วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ – ตอนที่ 936 เธอหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัวเอง

อีกไม่นานงานรางวัลเฟยเทียนประจำปีจะมาวนมาถึงอีกครั้ง พิธีมอบรางวัลจะถูกจัดขึ้นในอีกไม่กี่วันถัดไป

 

 

ในฐานะหนึ่งในผู้ที่ได้รับความนิยม การแสร้งทำตัวเป็นคนดีตามหาลูกสาวของเฝิงจิ้งกลับไม่ได้ช่วยให้เธอมีโอกาสคว้าชัยชนะมากขึ้น อย่างไรเสียเมื่อพูดถึงความนิยมและชื่อเสียงเธอคงไม่อาจเทียบถังหนิงได้

 

 

ทว่าต่อให้เธอไม่ได้รางวัลใดๆ ในฐานะผู้เข้าชิง หลายคนยังคาดหวังให้เธอเข้าร่วมงาน เมื่อเป็นเรื่องนี้เธอผิดกับถังหนิงลิบลับ ด้วยเธอกลัวว่าจะทำบางอย่างพลั้งพลาดไป

 

 

ในขณะเดียวกันสาธารณชนเชื่อว่าถังหนิงคงไม่มาร่วมงานอย่างแน่นอน ถึงอย่างไรเธอก็ได้ออกมายืนยันแล้วว่าเธอจะไม่กลับไปทำงานแสดงอีก

 

 

หากแต่ไห่รุ่ยยังส่ง  ผู้รอดชีพ  เข้าชิงรางวัลในหลายสาขา และได้เป็นผู้เข้าชิงหลายรายการในท้ายที่สุด

 

 

ด้วยเหตุนี้โม่ถิงจึงแอบติดต่อหลินเฉี่ยนและสั่งบางอย่างกับเธอไว้

 

 

“ประธานโม่ มีอะไรเหรอคะ” หลินเฉี่ยนถามอย่างสงสัย ว่ากันตามจริงแล้วโม่ถิงมีคนเก่งๆ อยู่รอบกายมากมาย ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไร คงไม่มีเหตุผลที่เขาจะต้องติดต่อเธอมา วันนี้ทำไมเขาถึงเรียกเธอมากัน

 

 

โม่ถิงวางปากกาในมือและเงยหน้ามองหลินเฉี่ยน ด้วย  มดราชินี  ถ่ายทำเสร็จสิ้นไปได้กว่าครึ่งทาง โม่ถิงจึงสามารถปลีกเวลากลับมาดูแลไห่รุ่ยได้บ้าง

 

 

“อย่างที่เธอรู้ว่าถังหนิงคงไม่อยากไปร่วมงานเฟยเทียนปีนี้ แต่เธอยังเป็นผู้ช่วยของเธออยู่ ฉันเลยอยากให้เธอขึ้นไปรับรางวัลบนเวทีแทนเธอเป็นมารยาท”

 

 

“ฉันเหรอคะ” หลินเฉี่ยนลำบากใจกับคำสั่งของโม่ถิงเล็กน้อย

 

 

“ฉันคิดว่าเธอจะชอบซะอีก” เขาเอ่ยอย่างมีความนัย “อย่าลืมว่าเฝิงจิ้งก็เป็นหนึ่งในผู้เข้าชิงด้วยนะ”

 

 

หลินเฉี่ยนเข้าใจเป้าหมายของเขาทันที ก่อนหน้านี้เฝิงจิ้งพยายามใช้เธอเป็นเครื่องมือทำให้ตัวเองน่าสงสารแต่เธอไม่สนใจอีกฝ่าย ครั้งนี้เฝิงจิ้งหวังในรางวัลเฟยเทียนเอาไว้ หากลูกสาวของตัวเองเป็นคนขึ้นรับรางวัลแทนคนอื่น มันคงจะดูไม่ดีนัก

 

 

“ขอบคุณค่ะ ประธานโม่ ฉันว่าความคิดนี้เข้าท่าดีนะคะ”

 

 

หลังอยู่กับถังหนิงมาได้พักใหญ่ เธอได้เรียนรู้การใส่หน้ากากใส่คนอื่นมาบ้าง หากแต่การจัดการของโม่ถิงทำให้เห็นว่าเขายังเลือดเย็นกว่านี้ได้อีก

 

 

“ดีครับ”

 

 

รางวัลเฟยเทียนนับว่าเป็นรางวัลชั้นนำในระดับประเทศ หากถังหนิงแสดงออกว่าเมินเฉยอย่างโจ่งแจ้ง จะเป็นการเปิดช่องให้คนอื่นวิพากษ์วิจารณ์เธอ ดังนั้นในฐานะผู้จัดการของถังหนิงและผู้ก่อตั้งไห่รุ่ย เป็นธรรมดาที่โม่ถิงต้องทำให้พึงพอใจทั้งสองฝ่าย ถังหนิงไม่ได้ต้องการเข้าร่วมพิธี เธอจึงไม่ต้องการให้คนใต้บังคับบัญชาของเธอเข้าร่วมงานแทนเธอเช่นกัน หากแต่จุดประสงค์ที่หลินเฉี่ยนเข้าร่วมงานนั้นต่างออกไป

 

 

ในเวลาเดียวกันถังหนิงสามารถใช้การตั้งครรภ์เป็นข้ออ้างในการไม่เข้าร่วมพิธีได้

 

 

จากนั้นโม่ถิงได้เล่าสิ่งที่เขาคิดกับถังหนิง อย่างที่คาดการณ์ไว้ ถังหนิงไม่ได้ขัดข้องแต่อย่างใด “คุณฉลาดจังเลยค่ะ คุณรู้ว่าฉันไม่เห็นด้วยกับการให้หลินเฉี่ยนไป แต่จริงๆ คุณก็รู้ว่าฉันจะยอมทำตามความคิดนั้นของคุณ”

 

 

“คุณพอใจไหมครับ” เขากอดถังหนิงพลางวางมือลงบนหน้าท้องของเธอ

 

 

“ในแง่ไหนละคะ” ถังหนิงส่งสายตาเป็นประกายให้

 

 

สายตาของเขาฉายแววเจ้าเล่ห์ สายไปแล้วที่เธอจะหนีไปได้ในขณะที่โม่ถิงช้อนตัวเธออุ้มตรงไปที่ห้องนอน “ผ่านช่วงเสี่ยงไปแล้ว ถึงเวลาที่คุณต้องชดเชยให้ผมแล้วนะครับ”

 

 

ถังหนิงรู้ตัวว่าเธออาจหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัวเองเสียแล้ว

 

 

 

 

ในขณะเดียวกัน เฝิงจิ้งเฝ้ามองลัวอิงหงที่กลับมาแจ้งเกิดอย่างหมดสิ้นหนทาง สุดท้ายจึงได้แต่พูดเรื่องเสียๆ หายๆ เพื่อเป่าหูลูกชายของลัวอิงหง

 

 

เธอรับปากว่าถ้าเขาทำให้แม่ของตัวเองยอมแพ้ได้ เธอจะคิดเรื่องแต่งงานกับเขา

 

 

ด้วยเหตุนี้ชายหนุ่มที่หน้ามืดตามัวจึงไปหาแม่ของเขาที่บ้านใหม่ของเธอ

 

 

เพราะรูปที่ถูกโพสต์ในโลกออนไลน์จึงไม่ยากที่จะตามหาบ้านของเธอ

 

 

น่าเสียดายที่ตอนนี้ลัวอิงหงได้มองลูกชายของตัวเองด้วยความเฉยชาไม่น้อยเพราะคำแนะนำของถัง

 

 

หนิงก่อนหน้านี้

 

 

“แม่ครับ…”

 

 

“ฉันบอกเธอตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เราเจอกันแล้วไงว่าเราไม่ใช่แม่ลูกกันอีกต่อไปแล้ว เธอก็ใช้ชีวิตของเธอไป ส่วนฉันก็จะใช้ชีวิตของฉัน” ลัวอิงหงบอกกลับ

 

 

“คิดซะว่าเป็นการช่วยผมนะครับ ผมต้องยอมรับว่าตอนนี้แม่มีชื่อเสียงพอสมควร แต่เทียบกับเฝิงจิ้งแล้วแม่ก็ยังห่างกับเธอลิบลับ ช่วยลูกชายของตัวเองหน่อยเถอะครับ เธอตกลงจะแต่งงานกับผมถ้าแม่เลิกสร้างเรื่องวุ่นวายสักที” ชายหนุ่มร่างสูงว่าขึ้นขณะที่มองสำรวจไปทั่ว ด้วยเขาได้พังงานฝีมือที่แม่เขาทำขึ้นมาลงไป

 

 

ลัวอิงหงมองลูกชายของตัวเองแต่ไม่ได้ตอบกลับ หลังเงียบไปชั่วขณะ เธอต่อสายตรงหาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย “มีใครบางคนมาสร้างความวุ่นวายที่นี่ค่ะ ช่วยส่งคนมาทีนะคะ”

 

 

เมื่อเขาเห็นดังนั้นก็จ้องเธอเขม็งด้วยสายตาเกลียดชัง “แม่คลอดผมมานะ ทำอย่างนี้กับผมได้ยังไงกัน”

 

 

“เธอจำได้ว่าฉันคลอดเธอมา แต่ก็ยังเลือกเข้าข้างศัตรูของฉันเนี่ยนะ” ลัวอิงหงท้วงขึ้น “อย่าเสียเวลามาที่นี่อีกเลย เธอกับเฝิงจิ้งไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับฉันอีกแล้ว ช่วยเคารพฉันสักหน่อยก่อนที่ฉันจะแฉการกระทำหน้าไม่อายของเธอให้ชาวโลกได้รู้ ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่มีที่ยืนในปักกิ่งเอานะ”

 

 

สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นซีดเผือด นึกไม่ถึงว่าลัวอิงหงจะเลือดเย็นได้ขนาดนี้

 

 

เขาคิดว่าเธอทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เขากลับมาเสียอีก แต่ดูเหมือนว่าที่แท้เธอจะทำไปเพื่อตัวเอง

 

 

ทันใดนั้นในหัวของเขาก็พลันว่างเปล่า

 

 

ไม่นานเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็มาถึง เธอชี้นิ้วไปทางลูกชายของตัวเองก่อนเอ่ย “ครั้งหน้าถ้าเห็นผู้ชายคนนี้อีก อย่าให้เขาเข้ามานะคะ”

 

 

“รับทราบครับ คุณลัว” อีกฝ่ายตอบพร้อมลากชายหนุ่มออกไป

 

 

“อีกอย่าง ให้เขาชดใช้ค่าเสียหายพวกนี้ก่อนออกไปด้วยนะคะ” ลัวอิงหงว่าขึ้นก่อนเดินกลับเข้าไปในห้องโดยไม่ชายตามองลูกชายตัวเองแม้แต่น้อย

 

 

ถังหนิงบอกให้เธอห้ามอ่อนข้อให้กับลูกชายของเธอและไม่ให้สบตากับเขาแม้แต่ครั้งเดียว หากพวกเขาจ้องตากัน ความรู้สึกที่แท้จริงของเธอจะถูกเปิดเผยออกมาอย่างง่ายดาย และความทุ่มเทที่ผ่านมาของเธอจะเสียเปล่า

 

 

อย่างที่คิดไว้ลูกชายของลัวอิงหงโกรธ หากแต่ตอนนี้เขาได้เห็นแม่ของตัวเองมีชีวิตใหม่

 

 

อย่างน้อยในใจของเขา แม่ที่ทนทุกข์ทรมานกับทุกอย่างก็ได้หายไปเสียแล้ว

 

 

ลัวอิงหงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหลินเฉี่ยน ทว่ามันกลับยิ่งทำให้หลินเฉี่ยนรู้สึกผิดกับเธอมากกว่าเดิม

 

 

“พี่หง ไม่ต้องห่วงนะคะ ฉันจะแก้แค้นให้กับคุณในอีกไม่ช้าค่ะ”

 

 

ลัวอิงหงระบายยิ้มและส่ายหน้า “ฉันไม่ได้บอกเธอเพราะต้องการให้เธอเอาคืนให้ฉันสักหน่อย ฉันบอกเพราะรู้ว่าเธอเองก็เป็นเหยื่อเหมือนกันต่างหาก…

 

 

…แค่อยากเธอให้รู้ว่านังนั่นใช้วิธีสกปรกอะไรบ้างน่ะ”

 

 

“ไม่ต้องห่วงไปค่ะ เธอใกล้ถึงจุดจบแล้วล่ะค่ะ”

 

 

หลินเฉี่ยนจึงรู้สึกว่าการเข้าร่วมงานรางวัลเฟยเทียนของตัวเองสำคัญมากยิ่งขึ้น เธอกำลังไปในนามตัวแทนของถังหนิง ถังหนิงผู้เป็นตำนาน

 

 

ไม่เพียงแต่เธอจะไปเป็นต้นแบบที่ดีสำหรับลัวเซิง เธอยังได้สั่งสอนบทเรียนให้กับเฝิงจิ้งและช่วยลัวอิงหงแก้แค้นอีกด้วย

 

 

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือการที่เธอกำลังจะขีดเส้นตายระหว่างตัวเองกับเฝิงจิ้ง…

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

ถังหนิง ผู้กำลังจะก้าวขึ้นไปเป็นนางแบบแนวหน้า แต่เพราะรักจึงสละสิ้นทุกอย่าง ทว่าคืนก่อนวันวิวาห์ที่เธอกำลังจะได้ครองรักดั่งหวังนั่นเอง คู่หมั้นของเธอกลับหนีออกไปกับหญิงอื่น ด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ เธอจึงเดินจ้ำไปหาผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าสำนักงานเขต “ประธานโม่คะ ในเมื่อเจ้าสาวของคุณยังไม่มาและเจ้าบ่าวของฉันก็หนีไปแล้วอย่างนี้… ฉันว่า… เรามาแต่งงานกันเสียเลยดีไหมคะ” … ก่อนแต่งงานเธอเอ่ยว่า “แม้เราจะนอนร่วมเตียงกัน แต่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา” หลังแต่งงานเขาเอ่ยว่า “ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้หรือ”

Options

not work with dark mode
Reset