ไหปีศาจ – ตอนที่ 315 ลิงเผือกตัวน้อย

บทที่ 315 ลิงเผือกตัวน้อย
บทที่ 315
ลิงเผือกตัวน้อย

ณ คฤหาสน์ตระกูลลั่ว
การกลับมาของลั่วอู๋ทำให้อารมณ์ของคนในตระกูลลั่วซับซ้อนมาก

ประการแรกลั่วอู๋นั้นไม่ได้สนิทชิดเชื้อกับคนในตระกูลลั่ว เขาไม่มีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนของตระกูลลั่วด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตามลั่วอู๋เอาชนะสองพี่น้องตระกูลเอ๋าในสำนักเฉียนหลง และขึ้นเป็นที่หนึ่งของอันดับรายชื่อเฉียนหลงได้สำเร็จ

เขาได้เอาชนะเอ๋าเฉียนจุนในการต่อสู้แย่งชิงอันดับรายชื่อของทางสำนักเฉียนหลง ซึ่งความสำเร็จเหล่านี้ทำให้ผู้คนในตระกูลลั่วต่างรู้สึกตื่นเต้น

ตระกูลลั่วนั้นไม่ได้ต่อสู้ชนะตระกูลเอ๋ามานานมากแล้ว พวกเขาจึงภูมิใจมาก

ผู้คนของตระกูลลั่วต่างก็หวังที่จะได้ปรับปรุงความสัมพันธ์กับลั่วอู๋ แต่หลังจากที่ลั่วอู๋ได้เดินเข้ามายังคฤหาสน์ตระกูลลั่ว พวกเขาก็พบว่าลั่วอู๋นั้นยังคงมีสีหน้าอันแข็งกร้าวที่แสดงถึงการต่อต้านอยู่

ดูเหมือนว่าหนทางจะอีกยาวไกลกว่าพวกเขาจะสามารถผ่อนคลายความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันได้

“โอ้ มาแล้วงั้นเหรอลั่วอู๋” ลั่วซงผู้อาวุโสของตระกูลลั่วที่อยู่ในสำนักย่อยการปรับแต่งของสำนักเฉียนหลงเดินออกมาหาลั่วอู๋ด้วยความกระตือรือร้น

เมื่อเจอหน้าผู้อาวุโสคนนี้ที่เคยให้ความช่วยเหลือเขามากมายในสำนักเฉียนหลง ลั่วอู๋ ก็ได้ยิ้มออกมา

“ฮ่าฮ่าฮ่า เรื่องราวของเจ้าได้แพร่กระจายไปทั่วตระกูลลั่วแล้ว ต่อไปนี้ลูกหลานของตระกูลลั่วจะต้องมีเจ้าเป็นแบบอย่าง” ลั่วซงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ดวงตาของลั่วอู๋กวาดไปทั่วห้องโถง มีเด็กหลายคนแอบมองมาที่เขาด้วยสายตาของความอิจฉา

ย้อนแย้งจากที่เขาพูดสุด ๆ
“ท่านไม่มีช่วงที่อยากอยู่กับตัวเองเงียบ ๆ สักครู่เหรอ?” ลั่วอู๋ถาม

“ก็พอมีอยู่บ้างแหละ แต่หลังจากการต่อสู้ชิงรายชื่อจบลงแล้ว ข้าก็แทบรอไม่ไหวที่จะได้ไปหาพวกคนของตระกูลเอ๋าเพื่อโอ้อวด และประมือต่อสู้กับตระกูลเอ๋า” ลั่วซงกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ “ผลก็คือพวกเขาไปเข้าร่วมการต่อสู้ที่ไหนก็ไม่รู้ คาดว่าพวกเขาคงจะยังไม่กลับมาสักพักใหญ่ ๆ”

ลั่วอู๋หัวเราะ
เขาไม่มีมาดของรุ่นพี่เลยจริง ๆ

“ ต้องขอบคุณเจ้าจริง ๆ ปู่ของข้าไม่ได้มีความสุขแบบนี้มานานแล้ว” ลั่วซงกล่าวว่า “เดิมทีการแข่งขันชิงรายชื่อเฉียนหลงมักจะถูกจัดขึ้นในทุก ๆ สิบปี พวกข้าเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีการแข่งขันชิงรายชื่อถูกจัดขึ้นในเวลานี้ พวกเราทุกคนจึงคิดว่าเจ้าคงจะแพ้ มันเกินความคาดหมายของพวกเราจริง ๆ ที่เจ้าสามารถเอาชนะตระกูลเอ๋าได้”

ลั่วซง กล่าวต่อไป “เนื่องจากพวกเราชนะการเดิมพันระหว่างสองตระกูล ตระกูลลั่วของเราจึงได้สิทธิ์ครอบครองเหมืองแร่วิญญาณขนาดใหญ่ และได้รับสมบัติอีกมากมาย ดังนั้นหากเจ้ามีความต้องการอะไร โปรดอย่าลังเลที่จะถามข้า ตราบเท่าที่พวกเราสามารถสนองให้เจ้าได้ เราจะพยายามอย่างเต็มที่”

ลั่วอู๋ไม่ต้องการจะขอสิ่งใดจากทางตระกูลลั่ว
อย่างที่เขาเคยได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้
ตระกูลลั่วให้โอกาสเขาเข้าไปในสำนักเฉียนหลง และเขาก็จะช่วยให้ตระกูลลั่วชนะตระกูลเอ๋า

มันยุติธรรมแล้ว

“ข้าแค่อยากเห็นลิงเผือกน่ะ ในครั้งนี้ข้าไม่มีความต้องการอื่น ๆ นอกจากเรื่องนี้” ลั่วอู๋ กล่าว

ลั่วซงตะลึง “ได้สิ ต่อให้เจ้าจะต้องการจะซื้อมัน ข้าก็คิดว่าท่านปู่ของข้าคงจะอนุญาต”

ลิงเผือก เป็นสัตว์วิญญาณที่มีศักยภาพระดับเพชร และมีมูลค่ามหาศาลหาที่เปรียบไม่ได้ เป็นสัตว์วิญญาณซึ่งเป็นรากฐานของตระกูลลั่ว

ในคฤหาสน์ตระกูลลั่ว จำนวนของลิงเผือกทั้งหมดนั้นมีเพียงแค่ราว ๆ 10 ตัว และส่วนใหญ่พวกมันต่างก็มีเจ้าของหรือได้รับการสั่งจองเอาไว้แล้ว

ลิงเผือกแต่ละตัวสามารถสร้างผลประโยชน์อันยิ่งใหญ่กลับคืนมาให้กับตระกูลลั่วได้ มันเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้ตระกูลลั่วยังคงยืนหยัดอยู่ได้อย่างยิ่งใหญ่จนถึงวันนี้

“ไม่ ๆ ข้าแค่อยากเห็นมันเฉย ๆ น่ะ” ลั่วอู๋ตอบ
ลั่วซง พยักหน้า “เข้าใจแล้ว ข้าจะพาเจ้าไปดูมันเอง โดยที่เจ้าไม่จำเป็นต้องทำยื่นเรื่องตรวจสอบขั้นตอนใด ๆ เลยล่ะ”

ลั่วซงเป็นผู้อาวุโสของตระกูลลั่ว เขามีสถานะอยู่ในระดับสูง ทำให้พวกเขาไม่มีปัญหาอะไรเลยในการเข้าไปหาลิงเผือก

พวกเขาเดินผ่านลานของคฤหาสน์และก้าวข้ามภูเขาด้านหลังไป จนในที่สุดก็มาถึงพื้นที่ต้องห้ามของตระกูลลั่ว ข้างหน้าของลั่วอู๋มีแสงประหลาดกะพริบระยิบระยับจากนั้นมันก็สว่างขึ้น

เบื้องหน้าของพวกเขาในตอนนี้กลายเป็นหุบเขาอันสวยงาม ที่เต็มไปด้วยออร่าพลังวิญญาณมากมาย ภูเขานี้ถูกล้อมรอบด้วยเมฆ มันเหมือนสวรรค์ที่อยู่บนพื้นโลก

ปฏิกิริยาของลั่วอู๋เต็มไปด้วยความสนใจ นี่คือสถานที่ลับที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

เขาสามารถเข้าใจได้คร่าวๆว่ามันเป็นช่องว่างมิติที่ถูกเปิดแยกขึ้นมา

เหล่าลิงเผือกนั้นอาศัยอยู่ที่นี่ ซึ่งเป็นสถานที่ลับอันแสนสำคัญของตระกูลลั่ว

“กรร!”
เมื่อสัมผัสได้ถึงการมาของบุคคลจากภายนอก ลิงเผือกตัวใหญ่ก็รีบวิ่งออกมาจากป่าแล้วทุบหน้าอกของมันอย่างรุนแรงพร้อมส่งเสียงขู่

รูปร่างของลิงเผือกนั้นใหญ่โตดั่งภูเขา มันมีความเร็วราวกับสายฟ้า มีขนสีขาวเงิน เขี้ยวในปากอันแหลมคมและดวงตาสีทอง เหมือนว่ามันจะสามารถมองทะลุผ่านมิติทั้งหมดได้ด้วยตาของมัน

สัตว์วิญญาณประเภทนี้มีพละกำลังและความเร็วอันน่ากลัว นัยน์ตามายาของมันสามารถมองทะลุผ่านความว่างเปล่าระบุถึงความจริงและคำลวงได้ มันมีพลังของเวทมนตร์อันไม่มีที่สิ้นสุด
“กวงซาน เจ้าอย่าตกใจไปน่า นี่ข้าเอง” ลั่วซง ร้องออกมาอย่างรีบร้อน

ลิงเผือกตัวนี้ที่มีชื่อว่ากวงซานดูบ้าคลั่งมาก แต่เมื่อมันเห็นลั่วซง ความต้องการฆ่าสังหารของมันก็ค่อย ๆ หายไป มันกลอกตาไปมาเหมือนมนุษย์ จากนั้นก็กลับเข้าไปในป่าอีกครั้ง

ลั่วอู๋จ้องมองไปที่ลิงเผือกตลอดเวลาโดยที่ไม่ได้คิดจะขยับหนีเลยแม้แต่น้อย

เผ่าพันธุ์: ลิงเผือก
ระดับ: เพชร
มิติ : ระดับ เพชร มิติ 6
ทักษะ: นัยน์ตาปีศาจ (ระดับ SS), พลังอันไร้เทียมทาน (ระดับ SS), ความเร็วเหนือความตาย(ระดับ S), ฉีกกระฉากอำมหิต (ระดับ A), โทสะกระหายเลือด(ระดับ S) และคมเขี้ยวปีศาจ(ระดับ S)

พื้นเพ: เผ่าพันธุ์ที่ภาคภูมิใจในตัวเองและรักสันโดษ ว่ากันว่าพวกมันมีสายเลือดของลิงศักดิ์สิทธิ์และมีเชาวน์ปัญญาในการต่อสู้สูง พวกมันจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ในระหว่างการต่อสู้ และหลังจากการต่อสู้

พวกมันมีทักษะมีไม่มากนัก แต่ลิงเผือกนั้นมีลักษณะเฉพาะอย่างหนึ่งคือยิ่งผ่านการต่อสู้ก็จะยิ่งแข็งแกร่ง

ช่วงชีวิตของสัตว์วิญญาณชนิดนี้ไม่ยาวนานเท่าไหร่ พวกมันมีอายุขัยไม่ถึง 100 ปี ถือว่าสั้นมากในหมู่สัตว์วิญญาณเพชร ยิ่งไปกว่านั้นพวกมันมีความขัดแย้งกันเองได้ง่าย และมีความสามารถในการสืบพันธุ์ที่แย่จนเกือบจะสูญพันธุ์

แต่ด้วยความช่วยเหลือของบรรพบุรุษของตระกูลลั่ว เขาได้สร้างวิชาลับในการปรับแต่งพลังวิญญาณที่สามารถช่วยให้ลิงเผือกปรับปรุงความสามารถในการสืบพันธุ์ของพวกมันได้

แน่นอนว่ามันเป็นเพียงเพื่อป้องกันการสูญพันธุ์
แต่มันก็ยังเป็นเรื่องยากมากสำหรับพวกมันที่จะสามารถขยายจำนวนประชากรได้

สำหรับคนในตระกูลลั่วนั้น พวกเขาได้รับการยอมรับในการทำพันธสัญญาจากลิงเผือกค่อนข้างง่าย

หากเป็นคนอื่น ๆ พวกเขาจะต้องจ่ายในราคาสูงต่างจากตระกูลลั่ว พวกเขาจะต้องมาที่นี่เพื่อเอาชนะลิงเผือกให้ได้ แต่ผลลัพธ์จะประสบความสำเร็จหรือไม่ ก็ยังขึ้นอยู่กับการเผชิญหน้าระหว่างเขาคนนั้นกับลิงเผือกอยู่ดี

“ในตอนนี้ที่คฤหาสน์ตระกูลลั่วมีลิงเผือกอยู่ในครอบครองเพียงแค่ 7 ตัว ส่วนอีกสามตัวถูกจองเอาไว้” ลั่วซง อธิบายว่า “มีเพียงกวงซานเท่านั้นที่ยังไม่มีเจ้าของ มันเป็นลิงเผือกที่ทรงพลังที่สุดในตระกูลลั่ว จึงไม่มีใครเคยได้รับการยอมรับจากมัน”

ลั่วอู๋พยักหน้า
“ข้าเสร็จธุระแล้ว”
ลั่วซง ประหลาดใจ “ลองเข้าไปดูก่อนสิ ไปดูข้างในกันก่อน ข้าได้ยินว่าเมื่อปีที่แล้วมีลิงเผือกตัวน้อยกำเนิดขึ้นมาเพิ่มอีกสามตัว ไปดูมันกันเถอะ”

ลั่วซงตั้งใจจะให้ลั่วอู๋ได้ทำความรู้จักกับเบื้องลึกต่าง ๆ ของตระกูลลั่ว เพื่อฟื้นฟูความรู้สึกของลั่วอู๋ในการมีส่วนร่วมในฐานะสมาชิกของตระกูลลั่ว

“ไม่เป็นไรขอรับ” ลั่วอู๋ไม่ได้สนใจ
“การเกิดสามครั้งในคราวเดียว เป็นอะไรที่ค่อนข้างหายาก” ลั่วซง กล่าว “มันเป็นการทำลายสถิติเลยล่ะ น่าเสียดายที่อัตราการตายของลิงเผือกนั้นสูงมาก ข้าไม่รู้ว่าพวกมันสามตัวนี้จะรอดชีวิตมาได้กี่ตัว”

ลั่วอู๋เดินตามเขาไปที่กระท่อมสำหรับการปรับแต่ง
มีลิงเผือกตัวน้อยสามตัวนอนอยู่ในกระท่อม
พ่อแม่ของพวกมันไม่ได้อยู่ที่นั่น พวกมันอาจจะเคยชินกับการทิ้งลูกไหวหลังจากคลอด และส่งลูก ๆ ให้กับทางตระกูลลั่วจัดการดูแล มันคงง่ายกว่าการเลี้ยงดูด้วยตัวเอง

ลิงเผือกตัวเล็ก ๆ เหล่านี้ไม่ได้ทรงพลังเหมือนพ่อแม่ของพวกมัน กลับกันแล้วดวงตาสีทองของพวกมันดูน่ารัก และพวกมันส่ายหัวไปมาอย่างไร้เดียงสา
ลั่วอู๋สังเกตเห็นลิงเผือกตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่ง มันมีลมปราณที่ไม่เป็นระเบียบและขนที่ควรจะเป็นสีขาวกลับมีเส้นสีทองปนอยู่ทั่วร่างกายของมัน มันดูอ่อนแอและผอมกว่าอีกสองตัว

สิ่งที่แปลกที่สุดคือมันกำดาบไม้ไผ่ธรรมดา ๆ เอาไว้แน่น ซึ่งดูเหมือนว่ามันจะชอบดาบนั่นมาก

“ มันมีชื่อเรียกว่าเสี่ยวกง ต่างจากพี่ชายอีกสองตัวของมัน มันมีโอกาสที่จะตายก่อนวัยอันควรค่อนข้างสูง นอกจากนี้มันยังมีพฤติกรรมที่แปลกมาก มันชอบเคี้ยวไม้ไผ่ด้วยฟัน สร้างเป็นดาบไม้ไผ่ด้วยตัวมันเอง”

มีเพียงสัตว์วิญญาณไม่กี่ชนิดที่จะสามารถใช้อาวุธได้ เว้นแต่พวกมันจะมีอาวุธมาด้วยตั้งแต่กำเนิดเช่นภูตสงคราม ที่มีดาบแห่งวันพิพากษาเป็นอาวุธคู่กาย

ไม่มีลิงเผือกตัวไหนสามารถใช้อาวุธได้ นับประสาอะไรกับดาบ

ในสายตาของเขา ลั่วอู๋เล็งเห็นว่า มันนั้นสามารถใช้ดาบได้ และชอบดาบมากอย่างอธิบายไม่ถูก

“ขอข้าเข้าไปดูมันใกล้ ๆ ได้ไหม?” ลั่วอู๋ถาม
ลั่วซง พยักหน้า “แน่นอน”
ลั่วอู๋เดินเข้าไปหาลิงเผือกตัวน้อยที่นอนถือดาบไม้ไผ่ มันมีร่างบางและดูเขินอาย

จากนั้นลั่วอู๋ก็ตรวจดูข้อมูลของมัน
ผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่าประหลาดใจมาก
ลิงเผือกตัวน้อยตัวนี้ แปลกประหลาดมาก มันไม่ได้สืบทอดทักษะใด ๆ ที่เผ่าพันธุ์ของมันควรจะมีแต่มันกลับเชี่ยวชาญทักษะระดับ S เพียงทักษะเดียวเท่านั้น นั่นคือทักษะ [ศิลปะแห่งจักรพรรดิดาบ]

ลั่วอู๋ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเอาไม้ไผ่ท่อนหนึ่งออกมาขัดให้ดูเหมือนดาบ

ดาบที่เคี้ยวโดยลิงเผือกนั้นหยาบมากและดูน่าเกลียด แต่ดาบที่ลั่วอู๋ขัดนั้นสะอาดสดใสและมีลักษณะที่ดาบควรจะเป็น
“ไม่ต้องกลัว นี่เป็นของเจ้า” ลั่วอู๋กล่าวเบา ๆ
ลิงเผือก กะพริบตาจากนั้นก็หยิบดาบออกมาจากมือของ ลั่วอู๋ อย่างระมัดระวัง แล้วถือมันไว้ในอ้อมแขนของมันอย่างตื่นเต้น มันดูมีความสุขมาก

“เจ้าชอบมันไหม?” ลั่วอู๋ถามด้วยรอยยิ้ม
ลิงขาวตัวน้อยพยักหน้าราวกับว่ามันเข้าใจภาษามนุษย์
ลั่วอู๋พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา“ เอาเป็นว่า เจ้าจงมีชีวิตรอดให้ได้ อย่าตายตั้งแต่ยังเด็ก แล้วข้าจะส่งดาบจริงมาให้เจ้าในอีกหนึ่งปีข้างหน้า”

ลมปราณอันอ่อนแอ และสายตาที่ดูอ่อนแรงของมันเปลี่ยนไปในทันที ดวงตาของมันสว่างไสวและพยักหน้าด้วยลมปราณที่หนักแน่นขึ้นมาก

“จงมีชีวิตอยู่ต่อไป” ลั่วอู๋ยิ้มแล้วหันหน้าเดินกลับไป

ไหปีศาจ

ไหปีศาจ

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง ไหปีศาจลั่วอู๋ โดนไหหล่นใส่หัวจนข้ามมิติไปอยู่ในร่างของ นายน้อยลั่ว ผู้ถูกเนรเทศ เพราะไม่สามารถทำพันธสัญญากับสัตว์อสูรได้ แต่แล้วเขาก็พบว่าเจ้าไหที่เป็นปัญหาได้เชื่อมต่อกับเขา ความสามารถของเจ้าไหปีศาจนี้ท้าทายสวรรค์ยิ่งนัก เพียงแค่ ลั่วอู๋ใส่ ดอกหญ้าลงไปมั่วๆ มันสังเคราะห์สัตว์วิญญาณระดับเงินให้กับเขา ยิ่งเขาลองใส่ของลงไปมั่วซั่วมากเท่าไหร่ก็ยิ่งสังเคราะห์ สิ่งต่างๆออกมา ทั้ง ยาวิญญาณ อาวุธวิญญาณ สัตว์อสูร ภูต

Comment

Options

not work with dark mode
Reset