บทที่ 57
คัมภีร์วิชาผีเสริมกระดูก
ศาลาหว่านเซียง
หนึ่งในเจ็ดโถงใหญ่ของคฤหาสน์ชวนเทียน เป็นสถานที่สำหรับการซื้อขายพิเศษ เฉพาะผู้ที่มีสิทธิพิเศษบางอย่างเท่านั้นถึงสามารถเข้ามาได้
นอกจากโถงหว่านเซียงแล้วยังมีพื้นที่เล็ก ๆ ที่จัดขึ้นโดยศาลาหว่านเซียงให้ผู้ใช้พลังวิญญาณทั่วไปมาตั้งซุ้มร้านค้าขายที่นี่ มันถือได้ว่าเป็นดั่งเมืองตลาดเล็ก ๆ
ทุกคนต่างก็มาที่นี่เพื่อตั้งแผงขายสินค้าต่าง ๆและสัตว์วิญญาณ การตั้งซุ้มเป็นการแลกเปลี่ยนซื้อขายแบบที่พบได้ทั่ว ๆ ไป
ซึ่งทางด้านลั่วอู๋เองก็กำลังจะไปที่ศาลาหว่านเซียง แต่จู่ ๆ เขาก็หยุดลง
“ขออภัยด้วยขอรับ จากตรงนี้เป็นต้นไป แขกที่ไม่ได้มาจากคฤหาสน์ชวนเทียน ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าขอรับ” ยามหน้าประตูทางเข้าโถงหว่านเซียงหยุดลั่วอู๋ไว้
ลั่วอู๋คิดในใจว่า “ตกลง”
เขาแค่ต้องรอให้หวังฉีเดินออกมารับ
เพราะหวังฉีเองก็คงจะไม่ได้อยู่ในที่ศาลาหว่านเซียงตลอดเวลา
ด้วยที่ว่าไม่มีอะไรให้ทำ ลั่วอู๋จึงเดินไปในส่วนตลาดเล็ก ๆ ข้างนอก
มีคนไม่มากเท่าไหร่นักในส่วนจัตุรัสกลางเมือง แต่สินค้าในตลาดส่วนใหญ่นั้นคุณภาพดีมาก โดยพวกสินค้าขยะเองก็มีบ้าง แต่พวกมันก็ขายไม่ดี
ลั่วอู๋เดินไปรอบ ๆ เมืองพักหนึ่ง จากนั้นสายตาของเขาก็หยุดลงที่แผงลอยแผงหนึ่ง
แผงสินค้านั้นมียาวิญญาณอันน่าอัศจรรย์กับแหวนสัตว์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่แตกหักและคัมภีร์ลับ
“แหวนสัตว์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์นี่เอามาทำอะไรได้งั้นเหรอ ” ลั่วอู๋ถาม
เจ้าของแผงเป็นเพียงชายหนุ่มดูธรรมดา ๆ คนหนึ่ง
เขาตอบว่า “แหวนสัตว์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์วงนี้ เคยใช้เก็บสัตว์วิญญาณระดับเพชรที่ทรงพลัง แม้ว่ามันจะแตกหักและพื้นที่ภายในก็เสียหายไปมาก แต่มันก็ยังมีพื้นที่ราว ๆ 3 ตารางกิโลเมตร”
“โอ้” ลั่วอู๋สนใจ
ด้วยความที่มันครอบครองพื้นที่ขนาดใหญ่ จึงถือได้ว่าเป็นแหวนสัตว์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงเลยทีเดียว
แหวนสัตว์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ สามารถปล่อยให้สัตว์วิญญาณพักผ่อนอยู่ข้างในและทำให้สามารถพกพาสัตว์วิญญาณติดตัวไปด้วยได้ง่าย
แต่ลั่วอู๋มีไหปีศาจดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการแหวนสัตว์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์
อย่างไรก็ตามหลี่หยินนั้นไม่มีแหวนสัตว์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์
แหวนสัตว์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นของสำคัญสำหรับผู้ใช้พลังวิญญาณ
“ราคาเท่าไหร่” ลั่วอู๋ถาม
เจ้าของแผงลอยส่ายหัว “ข้าไม่ได้อยากจะขาย เพียงแค่อยากแลกเปลี่ยนกับยาวิญญาณหรือเม็ดยารวบรวมพลังวิญญาณก็ได้”
ลั่วอู๋ หยิบขวดยาวิญญาณของตนขึ้นมา “เจ้าสนใจแลกกับยาวิญญาณขวดนี้ไหมล่ะ”
“ระดับปฐพี ระดับ 3 คุณภาพใช้ได้นี่ อาจจะไม่เห็นผลเท่าไหร่เพราะไม่ใช่สำหรับผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทอง แต่ก็มีประโยชน์มากสำหรับข้า” ดวงตาของเจ้าของแผงสว่างขึ้น “ถ้าเจ้ามีสักราว ๆ 300 ขวดก็แลกกับแหวนสัตว์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของข้าได้เลย”
300 ขวด
ลั่วอู๋ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
มันก็ไม่ได้แพงเกินไป เพียงแต่ว่ายาวิญญาณนั้นมีประโยชน์มาก มันไม่เพียงแต่ใช้สำหรับการพัฒนาตัวเขาเอง แต่ก็ยังมีค่าสำหรับศาลาไป่หยู่ด้วย
ลั่วอู๋ตัดสินใจหยิบเม็ดยาคูฉินที่เพิ่งสังเคราะห์ได้ไม่นานนักออกมา “ดูเม็ดยานี่สิ ถ้าเป็นมันเจ้าสนใจรึเปล่าล่ะ”
เจ้าของแผงตรวจสอบมัน
“เม็ดยาระดับกลาง ระดับ 4” หลังจากตรวจสอบอย่างดี เจ้าของแผงขายก็ประหลาดใจแล้วเปลี่ยนเป็นเสียใจแทน “ ช่างน่าเสียดายที่มันเป็นยาพิษ”
“แล้วข้าสามารถใช้มันซื้อแหวนสัตว์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ได้รึเปล่า” ลั่วอู๋ถาม
“ยานี้มันเป็นพิษเพราะมีกลิ่นเน่าเหม็น ดังนั้นคุณภาพของมันจึงลดลงไปมาก” เจ้าของแผงเกาหัว แล้วยื่นมือไปหยิบถุงใส่ผงยาพิเศษออกมา จากนั้นผงสีขาวก็ถูกโรยบนเม็ดยาคูฉิน
“นี่คือผงชูเว่ยมันเป็นผงที่ทำจากยา จิงฉิน ซึ่งเป็นยาชนิดหนึ่งมันมีคุณสมบัติในการกำจัดกลิ่นเสีย”
“ถ้ากลิ่นของมันไม่สามารถกำจัดได้ด้วยผงนี้ ข้าจะไม่ยอมรับยาเม็ดนี้” เจ้าของแผงพึมพำ
ลั่วอู๋ในตอนนี้ทำอะไรไม่ได้
เดิมทีมันเป็นพิษที่ถูกใช้โดยคนของตระกูลหยิน กลิ่นของยานี้จึงหนักเกินไป ทำให้ไม่สามารถปกปิดได้ ดังนั้นผลของมันจึงลดลงไปอย่างมาก
ผงสีขาวถูกโรยบนเม็ดยาคูฉิน ทันใดนั้นกลิ่นหอมแปลก ๆ ก็ลอยขึ้นมา
“ทำไมกันนะ” เจ้าของร้านดูแปลกใจ “กลิ่นมันแปลก ๆ แต่ก็รู้สึกคุ้นเคย … “
กลิ่นของยาไหลออกไปกระจายไปทั่ว
“กรร!”
พวกสัตว์วิญญาณต่างก็สูดกลิ่นเข้าไป ทันใดนั้นพวกมันก็คำรามอย่างไม่สบายใจ ทำให้เกิดความวุ่นวายไปทั่ว
“เกิดอะไรขึ้น”
“เกิดอะไรขึ้น.”
ผู้ใช้พลังวิญญาณรู้ได้ในทันทีว่าเป็นเพราะกลิ่นของยาเมื่อครู่
เจ้าของแผงลอยจึงรีบดับกลิ่นด้วยพลังวิญญาณของเขาอย่างรวดเร็วและพูดด้วยรอยยิ้มอันเขินอายว่า “ข้าขอโทษทุกคน ข้าขอโทษ”
หลังจากจบเรื่องเจ้าของแผงก็มองดูยาคูฉินราวกับว่าเขาได้พบสมบัติ “จำไว้ว่านี่คือผลของยาเม็ดเม็ดนี้ มันมีผลคล้ายกับยาหลงเฉียง”
ลั่วอู๋ประหลาดใจเล็กน้อย
ยาหลงเฉียง
มันสามารถช่วยให้สัตว์วิญญาณตื่นกลัวได้ โดยยาเม็ดนี้จะปล่อยกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ออกมา หลังจากที่ถูกบดขยี้
กลิ่นนี้จะทำให้สัตว์วิญญาณรู้สึกไม่สบายใจและหนีไปในทันที
ในป่าตราบใดที่มียาหลงเฉียงให้บด เขาก็จะสามารถมั่นใจได้เลยว่าจะไม่มีสัตว์วิญญาณชนิดใดที่อยู่ในรัศมีสิบไมล์วิ่งเข้ามาหา
ในบางกรณี หลงเฉียงก็เป็นเพียงยาที่ช่วยให้คนรักษาชีวิตตัวเองรอดจากสัตว์วิญญาณได้
“ข้าขอรับยาคูฉินทั้งหมดที่เจ้ามี” เจ้าของแผงพูดอย่างเร่งรีบ
มันวิเศษมากที่เม็ดยาคูฉินสามารถส่งกลิ่นของยาหลงเฉียงได้
ลั่วอู๋เข้าใจแล้วถึงคุณค่าของยาคูฉิน
“ข้าพอมีมันอยู่บ้าง แต่ดูเหมือนจะไม่คุ้มกับแหวนสัตว์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเจ้า” ลั่วอู๋กล่าว
“เจ้ามีมันอีกมีเท่าไหร่” ถามโดยเจ้าของ
“สามสิบ.”
ลั่วอู๋สังเคราะห์มันในตอนนั้นเขาไม่มีอะไรทำบนท้องถนน เขาจึงสังเคราะห์มาเพียง 30 ชุด
น่าเสียดายที่ตอนนั้นเพราะเขายังไม่รู้ว่ามันมีคุณค่าของมัน เขาจึงไม่ได้สังเคราะห์เพิ่มเติม
“ถ้าอย่างนั้น ข้าจะยกนี่ให้เจ้าไปด้วย” เจ้าของแผงหยิบคัมภีร์ขึ้นมาจากแผง
ลั่วอู๋ส่ายหัว “ข้าไม่ต้องการมัน”
“ช้าก่อน ทักษะนี้ไม่เหมือนกับทักษะทั่วไป” เจ้าของแผงพยายามใช้ทักษะของเขาขายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ลั่วอู๋เปิดคัมภีร์อ่าน
หน้าหนังสือหน้าขาดและเหลือง ดูเหมือนว่ามันจะเก่ามากแล้ว
หน้าแรกมีการเขียนบทนำไว้ว่า วิชาผีเสริมกระดูก
ลั่วอู๋ขมวดคิ้วแล้วเปิดหน้าต่อไป
มันคือเสริมความแข็งแกร่งทางด้านร่างกายผ่านความท้าทายอันหลากหลาย รวมถึงทักษะการต่อสู้ที่ดุเดือดเจ็ดกระบวนท่า
“นี่ไม่ใช่ทักษะทางพลังวิญญาณ แต่เป็นศิลปะการต่อสู้โบราณจากสมัยโบราณ” เจ้าของแผงอธิบาย
ศิลปะการต่อสู้โบราณ!
นี่มันของหายาก
มีการกล่าวกันว่าในสมัยโบราณมนุษย์ไม่ได้เรียนรู้วิธีการใช้พลังของสัตว์วิญญาณ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ตนเอง ดังนั้นพวกเขาได้ใช้วิธีการต่าง ๆ เสริมพลังให้ร่างกายและฝึกฝนพลังวิญญาณให้แข็งแกร่งขึ้น
อย่างไรก็ตามเนื่องจากต้องการความพยายามสูงและต้องทนต่อความเจ็บปวดในการฝึกมากเกินไป วิชาเหล่านี้จึงค่อย ๆ ห่างหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ ศิลปะการต่อสู้ถูกแทนที่ด้วยวิชาทางพลังวิญญาณ
ถึงตอนนี้นอกจากตระกูลเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงก็แทบจะไม่มีใครฝึกฝนศิลปะการต่อสู้กันแล้ว
ในระยะแรกผู้ใช้พลังวิญญาณนั้นลำบากมากในการต้องเผชิญหน้ากับผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้ แต่ในช่วงกลางและปลายของยุค ระดับผู้ใช้พลังวิญญาณและมิติวิญญาณก็แข็งแกร่งขึ้น จนสามารถควบคุมทักษะความเป็นเอกลักษณ์ของมนุษย์และสัตว์วิญญาณได้
มันห่างไกลจากความสามารถในการต่อสู้ของผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ที่อยู่ในระดับเดียวกันไปมาก
ลั่วอู๋คิดถึงชายไร้หน้าที่ศาลาไป่หยู่
ชายไร้หน้านั้นไม่มีคุณสมบัติของผู้ใช้พลังวิญญาณ แต่เขาอาจมีพรสวรรค์ในการฝึกศิลปะการต่อสู้
อย่างไรก็ตาม
แม้เขาจะอยากได้มันเขาก็ต้องทำทีเป็นไม่อยากได้ไปก่อน ถ้าเขาอยากได้มันในราคาที่คุ้มกว่า
ลั่วอู๋วางคัมภีร์ลับไปอย่างเงียบ ๆ “ข้าไม่สนใจคัมภีร์ศิลปะการต่อสู้ แม้ว่ามันจะหายาก แต่มันก็เป็นแค่ของเก่าคร่ำครึ”
เจ้าของร้านหัวเราะอย่างขมขื่น
แน่นอนว่าเขารู้ดีว่ามันไม่ได้น่าสนใจนัก
ไม่อย่างนั้นมันคงขายออกไปนานแล้ว
“ถ้าอย่างนั้น ข้าให้จะให้เจ้าอีก 20000 หินวิญญาณ แลกกับยาคูฉินนั่น 30 ชุด” เจ้าของร้านกัดฟันของเขาขณะที่พูดออกมา
ลั่วอู๋ยิ้ม
มันไม่ได้ยากเท่าไหร่
เขาต้องขอบคุณอีกฝ่ายที่แจ้งให้เขาทราบถึงคุณค่าที่แท้จริงของยาคูฉิน
“ตกลง” ลั่วอู๋มอบยาคูฉินให้เจ้าของแผงไป 30 ชุด
เจ้าของแผงเองเมื่อได้ขายสินค้าออกไป ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ดูเหมือนว่าเขารู้สึกว่าเขาจะได้ใช้ประโยชน์จากมัน
ลั่วอู๋ให้แหวนสัตว์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์กับหลี่หยิน
“ นายน้อยยังไม่มีแหวนสัตว์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์เลย แล้วท่านจะให้ข้ารับมันจากนายท่านได้อย่างไรเจ้าค่ะ” หลี่หยินรู้สึกไม่ต้องการมัน
ลั่วอู๋พูดพร้อมกับยิ้มว่า “พูดอะไรของเจ้าน่ะ ก็แค่แหวนสัตว์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ข้ามีอยู่แล้วน่า แค่ข้าไม่เคยใช้ให้เจ้าเห็น รับ ๆ มันไปซะสิ ไม่งั้นข้าจะโกรธเจ้าแล้วนะ”
หลี่หยินยอมรับแหวนสัตว์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ไปแต่โดยดี
จากนั้นลั่วอู๋ก็มอบคัมภีร์วิชาผีเสริมกระดูกให้กับชายไร้หน้า
“เจ้าอยากแก้แค้นใช่ไหมล่ะ ข้าจะมอบสิ่งนี้ให้กับเจ้า จากนี้ไปมันเป็นชะตากรรมของเจ้า” ลั่วอู๋ให้เขาไปตามความประสงค์ของตัวเขาเอง
ชายไร้หน้าซึ่งมักจะไม่สนใจอะไรเท่าไหร่ ถึงกับมือสั่นเล็กน้อย เขากำมือของลั่วอู๋แน่น
นี่ไม่ใช่แค่ความลับ
นี่คือความหวัง
ความหมดอาลัยตายอยากหายไปจากความรู้สึกทางใจและมันแสดงออกทางกายจากชายไร้หน้า เป็นการแสดงถึงการฟื้นฟูศักดิ์ศรีและความหวังในการมีชีวิตของเขา