บทที่ 51
ความโกรธเกรี้ยวของนกหน้าโง่
ราคาตั้งต้นของมันเท่ากับหินสายรุ้ง
นี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่
นี่คือการยั่วยุของตัวเขา
ในเมื่อโรงประมูลเฉิงเทียนขับไล่เขาออกมาด้วยที่ว่าสนใจในหินสายรุ้ง เขาจึงออกมาขายของที่หน้าประตูโรงประมูลของเขาและตั้งราคาต้นไว้เท่ากับหินสายรุ้ง
“ทำไมเจ้าเด็กนี่หยิ่งยโสจัง” บางคนบ่น
ต่อให้ใครบางคนกล้าคิดที่จะเสนอราคาแบบนั้น เขาก็คงไม่เลือกมาเสนอที่หน้าโรงประมูลเฉิงเทียนแน่
นอกจากจะเหมือนหักหน้าโรงประมูลเฉิงเทียน ยิ่งไปกว่านั้นมันยังเหมือนหักหน้ามู่เฉิง เพราะหินสายรุ้งถูกนำออกมาตั้งราคาประมูลโดยมู่เฉิง
“แล้วเขาตั้งประมูลอะไรกัน”
“เหมือนจะเป็นสัตว์วิญญาณนะ”
“ไปดูกันเถอะ”
เหล่าผู้ใช้พลังวิญญาณด้านในโรงประมูลเฉิงเทียน เริ่มอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา
แต่เมื่อพวกเขาได้เห็นเจ้านกหน้าโง่ พวกเขาก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
“เจ้านี่มันสัตว์วิญญาณแบบไหนกัน”
“ช่างมันเถอะ ไม่ว่ามันจะเป็นสัตว์วิญญาณประเภทไหน ข้าได้ตรวจสอบระดับมิติของมันแล้ว เจ้านี่มันเป็นเพียงระดับทองแดง มิติ10”
“อะไร เขาเอาสัตว์วิญญาณระดับทองแดง มิติ 10 มาขายเนี่ยนะ”
“หมอนี่เพี้ยนไปแล้วแน่ ๆ มันคิดว่าสัตว์วิญญาณระดับทองแดงจะมีค่ามากรึไง”
“ฮ่าฮ่าฮ่า คงเพราะมันดูคล้ายหงส์อาบแสงจันทร์ที่เป็นสัตว์วิญญาณระดับเงินล่ะมั้ง แต่เจ้านี่มันก็ตัวใหญ่กว่านิดหน่อย”
“สัตว์วิญญาณ แบบนี้หาได้ทั่วไป ใครมันจะมาหาซื้อที่โรงประมูลกัน”
ฝูงชนพากันหัวเราะเยาะลั่วอู๋และนกหน้าโง่งั้นหรือ
พวกเขาทุกคนต่างก็คิดว่าลั่วอู๋เป็นบ้า
หงส์อาบแสงจันทร์เป็นสัตว์วิญญาณชนิดของประดับ มันมีความงดงามและสง่างาม สามารถหาตัวได้ใกล้แหล่งน้ำ คนมีฐานะหลายคนชอบเก็บสัตว์วิญญาณชนิดนี้ไว้ประดับในสวนของตัวเอง
แม้ว่าหงส์อาบแสงจันทร์จะเป็นสัตว์วิญญาณระดับเงิน แต่มันก็ไม่เชี่ยวชาญในการต่อสู้และโดยทั่วไปแล้วจะอยู่ที่อันดับล่างสุดหากมีการจัดอันดับวัดพลังในการต่อสู้
มีคนลุกขึ้นมาถาม “เฮ้เจ้าหนู นี่เจ้าคิดจะขายสัตว์วิญญาณตัวนี้ใช่ไหม”
“ใช่” ลั่วอู๋พยักหน้า
ชายคนนั้นยื่นนิ้วโป้งตัวเล็กจ้อยออกมาและถามเยาะเย้ย “มันราคาเท่ากับหินสายรุ้งใช่ไหม แบบว่าเท่าหินสายรุ้งขนาดนิ้วโป้งอะไรงี้”
ลั่วอู๋ตอบอย่างใจเย็น “ข้าตั้งเท่ากับหินสีรุ้งที่มู่เฉิง เตรียมมา เทียบได้ก็คงเท่ากับหินสายรุ้งทั่วไปสัก 5 ก้อน”
ฝูงชนระเบิดเสียงหัวเราะ
พวกเขาคิดว่าเด็กหนุ่มคนนี้โง่เกินไป
เขาต้องการแลกเปลี่ยนหงส์อาบแสงจันทร์กับหินสายรุ้งงั้นเหรอ? ฝันไปเถอะ!
บางคนตักเตือนลั่วอู๋ว่า “เจ้าหนุ่ม เจ้ากลับไปเถอะ มูลค่าของหงส์อาบแสงจันทร์นั้นไม่สูง มันเลวร้ายยิ่งกว่า สมุนไพรที่เจ้านำมาเสียอีก ของที่เจ้าเอามาประมูลที่นี่ไม่ใช่แค่สร้างความอับอายให้แก่เฉิงเทียน แต่เป็นความอับอายขายหน้าของตัวเจ้าเองด้วย”
ลั่วอู๋ส่ายหน้า “ไม่ เจ้านกหน้าโง่ตัวนี้มีค่ามากกว่าหินสายรุ้งนัก พวกเจ้าแค่มีตาแต่ไร้แวว มองไม่เห็นของดี”
นกโง่เงยหน้าของตัวเองขึ้น
แม้มนุษย์คนนี้น่าขยะแขยง แต่เขาก็เข้าใจได้ลึกซึ้ง
แน่นอนสิ มันรู้ว่ามันมีค่ามากกว่าหินพวกนั้น
“หยิ่งเกินไปแล้ว” คนงานของโรงประมูลเฉิงเทียนออกมาและเย้ยหยันที่นกหน้าโง่
“ท่านเสียสติไปแล้วรึไง ขนาดหงส์อาบแสงจันทร์ ยังไม่มีใครคิดจะเอาไปประมูลเลยนะ นี่มันไม่ถูกต้อง ทุกคนที่นี่จะไม่ยอมรับสิ่งที่ท่านทำแล้วคงจะขำกันปางตายเลยด้วย”
ทุกคนพยักหน้า
อันที่จริงเขาก็ไม่รู้ว่าชายหนุ่มต่างถิ่นคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่
เพราะว่าเขาเพิ่งถูกขับออกจากโรงประมูล เขาจึงจงใจขายสัตว์วิญญาณที่มีราคาถูก เขาคิดว่านี่จะทำให้โรงประมูลของเฉิงเทียนเสียหน้าได้เหรอ
อย่างไรก็ตามหากเขาทำพฤติกรรมแบบนี้ ต่อไปคงทำให้ตนเองต้องอัปยศ
ช่างเป็นสัตว์วิญญาณประเภทที่ไร้ประโยชน์เหรอ ราคาตั้งต้นของการประมูลเป็นชิ้นส่วนของหินไหมล่ะ มันไร้สาระ
มีร่องรอยของความโกรธในดวงตาของนกโง่
แม้ว่ามันจะเป็นสัตว์วิญญาณระดับทองแดง แต่สติปัญญาของมันก็เรียกได้ว่าหาได้ยากและมีราคาที่สูงมาก มันจึงรู้ว่าทุกคนในโรงประมูลต่างก็รังเกียจและดูหมิ่นมัน
มันยังคงทำตัวหยิ่งยโสต่อไป แม้ว่าจะไม่เป็นที่ยอมรับ
ทุกคนต่างก็เห็นเจ้านกโง่ยืนอย่างภาคภูมิใจ กางปีกกว้างสีขาวทั้งที่นิ่มราวกับขนหิมะ สั่นไหวไปตามแรงลม ทำให้มันดูสง่างามและศักดิ์สิทธิ์
วินาทีต่อมามันถูกปกคลุมด้วยแสงสีขาวบริสุทธิ์บางเบา
ซึ่งพอต้องลมหายใจแรงๆ ก็แตกกระจายออกไป
เปิดทักษะ [ราชันผู้สง่างาม]
“แกว๊ก!”
นกโง่บินขึ้นไปบนฟ้าและคำรามลั่น เสียงของมันเต็มไปด้วยความโกรธและดังมากราวกับเสียงปราสาทที่กำลังจะถล่ม
ทักษะราชันผู้สง่างาม ระดับ A, สามารถควบคุมสัตว์ในเผ่าเดียวกันในช่วงเวลาสั้น ๆ
อย่างไรก็ตาม ทักษะนี้ยังมีข้อดีเพิ่มเติม นั่นก็คือมันมีผลที่ทำให้อีกฝ่ายเป็นอัมพาตชั่วคราว ผลนั้นยังไม่รุนแรง แต่มันก็พอใช้งานได้ในชีวิตจริง
และใช้งานได้กับสัตว์วิญญาณแทบทุกรูปแบบ
ใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป
มีผู้มีใช้พลังวิญญาณมากมายที่นี่ที่สัตว์วิญญาณของพวกเขาได้รับผลจากทักษะ พวกมันถูกรบกวน และนั่นทำให้พวกเขาไม่สบายใจ
สถานการณ์นี้ค่อนข้างผิดปกติ
เจ้าหงส์อาบแสงจันทร์มันทำอะไร
“ ไม่ผิดแน่ หรือว่า นี่คือทักษะราชันผู้สง่างาม ระดับ A ” บางคนอุทานด้วยเสียงต่ำ
ผู้คนต่างตกตะลึง
บางคนก็รู้สึกประหลาดใจ “อะไรกัน ราชันผู้สง่างามเป็นทักษะระดับหายาก ที่จะมีแค่สัตว์วิญญาณที่เป็นระดับจ่าฝูงเท่านั้นที่จะมีนี่นา”
ทักษะนี้สามารถมีได้ในสัตว์วิญญาณแทบทุกชนิด
อย่างไรก็ตามก็มีเพียงไม่กี่ตัวในแต่ละเผ่าพันธุ์ที่เรียนรู้ได้
การที่สัตว์วิญญาณตัวไหนมีทักษะนี้นั้นเป็นการแสดงให้เห็นว่าสัตว์วิญญาณตัวนี้ควรค่าแก่การเป็นราชาแห่งสายพันธุ์ของพวกมัน
“ราชาแห่งหงส์อาบแสงจันทร์” บางคนมองดูนกหน้าโง่อย่างสงสัย “แล้วยังไง , เป็นของประดับที่มีค่ามากกว่าเดิมงั้นสิ”
บางคนก็เห็นพ้องต้องกันว่า “มันก็น่าจะแพงขึ้นนะ คงมีค่านิดหน่อย มันก็ยังมีขุนนางอยู่หลายคนที่ชอบเลี้ยงสัตว์วิญญาณแบบนี้”
นกหน้าโง่ได้ยินดังนั้นก็โกรธ
หงส์อาบแสงจันทร์ ตระกูลของมันคือหงส์อาบแสงจันทร์งั้นเหรอ
มันมีค่านิดหน่อย
ทุก ๆ คนต่างก็พูดความคิดวิจารณ์ของตนออกมาไม่ว่าคนงานหรือแขก
นกหน้าโง่เปิดปากปล่อยพลังวิญญาณสีขาวควบแน่นส่งลมหายใจที่อันตรายยิงออกไปในทันที
มันคือทักษะระดับ B [ลมหายใจ]
“ยิงขึ้นฟ้า!” ลั่วอู๋รีบพูดให้มันเปลี่ยนวิถียิง
มีคนมากมายที่นี่ หากทักษะของมันได้รับการปล่อยใส่ผู้คน มันจึงเป็นเรื่องง่ายมากที่จะก่อให้เกิดการต่อสู้ เขาไม่ต้องการเรียกยามรักษาเมืองมา
และแน่นอนว่าเจ้านกหน้าโง่ไม่มีทางยอมหยุดทักษะ ลมหายใจของมันแน่
แสงสีขาวถูกยิงขึ้นสู่ท้องฟ้า
ฝูงชนตกตะลึงอีกครั้ง
ฝูงชนต่างก็งงงวยจนสำลักออกมา ” เป็นไปได้อย่างไร ทำไมหงส์อาบแสงจันทร์ถึงทักษะนี้ “
ทุกคนต่างก็รู้ดีว่า
หงส์อาบแสงจันทร์ เป็นหนึ่งในของชำร่วยประดับที่โดดเด่นที่สุด สามารถเรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่รู้ ๆ กันของอุตสาหกรรมนี้ว่ามันเป็นเพียงแค่ของประดับ
วังวนวารี: ระดับ D สามารถสร้างน้ำพุขนาดใหญ่ได้ด้วยการใช้ความสามารถ ในการควบคุมน้ำและปล่อยน้ำออกมา
อาบแสง: ระดับ C ปล่อยแสงศักดิ์สิทธิ์ทำให้สิ่งมีชีวิตที่ถูกฉายด้วยแสงจะบรรเทาความเหนื่อยล้า
การบิน : ระดับ A สามารถบินได้
ระบำวารี: ระดับ D, เต้นรำเบา ๆ สามารถเรียกร้องให้สัตว์โดยรอบเต้นอย่างสง่างามร่วมกัน สร้างเขตพิเศษและกำจัดความโกรธของสิ่งมีชีวิตที่อยู่ใกล้เคียง
ตามหลักทั่วไปแล้วนี่คือทักษะพื้นฐานที่หงส์อาบแสงจันทร์มี
พวกเขาไม่เคยได้ยินว่ามีหงส์ที่ปล่อยลมหายใจได้
คนงานของโรงประมูลเฉิงเทียนยังกล่าวถ้อยคำดูถูกต่อไป “ต่อให้มันจะสามารถปล่อยลมหายใจได้ มันก็ไม่ช่วยอะไรหรอกน่า หงส์อาบแสงจันทร์ก็คือหงส์อาบแสงจันทร์อยู่ดีนั่นแหละ สัตว์วิญญาณระดับขยะ”
นกหน้าโง่ชูคอของมันขึ้นและมองดูฝูงคนด้วยสายตาเหยียดหยาม
พวกมนุษย์โง่
ผู้คนอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ เพราะมันเป็นสัตว์วิญญาณระดับทองแดงที่มีความเป็นมนุษย์สูงมาก
ขณะเดียวกันบางคนก็เริ่มกระซิบกระซาบกันว่า “สัตว์วิญญาณแบบนี้จะให้ข้านับมันเป็นหงส์อาบแสงจันทร์ได้ยังไง”
เมื่อผู้คนได้ยิน พวกเขาเริ่มมองดูนกหน้าโง่อย่างจริงจังมากขึ้น
ขนสีขาวเรียบเนียน ไม่แตกต่างจากหงส์อาบแสงจันทร์ แต่ดวงตามีความคมและดื้อรั้นเหมือนนกอินทรี
ยิ่งไปกว่านั้นปีกดูมีพละกำลังและกว้างกว่า หางมีขนแหลมคม ซึ่งดูเหมือนจะอาวุธในการโจมตีที่แข็งแกร่ง
จะงอยปากของมันคมเหมือนดาบยาว, กรงเล็บของมันเองก็เหมือนตะขอเหล็ก มีขนนกบางแหลมที่คอ คุณสมบัติเหล่านี้แตกต่างจากหงส์อาบแสงจันทร์ โดยสิ้นเชิง
“นี่มันสัตว์วิญญาณแบบไหนกัน” ผู้คนสับสนเล็กน้อย
เวลานั้นเอง ชายชุดขาวก็เดินเข้ามาที่โรงประมูล เขาหน้าตาหล่อเหลาและสง่างามสวมชุดสีขาว เขาถือพัดแบบแดนอาทิตย์อุทัยไว้ในมือ สวมเข็มขัดทองที่เอวของเขา นัยน์ตาเป็นสีดอกพีช ปากของเขาดูยกขึ้นเล็กน้อย ซึ่งทำให้เขาดูมีเสน่ห์และโรแมนติก
“ ถ้าข้าเดาไม่ผิดล่ะก็ เจ้านี่มันคือแร้งทรายสินะ” ชายในชุดขาวยิ้มขณะมองไปที่นกหน้าโง่