ไหปีศาจ – ตอนที่ 321 โผบิน

บทที่ 321 โผบิน
บทที่ 321
โผบิน

แม้ว่าคนอื่น ๆ จะยังไม่รู้ แต่ลั่วอู๋นั้นรู้ดี
ผลโฉวหยวนกัวธรรมดา ๆ นั้นสามารถเพิ่มอายุไขที่มีมาแต่กำเนิดได้เพียงแค่หนึ่งปี

เฟ่ยเฉียนเทjานั้นมีความรู้ความเข้าใจมากกว่าคนอื่นเป็นพิเศษ เขาจึงตระหนักได้ว่าผลโฉวหยวนกัวที่เห็นอยู่นั้นมีความพิเศษต่างออกไป ดังนั้นเขาจึงคาดเดาว่าผลไม้ลึกลับในมือของลั่วอู๋มีผลการยืดอายุไขได้ราว ๆ สามถึงสี่ปี

แต่น่าเสียดายที่เขานั้นคิดผิด
ผลไม้ลึกลับนั้นมีฤทธิ์ช่วยยืดอายุไขได้ถึงสิบปี
แต่ลั่วอู๋จะไม่พูดมันออกมา
เพราะแค่ในตอนนี้ผลของมันก็น่าตกใจพอสมควรอยู่แล้ว

“นี่เป็นของขวัญที่ข้าจะมอบให้กับองค์จักรพรรดิ แต่เพราะมันมีความสำคัญมากเกินไป ข้าจึงเลือกที่จะเก็บมันไว้กับตัวเอง ยังมีใครข้องใจอีกหรือไม่?” ดวงตาของลั่วอู๋มองกวาดไปทั่วห้อง

องค์จักรพรรดิของเขานั้นเป็นผู้ปกครองที่ดี ตั้งแต่ขึ้นครองราชย์พระองค์ทรงพากเพียรในการงานและการเมืองมาตลอด ทรงเข้าใจถึงจิตใจของผู้คนเป็นอย่างดีและใช้ประโยชน์จากพวกเขาอย่างเหมาะสม ทำให้คนในจักรวรรดิของเขาร่ำรวยและกองกำลังของจักรวรรดิเองก็แข็งแกร่ง

เขาเป็นมหาจักรพรรดิที่จะมีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ไปอีกนาน

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมร้านค้าจำนวนมากจึงเต็มใจที่จะเสนอสินค้าหายากที่ดีที่สุดของพวกเขา มันไม่ใช่เพียงเพื่อได้พบกับเหล่าผู้มีอำนาจเท่านั้น แต่ยังเพื่อตอบแทนบุญคุณขององค์จักรพรรดิด้วย

ค่าใช้จ่ายสำหรับผลไม้ลึกลับทั้งสิบลูกนี้ไม่ได้สูงเท่าไหร่สำหรับลั่วอู๋ จึงเป็นการดีที่เขาจะมอบมันให้กับความสง่างามขององค์จักรพรรดิ

ตัวแทนร้านค้าใหญ่ ๆ ต่างมองหน้ากันในสภาพที่พูดไม่ออก

ไม่มีใครมีปัญหาอะไรอีก
สิ่งที่อีกฝ่ายหยิบออกมานั้นมีค่ามากกว่าของขวัญที่ร้านค้าของพวกเขามอบให้มาก พวกเขาจึงไม่มีคุณสมบัติที่จะคัดค้านได้

ใครจะไปคิดว่าสำนักโล่พิทักษ์จะมีของดีแบบนี้กัน
นอกจากนี้เขายังยินดีที่จะมอบมหาสมบัติเช่นนี้ให้กับองค์จักรพรรดิเสียด้วย

หลายคนบ่นพึมพำในใจว่าถึงแม้สำนักโล่พิทักษ์จะไม่เป็นที่รู้จัก แต่ก็อาจเป็นร้านค้าที่ยอดเยี่ยมมากก็ได้

บางทีอาจจะเป็นเพราะพวกเขาไต่เต้าขึ้นมาเร็วมาก จนชื่อเสียงยังไม่ทันได้กระจายออกไป?

เหล่านักธุรกิจนั้นไม่เคยดูถูกการพัฒนาพุ่งพรวดของร้านค้า กลับกันแล้วพวกเขาชอบที่จะได้เจรจาธุรกิจกับร้านค้าเหล่านั้นด้วยซ้ำ

ร้านค้าหลายเจ้า เริ่มพิจารณาว่าจะติดต่อกับสำนักโล่พิทักษ์เป็นการส่วนตัวดีรึเปล่า

ฉูเทียนเค่อ กล่าวด้วยความอับอาย “น้องชายลั่วยังเด็กและมีแนวโน้มที่จะเป็นคนดีมากจริงๆ ข้าผิดไปแล้ว ถ้าสมบัตินี้ถูกเปิดเผย มันก็เป็นเรื่องง่ายที่จะดึงดูดคนโลภที่มีความประสงค์ร้ายเข้ามาจริง ๆ มันคงจะดีกว่าหากนำมันไปเก็บไว้กับทางคนของคฤหาสน์ชวนเทียน”

ลั่วอู๋ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็มอบผลไม้ลึกลับให้กับ ฉูเทียนเค่อ

ที่เขาพูดมานั้นเป็นความจริง ลั่วอู๋ควรฝากผลไม้เหล่านี้ไว้กับทีมคุ้มกันของทางคฤหาสน์ชวนเทียน

เนื่องจากมีการเปิดเผยออกมาแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องปกปิดอีกต่อไป ผลไม้เหล่านี้สามารถดึงดูดผู้คนให้สิ้นคิดเข้ามาชิงเอาไปได้อย่างง่ายดาย

ทว่ากลับไม่มีใครสังเกตเห็นว่ามีความเศร้าหมองในสายตาของฉูเทียนเค่อ

เฟ่ยเฉียนเทาลูบเครายาวของเขาแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าคิดว่าองค์จักรพรรดิจะต้องพึงพอใจมากกับของขวัญที่พวกเราส่งไปท่านในครั้งนี้”

เซาฉางมองไปที่ลั่วอู๋ด้วยความขอบคุณ
เนื่องจากเขามีความสัมพันธ์อันดีกับองค์ชายเล็ก เดิมทีแล้วลั่วอู๋จึงไม่มีปัญหาที่จะเข้าสู่พระราชวังผ่านทางคฤหาสน์ชวนเทียน ดังนั้นตามหลักแล้วลั่วอู๋ไม่จำเป็นต้องให้ของขวัญก็ได้

แต่เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเกิดปัญหาเช่นนี้
หากเขาไม่จัดการเรื่องนี้ให้ดีล่ะก็ ภาพลักษณ์ของตัวเขาในสายตาผู้บริหารและตัวแทนร้านค้าหลายคนจะต้องดิ่งลงอย่างแน่นอน โชคดีที่ลั่วอู๋นั้นยอมออกมารับหน้าแทนให้กับเขา

“ไหน ๆ ก็มีตัวแทนของร้านค้าใหญ่ ๆ มารวมกันอยู่ที่นี่แล้ว” ทันใดนั้นลั่วอู๋ก็พูดเสียงดังว่า “ทำไมพวกเราไม่มาทำธุรกิจระหว่างทางกันล่ะ”

เดิมทีผู้คนคิดว่าเรื่องทั้งหมดจะจบลงแล้ว แต่พวกเขากลับถูกดึงดูดเข้ามาด้วยคำพูดของลั่วอู๋

พวกเขาทุกคนต่างก็เป็นนักธุรกิจ โดยธรรมชาติแล้วจังไม่มีปัญหาที่จะมาการพูดคุยเกี่ยวกับธุรกิจกัน

นี่คือสิ่งที่ลั่วอู๋ตัดสินใจหลังจากครุ่นคิดอยู่นาน มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับร้านค้าจากต่างแดนอย่างเขาที่จะมาตั้งหลักในเมืองหลวงของจักรวรรดิ

ดังนั้น ลั่วอู๋ จึงตัดสินใจที่จะเปลี่ยนให้สำนักโล่พิทักษ์กลายเป็นจุดสนใจของทุกคน
ตัวแทนร้านค้าหลายคนตรงนี้ เป็นตัวแทนของร้านค้าที่ดำเนินกิจการในเมืองหลวงของจักรวรรดิมาเป็นเวลานาน พวกเขาเป็นรากฐานทางธุรกิจอันมั่นคงที่สุด ด้วยเงินทุนทั้งหมดที่พวกเขามีอยู่

ลั่วอู๋ดึงรองเท้าบูทหนังที่ดูธรรมดามากออกมาคู่หนึ่ง “นี่คือสิ่งที่ข้าอยากจะนำมาเจรจาการค้ากับพวกท่านในวันนี้”

ฝูงชนต่างแสดงสีหน้าอันงงงวยไปตาม ๆ กัน
นั่นมันรองเท้าบูทหนังอย่างนั้นเหรอ?
เขาไม่ได้เสียสติไปแล้วใช่ไหม? ตรงนี้คือสถานที่ซึ่งตัวแทนทั้งหมดของร้านค้าหลัก ๆ ในเมืองหลวงของจักรวรรดิมารวมกันเชียวนะ ที่สำคัญที่สุดยังมีเหล่าผู้บริหารของคฤหาสน์ชวนเทียนอยู่อีก ใครจะไปมีเวลามาคุยเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจรองเท้าบูทหนังทั่ว ๆ ไปกัน

“น้องชายลั่ว นี่มันคือ… ” หวังฉีเองก็สับสนเช่นกัน
มีเพียงใบหน้าของอาฟูเท่านั้นที่ตื่นเต้น นายน้อยเอาของวิเศษแบบไหนออกมาอีกกันแน่ ? เขาเคยเห็นฉากนี้มานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว
ลั่วอู๋หัวเราะและไม่ได้ตอบอะไร แต่กลับพูดด้วยเสียงดัง “ปัญหาก็คือ ใครมีเพื่อนที่มีระดับมิติวิญญาณค่อนข้างต่ำไหม ?”

ผู้คนต่างมองหน้ากันและกัน จากนั้นชายที่มีมิติวิญญาณระดับเงิน มิติ 5 ก็เดินออกมา เขาเป็นเจ้าของร้านค้าแห่งหนึ่ง

“ไม่ ไม่ ไม่ เจ้ามีระดับมิติวิญญาณสูงเกินไป” ลั่วอู๋ส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม “มีใครพอจะมีเพื่อนหรือคนรู้จักที่มีระดับมิติวิญญาณในระดับต่ำกว่านี้ไหม?”

ชายคนนั้นเดินกลับไป
“ข้าเอง” ชายหนุ่มที่ดูบ้าๆบอ ๆ เดินออกมา
เขามีอายุประมาณสิบสี่หรือสิบห้าปี ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นลูกชายของเจ้าของร้านการค้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งถูกพามาที่นี่ด้วยเพื่อเรียนรู้

มิติวิญญาณ ระดับทองแดง มิติ 4
“เจ้าอยากบินได้ไหม ?” ลั่วอู๋ถามด้วยรอยยิ้ม
“แน่นอนสิ” ชายหนุ่มตอบอย่างไม่อาย เขาเต็มไปชีวิตชีวาและดวงตาที่สว่างไสว “ใครบ้างล่ะ จะไม่อยากบินได้ อา เจ้าคิดว่าทำไมสัตว์วิญญาณที่มีทักษะการบินถึงได้มีราคาแพงกันล่ะ”

ทุกคนที่ได้ยินต่างมีรอยยิ้มอันเป็นมิตร
พวกเขาทั้งหมดเป็นนักธุรกิจ และโดยธรรมชาติแล้วสัตว์วิญญาณที่บินได้นั้น มันจะเป็นที่นิยมมากกว่า ดังนั้นราคาของพวกมันจึงสูงกว่ามากสัตว์วิญญาณทั่ว ๆ ไปมาก

“น่าเสียดายที่ ถ้าเจ้าต้องการจะบินได้จริงๆด้วยตัวเอง อย่างน้อยเจ้าก็ต้องเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูง และเจ้ายังต้องมีสัตว์วิญญาณคู่พันธะที่บินไปบนฟ้าได้อีกด้วย”

ชายหนุ่มรู้สึกท้อแท้เล็กน้อย “ต้องเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทอง ข้าไม่รู้ว่าข้าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการฝึกฝนเพื่อที่จะไปให้ถึงระดับนั้นได้ เพื่อแค่ให้ข้าสามารถบินได้”

ผู้คนต่างโหยหาท้องฟ้าอันกว้างใหญ่
อย่างไรก็ตามผู้ใหญ่ได้เรียนรู้ที่จะยับยั้งชั่งใจ ในขณะที่วัยรุ่นนั้นยังมีพลังและความกระตือรือร้นมาก พวกเขาไม่มีความยับยั้งชั่งใจในความต้องการที่จะสามารถบินไปบนท้องฟ้าได้
ลั่วอู๋พยักหน้า “ดีมาก ๆ ทีนี้เจ้าลองใส่รองเท้าบูทคู่นี้ดูหน่อยสิ”

ชายหนุ่มใส่รองเท้าบูทหนังคู่นั้นอย่างสงสัยพลางเกาหัว “แล้วยังไงต่อ ?”

“ปล่อยพลังวิญญาณลงไปในรองเท้าบูทของเจ้าสักหน่อย จากนั้นก็ … ” ลั่วอู๋เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าด้วยรอยยิ้ม “บินขึ้นไปบนฟ้า”

เกิดความโกลาหลขึ้น
ผู้ชายคนนี้บ้าไปแล้วหรือยังไง ?
นี่มันคือเรื่องไร้สาระ อะไรกัน? แบบนี้หมายความว่าพวกเราก็บินได้ใช่ไหม?

ชายหนุ่มยังคงสับสนอยู่เล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้พูดคัดค้านอะไร เขาพยายามที่จะเติมพลังวิญญาณลงไปในรองเท้า จากนั้นก็กระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าเบา ๆ

ต่อมาพลังวิญญาณอันเข้มข้นที่ไม่ได้รุนแรงเท่าไหร่ ภายใต้รองเท้าของเขาก็พลุ่งพล่านขึ้นมา และด้วยความช่วยเหลือจากพลังวิญญาณอันเข้มข้นนี้ร่างกายของเขาก็ลอยขึ้นไปในทันที

ชายหนุ่มรู้สึกราวกับว่าเขากำลังล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า ทิวทัศน์นั้นกระจ่างขึ้นและทุกสิ่งที่อยู่ใต้เท้าของเขาก็ค่อย ๆ จางหายไป

“นี่ข้ากำลังบินอยู่งั้นเหรอ ?” แทนที่จะตื่นตระหนก ในสายตาของเขาชายหนุ่มกลับเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “พระเจ้า นี่ข้ากำลังบินอยู่ ข้ากำลังบินได้จริงๆ!”

จากนั้นพลังวิญญาณก็ค่อยๆเสถียรลงและชายหนุ่มก็รู้สึกได้ว่าร่างกายของเขาค่อยๆหนักขึ้นและล้มลงมา

เขายังไม่ชินกับมันเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงเสียการทรงตัวและตกลงมาในทันที

เขาไม่ได้กระโดดขึ้นไปสูงเท่าไหร่ ราว ๆ เพียงแค่สองถึงสามชั้นเขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรแค่เจ็บก้นเล็กน้อย

พ่อของเด็กหนุ่มที่อยู่ด้านล่างรีบวิ่งขึ้นไปดูเขาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล “ลูกข้า เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

“ ข้าสบายดี ท่านพ่อช่วยหลบไปหน่อย ” ชายหนุ่มยืนขึ้นและปัดฝุ่นที่บั้นท้ายของเขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

หลังจากนั้นดวงตาของชายหนุ่มก็ลุกเป็นประกาย “ดูเหมือนข้าจะเริ่มเข้าใจแล้ว”

เขาเติมพลังวิญญาณเข้าไปในรองเท้าอีกครั้งแล้วกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้า ครั้งนี้เขาสามารถรักษาสมดุลของร่างกายได้เป็นอย่างดี เมื่อพลังวิญญาณสลายไปเขาจึงไม่ได้ล้มลง แต่กลับค่อย ๆ ลอยลงไปที่ด้านข้างของหลังคา

หลังจากนั้นเขาก็ใช้กระเบื้องหลังคาในการทรงตัวแล้วกระโดดออกไปในอากาศอีกครั้ง
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เห็นไหม ข้าบินได้ ข้าบินได้” ชายหนุ่มที่กำลังตื่นเต้นบินจากหลังคาหนึ่งไปยังอีกหลังคาหนึ่ง เขาได้มีช่วงเวลาที่ดี

ทุกคนต่างตกตะลึง
ผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทองแดง มิติ 4 จู่ ๆ ก็บินได้โดยไม่คาดคิด?

ไหปีศาจ

ไหปีศาจ

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง ไหปีศาจลั่วอู๋ โดนไหหล่นใส่หัวจนข้ามมิติไปอยู่ในร่างของ นายน้อยลั่ว ผู้ถูกเนรเทศ เพราะไม่สามารถทำพันธสัญญากับสัตว์อสูรได้ แต่แล้วเขาก็พบว่าเจ้าไหที่เป็นปัญหาได้เชื่อมต่อกับเขา ความสามารถของเจ้าไหปีศาจนี้ท้าทายสวรรค์ยิ่งนัก เพียงแค่ ลั่วอู๋ใส่ ดอกหญ้าลงไปมั่วๆ มันสังเคราะห์สัตว์วิญญาณระดับเงินให้กับเขา ยิ่งเขาลองใส่ของลงไปมั่วซั่วมากเท่าไหร่ก็ยิ่งสังเคราะห์ สิ่งต่างๆออกมา ทั้ง ยาวิญญาณ อาวุธวิญญาณ สัตว์อสูร ภูต

Comment

Options

not work with dark mode
Reset