” ลั่วอู๋ใช้ความสามารถของไหปีศาจ
จากนั้นพลังวิญญาณในร่างหมาเพลิงก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว