“ฉันว่าคุณคงเข้าใจฉันผิดแล้วล่ะค่ะ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่ชอบทำตัวไม่ชัดเจนสักหน่อย” หลินเฉี่ยนเอ่ยแทรกขึ้น
หลี่จิ่นใจเย็นลง เลื่อนกระจกลงในขณะที่เขาขับรถ หลังจากหลินเฉี่ยนสงบอารมณ์ เขาก็ว่าขึ้นในท้ายที่สุด “ผมไม่มีเวลาที่จะตามจีบผู้หญิงมากนัก”
ได้ยินดังนั้น หลินเฉี่ยนก็อึ้งไปเล็กน้อยด้วยท่าทีท้อใจที่ฉายชัดผ่านคิ้วที่ขมวดมุ่นเข้าด้วยกัน “คุณคือวีรบุรุษในสายตาของคนส่วนใหญ่ แต่ผู้หญิงทุกคนก็คิดมากกันทั้งนั้น มันไม่ง่ายที่จะให้อภัยหรอกนะคะ”
“ผมจะหาเวลาทำความรู้จักกับคุณให้ได้มากที่สุดครับ”
เห็นๆ กันอยู่ว่าคำพูดของเขาเฉยชาเพียงไหน ทว่าอยู่ๆ หลินเฉี่ยนก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นขึ้นมา
“ฉันเป็นคนมีเหตุผลค่ะ ไม่ต้องมาบังคับฉัน อย่าทำในสิ่งที่ฉันเกลียดเลยนะคะ” หลินเฉี่ยนออกปากเตือน
“งั้นคุณจะบอกว่าตอนนี้คุณไม่ได้เกลียดผมเหรอ”
หลินเฉี่ยนก้มหน้าลงโดยไม่ปริปากออกมาสักคำ เธอกำลังจะปล่อยเรื่องไปเลยตามเลย ถึงอย่างไรหลี่จิ่นเองก็ยุ่งและคงไม่มีเวลามาหาเธออยู่แล้ว มันคงไม่ใช่เรื่องที่แย่สักเท่าไร
“ฉันยังทำใจไม่ได้ค่ะ ถ้าคุณรีบแต่งงานหรือคาดหวังให้ฉันยอมทำตามคุณเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ฉันคงจะทำแบบนั้นไม่ได้”
เธอไม่ได้เงยหน้ามองหลี่จิ่นและอีกฝ่ายก็ไม่ได้ตอบกลับมาเช่นกัน ภายในรถตกอยู่ในความเงียบงันกระทั่งทั้งสองมาถึงร้านอาหาร “คุณเป็นอย่างที่ผมคิดไว้จริงด้วย ผมเกลียดผู้หญิงน่ารำคาญและคุณไม่ได้เป็นแบนนั้นเลยสักนิด!”
ชายคนนี้ช่างเป็นคนตรงไปตรงมาเสียจริง เขาทำเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงราวกับว่าเป็นวาระสำคัญระดับประเทศ เขารักชาติขนาดนั้นเลยหรืออย่างไร
“อย่างนั้นก็ตอบผมมาครับ คุณอยากจะเดินหน้าเรื่องนี้ต่อไปหรือเปล่า”
เธอไม่ได้ตอบกลับในทันทีขณะที่เปิดประตูรถก่อนก้าวเดินออกไปด้านหน้า ทั้งสองตามกันเข้ามาด้านในร้านอาหาร ในที่สุดเธอก็เอ่ยตอบในตอนที่เธอนั่งลง “ขอเวลาฉันสักหน่อยนะคะ อีกอย่างเราก็พบกันเมื่อไม่กี่วันก่อนเองด้วย”
“โอเคครับ แต่อย่านานมากนะครับ”
หลินเฉี่ยนไม่ชอบผู้ชายอย่างเฉวียนจื่อเยี่ย คนที่แผ่รังสีร้ายกาจและเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน หากแต่… เธอก็อาจไม่ชอบคนอย่างหลี่จิ่นที่ทั้งตัดสินใจเด็ดขาดและเข้มงวดกับทุกอย่างที่เขาทำเช่นกันด้วยหรือเปล่า
เขาช่างดูเย็นชาและเป็นจอมบงการ
ทั้งสองลงเอยด้วยการนั่งทานอาหารอย่างเงียบเชียบ เดิมทีหลินเฉี่ยนรู้สึกอึดอัดใจเมื่อต้องอยู่ใกล้เขาเล็กน้อย แค่เขากลับเอ่ยกับเธอด้วยท่าทีสบายๆ “ทำตัวตามสบายเถอะครับ ผมไม่ได้จะห้ามอะไรสักหน่อย”
ด้วยคำพูดนี้เธอจึงผ่อนคลายลงในทันที
แต่หลังจากนั้นไม่นาน เธอได้รับสายจากซิงหลาน “หลินเฉี่ยน รีบกลับมาที่บ้านเร็วเข้าค่ะ มีทนายความมาหาคุณที่นี่”
“ทนายความเหรอคะ” หลินเฉี่ยนมุ่นคิ้ว “ฉันไม่รู้จักทนายความคนไหนสักหน่อยนี่คะ”
“เป็นเรื่องเกี่ยวกับตระกูลเฉวียนค่ะ”
หลินเฉี่ยนตกใจเล็กน้อย แต่ก็พยักหน้ารับ “ฉันจะรีบกลับไปเดี๋ยวนี้ค่ะ”
“ไปกันเถอะครับ ผมจะไปส่งคุณที่บ้านเอง” หลี่จิ่นได้ยินสิ่งที่หลินเฉี่ยนพูดและลุกขึ้นทันที
หลี่จิ่นมาส่งหลินเฉี่ยนถึงบ้านของซิงหลานไม่นานหลังจากนั้น เดิมทีเขาอยากจะบอกกับเธอว่าจะมาหาเธอใหม่คราวหลัง แต่ไม่ทันที่เขาจะได้พูดสักคำอีกฝ่ายก็รีบร้อนเข้าไปในที่พักโดยไม่หันหลังกลับมา
เธอดูเฉยชาไม่น้อยเลยทีเดียว
…
“คุณหนูหลิน สวัสดีครับ ผมเป็นทนายความของคุณนายเฉวียน หยางปี่ครับ”
หลินเฉี่ยนก้าวเข้ามาในห้องนั่งเล่นและจับมือทักทายกับอีกฝ่ายอย่างสุภาพ “พูดมาเถอะค่ะ คุณนายเฉวียนต้องการอะไรคะ”
“นี่เป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่คุณใช้ไประหว่างที่อยู่ในตระกูลเฉวียนครับ คุณนายเฉวียนต้องการให้คุณชดใช้คืนทั้งหมด ถึงยังไงตอนนี้คุณก็ทำงานในวงการบันเทิง เงินจำนวนนี้คงไม่มากไปสำหรับคุณนะครับ…”
“น่าทึ่งจริงๆ ” ซิงหลานขยะแขยงกับสิ่งที่ตัวเองได้ยิน “เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินว่าพ่อแม่บุญธรรมบังคับให้ลูกของตัวเองชดใช้คืนให้กับพวกเขาเลย”
“ตลอดเวลาหลายปีตระกูลเฉวียนมอบชีวิตที่สะดวกสบายกับคุณ ไม่ขาดตกบกพร่องทั้งอาหารและที่พักอาศัย แต่คุณยังทำร้ายลูกชายคนเดียวของพวกเขาอย่างไม่สำนึก คุณนายเฉวียนถึงตัดสินใจทำเช่นนี้ครับ”
“ขอฉันดูหน่อยค่ะ” หลินเฉี่ยนรับรายละเอียดค่าใช้จ่ายและไล่สายตาอ่านคร่าวๆ “สามสิบล้านหยวนเหรอคะ นั่นมันเลี้ยงดูฉันได้สิบคนเลยนะคะ”
“ถ้าคุณหนูหลินมีข้อสงสัยเรื่องจำนวนเงิน ทางเรายินดีให้คุณยื่นอุทธรณ์ได้ครับ แต่คุณนายเฉวียนจะดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไปครับ” ทนายความกล่าวอย่างเย่อหยิ่ง
“ตระกูลเฉวียนนี่น่ารังเกียจจริงๆ” ซิงหลานเอ่ยเย้ยหยัน
“ถ้าฉันคืนเงินก้อนนี้ จากนี้ไประหว่างตระกูลเฉวียนกับฉันจะไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกันอีกใช่ไหมคะ” หลินเฉี่ยนถามพลางโบกเอกสารในมือไปมา
“ตามหลักการแล้วถูกต้องครับ”
“คุณจะไม่โง่ให้เงินพวกเขาไปใช่ไหมคะ นี่มันไม่ใช่น้อยๆ เลยนะ จะไปหาเงินมากขนาดนี้ในเวลาสั้นๆ ได้จากที่ไหนกันคะ” ซิงหลานถามอย่างเป็นห่วง
“คุณนายเฉวียนบอกว่าเธอจะให้เวลาคุณหาเงินครับ คุณมีเวลาหนึ่งอาทิตย์ ผมมั่นใจว่าผมได้ชี้แจงเรื่องนี้กับคุณชัดเจนดีแล้ว ตอนนี้ขอตัวก่อนนะครับ ลาก่อนครับ คุณหนูหลิน” พูดจบเขาก็เดินออกจากห้องไปด้วยท่าทีเฉยชา
“คนตระกูลเฉวียนนี่แปลกจริงๆ ฉันไม่เคยเห็นพ่อแม่คนไหนทำตัวหน้าไม่อายขนาดนี้เลย”
“นี่เป็นสิ่งที่ฉันติดค้างตระกูลเฉวียนเอาไว้ ฉันต้องชดใช้คืนให้พวกเขา” หลินเฉี่ยนตอบ
“ฉันเกรงว่าในใจคุณ คนเดียวที่คุณติดค้างด้วยคือเฉวียนจื่อเยี่ยนะคะ”
หลินเฉี่ยนไม่ได้ตอบกลับ ทำเพียงหยิบบัตรธนาคารของตัวเองออกมาและตรวจสอบเงินที่มีในบัญชี
สำหรับผู้จัดการอย่างเธอ ไม่ต้องพูดถึงหนึ่งอาทิตย์ ต่อให้สามปีก็ไม่มีทางที่จะเก็บเงินสามสิบล้านได้
ดูเหมือนว่าคุณนายเฉวียนกำลังพยายามแก้แค้นให้ลูกชายของตัวเองด้วยข้อเรียกร้องที่เกินกว่าเหตุนี้
“ทำไมคุณไม่ขอให้พี่หนิงช่วยล่ะคะ”
“พี่หนิงแทบจะใช้เงินทั้งหมดลงทุนกับการถ่ายทำ ดินแดนชำระบาป แล้วค่ะ ฉันไม่อยากไปรบกวนเธอในเวลาอย่างนี้ ให้ฉันลองคิดหาหางก่อนนะคะ”
“ถ้าคุณหาเงินมาคืนตระกูลเฉวียนไม่ได้ พวกเขาจะฟ้องร้องคุณและฉันไม่เชื่อว่าพวกเขาจะชนะคดีแบบนี้หรอกนะคะ”
หลินเฉี่ยนหัวเราะ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณสนใจเรื่องการประกวดเถอะนะคะ”
“ฉันสาบานได้เลยว่าเธอช่างเป็นคนที่หน้าไม่อายจริงๆ ”
หลินเฉี่ยนไม่ได้พูดอะไรพลางก้มหน้าและเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง ในเวลาเดียวกัน ซิงหลานจ้องมองแผ่นหลังของอีกฝ่ายและถอนหายใจออกมา อยู่ๆ เธอก็หวังว่าหลินเฉี่ยนจะมีผู้ชายสักคนอยู่เคียงข้างในเวลาเช่นนี้ ใครก็ได้ที่ไม่ใช่เฉวียนจื่อเยี่ย
เฉวียนจื่อเยี่ยไม่เคยทำให้หลินเฉี่ยนมีความสุข เพราะนอกจากนิสัยของเขาแล้ว ครอบครัวเขาก็น่ารำคาญไม่แพ้กัน จากการที่เขาเป็นคนกลางระหว่างพวกเธอมาหลายปี นั่นหมายความว่าเขาไม่อาจเสียสละให้กันได้
หากหลินเฉี่ยนตกลงปลงใจกับเฉวียนจื่อเยี่ยก่อนหน้านี้ คงยากที่จะคาดเดาได้ว่าชีวิตของเธอในตอนนี้จะเป็นย่างไร
ซิงหลานครุ่นคิดอยู่เงียบๆ ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจต่อสายหาหลี่จิ่น แม้จะรู้ว่าตัวเองไม่ควรเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้ก็ตาม
“หลี่จิ่นพูดสายครับ…”
“เอ่อ…” ซิงหลานออกอาการอึกอักเล็กน้อยกับน้ำเสียงทุ้มต่ำระคนเย็นชาของเขา “…ฉันหลี่ซินเองนะ…”
“มีอะไรเหรอ”
ซิงหลานลังเลใจอยู่ชั่วขณะก่อนจะอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดกับหลี่จิ่นออกไปในท้ายที่สุด “คือว่า…เรื่องมันก็เป็นอย่างนี้แหละ ตอนที่พ่อแม่บุญธรรมของหลินเฉี่ยนรับเธอมาเลี้ยง พวกเขาไม่เคยบอกว่าจะให้เธอชดใช้คืนให้นี่ ตอนนี้พวกเขายังจะมาเรียกร้องเงินสามสิบล้านจากเธออีก!
“เธอเป็นแค่ผู้จัดการ จะไปเอาเงินมากมายขนาดนั้นมาจากไหนกัน”
“ฉันเข้าใจแล้ว”
ปลายสายตอบกลับมาสั้นๆ และวางสายไปก่อนที่ซิงหลานจะได้พูดอะไรต่อ