48 Hours a Day ตอนที่ 42 โตเกียวดริฟท์ XII
ตอนที่ 42 โตเกียวดริฟท์ XI
จางเฮงรู้ว่าทาเคดะเท็ตสึยะซ่อนอะไรบางอย่างเอาไว้ ทําไมเขาถึงล้มเลิกความตั้งใจไปในตอนที่ตําแหน่ง Drift King อยู่ใกล้แค่เอื้อม? ทําไมเขาถึงหย่า? ทําไมเขาถึงสาบานว่าเขาจะไม่แตะพวงมาลัยอีก? และทําไมเขาถึงพึ่งมาติดต่อกับลูกสาวของเขาอีกครั้งหลังจากผ่านไปหลายปี?
การให้เหตุผลว่าติดการพนันนั้นอาจจะหลอกอามิโกะลูกสาวผู้ไร้เดียงสาของเขาได้ แต่หลังจากที่เขาได้ใช้เวลาหลายค่ําคืนที่ไม่ได้นอนอยู่กับชายผู้ค้าขายอาหารทะเลคนนี้ จางเฮงรู้ได้ว่าชายที่ดูจิตใจอ่อนแอจริงๆแล้วลึกๆข้างในเขาเป็นคนที่แข็งแกร่งกว่าคนอื่นๆมาก แม้ว่าเขาจะพนันแข่งม้า แต่นั้นก็เป็นเพียงเพื่อผ่อนคลายเท่านั้น
ทุกครั้งที่เขาวางเงินเดิมพัน เขาจะพอแค่นั้นเสมอไม่ว่าเขาจะชนะหรือแพ้พนันเขาจะไม่วางเดิมพันต่อ คนที่ติดพนันที่แท้จริงคงจะไม่เลิกเดิมพันได้อย่างเหมาะสมเช่นนี้
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะทิ้งร่องรอยไว้บนเวทีโลกและใช้ชีวิตที่เหลืออย่างไร้จุดหมาย
ด้วยพรสวรรค์และพรแสวงที่เขามี นั่นทําให้เขาโดดเด่นออกมาจากกลุ่มคนที่มีความสามารถนับร้อยนับพัน ไม่มีทางที่คนที่ควบคุมตนเองไม่ได้จะกลายเป็นนักแข่งรถชั้นนําไปได้
ถึงอย่างนั้นจางเฮงก็ไม่เคยขอทาเคดะเท็ตสึยะให้เล่าเรื่องของเขา ไม่ใช่เพราะเขาไม่สนใจ แต่เพราะเขากลัวว่าเขาอาจจะไม่ได้มีอิทธิพลมากพอที่จะเข้าไปก้าวก่ายในเรื่องพวกนี้
ตอนนี้สกิลการขับขี่ของเขาอยู่ในระดับปานกลาง เขายังคงซึมซับความรู้ไว้ได้ราวกับฟองน้ํา แต่ก็ยังฝึกการดริฟท์อย่างเหี้ยมโหดของทาเคดะเท็ตสึยะได้ไม่สําเร็จ จากนั้นจางเฮงจึงเริ่มมีความคิดง่ายๆอย่างการเล่นเกมรถแข่งฟอมูล่าวัน
เขาใช้เวลาเนิ่นนานไปกับการเล่นเกม – หลีกเลี่ยงจากการกระตุ้นให้เรื่องดําเนินต่อ และหมกมุ่นอยู่กับการฝึกฝนอย่างขะมักเขม้น – ในที่สุดก็ขัดเกลาสกิลการขับขี่ของเขาจนถึงเลเวล 2 และปรับแต่งรถ L300 จนเสร็จได้เรียบร้อยแล้ว
จริงๆแล้วเขาวางแผนที่จะคุยกับทาเคดะเท็ตสึยะ แม้ว่าเรื่องคืนนี้จะไม่เกิดขึ้น ถึงพวกเขาจะไม่ได้บอกตัวเองว่าเป็นลูกศิษย์อาจารย์ต่อกัน แต่จริงๆแล้ว พวกเขาต่างเป็นอาจารย์และลูกศิษย์ต่อกัน เจ้าของร้านขายอาหารทะเลนั้นภาคภูมิใจอย่างมากแต่เขามักจะพูดอย่างหนึ่งแล้วหมายความถึงอีกอย่างหนึ่งตลอด
จางเฮงสงสัยว่าทําไมชายคนนี้ถึงได้มีคนสั่งซื้อของเป็นจํานวนมาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแต่ละสถานที่ที่ต้องไปส่งของที่ห่างไกลขึ้นไปเรื่อยๆ
เขาแอบเปิดกล่องโฟมครั้งหนึ่งและพบว่ากล่องที่มีข้อความเขียนไว้ว่า “กุ้งมังกร” นั้นกลับเต็มไปด้วยก้อนกรวด
ดังนั้นจะเห็นได้ว่ายอดคําสั่งซื้อของที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆนั้นเป็นวิธีการของทาเคดะเท็ตสึยะ ที่จะเพิ่มแรงกดดันให้สอดคล้องกับพัฒนาการของจางเฮง
….หวังว่า มันจะไม่สายเกินไป
จางเฮงวิ่งไปที่หน้าร้านพร้อมสะพายคันธนูไว้ที่แขน เขาเห็นอามิโกะที่ตอนนี้เธอน่าจะนอนหลับไหลอยู่ที่หอ แต่เธอมาทําอะไรที่นี่ละ?
เธอนั่งแท็กซี่มาที่นี่และถึงก่อนจางเฮงเพียงไม่กี่นาที ยังไม่ทันที่รถจะจอดสนิทดีแต่เธอก็กระโดดลงจากรถ แล้วเธอก็ทรุดลงไปกับพื้นด้วยความละเหี่ยใจ ภาพที่เห็นคือไฟไหม้ลุกโชนที่ลามไปทั่วร้านค้าของพ่ออย่างรวดเร็ว
จางเฮงกําลังจะเข้าไปถึงตัวเธอ แต่ทันใดนั้นเองก็มีชาย 2 คนพร้อยด้วยรอยสักสวมถุงมือสีดําและแว่นตาดํา กระโดดลงมาจากรถโตโยต้าวอกซี่สีน้ําเงินเข้มที่จอดอยู่ใกล้ๆ และลากอามิโกะที่อยู่บนพื้นเข้าไปในรถ!
หญิงสาวกรีดร้องและดิ้นรน และตอนที่คนขับรถแท็กซี่ที่อยู่แถวนั้นเห็นเหตุการณ์นี้ เขารีบลงจากรถของเขาเพื่อเข้าไป ช่วยหญิงสาวผู้น่าสงสาร แต่ปากกระบอกปืนก็ซี้มาทางหัวของเขาแทน
ความกล้าหาญของคนขับรถแท็กซี่หายไปทันควัน เขาวิ่งกลับไปที่รถและรีบหนีไปไกลที่สุดและเร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทําได้
คนที่ลงมารถโตโยต้าวอกซี่ไม่ได้กังวลว่าคนขับรถแท็กซี่จะไปเรียกตํารวจเลย เพราะเขาใช้เพียง 2 นาที่ในการจัดการกับเป้าหมายของเขาเท่านั้น
น่าเสียดายที่สิ่งต่างๆไม่ได้เป็นไปตามอย่างที่เราต้องการไปเสียหมด ในเสี้ยววินาที ก็มีบางสิ่งที่แทรกออกมาจากท้ องฟ้าอันมืดมิด!
ชายคนที่ถือปืนได้ยินเสียงดังเฟี้ยว ก่อนที่ความเจ็บปวดจะแล่นเข้าใส่แขนขวาของเขา นั่นบังคับให้เขาต้องวางอาวุธ!
ลูกศรที่ไม่มีที่มาที่ไปได้แทงทะลุฝ่ามือของเขาเข้าไป
คนที่กําลังโซซัดโซเซกําลังจะปล่อยตัวอามิโกะและวิ่งหนีเอาเพื่อชีวิตรอด แต่จางเฮงผู้ซึ่งหลบอยู่ด้านหลังรถบัสไม่เปิดโอกาสให้เขาหนีไปได้! จางเฮงหรี่ตาของเขาลงแล้วปล่อยเชือกที่ตั้งอยู่! ลูกศรลูกที่ 2 ปักเข้าไปที่น่องขา
แต่คนอื่นๆที่อยู่ในรถโตโยต้าวอกซี่นั้นรู้ตําแหน่งของจางเฮงได้จากลูกศร 2 ลูกแรกที่ยิงมา พวกนั้นตอบโต้อย่างรวดเร็วด้วยการกันจางเฮงไว้โดยหลบหลังรถ
จางเฮงรู้ตัวในทันทีว่าเขาต้องรีบคว้าหาโอกาส! เขาดึงฮู้ดขึ้นคลุมหัวแล้วกระโดดออกมาจากด้านหลังป้ายโฆษณา ยิงศรอย่างต่อเนื่องที่หน้าต่างข้างรถยนตร์ เพื่อหลบลูกกระสุนของศัตรู เขาจึงรีบหาทางที่ปลอดภัยเพื่อกลับไปที่รถ
และการทําเช่นนี้ทําให้มีระยะห่างระหว่างเขากับโตโยต้าวอกซี่ ตอนที่เขาไปถึงได้ครึ่งทาง ชายบาดเจ็บ 2 คนได้ทําให้อามิโกะหมดสติไปเสียแล้วและพยายามตะเกียกตะกายลากเธอขึ้นรถ
ลูกศรลูกสุดท้ายของจางเฮงพุ่งไปที่รถผ่านที่นั่งคนขับ ก่อนที่จะปักอยู่บนแผงหน้าปัดรถยนต์ คนขับผงะไปชั่วครู่และปิดประตูรถไปอย่างรวดเร็ว!
โตโยต้าวอกซี่เคลื่อนตัวและมุ่งสู่ถนนสายหลัก
จางเฮงใจเย็นอย่างน่าประหลาด เขาเคลื่อนตัวมาทางด้านนี้เพราะไม่เพียงแต่จะได้ขึ้นรถอีกฝั่งหนึ่งของโตโยต้าวอกซี่ แต่ยังอยู่ใกล้รถ L300 ที่เขาจอดอยู่ข้างถนนอีกต่างหาก
ในตอนที่เขาเห็นคนลักพาตัววิ่งหนี เขาก็วางคันธนูและลูกศรไว้แล้วกระโดดขึ้นรถตู้ส่งของของเขา! เขาปลดล็อคประตูทิ้งไว้และเสียบกุญแจไว้ในที่สตาร์ทรถเผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด
ความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆพวกนี้แหละ ที่ช่วยประหยัดเวลาอันมีค่าของเขาได้
ก่อนที่เขาจะสตาร์ทรถ L300 เขาเงยหน้าขึ้นมองกระจกมองหลังแล้วถึงเห็นว่าโตโยต้าวอกซี่ได้หายไปเสียแล้ว
คนส่วนใหญ่คงจะยอมแพ้ไปแล้วในสถานการณ์เช่นนี้ แต่จางเฮงไม่ใช่แบบนั้น ตลอด 9 เดือนที่ผ่านมาเขาได้ส่งสินค้าไปทั่วเมืองให้กับเจ้าของร้านที่โหดเหี้ยม ตอนนี้เขารู้จักถนนหนทางที่นี่ทุกซอกทุกซอย มันชัดเจนเหมือนกับมีแผนที่ 3 มิติที่อยู่ในหัวของเขา
เขารู้ได้อย่างแม่นยําว่าอีกประมาณ 300 เมตรในทางที่โตโยต้าวอกซี่มุ่งหน้าไปเป็นทางแยก 2 วินาทีต่อมาเขาได้ยิน เสียงยางร้องเอี้ยดผ่านหน้าต่างที่เปิดเอาไว้ เขารู้ดีว่าพวกนั้นมุ่งหน้าไปทางไหน
จากนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เขาจึงสตาร์ทรถตู้แล้วขับรถกลับไปอีกทาง และใช้เวลาน้อยกว่า 4 วินาทีเร่งความเร็วให้เป็น 100 กม./ชม.! เขามาถึงทางแยกในชั่วพริบตา โดยไม่ชะลอลงเลย เขาตั้งใจทําให้ท้ายปัดยกขึ้น! เปลี่ยนทางไปอย่างสิ้นเชิง ท้ายของรถ L300 เข้าโค้งอย่างสวยงามซึ่งดูไม่เข้ากับรูปร่างของตัวรถเอาเสียเลย จากนั้นจางเฮงก็เหยียบคันเร่งลงไปเต็มพิกัด!
เครื่องยนตร์ที่ถูกปรับแต่งจากรถแข่งได้ส่งเสียงคํารามต่ําๆ
จางเฮงใช้เวลาเพียง 45 วินาทีเพื่อไปถึงสี่แยกที่สอง แต่ยังไม่มีวี่แววของโตโยต้าวอกซี่เลย จางเฮงจึงเปลี่ยนทางอีกครั้งโดยไม่ลังเล
นี่เป็นช่วงที่ท้าทายที่สุด เป็นเวลาหนึ่งนาทีครึ่งที่เขาคอยตามหลังโตโยต้าวอกซี่ เขาต้องพึ่งการตัดสินใจของเขาในการไล่ตามตั้งแต่ครั้งแรก หากเลี้ยวผิดทางเพียงครั้งเดียว เขาอาจจะสูญเสียอามิโกะไปตลอดกาล
แต่จางเฮงไม่มีทางเลือกอื่น เขาต้องเชื่อใจตัวเองและเชื่อใจเพื่อนเก่าที่กําลังส่งเสียงดังแก๊กๆอยู่ใต้เขา! ข้างหน้าเขาคือถนนทางตรงที่ยาวกว่า 3 กม. คงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะมองไม่เห็นไฟท้ายของรถคันนั้น เว้นเสียแต่ว่าวอกซี่คันนั้นจะเร็วอย่างเหลือเชื่อ จากนั้นจางเฮงจึงตัดสินใจเปลี่ยนทาง เขาดริฟท์เป็นครั้งที่ 2 ต่อมาสิ่งที่เขาเห็นได้จากปลายหางตาคือรถวอกซี่ที่กําลังเลี้ยวอีกครั้ง
เจอแล้ว!
คราวนี้จางเฮงไม่ได้ไล่ตามรถตู้ เขาขับรถ L300 ตรงไปข้างหน้า 500 เมตรก่อนที่จะหักเลี้ยวไปหาร้านกาแฟที่ปิดอยู่ในทันที การหักเลี้ยวอย่างฉับพลันส่งผลให้เขาพุ่งทะลุประตูกระจก ล้มโต๊ะไป 2 ตัวก่อนที่จะพุ่งไปที่ประตูหลังร้านและพุ่งตรงเข้าใส่ห้างสรรพสินค้า!