บทที่ 60
ภัยอันตรายจากนอกเมือง
วิชาผีเสริมกระดูก
เดิมทีมันเป็นศิลปะการต่อสู้โบราณชั้นหนึ่ง แต่น่าเสียดายที่การฝึกฝนนั้นมีความรุนแรงมากเกินไป และต้องมีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง ในสมัยโบราณจึงมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถฝึกฝนมันได้
ในบรรดากระบวนท่าทั้ง 7 ที่ถูกบันทึกไว้ เป็นกระบวนท่าที่น่ากลัวอย่างยิ่ง อาจเรียกพวกเขาว่าผู้ทำลายสวรรค์และโลกก็ยังได้ เมื่อพวกเขาฝึกฝนจนถึงหยั่งลึก
อย่างไรก็ตาม ลั่วอู๋ยังไม่พร้อมที่จะฝึกฝนวิชาผีเสริมกระดูกทั้ง 7 กระบวนท่า เขาสามารถเรียนรู้ได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ขุดคุ้ยกระดูก
วิญญาณเทพเจ้าลงทัณฑ์
ผีแห่งเซินโล
ห่าฝนวิญญาณ
กล้วยไม้สันโดษในแห่งหุบเขาร้าง
วิญญาณเทพเจ้า
วิญญาณคร่ำครวญ
กระบวนท่าทั้ง 7 นี้ รวมอยู่ในทักษะการต่อสู้ระยะประชิด ทักษะพลิ้วไหว สมรรถภาพร่างกายและศิลปะการต่อสู้ มันครอบคลุมถึงพลังที่ไม่สามารถคาดเดาได้
ลั่วอู๋เริ่มเคลื่อนไหวตามท่าทาง หลังจากฝึกกระบวนท่าแรก ขุดคุ้ยกระดูก เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดของกระดูกทั้งร่างกาย เขาไม่สามารถทนได้ราวกับว่าร่างกายกำลังจะแตกสลาย
“ฟู่ว!” ลั่วอู๋สูดลมหายใจเข้า
ข้าตายแน่
ทักษะผีนี่มันอะไรกัน
ลั่วอู๋สำเร็จกระบวนท่าแรก เขารู้สึกปวดกระดูก และเจ็บปวดกล้ามเนื้อไปทั่วร่างกาย
แต่หลังจากพักเพียงเล็กน้อย เขารู้สึกถึงแรงในร่างกายได้กลับคืนมา มันอบอุ่นและสบายราวกับแช่น้ำอุ่น
“ค่อย ๆ ทำไป ทำมันให้เหมือนกับการออกกำลังกาย”
แม้ว่าเขาจะตระหนักถึงผลประโยชน์ หลังจากให้กำลังใจตนเอง แต่มันก็เจ็บปวดเกินไป
ไม่ใช่แค่เขา ขนาดไร้หน้าก็ยังเจอสถานการณ์เดียวกัน
ลั่วอู๋เดินออกจากห้องของตน ไปยังประตูห้องของไร้หน้า
มองผ่านหน้าต่างบาง ๆ ลั่วอู๋เห็นว่ามีอะไรเกิดขึ้นภายในห้องบ้าง
ไร้หน้าเจ็บปวดอย่างมาก หลังจากฝึกฝนหลายกระบวนท่า มีเสียงของกระดูกที่เหมือนกำลังจะแตกดังออกมา
“กึก กึก”
มีเสียงทะลุผ่านมาออกมาข้างนอก
เหงื่อไหลรินปะปนไปกับเลือดนับไม่ถ้วน
เห็นได้ชัดว่าเขากำลังเจ็บปวด แต่เขาก็ไม่ยอมหยุด
ลั่วอู๋ประหลาดใจ หลังพบว่าไร้หน้ากำลังฝึกกระบวนท่าที่ 5 อยู่ และมีหมอกสีดำเบาบางปรากฏออกมาจากร่างของเขา
“ไม่น่าเชื่อเขาใช้ทุกกระบวนท่าได้แล้วงั้นหรือ เร็วมาก!”
ลั่วอู๋ไม่ได้คาดหวังว่าไร้หน้าจะรีบฝึกและคืบหน้าได้เร็วขนาดนี้ ในขณะที่เขาเพิ่งจะเริ่มฝึกกระบวนท่าแรกอยู่เลย
ลั่วอู๋คิดสักครู่หนึ่งและหันหลังเดินออกไป
เขาไปยังคฤหาสน์ชวนเทียน และซื้อยาเม็ดบางอย่างสำหรับช่วยเสริมสร้างร่างกาย
ชั่วโมงต่อมา
ลั่วอู๋กลับเข้ามาและเปิดประตูห้องที่ไร้หน้ากำลังฝึกฝนอยู่
ไร้หน้าสำเร็จการฝึกฝนแล้ว แต่ดูเหมือนว่าร่างกายของเขากำลังจะแตกสลายเขาล้มตัวลงนอนอยู่บนเตียง กระดูกของเขาถูกบดขยี้
“เป็นไงบ้าง” ลั่วอู๋ผลักประตูเข้าไป
เสียงภายใต้หน้ากากนั้นแหบและไร้เรี่ยวแรง จนฟังยากมาก เขาแสดงความอ่อนแอที่แสนจะอธิบายไม่ได้ “ข้าไม่เป็นไร ข้าทนมันได้ขอรับ”
“ทำไมเจ้าถึงรีบร้อนนัก”
ไร้หน้าเงียบไปครู่หนึ่ง
“ข้าคิดว่าข้าจะต้องใช้ชีวิตแบบนี้ไปตลอดชีวิต”
“แต่เมื่อท่านให้ทักษะนี้แก่ข้า หัวใจที่ตายของข้าก็เริ่มสั่นไหว ราวกับว่าได้พบความหวังที่จะได้เกิดใหม่อีกครั้ง”
ไร้หน้าตัวสั่นและเหมือนจะหัวเราะออกมา
หัวของเขาเอนไปอีกข้างหนึ่ง ซึ่งมันดูน่ากลัวมาก
“ข้าจะไม่รีบร้อนได้อย่างไร”
เขาเป็นแค่อันธพาล ความฝันเดียวของเขาคือการเข้าร่วมกับทีมหวงชา เพื่อให้ทุกคนรู้จักเขาและยกย่องเป็นครอบครัวเดียวกัน
แต่แล้ววันหนึ่ง ความฝันของเขาก็พังทลาย
เขาเกือบถูกเอาชีวิตไป
ร่างกายของเขาบาดเจ็บและยังอยู่ในสภาพที่เหมือนตัวประหลาด ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน ก็จะมีคนมองเขาด้วยความหวาดกลัวและหลีกเลี่ยงเขา
แม้เขาต้องการแก้แค้น ด้วยตัวเขาเอง แต่มันไม่มีความหวังเลย
ร่างกายก็พิกลพิการ หัวใจก็ใกล้ดับสูญ
แต่วันนี้เขาได้เห็นแสงแห่งความหวัง เขายังมีชีวิตอยู่
อันธพาลที่ได้รับแสงแห่งความหวัง เขาแบกรับความเจ็บปวด และจะฝึกฝนทักษะศิลปะการต่อสู้โบราณที่หายากที่สุดให้จงได้
มันคือความหวัง
มันเป็นสิ่งที่ดีจริง ๆ
ลั่วอู๋วางกองยาเม็ดลง “นี่คือยาเม็ดที่สามารถช่วยเสริมสร้างร่างกายให้เจ้าได้ เจ้าสามารถกินมันได้”
“ในอนาคต เจ้าสามารถขอมันจากข้าได้อีกนะ และข้าจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อตอบสนองความต้องการของเจ้า”
“ขอบคุณขอรับ ขอบคุณท่านมากขอรับ!” ไร้หน้าร้องไห้ออกมา
ลั่วอู๋พูดอย่างใจเย็น “ไม่หรอกตอนนั้นเจ้าพูดว่า ชีวิตของเจ้าเป็นของข้า ตั้งแต่เจ้าเข้ามาเป็นคนของข้า มันก็คุ้มค่าแล้วล่ะ”
“ข้าแค่รับผิดชอบในการช่วยเจ้าให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อใช้ในการแก้แค้นของเจ้า ตอนนี้ข้ากำลังยุ่งมาก เจ้าทำมันด้วยตัวของเจ้าเองเถอะ!”
มันคุ้มค่า
ข้าจะทำมันด้วยตัวข้าเอง
หลังจากไร้หน้ารับฟัง เขาไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด เขาพยายามลุกขึ้นยืน ไม่เคยมีใครเห็นการความรู้สึกที่แท้จริงของเขาเลย เขาใช้เข่าข้างหนึ่งคุกเข่าลงอย่างช้า ๆ
เขาดูเหมือนว่าจะพบเป้าหมายในชีวิตครั้งใหม่
“นายน้อย”
“นับจากนี้ไป…”
“ข้าจะเป็นดาบให้กับท่าน จนกว่าชีวิตของข้าจะหาไม่”
……
……
สายลมยามค่ำคืนแสนเย็นสบาย และพระจันทร์เต็มดวง
ลั่วอู๋เดินออกจากห้องของไร้หน้า ทันใดนั้นเขารู้สึกเบื่อเล็กน้อย ราวกับว่าเขารู้สึกถึงความว่างเปล่าอันลึกลับ ที่อธิบายไม่ถูกในใจเขา
เป้าหมาย
ความหวัง
สองคำนี้เข้าไปพัวพันในใจของอย่างอธิบายไม่ถูก
ไร้หน้าค้นพบเป้าหมายการมีชีวิตอยู่ของตนเอง
แล้วเป้าหมายของข้าล่ะ
ช่วยเหลือศาลาไป่หยู่ ลุกขึ้นเพื่อพิสูจน์ตัวเอง และกลับไปยังตระกูลลั่ว
แล้วมันคืออะไรล่ะ ลั่วอู๋อารมณ์เสีย
แข็งแกร่งที่สุดในโลกงั้นหรือ หรือว่าผู้ปรับแต่งคนแรกของโลก ข้าต้องการอะไรแน่
ลั่วอู๋เดินออกจากเมืองโดยไม่รู้ตัว
กลางคืนอันเงียบสงบ ด้านนอกเมืองเป็นป่าไผ่สีม่วงอันเขียวชอุ่ม ดูเหมือนจะมีสัตว์ตัวเล็ก ๆ กระโดดหายเข้าไปในป่าไผ่
“โอ๊ะ! ข้ามากังวลอะไรในเวลากลางคืนเนี่ย มันง่ายที่จะมีอารมณ์อ่อนไหวเมื่อข้านอนดึก” ลั่วอู๋หาวและโยนความคิดของเขาออกไปทั้งหมด “กลับไปนอนหลับสบาย ๆ ดีกว่า”
ลั่วอู๋ หันหลังกลับไป
แต่ในเวลานี้ไม่ไกลนัก ดูเหมือนว่าจะมีความผันผวนของพลังวิญญาณอย่างรุนแรง มีแสงกะพริบอยู่ในความมืดประสานเข้าด้วยกัน
“หืม ผู้ใช้พลังวิญญาณกำลังต่อสู้กันอยู่รึ”
ลั่วอู๋อยากรู้อยากเห็น
มืดค้ำป่านนี้ใครมาต่อสู้กัน
ลั่วอู๋เดินเข้าไปเล็กน้อย ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า! องค์หญิงที่กล้าหลบผู้คุมและเดินออกเที่ยวตามถนนเพียงลำพัง ช่างนิสัยเสียจริง ๆไม่มีสมองเอาซะเลย”
มีเสียงของชายคนหนึ่งดังออกมา
ชายในชุดสีดำ ไม่สามารถมองเห็นใบหน้าเขาได้ชัดเจน บนร่างของเขามีแสงส่องสว่าง 3 ดวง
แสงไฟทั้ง 3 ดวง แสดงเงาของเสือ, กิ้งก่า และค้างคาว
มันดูลึกลับไม่น้อย
ผู้ใช้พลังวิญญาณคนนั้นแข็งแกร่ง!
ลั่วอู๋รู้สึกประหลาดใจ ชายผู้นั้นต้องเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทองอย่างแน่นอน
แสงสว่างบนร่างกายของเขานั้น ชัดเจนว่าเป็นทักษะพลังวิญญาณ ซึ่งเป็นทักษะการต่อสู้ที่มีเพียงผู้ใช้พลังวิญญาณที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่สามารถใช้ได้
ด้วยการประสานของพลังวิญญาณ จึงสามารถใช้พลังวิญญาณได้อย่างสมบูรณ์แบบ
“บัดซบ! เจ้าใช้วิธีน่ารังเกียจเช่นนี้ เพื่อพาข้ามาที่นี่ยังงั้นหรือ” มีเสียงผู้หญิงตะโกนออกมา
ลั่วอู๋เฝ้ามอง
นางเป็นหญิงสาวที่สง่างาม มีผมสีขาวและเรือนร่างที่น่าดึงดูด นางสวมชุดสีชมพูอ่อน และแต่งแต้มด้วยลวดลายดอกไม้สีชมพู นางมีปิ่นปักผมดอกโบตั๋นบนปลายผมของนาง ที่ด้านหลังมีธนูที่ผูกด้วยเส้นด้ายผลึกแห่งแสง
เห็นได้ชัดว่า เป็นรูปลักษณ์ที่ดูหรูหรางดงามอย่างยิ่ง แต่ร่างกายของหญิงสาวคนนั้นกลับดูทั้งงดงามและลึกลับ ทั้งน่ารักและเต็มไปด้วยพละพลัง
ภูตดอกไม้งั้นเหรอ
ลั่วอู๋อดหัวเราะไม่ได้
ทำไมหญิงสาวคนนั้นถึงแต่งตัวคล้ายกับภูตดอกไม้ราวกับถอดแบบมา แต่ต้องขอบคุณตัวตนที่แสดงออกของนาง ทำให้นางสามารถควบคุมรูปแบบการแต่งตัวประหลาด ๆ เช่นนี้ได้