อย่างไรก็ตาม สุดท้ายเธอก็ลงเอยด้วยการรออยู่สี่ห้าวันโดยที่ไม่ได้ข่าวคราวจากหลี่จิ่นแม้แต่น้อย
หลินเฉี่ยนไม่ได้ตื่นตระหนกเพราะรู้ว่าหลี่จิ่นจะมางานแต่งงานของพวกเขาโดยเร็วที่สุดที่เขาทำได้ ต่อให้เขาต้องตะเกียกตะกายไปที่นั่น ต่อให้เขาไม่อาจกลับมาได้ทันเวลา เธอก็ยังจะทำงานแต่งงานของเธอให้เสร็จสมบูรณ์ ถึงอย่างไรพวกเขาต่างก็ถูกกำหนดให้เป็นสามีภรรยากันแล้ว
“บางครั้งเด็กคนนี้ก็เข้มแข็งจนฉันเห็นแล้วพลอยปวดใจไปด้วย” คุณนายหลี่ถอนหายใจขณะที่มองหลินเฉี่ยนที่กำลังยุ่งกับการเตรียมงานแต่ง
“ตาแก่ ช่วยฉันย้ายลูกชายของคุณออกจากฐานทัพได้ไหม ตอนนี้เขามีครอบครัวแล้วนะ ทำไมเขาถึงเอาตัวเองไปเสี่ยงแบบนั้นอยู่เรื่อยเลย”
“คุณอาจจะเป็นคนให้กำเนิดเขา แต่คุณไม่เข้าใจเขามากเท่ากับลูกสะใภ้ของเขาเลยนะ” คุณพ่อหลี่หัวเราะออกมา
“คุณนี่พูดมากจริงๆ ” คุณนายหลี่บ่นฟึดฟัดก่อนเดินออกไปรับโทรศัพท์จากญาติและเพื่อนๆ
อยู่ๆ ผู้คนก็โทรมาหาคุณนายหลี่เพื่อถามว่าเธอรู้ประวัติของหลินเฉี่ยนและได้ไปพบกับพ่อแม่ของหลินเฉี่ยนมาก่อนแล้วหรือไม่ พวกเขาทำราวกับว่าหลินเฉี่ยนเป็นพวกหลอกลวงอย่างนั้นแหละ
เดิมทีคคุณนายหลี่ไม่ค่อยเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น หากแต่ไม่นานซิงหลานก็โทรมาหาก่อนว่าขึ้น “คุณป้าคะ รีบบอกให้หลินเฉี่ยนดูข่าวเร็วเข้าค่ะ”
“เกิดอะไรขึ้นล่ะ” ผู้สูงวัยทั้งสองถามขณะที่รีบอ่านข่าวในโทรศัพท์ ตอนนั้นเองที่พาดหัวข่าวที่ได้อ่านได้ดึงความสนใจจากพวกเขาไป ‘ตะลึง! ลูกสาวของเฝิงจิ้งเป็นอย่างนี้นี่เอง!’
พวกเขากดเข้าไปอ่านข่าวด้วยความเคร่งเครียด เห็นรูปหลินเฉี่ยนในช่วงวัยรุ่นกำลังคีบบุหรี่อยู่ในมือและยืนอยู่นอกร้านเหล้า
เพราะหลินเฉี่ยนได้ก้าวเข้าสู่ชีวิตที่มืดมนหลังจากที่ถูกเฝิงจิ้งทิ้ง เฝิงจิ้งจึงหารูปในช่วงเวลานั้นไว้ได้
ทว่าหลินเฉี่ยนจำเรื่องราวในช่วงนั้นไม่ได้แต่อย่างใด
ด้วยข่าวที่ออกมาเปิดเผยในช่วงก่อนที่หลินเฉี่ยนกำลังจะแต่งงานเข้าตระกูลที่มีฐานะ เธอจึงถูกผู้คนสงสัยว่ามีประวัติด่างพร้อย ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของเฝิงจิ้ง ใครจะรู้ว่าเธอจะโตมาอย่างไร
คุณนายหลี่จึงเข้าใจว่าความหมายของสายโทรศัพท์เหล่านั้น
พวกเขากำลังบอกใบ้ว่าคนอย่างหลินเฉี่ยนไม่ควรเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลหลี่เพราะเธอทำตัวน่าอัปยศอดสูเกินไป
“ตาแก่”
“อย่ามามองผมนะ ให้คนหนุ่มสาวเขาจัดการเรื่องของพวกเขาไปเถอะ ผมรู้แค่ว่าผมมั่นใจว่าลูกสะใภ้ของผมไม่ผิดเท่านั้นแหละ”
ผู้อาวุโสทั้งสองเอ็นดูหลินเฉี่ยน พวกเขาไม่โง่ที่จะเชื่อข่าวที่อยู่ดีๆ ก็โผล่ออกมาเหมือนเป็นเพียงเรื่องบังเอิญอย่างนี้
ทว่าพวกเขาก็ไม่อาจควบคุมสิ่งที่เกิดขึ้นในวงการบันเทิงได้เช่นกัน
จึงทำได้เพียงยืนหยัดในสิ่งที่เชื่อมั่นเท่านั้น
…
ไม่นานหลินเฉี่ยนก็รู้ข่าวผ่านซิงหลาน แต่เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องวุ่นวายนี้
ก่อนอื่นเธอต้องการลงไปชั้นล่างเพื่ออธิบายเรื่องทั้งหมดกับผู้อาวุโสทั้งสองคน แต่เธอกลับพบว่าพวกเขาดูเหมือนไม่สนใจและทำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นแม้แต่น้อย
ในไม่ช้าถังหนิงก็โทรมาหาเธอ “หลังงานแต่งงานของเธอ ไป ทักทาย นังแม่มดเฒ่ากันหน่อยเถอะ”
พูดอีกอย่างคือถังหนิงกำลังวางแผนจะแฉทุกอย่างที่เฝิงจิ้งทำในอดีตหลังจากงานแต่งงานจบลง
“ตอนนี้ทุกคนพากันสงสัยว่างานแต่งงานของเธอจะยังจัดอยู่หรือเปล่า ยังไงข่าวใหญ่อย่างนี้ถูกปล่อยออกมาแล้วหลี่จิ่นก็ยังไม่รู้อยู่ที่ไหน เธอต้องเข้มแข็งไว้ และทำสิ่งที่ต้องทำนะ”
“ค่ะ ฉันรู้” หลินเฉี่ยนรับคำหนักแน่น
“ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ฉันจะแก้แค้นและทำให้เธอชดใช้ทุกอย่างในคราวเดียวซะเลย”
หลินเฉี่ยนเชื่อเช่นนั้น ทว่าเมื่อไม่มีหลี่จิ่นอยู่ข้างกาย เธอก็รู้สึกวูบโหวงในใจมากกว่าปกติเล็กน้อย หากแต่มันไม่ใช่เรื่องสำคัญ…
เธอกำลังจะเป็นภรรยาของนายทหาร เธอไม่อาจไขว้เขว้อย่างนี้ได้
…
คืนนั้นหลี่จิ่นกระโดดขึ้นรถตัวเองและขับออกจากฐานทัพ ทว่าระหว่างทาง ลูกน้องของเขาอดถามขึ้นมาไม่ได้ “หัวหน้าครับ ได้เห็นข่าวหรือยังครับ”
หลี่จิ่นจอดรถและหยิบโทรศัพท์ออกมา เมื่อเห็นข่าวของหลินเฉี่ยน สีหน้าเขาก็พลันเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกในทันที
“นายพลครับ พี่สะใภ้จะต้องทุกข์ใจอยู่ที่บ้านเพียงลำพังแน่เลยครับ”
“ฉันติดค้างกับเธอไว้…” พูดจบ หลี่จิ่นก็วางโทรศัพท์ลงก่อนรีบขับรถกลับบ้าน
เมื่อเขาเดินผ่านเข้าประตูหน้ามา คุณนายหลี่เดินเข้ามาหาเขาทันที “ไปทำอะไรซะนานเลยล่ะ”
“ขอโทษครับ แม่…”
“คนที่ลูกควรขอโทษไม่ใช่แม่แต่เป็นเฉี่ยนเฉี่ยนต่างหาก รีบขึ้นไปดูเธอด้านบนเร็วเข้า” คุณนายหลี่ว่าพลางชี้นิ้วไปทางชั้นบน
หลี่จิ่นพยักหน้าขณะที่เร่งฝีเท้าขึ้นไปยังห้องนอนชั้นสอง เขาเปิดประตูเข้าไปและเห็นว่าหลินเฉี่ยนกำลังเก็บห้องอยู่จึงเข้าไปโอบกอดเธอไว้จากด้านหลังทันที “ผมขอโทษครับ… ผมปกป้องคุณไว้ได้ไม่ดีพอและยังทำให้คุณเจ็บปวดอีก”
เมื่อเธอรู้ว่าคนรักของเธอกลับมาแล้ว เธอเบาใจลงและถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก “ฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นนะคะ”
“ผมจะทำให้คนที่เหยียดหยามคุณต้องทุกข์ทรมานอย่างแน่นอนครับ”
ได้ยินดังนั้นหลินเฉี่ยนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ทำไมคุณถึงพูดเหมือนพี่หนิงเลยล่ะคะ”
“เพราะผมโกรธไงล่ะครับ!”
ความเจ็บปวดที่คนที่เป็นแม่ผู้ให้กำเนิดก่อขึ้นไม่ใช่เรื่องที่คนทั่วไปจะทนรับได้ มีแม่คนไหนที่ใส่ร้ายลูกสาวตัวเองแบบนี้บ้าง
“ตอนนี้คุณก็กลับมาแล้ว ไม่มีเรื่องอะไรสำคัญอีกแล้วล่ะค่ะ”
เธอเอ่ยพร้อมหันกลับไปสวมกอดหลี่จิ่น “แค่คุณปลอดภัยก็พอแล้วค่ะ”
เขาช้อนตัวอุ้มเธอและวางลงบนเตียง ก่อนจะโน้มตัวลงประทับจูบบนริมฝีปากเธอด้วยความคิดถึงเธอมากมายเหลือเกิน…
“เฉี่ยนเฉี่ยน… เฉี่ยนเฉี่ยน…”
หลินเฉี่ยนไม่อาจห้ามใจตัวเองได้เมื่อได้ยินเขาพร่ำเรียกชื่อเธอ ในไม่ช้าจึงตกอยู่ในห้วงปรารถนาของเขา และปลดปล่อยตัวเองภายใต้อ้อมกอดของเขา…
ทุกคนคงพากันคิดว่าหลินเฉี่ยนทำให้ตระกูลหลี่อับอายขายหน้าจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนเพราะข่าวที่หลุดออกมา
ในขณะเดียวกันเฝิงจิ้งปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ และยังร้องไห้ต่อหน้าสื่อด้วยโทษว่าเป็นความผิดของเธอเองที่ไม่ดูแลลูกสาวของตัวเองให้ดีจนทำให้เธอต้องเจ็บปวด
“มีเรื่องแบบนี้ถูกปล่อยออกมาตอนที่เธอกำลังจะแต่งงาน ฉันว่าหลินเฉี่ยนคงจะอยู่ไม่สุขที่บ้านตระกูลหลี่หรอก”
“การที่คนที่มีผู้คนนับหน้าถือตาต้องแต่งงานกับภรรยาอย่างนี้ เขาต้องถูกเอาไปหัวเราะเยาะแน่ๆ ใช่ไหมล่ะ”
“ฉันจะไม่แปลกใจถ้างานแต่งถูกยกเลิกเลย”
ในเวลากลางดึกหลังผ่านพ้นวันใหม่ หลี่จิ่นเห็นความคิดเห็นบนโลกออนไลน์ เขาปล่อยหลินเฉี่ยนออกจากอ้อมกอดและเข้าไปในห้องน้ำพร้อมโทรศัพท์ในมือ
ใจหนึ่งเขาคิดโทษตัวเองที่ไม่ได้ปกป้องหลินเฉี่ยนให้ดี อีกใจหนึ่งก็นึกโกรธเฝิงจิ้งกับสิ่งที่เธอทำลงไป
เขาต้องคิดหาวิธีตัดปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นอีก
เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาจึงไปหยิบเอกสารเกี่ยวกับประวัติครอบครัวของหลินเฉี่ยน ถึงเวลาที่เฝิงจิ้งต้องชดใช้แล้ว…
แน่นอนว่าก่อนที่เขาจะทำอะไร เป็นเรื่องสำคัญที่เขาจะต้องออกมาพูดเสียก่อน เขาจะทนเห็นคนที่เขารักทุกข์ทรมานใจได้อย่างไร
เขาจึงต่อสายหาถังหนิงในเช้าวันถัดมาอย่างไม่ลังเล
สายตาเหลือบมองหลินเฉี่ยนและเห็นว่าเธอยังคงนอนหลับอยู่
ไหนๆ เรื่องก็เกิดขึ้นในวงการบันเทิง เขาก็จะจัดการมันด้วยวิธีการของวงการบันเทิง…
อย่างน้อยเขาก็ต้องการมอบงานแต่งงานที่มีแต่ความยินดีมากกว่าคำดูถูกเหยียดหยามให้กับหลินเฉี่ยน
เมื่อถังหนิงได้รับสายจากหลี่จิ่น เธอตอบกลับทันที “จู้ซิงมีเดียพร้อมเตรียมทุกอย่างกับเกมทุกรูปแบบที่คุณต้องการเล่นค่ะ!”