การประชุมเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อไม่นานมานี้และความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น
แน่นอนว่ารวมถึง การเดินทางที่ยิ่งใหญ่ ด้วยและโจวชิงได้เตรียมการเอาไว้แล้ว เขาคิดหาทางแก้ต่างให้ตัวเองหลังจากกลับมาทำรายการอีกครั้งไว้เรียบร้อยแล้ว ข้ออ้างสวยหรูว่าเหตุใดเขาถึงย้ายสังกัดไป
บางทีทุกคนในห้องประชุมอาจคิดเหมือนกันว่าสุดท้าย การเดินทางที่ยิ่งใหญ่ คงกลับมาอยู่ในเงื้อมมือของเขา ทว่าเมื่อถึงเวลาที่ต้องคุยเรื่องพิธีกรของรายการ ผู้จัดการสถานีโทรทัศน์กลับไม่ชายตามองโจวชิงแม้สักครั้ง แต่กลับหันหน้าไปทางพิธีกรอีกคนหนึ่ง “คุณเองก็เคยทำรายการ การเดินทางที่ยิ่งใหญ่ มาก่อนนี่ ต่อไปเราฝากคุณด้วยแล้วกันนะ…”
เมื่อได้ยินดังนั้นทุกคนต่างตกตะลึง
ทุกสายตาแทบจะหันไปที่โจวชิง ทำไมถึงไม่เป็นอย่างที่พวกเขาคิดไว้กันล่ะ
ยิ่งไปกว่านั้นตลอดการประชุมผู้จัดการยังไม่แม้จะเอ่ยถึงโจวชิงหรือซย่าหันโม่สักนิด ราวกับว่าพวกเขาไม่มีตัวตนอย่างไรอย่างนั้น
โจวชิงไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกไป หากแต่ลึกๆ เขารู้ว่าชายแก่คนนี้จงใจทำเช่นนั้น เขาถึงได้ทีเหยียบย่ำผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็น พิธีกรอันดับหนึ่ง ต่อหน้าทุกคน
“เอ่อ…ผมว่าทำอย่างนี้ต่อหน้าต่อตาโจวชิงคงไม่ดีเท่าไหร่นะครับ” พิธีกรคนนั้นเอ่ยขณะที่มองผู้จัดการ
“ผมมีแผนอื่นสำหรับโจวชิงน่ะ” เขาตอบกลับพร้อมรอยยิ้มบาง
“ถ้าเป็นอย่างนั้น ผมเองก็ยินดีรับผิดชอบในส่วนนี้ครับ”
ทุกคนต่างคิดว่าผู้จัดการมีบางอย่างที่ดีกว่า การเดินทางที่ยิ่งใหญ่ เตรียมไว้ให้โจวชิง แต่หลังจากที่พวกเขาหารือกันเรื่อง การเดินทางที่ยิ่งใหญ่ เสร็จ ชายสูงวัยหันมาหาโจวชิงก่อนว่าขึ้น “จบประชุมแล้วอยู่ต่ออีกหน่อยนะครับ ผมมีเรื่องต้องคุยกับคุณเป็นการส่วนตัว”
ไม่นานหลังการประชุมเสร็จสิ้น ทุกคนทยอยเดินออกไป ทิ้งให้โจวชิงและซย่าหันโม่นั่งรอให้ผู้จัดการบอกแผนของเขา
“โจวชิง ผมเห็นว่าช่วงนี้เสี่ยวอิงขาดผู้ช่วยน่ะ ผมว่าซย่าหันโม่น่าจะไปช่วยได้ ดังนั้นผมจะส่งเธอไปแล้วกันนะ” ผู้จัดการเอ่ย
โจวชิงไม่ปริปากออกมาสักคำ ในขณะเดียวกันซย่าหันโม่ไม่รู้ว่าอะไรกำลังรอเธออยู่
“สำหรับคุณ คุณย้ายไปช่องคู่แข่งแล้วก็กลับมา เพราะฉะนั้นคุณกลับไปทำรายการ การเดินทางที่ยิ่งใหญ่ ไม่ได้หรอก ตอนนี้ผมเลยจัดการให้คุณทำงานส่วนอื่นไปก่อน ถึงเวลาเมื่อไหร่และเรื่องเริ่มซาลง เดี๋ยวผมจะให้กลับไปทำรายการ การเดินทางที่ยิ่งใหญ่ แล้วกันนะ…
…เอาอย่างนี้เป็นไงล่ะ ตอนนี้เถาเถากำลังลาคลอดอยู่ ทำไมคุณไม่ไปทำหน้าที่แทนเธอชั่วคราวไปก่อนล่ะ”
“คุณกำลังบอกให้ผมไปเป็นผู้สื่อข่าวเหรอครับ” โจวชิงถามย้ำ
“ตอนนี้ข่าวกำลังเป็นที่พูดถึงกันน่ะ พวกคุณสองคนอาจจะต้องลำบากกันไปก่อนนะครับ”
โจวชิงไม่ได้พยักหน้าตอบรับและไม่ได้ส่ายหน้าปฏิเสธเช่นกัน แม้ว่าเขาจะดูเป็นปกติแต่ซย่าหันโม่ก็สัมผัสได้ถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปของเขา
“ผมยังมีเรื่องอื่นให้ต้องจัดการอีก ถ้าคุณตัดสินใจได้แล้วก็ไปรายงานตัวได้เลยนะครับ” พูดจบชายสูงวัยก็หันหลังเดินจากไป
หลังจากเขาเดินจากไป ซย่าหันโม่หันไปจับแขนโจวชิงก่อนออกปากถาม “ใครคือเสี่ยวอิงเหรอคะ”
“พิธีกรรายการวิทยุเกี่ยวกับความรักช่วงเที่ยงคืนน่ะ” มันแทบจะเป็นรายการที่น่าอับอายที่สุดของช่องแล้ว แต่ผู้จัดการกลับยังส่งซย่าหันโม่ไปอีก
ในขณะเดียวกันโจวชิงก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน เขาเป็นพิธีกรแถวหน้าแต่กลับยังถูกส่งตัวไปวิ่งเต้นทำข่าวข้างนอก
“พี่โจว…”
“ช่วงนี้ทนไปก่อนเถอะแล้วมาดูกันว่าเรื่องจะเป็นยังไง” โจวชิงว่าขึ้น
เดิมทีพวกเขาคิดว่าหากกลับมาทำงานที่ช่องเดิมจะมีความสุขมากขึ้นเสียอีก นึกไม่ถึงว่าเรื่องจะจบลงแบบนี้
ระหว่างที่โจวชิงและซย่าหันโม่ออกจากห้องประชุม ทุกคนต่างชี้มาทางพวกเขาและซุบซิบนินทากัน “ตอนนั้นพวกเขาก้าวออกไปอย่างมั่นอกมั่นใจเสียเหลือเกิน แล้วดูสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้สิ”
“ฉันว่านะ พี่โจวสมกับเป็นพิธีกรอันดับหนึ่งของวงการรายการโทรทัศน์แล้วล่ะ เขาแค่ตัดสินใจพลาดที่ไปท้าทายอำนาจของผู้จัดการแล้วก็ดันประเมินความสามารถของตัวเองไว้สูงเกินไป”
“ฉันไม่คิดเลยว่าเขาจะถูกส่งออกไปทำข่าว ชีวิตคนเรานี่เอาแน่เอานอนไม่ได้เลยเนอะ”
โจวชิงไม่ได้ตอบโต้กับคำวิพากษ์วิจารณ์เหล่านั้น
ทว่าซย่าหันโม่ไม่อาจทนได้ ทีแรกเธออยากจะลุกขึ้นมาเพื่อปกป้องโจวชิง แต่เขากลับกดบ่าเธอไว้ก่อนเอ่ย “กลับไปคุยเรื่องนี้กันที่บ้านเถอะ”
“พี่โจว คุณต้องเดือดร้อนก็เพราะฉันนะคะ” ซย่าหันโม่ยังคงคิดว่าที่โจวชิงต้องตกอยู่ในสภาพนี้เพราะความขัดแย้งของเธอกับจู้ซิงมีเดีย
โจวชิงตั้งตัวไม่ถูก เขาต้องใช้เวลาเพื่อยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น ด้วยเหตุนี้เขาจึงต่อสายหาลูกชายของผู้จัดการสถานี
ทันทีที่ชายหนุ่มรับสาย เขาก็หัวเราะออกมา “ฮ่าๆ โจวชิง คุณนี่ใสซื่อจริงๆ คุณคิดว่าการย้ายไปช่องคู่แข่งแล้วกลับมาแบบนี้ ทีมงานจะยอมรับได้เหรอครับ คุณน่าจะดีใจที่ตัวเองยังได้ไปรายงานข่าวนะครับ คุณคิดฝันว่าจะยังได้ทำรายการ การเดินทางที่ยิ่งใหญ่ ได้ยังไงกันครับ”
เมื่อได้ยินดังนั้น โจวชิงกำหมัดแน่น
“เป็นเพราะคุณผมถึงได้ตกลงที่จะกลับมานะ”
“โจวชิง ผมคิดว่าคุณพลาดแล้วล่ะ คุณเป็นฝ่ายที่กระดิกหางมาหาและขอร้องให้ผมช่วยแฟนสาวของคุณเองนะ ผมถึงปล่อยให้คุณกลับมาได้ยังไงล่ะ คุณไม่พอใจกับสถานะของคุณในตอนนี้เหรอครับ…
…คุณต้องพิจารณาตัวเองให้ดีๆ นะครับ คุณตั้งตัวเป็นศัตรูกับถังหนิง คิดว่าตัวเองจะหนีรอดไปได้อย่างนั้นจริงๆ เหรอครับ”
โจวชิงเดือดดาลด้วยความโกรธพร้อมเขวี้ยงโทรศัพท์ลงบนพื้น
ซย่าหันโม่สะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ เธอไม่เคยเห็นโจวชิงเป็นอย่างนี้มาก่อน ไม่เคยเห็นเขาโกรธเลยด้วยซ้ำ อย่างไรเสียเขาก็ยังสงวนท่าทีและภาพลักษณ์ที่อ่อนโยนมาได้เสมอ ด้วยเหตุนี้ซย่าหันโม่จึงใจเต้นระรัวไปด้วยความกลัว
“ลูกชายผู้จัดการบอกว่าอะไรเหรอคะ”
“ไปรายงานตัวกับรายการวิทยุพรุ่งนี้ซะ ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมจะจัดการทุกอย่างเอง” โจวชิงเก็บซ่อนอารมณ์โกรธเอาไว้โดยไม่เอ่ยปลอบใจซย่าหันโม่แม้แต่น้อย
ที่แท้เขาก็แค่เสแสร้งแกล้งทำ!
ดังนั้นในคืนนั้นหลังจากที่ซย่าหันโม่หลับไป โจวชิงจึงไปหาลูกชายผู้จัดการที่โรงพยาบาล “ผมบอกความจริงคุณไปหมดแล้ว ทำไมคุณถึงไม่ให้โอกาสผมบ้าง”
“หมายความว่าอะไรครับ แค่เพราะผมไม่คืน การเดินทางที่ยิ่งใหญ่ กลับไปให้คุณ ไม่ได้หมายความว่าชีวิตคุณจะจบสิ้นสักหน่อยนี่ครับ”
“คุณก็เห็นอยู่ว่า การเดินทางที่ยิ่งใหญ่ สำคัญกับผมขนาดไหน! ถังหนิงทำให้คุณเสียแขนไปแต่คุณก็ยังไม่เรียกร้องความรับผิดชอบจากเธอ กลับเอาความโกรธมาลงที่ผม นี่มันหมายความว่าอะไรกัน”
“หมายความว่าอะไรงั้นเหรอ เพราะคุณมันไม่ได้สำคัญเลยยังไงล่ะ!” ชายหนุ่มตอบกลับ “ผมจะไปตามเอาคืนถังหนิงหรือเปล่ามันก็เรื่องของผม ไม่ใช่เรื่องของคุณสักหน่อย”
โจวชิงจ้องมองอีกฝ่ายเขม็งด้วยสายตาเกลียดชังอย่างถึงที่สุด
“คุณไม่พอใจผมเหรอ อย่างนั้นก็ทำร้ายผมเลยสิ…ยังไงผมก็เหลือแขนแค่ข้างเดียวอยู่แล้วนิ”
โจวชิงกำหมัดแน่น ถึงแม้ว่าเขาจะเกลียดท่าทีเย่อหยิ่งของชายหนุ่มตรงหน้า แต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้ สุดท้ายจึงได้แต่กอดความพ่ายแพ้กลับบ้านไป
ทันทีที่ซย่าหันโม่เห็นเขา เธอรีบวิ่งมาหา “พี่โจว…”
หากแต่เธอกลับถูกเขาผลักออกไปด้านข้าง
เดิมทีเขาคิดว่าตัวเองได้เพชรมาครอบครอง แต่เขาได้รู้แล้วว่าเธอไม่มีประโยชน์แม้แต่น้อย
ซย่าหันโม่อึ้งกับการกระทำของโจวชิงขณะที่เธอนิ่งชะงักไป
“วันนี้ฉันเหนื่อย ไว้คุยกันพรุ่งนี้แล้วกัน”