บทที่ 94
ไม่มีทางชนะ
“ท่านอาจารย์หง เดินออกมาแล้ว”
มีคนตะโกน
มีเสียงเชียร์ดังขึ้นในลานประลอง
“ออกมาแล้ว!” อาจารย์หงสนุกเพลิดเพลินไปกับเสียงเชียร์ ในฐานะผู้ปรับแต่งอาวุโสเพียงคนเดียวในพื้นที่เขตหวงชา เขาสมควรได้รับเสียงเชียร์ดังกล่าว
แม้ว่าเขาจะไม่ได้บอกใคร
แต่มันก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเขาในการดื่มด่ำกับช่วงเวลานี้
ข้างในโรงเรือนนั้นเละเทะไปหมด ซากของแมลงและอาหารกระจัดกระจายอยู่บนพื้น พร้อมกับกองสมุนไพรหายากนับไม่ถ้วนหมด
เมื่ออินทรีมังกรเพลิง ได้ยินเสียงของอาจารย์หงมันก็เปิดตาอย่างช้าๆ
มันเป็นดวงตาที่เฉียบคม ซึ่งทำให้คนรู้สึกเย็นไปถึงสันหลัง เปลวไฟสีแดงอันน่าสะพรึงกลัวควบแน่นระหว่างปีกกลายเป็นปีกเพลิงขนาดใหญ่ทันที
เสียงแหลมสูงดังลั่นไปทั่ว
เปลวไฟหมุนวนขึ้นไปบนท้องฟ้า
จากนั้นเปลวไฟนั้นก็พุ่งผ่านท้องฟ้าไป
ผู้คนมองเห็นได้เพียงแค่มีปีกเปลวไฟขนาดใหญ่บินอยู่เหนือท้องฟ้า อากาศเต็มไปด้วยลมหายใจอันร้อนแรงพร้อมเสียงตะโกนและอุทานของฝูงชน
ระดับทอง มิติที่ 10
แก่นวิญญาณ ระดับเพชร
มันเป็นผลของการปรับแต่งที่สมบูรณ์แบบ
มันคือการปรับแต่งที่สมบูรณ์แบบ เพื่อยกระดับแก่นวิญญาณดั้งเดิมให้แข็งแกร่งขึ้นและยกระดับของมิติวิญญาณไปถึงขีดจำกัด ซึ่งเป็นเรื่องยากมากที่จะทำได้สำเร็จ
ดวงตาของลูหยางพิงเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “วิชาลับของอาจารย์หงนั้นช่างยอดเยี่ยมจริงๆ”
ด้วยศักยภาพเดิมของอินทรีมังกรเพลิงที่มีโอกาสเติบโตได้ถึงระดับทอง แต่มันก็ขึ้นอยู่กับความพยายามของตัวมันเองด้วย
ไม่ใช่ว่าแค่มีศักยภาพสูง แล้วมันจะสามารถเติบโตไปจนถึงระดับนี้ได้
“อินทรีมังกรเพลิงตัวนี้ มันดูแข็งแรงมาก”
“หากใครไปถึงระดับทองแล้วได้มันมาครอบครองล่ะก็ จะต้องแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน บางทีอาจยังได้ขี่มันขณะที่สู้อีกด้วย”
“ ข้าล่ะอิจฉาจริง ๆ ข้าคงจะติดใจน่าดู ถ้าได้นั่งบนมัน”
การต่อสู้บนสัตว์วิญญาณเป็นสิ่งที่เหล่าผู้ใช้พลังวิญญาณปรารถนาเสมอ
“ข้าเดาไม่ถูกเลยว่าเจ้าของร้านลั่วแห่งศาลาไป่หยู่จะเลือกสัตว์วิญญาณชนิดไหน และจะใช้วิธีการใดปรับแต่ง”
“ข้าเดาว่าก็คงจะชนะยากอยู่ดีนั่นแหละ ถึงกระต่ายแห่งแดนสาบสูญของเจ้าของร้านลั่วอู๋เมื่อวานนี้มันจะน่าทึ่งก็เถอะ แต่มันก็เป็นแค่สัตว์วิญญาณระดับทองแดง”
“ ใช่แล้ว ยิ่งสัตว์วิญญาณระดับสูงขึ้น ความยากลำบากในการปรับแต่งเองก็จะเพิ่มขึ้น บางทีอาจจะสองเท่าเลยด้วยซ้ำ เพราะแบบนั้นแหละ ผู้ปรับแต่งวิญญาณอาวุโสถึงมีเกียรติ ใช่ไหมล่ะ?”
มีการพูดคุยกันมากมาย
หลังจากได้เห็นอินทรีมังกรเพลิงผู้คนส่วนใหญ่ก็คิดแล้วว่าอาจารย์หงน่าจะเป็นผู้ชนะการต่อสู้
“นั่นอะไรน่ะ?” ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องประหลาดใจ
ไม่ไกลนัก ดูเหมือนว่าจะมีเงาดำข้ามทะเลทรายแล่นผ่านไปมาอย่างรวดเร็ว
“ดูเหมือนว่าจะเป็นแมงป่องตัวใหญ่”
“มีผู้ชายนั่งอยู่บนแมงป่องด้วย!”
“นั่นมัน ลั่วอู๋! เจ้าของร้านลั่วแห่งศาลาไป่หยู่นี่นา”
“ เขาปรับแต่งมันเสร็จแล้ว และการต่อสู้อันสั่นสะเทือนไปทั้งสวรรค์ก็กำลังจะเริ่มต้นแล้วสินะ” บางคนเริ่มถูมือด้วยความตื่นเต้น
ชายที่มีดวงตาแหลมคมคนหนึ่งมองไปที่รูปลักษณ์ของแมงป่อง “การต่อสู้อันสั่นสะเทือนไปทั้งสวรรค์อะไรกันเล่า ดูสัตว์วิญญาณที่เจ้าของร้านลั่วอู๋เลือกมาซะก่อนสิ แมงป่องพิษยักษ์นั่นไง!”
“อา ไม่จริงน่า”
“แมงป่องพิษยักษ์เนี่ยนะ ? มันแพ้ทางอินทรีมังกรเพลิงนี่”
“มันยิ่งกว่าคำว่าแพ้ทางอีก สัตว์วิญญาณสายพิษเกรงกลัวไฟ สัตว์ที่อยู่บนพื้นกลัวสัตว์ที่บินได้ และแมลงก็กลัวทั้งไฟทั้งสัตว์บินได้ อินทรีมังกรเพลิงตัวเดียวให้ไปสู้กับแมงป่องพิษยักษ์ทั้งฝูงก็ยังได้”
“ด่วนสรุปไปรึเปล่า ? ” บางคนอยากรู้อยากเห็น
“ถ้าระดับมิติวิญญาณสูงกว่าก็อาจจะยังมีโอกาส … “
เมื่อแมงป่องพิษยักษ์เดินมาถึงสนามประลอง ผู้คนต่างก็ผิดหวังอย่างสมบูรณ์
สัตว์วิญญาณระดับทอง มิติที่ 10
แก่นวิญญาณระดับ ทองคำ
มันไม่ได้ถูกยกระดับแก่นวิญญาณไปถึงระดับเพชร แค่ในแง่ของระดับแก่นวิญญาณที่ต่างกันก็ว่าแย่แล้ว นี่ยังมีเรื่องของการแพ้ทางด้วยสายพันธุ์สัตว์วิญญาณอีก
ลั่วอู๋แพ้แล้ว
นี่เป็นปฏิกิริยาแรกของทุกๆคนที่เห็น
โดยไม่มีใครคิดที่จะคัดค้าน
ลั่วอู๋กระโดดลงมาจากแมงป่องพิษยักษ์และพึมพำด้วยเสียงเบา ๆ “มันไม่เหมาะที่จะเอามาเป็นพาหนะเลยแฮะ ตะขอพิษมันแกว่งไปแกว่งมาแถว ๆ หน้าผาก น่ากลัวชะมัด”
“นั่นคือสัตว์วิญญาณที่เจ้าปรับแต่งอย่างนั้นเหรอ?” ท่านอาจารย์หงพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันเล็กน้อย
ลั่วอู๋พยักหน้า “ใช่ ไม่เลวใช่ไหมล่ะ”
เปลือกสีดำดั้งเดิมของแมงป่องพิษนั้นดูมีความหนามากกว่าเดิมและร่างกายก็มีขนาดใหญ่กว่าเดิมเล็กน้อย ตะขอพิษขนาดใหญ่สูงเทียบเท่าร่างกายมนุษย์ ดูน่าสะพรึงกลัว
“ข้าคิดว่าเจ้าจะทำให้ข้าประหลาดใจ แต่ข้าไม่ได้คาดคิดว่าจะเป็นแบบนี้” อาจารย์หงส่ายหัวแล้วจ้องมองไปที่อินทรีมังกรเพลิงของเขา
ก่อนหน้านี้ เขากลัวลั่วอู๋ จริงๆ แต่ตอนนี้เขาโล่งใจแล้ว
ต่อให้แมงป่องพิษยักษ์ตัวนี้จะมีแก่นวิญญาณระดับเพชร มันจะสามารถเอาชนะสัตว์วิญญาณที่ชนะทางตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบได้รึไง?
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเขาจะมีทักษะแค่ในการฝึกฝนสัตว์วิญญาณระดับล่าง
ลั่วอู๋ชำเลืองมองดูอินทรีมังกรเพลิง จากนั้นก็พยักหน้าและยกย่อง “สุดยอดมากที่เจ้าปรับแต่งแก่นวิญญาณของมันไปถึงระดับเพชรได้ แต่มันก็แค่ไปได้สูงสุดที่การแตะระดับเพชร * * “
“เมื่อกี้ เจ้าพูดว่าอะไรนะ?” อาจารย์หงจ้องมองมาที่เขา
ลั่วอู๋กล่าวต่อ “แก่นวิญญาณระดับเพชรนั้น มีทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน หากอินทรีมังกรเพลิงไปถึงระดับเพชรมันจะยิ่งเพิ่มงานหนักให้เจ้าอีก”
ด้วยพลังของไหปีศาจลั่วอู๋สามารถดูข้อมูลของอินทรีมังกรเพลิงได้อย่างง่ายดาย
ทั่วไปสามารถตัดสินระดับของแก่นวิญญาณได้ไม่ยาก แต่พวกเขาไม่สามารถทำการตัดสินถึงคุณภาพของมันได้ พวกเขาควรรู้ว่าในระดับเดียวกัน แก่นวิญญาณนั้นได้ถูกแบ่งออกเป็นสูงและต่ำ
“เจ้ากล้าสอนข้าเรื่องระดับของแก่นวิญญาณงั้นเหรอ ? เจ้าเนี่ยนะ” อาจารย์หงผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทองโกรธและหัวเราะออกมา
ลั่วอู๋หัวเราะเบา ๆ และสัมผัสไปที่ก้ามขนาดใหญ่ของแมงป่องพิษ “แม้ว่าข้าให้โอกาสมันไปถึงแก่นวิญญาณทองคำได้เท่านั้น แต่ข้าก็ให้โอกาสมันแล้ว”
เสียงลดลง
แมงป่องพิษยักษ์ เริ่มปล่อยลมหายใจดั้งเดิมออกมาอย่างสมบูรณ์
มันแข็งแรงและไม่ขาดช่วง
มันห่างจากระดับเพชร เพียงนิดเดียวเท่านั้น
สัตว์วิญญาณตัวนี้กำลังจะข้ามผ่านอดีตไป เพื่อทำสิ่งใหม่ที่ชีวิตนี้มันอาจจะไม่สามารถทำได้สำเร็จเลยก็ได้ แต่มันก็ยังพอมีความเป็นไปได้อย่างน้อยหนึ่งข้อ
ความเป็นไปได้ของการวิวัฒนาการอันเป็นอิสระ
ใบหน้าของอาจารย์หงเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ในบรรดาผู้ชมมีคนผู้ชาญฉลาดบางคน รู้สึกได้ถึงจังหวะลมหายใจแมงป่องพิษยักษ์และคิดได้ถึงการวิวัฒนาการในทันที
แมงป่องตัวนี้มีที่มีแนวโน้มที่จะวิวัฒนาการ
ในแง่ของมูลค่า มันน่าจะสูงกว่าอินทรีมังกรเพลิง ที่ยังเป็นสัตว์วิญญาณระดับทองคำ
สุดท้ายแล้วมันก็ยากที่จะทำให้สัตว์วิญญาณออกมาสมบูรณ์
อาจารย์หงสูดหายใจเข้าลึก ๆ “ข้าต้องยอมรับว่าเจ้า ทำให้ข้าประหลาดใจได้จริง ๆ ในแง่ของความสามารถในการปรับแต่ง ไม่แน่ข้าเองก็กลัวว่าเจ้าอาจจะแข็งแกร่งกว่าข้า”
ลั่วอู๋ยิ้ม
อย่างไรก็ตาม เขาคิดกับตัวเอง
เสียดายข้าไม่มีแต้มเซียนเพียงพอ เขาตั้งใจจะให้แมงป่องพิษยักษ์ได้ออกไปในสภาพที่วิวัฒนาการไปแล้วมากกว่า เรียกได้ว่าลั่วอู๋อยากที่จะรอบคอบไว้ก่อน
“แล้วมันจะทำไมล่ะ?ต่อให้ทุกแง่มุมของอินทรีมังกรเพลิงได้รับการพัฒนาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะแก่นวิญญาณของอินทรีมังกรเพลิงที่ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษ”
“การปรับแต่งอินทรีมังกรเพลิงและแมงป่องพิษยักษ์ ของพวกเราไม่ใช่เพื่อการประมูล แต่เป็นเพื่อใช้สู้ในสนามประลอง เจ้าคิดว่าจะชนะข้าได้อย่างไร”
“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าคิดว่าจะชนะข้าได้อย่างไรงั้นเหรอ ” อาจารย์หงมองดูลั่วอู๋อย่างน่าสงสาร
จะชนะได้อย่างไร
เพียงแค่ความรักและมิตรภาพ ไม่สามารถทำให้ชนะได้
หลายคนรู้สึกเสียใจ แน่นอนว่าหากพวกเขาได้รับอนุญาตให้เลือกสัตว์วิญญาณหนึ่งตัว พวกเขาส่วนใหญ่ก็คงจะเลือกแมงป่องพิษยักษ์เช่นกัน
เพราะอนาคตของมันไม่ได้ถูกจำกัด ด้วยเผ่าพันธุ์ของตัวมันเอง
อย่างไรก็ตามหากให้พวกเขาเดิมพันว่าใครจะเป็นผู้ชนะก็คงไม่มีใครเลือกแมงป่องพิษยักษ์
เพราะช่องว่างความแข็งแรงของพวกมันทั้งสองก็ขึ้นอยู่ที่เผ่าพันธุ์ของพวกมันเนี่ยแหละ
หลิวหูรู้สึกผิด
ทำไมเขาถึงไม่มั่นคงในตัวเลือก ถ้าเขายืนยันหนักแน่นในการเลือกอินทรีมังกรเพลิง ลั่วอู๋ก็คงจะไม่ต้องมาแพ้