ถังหนิงบอกลู่เช่อว่าหลินเฉี่ยนหายตัวไปและสั่งให้เขาตามหาตัวเธอ แต่หลินเฉี่ยนไม่ได้ต้องการให้ใครเจอตัวเธอ ด้วยรู้ว่าเพื่อนและครอบครัวของเธอจะห้ามเธอเอาไว้
สิ่งเดียวที่เธอต้องการทำคือตามหาหลี่จิ่น ไม่มีเขาชีวิตเธอก็ไม่มีความหมาย ต่อให้เธอจะตั้งท้องอยู่ก็ตาม
ดังนั้นลู่เช่ออาจรู้เรื่องนี้ดี หากแต่เขาก็ยังพยายามตามหาตัวหลินเฉี่ยนที่จงใจซ่อนตัวอยู่
“คุณผู้หญิงครับ ผมคิดว่าเราคงหาตัวหลินเฉี่ยนไม่เจอในเร็วๆ นี้หรอกครับ ตอนนี้ควรทำยังไงดีครับ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ตามหาจุดที่เครื่องบินของหลี่จิ่นตก ฉันมั่นใจว่าเธอจะต้องไปที่นั่น” ถังหนิงออกคำสั่ง
“โอเคครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้ครับ คุณผู้หญิง”
หลินเฉี่ยนไม่ต้องการถูกพบตัว จึงปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยว มุ่งหน้าเดินป่าขึ้นไปยังจุดที่หลี่จิ่นเครื่องบินตก
เครื่องบินตกอยู่ระหว่างช่องเขา นอกตัวเมืองที่มีทิวทัศน์ที่เงียบสงบ ทว่าในช่องเขาที่นายทหารบุกไปค้นหาจนเกือบทั่ว ก็ยังไม่พบสัญญาณของหลี่จิ่นแต่อย่างใด
ไม่ใช่ว่าหลินเฉี่ยนไม่เชื่อมั่นในการทุ่มเทค้นหาของทางทหาร ทว่าไม่มีใครรู้ใจหลี่จิ่นได้ดีไปกว่าเธอ เพราะความรู้ใจนี้ เธอจึงรู้ได้ต่อให้เขาทิ้งคำใบ้เพียงเล็กน้อยที่บอกว่าเขาอยู่ที่ไหนเอาไว้ เธอคงสามารถหาตัวเขาเจอได้
หากแต่เธอไม่รู้ว่าประธานฟ่านได้ส่งคนไปคอยสะกดรอยตามเธอ และคนพวกนี้ยังพักอยู่ในโรงแรมเดียวกับเธออีกด้วย
“ผู้หญิงคนนั้นวางแผนจะทำอะไรที่นี่เพียงลำพังกันนะ”
“ใครจะไปรู้ล่ะ เธอปิดช่องทางการสื่อสารกับโลกภายนอกเลยด้วยซ้ำ…”
“ถ้าอย่างนั้น เราจะลงมือกันตอนไหนล่ะ”
ชายหนุ่มทั้งสองคนพักอยู่ห้องตรงข้ามกับหลินเฉี่ยน กำลังถกเถียงกันถึงการลงมือขั้นถัดไป ในขณะที่งุนงงกับการตัดสินใจมาที่หมู่บ้านเล็กขนาดนี้ของหลินเฉี่ยน
“มารอดูว่าผู้หญิงท้องคนนี้วางแผนจะทำอะไรแล้วกัน ถ้าเราโชคดี เราอาจไม่ต้องทำอะไรเลยก็ได้”
“โอเค มาคอยตามดูเธอพรุ่งนี้แล้วกัน…”
หลินเฉี่ยนวางแผนจะเข้าไปในบริเวณช่องเขาในเช้าตรู่วันต่อมา เธอจึงตัดสินใจศึกษาเส้นทางกับเจ้าของที่พัก
“คุณครับ คุณมาที่นี่เพราะเหตุการณ์เครื่องบินตกเมื่อไม่นานมานี้ใช่ไหม” เจ้าของที่พักได้ยินว่าเกิดอะไรขึ้น และสังเกตว่าคนส่วนใหญ่ที่มาบริเวณช่องเขาพักหลังๆ มักเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
“คนในเหตุเครื่องบินตก…คือสามีฉันเองค่ะ” หลินเฉี่ยนสะอื้นขณะที่มองหน้าอีกฝ่าย “ดังนั้นถ้ารู้อะไรก็ช่วยบอกฉันด้วยนะคะ”
“โธ่ น่าสงสารจังเลย…” เขาว่าพลางส่ายหน้าไปมา “คุณครับ ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากช่วยคุณหรอกนะ แต่พอเป็นเรื่องของทหาร ทุกอย่างที่เรารู้ก็เป็นแค่ข่าวลือทั้งนั้น ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ด้วยตาตัวเองจริงๆ หรอกครับ”
หลินเฉี่ยนคอตกด้วยความผิดหวัง
“ถ้าคุณอยากไปที่ช่องเขาจริงๆ ผมบอกให้ลูกสาวของผมพาไปได้นะ” เขาพูดขณะที่ชี้ไปยังหญิงสาวที่อยู่ด้านหลังโต๊ะรับรอง “เธออาจจะเป็นผู้หญิง แต่ก็เคยเรียนศิลปะป้องกันตัวเพื่อปกป้องโรงแรมแห่งนี้มาก่อน หลังจากที่ผ่านเข้าไปในช่องเขา อย่างน้อยคุณจะได้มีกันและกันไว้”
“โอเคค่ะ ขอบคุณนะคะ”
ด้วยเหตุนี้หลินเฉี่ยนและลูกสาวของเจ้าของที่พักจึงมุ่งหน้าไปยังช่องเขาในเช้าวันต่อมา ในขณะเดียวกัน ชายสองคนที่ประธานฟ่านถามไปทั่วและค่อนข้างมั่นใจว่าหลินเฉี่ยนมาที่นี่เพื่อตามหาสามีของเธอ
พวกเขารีบบอกให้ประธานฟ่านรู้ก่อนที่เจ้าตัวจะหัวเราะเมื่อได้ยินดังนั้น
“ถ้าหลินเฉี่ยนไปที่นั่นเพราะสามี พวกนายก็ควรปลอมตัวไปเป็นชาวบ้านแล้วหลอกล่อเธอให้ไปจุดที่อันตรายในช่องเขา บอกว่านายได้ยินว่าสามีของเธออาจอยู่ที่นี่
“จากนั้นก็ติดต่อถังหนิงและบอกเธอเรื่องนี้ซะ”
“แต่ว่าเธอท้องอยู่นะครับ…”
“นายกำลังเห็นใจคนท้องอยู่หรือไง ทำไมไม่เห็นใจกับความสูญเสียของฉันบ้างล่ะ เลิกเสียเวลาแล้วไปทำตามที่ฉันสั่งได้แล้ว”
ในเมื่อพวกเขาเป็นคนของประธานฟ่านจึงไม่อาจขัดคำสั่งได้ ดังนั้นต่อให้พวกเขาไม่ต้องการทำก็ยังคงต้องลงมือตามคำสั่ง
ชายหนุ่มสองคนรีบมุ่งหน้าไปยังบริเวณช่องเขา พยายามนำหน้าหลินเฉี่ยน หลังจากตามหาจุดที่อันตรายที่สุดเจอ พวกเขาก็แต่งตัวเป็นชาวบ้านและรอให้เธอมาติดกับ
ในขณะเดียวกันลู่เช่อได้ค้นหาจนทั้วหมู่บ้านและรู้พิกัดโรงแรมที่หลินเฉี่ยนพักอยู่ น่าเสียดายที่เธอได้ออกเดินทางไปบริเวณช่องเขาเสียแล้ว
เมื่อเจ้าของที่พักพบลู่เช่อและได้ยินว่าเขากำลังตามหาหลินเฉี่ยนอยู่ก็ถามขึ้นทันที “คุณก็มาที่นี่เพื่อปกป้องแม่หนูคนนั้นเหมือนกันเหรอ”
“หมายความว่าอะไรครับ เธอไม่ได้อยู่ที่นี่คนเดียวเหรอ”
“ไม่นะ มีผู้ชายสองคนตามเธออยู่ด้วย พวกเขาพักอยู่ห้องตรงข้ามกับเธอน่ะ ฉันเลยคิดว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อปกป้องเธอ แต่ดูท่าแล้วน่าจะไม่ใช่อย่างนั้นแล้วล่ะ พวกเขาน่าจะสะกดรอยตามเธอมากกว่า”
“พวกเขาไปไหนแล้วครับ”
“ตอนที่แม่หนูคนนั้นออกไป พวกเขาก็ตามเธอออกไปด้วยน่ะ” อีกฝ่ายตอบ
ระหว่างที่หลินเฉี่ยนอยู่ห่างออกไปไกลแล้ว ลู่เช่อไม่อาจยืนยันความปลอดภัยของเธอได้ เขาจึงโทรหาถังหนิงเพื่อถามว่าควรทำยังไงต่อไป
เมื่อได้ยินข่าวจากลู่เช่อ ถังหนิงก็ครุ่นคิดอย่างหนัก เธอไม่สามารถรู้ได้ว่าชายที่กำลังตามหลินเฉี่ยนอยู่เป็นใครและมีจุดประสงค์อะไร
“ดูกล้องวงจรปิดแล้วตรวจสอบว่าพวกเขาเป็นใครก่อน”
ลู่เช่อใช้เวลาสักพักในการตรวจสอบว่าชายทั้งสองคนทำงานให้กับใคร จากนั้นจึงต่อสายหาถังหนิง
“คุณผู้หญิงครับ เป็นคนของประธานฟ่านครับ”
“ประธานฟ่านเหรอ” ถังหนิงอึ้งไปเล็กน้อย เธอไม่อยากจะเชื่อว่าผ่านมาหลายเดือนแล้ว ประธานฟ่านยังไม่ยอมแพ้อีก “เขากำลังพยายามจะทำอะไรอีก”
“ไม่คิดเลยว่าประธานฟ่านจะผูกใจเจ็บได้ขนาดนี้…”
“ลู่เช่อ นายพาคนตามหลินเฉี่ยนไป ฉันจะติดต่อประธานฟ่านและดูว่าเขาต้องการอะไรเอง” หลินเฉี่ยนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก หากประธานฟ่านยังซ้ำเติมให้เธอเดือดร้อนมากยิ่งขึ้น เธอจะลงเอยเช่นเดียวกับหลี่จิ่น…และไม่กลับมาเหมือนกันหรือไม่
เมื่อคิดได้ดังนั้น หญิงสาวก็ต่อสายหาประธานฟ่านทันที
อีกฟากของปลายสาย ประธานฟ่านตอบอย่างเสียงเฉื่อยชา “โอ๊ะ ไห่รุ่ยยังไม่รู้เลยนะเนี่ย คุณรู้เรื่องนี้เร็วดีนี่”
“ต้องการอะไรก็บอกฉันมา” ถังหนิงกล่าอย่างไม่อ้อมค้อม “อย่าพยายามมาทำร้ายหลินเฉี่ยนเด็ดขาด ถ้าเธอสูญเสียขนแม้สักเส้น ฉันจะส่งทั้งครอบครัวของคุณลงหลุมซะให้หมด”
“โธ่…ฟังดูพูดเข้าสิ คุณคิดว่าผมจะกลัวคุณเหรอไง”
“บอกฉันมาว่าคุณต้องการอะไร”
“ผมแค่อยากให้คุณทรมานเฉยๆ … ตอนที่เรากำลังคุยกันอยู่ คนของผมอาจจะหลอกหลินเฉี่ยนไปจุดที่อันตรายที่สุดของช่องเขาแล้วก็ได้ เอาอย่างนี้ไหมล่ะ ถังหนิง ถ้าคุณยอมไปที่นั่นด้วยตัวคุณเอง ผมจะบอกให้ก็ได้ว่าเธออยู่ที่ไหน” ประธานฟ่านว่าเย้าแหย่ด้วยคิดว่าเขาได้จี้โดนจุดอ่อนของถังหนิงแล้ว “คิดว่าไงล่ะ
“ดูเหมือนว่าต่อให้คุณอยากทำแบบนั้นก็ทำไม่ได้สินะ ถึงยังไงประธานโม่ก็คงไม่ปล่อยให้คุณทำหรอก
“แต่…ถ้าคุณไม่ไป หลินเฉี่ยนก็จะ…”