วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ – ตอนที่ 884 มันคือบทลงโทษที่ทิ้งเฉี่ยนเฉี่ยนไว้ข้างหลัง

อาการไข้ของหลินเฉี่ยนยังไม่ดีขึ้น ซย่าหันโม่จึงเริ่มตื่นตระหนก พวกเธอไม่อาจไปต่อได้ทว่าก็ไม่สามารถถอยกลับได้เช่นกัน ด้วยความหมดสิ้นหนทาง เธอบอกกับหลินเฉี่ยน “นอนพิงอยู่ตรงนี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันจะจุดไฟส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ”

 

 

“พวกเขานี่ขี้ขลาดจริงๆ เลยนะคะ” หลินเฉี่ยนหัวเราะ “หันโม่ คุณเองก็ควรไปต่อเหมือนกันนะคะ ไม่อย่างนั้นเราสองคนได้ติดอยู่ที่นี่แน่”

 

 

“พูดอะไรไร้สาระอย่างนั้นคะ ไข้ขึ้นจนสติกลับหรือยังไงกัน” ซย่าหันโม่ช่วยประคองให้หลินเฉี่ยนนั่งดีๆ ก่อนที่จะหาพื้นดินแห้งๆ และเริ่มจุดไฟ

 

 

หลินเฉี่ยนมองเธอและพลันรู้สึกว่าทุกอย่างคุ้มค่าแล้ว ต่อให้เธอไม่มีอะไรอย่างน้อยเธอก็มีเพื่อน

 

 

เธอคอยดูอาการหลินเฉี่ยนในขณะที่พยายามจุดไฟ ในตอนนี้เองอยู่ๆ ที่ร่างสูงใหญ่ก็โผล่พรวดออกมาจากในป่าให้เธอสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจกลัว อย่างไรก็ตามในยามที่ได้สติกลับมา เธอเห็นว่าร่างนั้นคุกเข่าตรงหน้าหลินเฉี่ยน ดึงเข็มฉีดยามาจากเป้ก่อนฉีดยาฆ่าเชื้อให้กับเธอ

 

 

หลินเฉี่ยนอ่อนแรงหากแต่เธอยังสังเกตเห็นคนที่เพิ่งมาถึง “หลี่จิ่น…”

 

 

“ผมเองครับ” หลี่จิ่นขานรับด้วยท่าทีเรียบเฉยอย่างเคย

 

 

“ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ”

 

 

“มาหาคุณไงครับ” เขาตอบก่อนแบกเธอขึ้นบนหลัง

 

 

ซย่าหันโม่รีบวิ่งเข้าไปช่วยทันที เธอนึกไม่ถึงว่าจะมีใครบางคนเสี่ยงชีวิตตัวเองมาตามหาหลินเฉี่ยน

 

 

ชายคนนี้ช่างดูสูงใหญ่และแข็งแกร่งกว่าคนปกติ แม้ว่าเดิมทีเขาจะรูปร่างดีอยู่แล้วก็ตาม

 

 

“เกิดอะไรขึ้น คนอื่นไปไหนกันหมดครับ”

 

 

ซย่าหันโม่เล่าเรื่องที่คนอื่นไม่อยู่เพราะกลัวติดเชื้อจากหลินเฉี่ยน ระหว่างที่พวกเขาเดินต่อไปข้างหน้า พวกเขาคุยเรื่องสถานการณ์ในตอนนี้ของอีกฝ่าย

 

 

“คนพวกนั้นเลยทิ้งหลินเฉี่ยนเหรอครับ” น้ำเสียงหลี่จิ่นเย็นยะเยือกขึ้นมา

 

 

ซย่าหันโม่ไม่ได้ปฏิเสธเพราะมันเป็นเรื่องจริง

 

 

ในตอนนี้หลินเฉี่ยนได้ผล็อยหลับไปบนหลังของหลี่จิ่น ทว่าหญิงสาวอีกคนกลับทึ่งที่เห็นเขาแบกคนทั้งคนไว้บนหลังแต่ยังเดินได้อย่างคล่องแคล่วกว่าเธอเสียอีก

 

 

“หลังจากข้ามเขาลูกนี้ไปจะมีหมู่บ้านอยู่อีกด้านครับ”

 

 

“คุณรู้ได้ยังคะ”

 

 

เขาไม่อาจบอกเธอได้ว่าตัวเองขับเครื่องบินทหารผ่านแถบนี้มานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว เขาจึงเลือกที่จะนิ่งเงียบ

 

 

หากแต่เพียงมองเขาแค่แวบเดียวเธอก็ดูออกว่าตัวตนของเขาคงเป็นความลับจนไม่อาจพูดออกไปได้ จึงไม่ได้ถามซักไซ้ไปมากกว่านี้

 

 

ทั้งสามรอดพ้นอันตรายมาได้อย่างรวดเร็วด้วยการนำของหลี่จิ่น ทันทีที่พวกเขามาถึงตีนเขาซย่าหันโม่มุ่งหน้าไปหาที่ให้หลินเฉี่ยนได้พัก ในขณะที่เขาเดินตามหลังไปพร้อมหลินเฉี่ยนที่อยู่บนหลัง

 

 

หลังได้นอนพักสักครู่ อาการของหลินเฉี่ยนเริ่มค่อยๆ ดีขึ้น เมื่อลืมตาขึ้นมาและเห็นชายที่กำลังแบกเธอเอาไว้ เธอก็อุ่นใจและแนบกายพิงแผ่นหลังของอีกฝ่าย

 

 

“คุณมาทำไมกันคะ ที่นี่มันอันตรายนะ”

 

 

“ผมบอกคุณแล้วว่าผมจะไม่ปล่อยคุณไปง่ายๆ ” เขาตอบกลับ

 

 

หลินเฉี่ยนอึ้งไปเล็กน้อยพร้อมน้ำตาที่ไหลคลอมาจากดวงตา “ฉันมาที่นี่โดยไม่ได้บอกคุณเพราะคิดว่าความสัมพันธ์ของเราคงไปได้ไม่ไกล ถึงยังไงชีวิตของเราก็ต่างยุ่งกันทั้งคู่”

 

 

“คุณไม่เห็นเหรอว่าสุดท้ายผมก็มาหาคุณที่นี่” หลี่จิ่นท้วง “ตอนผมยุ่งคุณเองก็มาหาผมได้ และตอนที่คุณไม่ว่างผมก็จะไปหาคุณเอง ไม่ใช่เรื่องใหญ่ระหว่างเราเลยครับ”

 

 

“ฟังดูเข้าท่านะคะ” หลินเฉี่ยนเอ่ยพร้อมปล่อยโฮออกมาทันที ไม่ว่าเขาจะมาหาเธอเพราะอะไร สุดท้ายการกระทำของเขาก็ทำให้เธอเปิดใจรับเขาเข้ามาจนได้

 

 

เพราะเขายอมเอาชีวิตของตัวเองมาเสี่ยงเพื่อเธอ

 

 

ไม่นานซย่าหันโม่ก็เจอบ้านที่ยินดีให้พวกเขาเข้าไปพัก เจ้าของบ้านให้ที่พักกับพวกเขา หลี่จิ่นวางหลินเฉี่ยนบนเตียงทันทีและเริ่มถอดเสื้อผ้าของเธอ “เดี๋ยวผมจะช่วยทำให้คุณตัวแห้งก่อนจะเข้านอนนะครับ”

 

 

ตอนนี้หลินเฉี่ยนไม่มีแรงจะฝืนอะไรได้อีกต่อไป หากแต่ซย่าหันโม่กำลังยืนอยู่ทนโท่

 

 

“เอ่อ…คุณกับหลินเฉี่ยนเป็น…”

 

 

แม้ว่าหลี่จิ่นจะเสี่ยงชีวิตมาตามหาหลินเฉี่ยน เธอก็ยังต้องการความชัดเจน ถ้าหากหลินเฉี่ยนไม่สมยอมขึ้นมาล่ะ

 

 

“ผมเป็นแฟนของเธอครับ หลี่จิ่น”

 

 

“ไม่เห็นเธอเคยพูดถึงมาก่อนเลยค่ะ” ซย่าหันโม่ไหวไหล่ “ช่างมันเถอะค่ะ นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดเรื่องนี้ ฉันสงสัยว่าคนอื่นๆ ไปทางไหนกัน”

 

 

“ผมเห็นรอยเท้าของพวกเขาอยู่แต่เลือกที่จะไม่ตามไปครับ” เขาตอบ “จากทิศทางที่พวกเขาไป เดี๋ยวพวกเขาก็จะเจอหมู่บ้านนี้อยู่ดีครับ แต่มันใช้เวลาจนกระทั่งค่ำๆ เลย น่าจะมาถึงที่นี่ราวๆ เที่ยงคืนได้”

 

 

“หือ นี่คุณ…”

 

 

“มันคือบทลงโทษของพวกเขาที่ทิ้งเฉี่ยนเฉี่ยนไว้ข้างหลังครับ”

 

 

ชั่วเสี้ยววินาที ซย่าหันโม่รู้สึกว่าชายคนนี้เฉยชาจริงๆ

 

 

ภายนอกเขาดูเย็นชาหากแต่กลับช่างเก่งกาจเหมือนอย่างโม่ถิง เว้นเสียแต่ว่าพวกเขาทำได้อย่างดีเยี่ยมในแวดวงของพวกเขาเอง

 

 

อีกอย่างทางทีมงานก็สมควรได้รับมัน

 

 

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง ซย่าหันโม่และหลี่จิ่นได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในตอนที่ทีมงานที่เหลือมาถึงหมู่บ้านในที่สุด แน่นอนว่าแม้ซย่าหันโม่จะไม่พอใจคนพวกนี้แต่เธอก็ยังจ่ายเงินให้กับเจ้าของบ้านเพื่อให้พวกเขาได้มีที่พัก

 

 

“เธอ…หันโม่ ทำไมเธอถึง…”

 

 

“มันไม่ง่ายที่จะเกลี้ยกล่อมให้เจ้าของบ้านยอมให้พวกคุณเข้ามาเลยนะคะ รีบอาบน้ำล้างตัวเถอะค่ะ”

 

 

ในตอนนี้เองที่โจวชิงเข้ามาหาซย่าหันโม่หลังจากเสร็จภารกิจในการปกป้องคนเหล่านี้ ก่อนเอ่ยขอโทษอย่างจริงใจ “ฉันต้องรับผิดชอบที่ทิ้งพวกเธอไว้ข้างหลัง”

 

 

“พี่โจวคะ ฉันเข้าใจว่าคุณคิดอะไรอยู่ค่ะ ถ้าคุณไม่ปกป้องพวกเขา พวกเขาคงจะหลงอยู่ในป่าไปแล้ว”

 

 

“เธอมาถึงที่นี่ก่อนได้ยังไงแล้วทำไมไม่มาตามหาพวกเราล่ะ” บางคนถามขึ้นด้วยความโกรธ

 

 

“อะไรกันคะ คุณไม่กลัวติดเชื้อจากหลินเฉี่ยนแล้วเหรอคะ” ซย่าหันโม่ถามกลับ “ตอนที่คุณตัดสินใจทอดทิ้งพวกเรา คุณก็น่าจะคิดไว้แล้วว่าฉันจะเก็บเรื่องวิธีเอาตัวรอดออกมาเป็นความลับจากคุณ”

 

 

“นี่เธอ…”

 

 

“ถึงยังไงก็เถอะ…แฟนของหลินเฉี่ยนมาช่วยเราไว้น่ะค่ะ” เธอเผยพลางมองไปทางหลี่จิ่น

 

 

หลี่จิ่นก้าวออกมาจากห้องของหลินเฉี่ยน แต่เขาทำเพียงพูดกับซย่าหันโม่ “คนของไห่รุ่ยอยู่แถวๆ นี้ เอเจนซี่ของพวกคุณกำลังส่งเฮลิคอปเตอร์มารับ”

 

 

“แล้วเราล่ะ”

 

 

“คุณอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว ถ้าอยากกลับบ้านก็หาทางเอาเองสิครับ” เขาว่าขึ้น

 

 

การมาถึงหมู่บ้านหมายความว่าตอนนี้พวกเขามีไฟฟ้าและโทรศัพท์ จึงเป็นไม่ใช่เรื่องเสียหายที่หลี่จิ่นจะพูดเช่นนั้น

 

 

ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงได้แต่มองเฮลิคอปเตอร์ของไห่รุ่ยมารับทั้งสามออกไปอย่างสิ้นหวัง

 

 

ตอนที่พวกเขาจากไป ซย่าหันโม่มองไปที่โจวชิง เขาแสดงท่าทีคล้ายจะบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง เขาจะดูแลคนที่เหลือเอง

 

 

ทั้งยังกระซิบข้างหูเธอ “ทันทีที่กลับไปถึง เปิดเผยเรื่องที่เกิดขึ้นกับหลินเฉี่ยนด้วยนะ อย่าปล่อยให้คนอื่นคว้าโอกาสนี้สร้างกระแสไปก่อนล่ะ”

 

 

“ขอบคุณค่ะ พี่โจว” เธอพยักหน้ารับ

 

 

แน่นอนว่าเรื่องราวของเหล่าคนดังที่เอาตัวรอดจากน้ำหลากนั้นเป็นข่าวใหญ่ ดังนั้นต้องมีใครบางคนที่หมายจะสร้างกระแสจากเรื่องนี้แน่ โจวชิงถึงได้บอกให้ซย่าหันโม่ควบคุมสถานการณ์เอาไว้ อย่างน้อยก็ถือเป็นการเลี่ยงไม่ให้ตัวเองตกเป็นรอง ถึงอย่างไรเธอก็ได้ช่วยคนทรามๆ พวกนี้ไว้มากพอแล้ว

 

 

หลังจากกลับไปครั้งนี้รายการตอนต่อไปคงถ่ายทำได้ง่ายดายขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัยเลยทีเดียว

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

ถังหนิง ผู้กำลังจะก้าวขึ้นไปเป็นนางแบบแนวหน้า แต่เพราะรักจึงสละสิ้นทุกอย่าง ทว่าคืนก่อนวันวิวาห์ที่เธอกำลังจะได้ครองรักดั่งหวังนั่นเอง คู่หมั้นของเธอกลับหนีออกไปกับหญิงอื่น ด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ เธอจึงเดินจ้ำไปหาผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าสำนักงานเขต “ประธานโม่คะ ในเมื่อเจ้าสาวของคุณยังไม่มาและเจ้าบ่าวของฉันก็หนีไปแล้วอย่างนี้… ฉันว่า… เรามาแต่งงานกันเสียเลยดีไหมคะ” … ก่อนแต่งงานเธอเอ่ยว่า “แม้เราจะนอนร่วมเตียงกัน แต่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา” หลังแต่งงานเขาเอ่ยว่า “ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้หรือ”

Options

not work with dark mode
Reset