วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ – ตอนที่ 833 จู้ซิงมีเดียที่ไม่มีใครเทียบได้

เมื่อได้ยินว่าเกิดอะไรขึ้น หลงเจี่ยเดินผ่านหญิงสาวทั้งสองคนไปและมองซิงหลานที่กำลังยืนพิงกำแพงอยู่ นอกจากจะเห็นว่าสีหน้าของเจ้าตัวซีดเซียวแล้วยังมีเลือดออกบนร่างกายของเธออีกด้วย

 

 

“ไปดูแผลให้ซิงหลานก่อน” หลงเจี่ยเอ่ยกับหลินเฉี่ยน

 

 

หลินเฉี่ยนพยักหน้าก่อนที่จะขยับตัวออกจากบริเวณทางเดินและเดินปึงปังผ่านหญิงสาวจองหองทั้งสองคนไปอยู่ข้างๆ ซิงหลาน

 

 

“หลงเจี่ย ใช่ไหม ยินดีที่ได้รู้…” หลงเจี่ยเดินตรงไปและตวัดมือตบลงบนใบหน้าหลี่ชั่นก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดจบ ผู้จัดการของหลี่ชั่นก้าวเข้าไปขวางหน้าเพื่อปกป้องเธอทันที ทว่าหลงเจี่ยชี้หน้าเธอและเอ่ยเตือน “ถ้าเธอกล้าแตะต้องตัวฉัน ฉันจะทำให้เธอหายไปจากวงการบันเทิงซะเดี๋ยวนี้”

 

 

คำพูดที่ดูคล้ายจะเป็นเรื่องตลก หากแต่เมื่อออกมาจากปากหลงเจี่ยพวกมันก็ดูน่ากลัวขึ้นมาทันที

 

 

เพราะสายตาที่เบิกกว้างพร้อมแววตาที่เชือดเฉือน พลันฝ่ายตรงข้ามก็สูญเสียความมั่นใจและนิ่งงันไปทันตา

 

 

ใบหน้าหลี่ชั่นที่ถูกแรงตบกระทบทำให้เจ้าของมันต้องการตอกกลับ แต่มือของเธอกลับถูกหลงเจี่ยจับไว้ได้ทัน “นังหัวขโมยชั่ว ถ้าเธอเก่งนักก็เชิญไปเปิดเผยเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสามปีก่อนเลยสิ ฉันกำลังรอดูการแสดงเด็ดๆ อยู่ ฉันจะเตือนเธอเอาไว้นะ หลี่ชั่น วันนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าเธอกล้ามาหาเรื่องอีกละก็ ฉันจะแฉว่าคนที่ได้ชื่อว่าเป็น  ราชินีแห่งเพลงบัลลาด  ไปเมืองไทยเพื่อทำคุณไสย”

 

 

“เธอ…” ใบหน้าหลี่ชั่นขึ้นสีในทันที

 

 

“เธออยากจะลองไหมล่ะ”

 

 

ผู้จัดการของหลี่ชั่นอยากจะเข้าไปช่วยเธอ แต่ก็ถูกรั้งเอาไว้ “อย่าหาเรื่องใส่ตัวเอง ฉันว่าเราไปเถอะ เธอคือคนที่เคยทำงานกับถังหนิง วิธีที่เธอใช้ตอบโต้กับคนอื่นต้องไม่ธรรมดาแน่”

 

 

“นี่เป็นแค่ยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น ฉันรู้เรื่องของเธอมากกว่าที่เธอคิดเสียอีก” หลงเจี่ยประกาศกร้าวอย่างเย็นชา

 

 

“ไปกันเถอะ”

 

 

หลี่ชั่นไม่อาจยอมรับความพ่ายแพ้ได้ หากแต่หลงเจี่ยกำลังกุมความลับของเธอเอาไว้และเธอไม่มีทางเลือกนอกจากยอมจำนน

 

 

ว่าแต่หลงเจี่ยจะปล่อยเธอไปง่ายๆ จริงๆ หรือ

 

 

“เธอจะไปทั้งอย่างนี้เลยเหรอ คำขอโทษและค่ารักษาพยาบาลล่ะ อีกอย่างอย่าลืมว่าเธอขโมยตำแหน่ง  ราชินีแห่งเพลงบัลลาด  มาจากพี่สาวของเธอนะ จากนี้ไปจำไว้ด้วยว่าเธอเองก็เป็นหัวขโมยเหมือนกันและเลิกทำตัวเสแสร้งสักที อย่าคิดว่าเธอจะมีสิทธิ์ขโมยของมาจากคนอื่น”

 

 

คำพูดของหลงเจี่ยรุนแรงและไร้ซึ่งความปรานี เธอเกลียดคนอย่างหลี่ชั่นที่ขโมยสิ่งต่างๆ มาจากคนอื่นแล้วยังจะกล้าไปดูถูกพวกเขาอีก

 

 

ในเวลาเดียวกัน นับจากวันที่หลี่ชั่นคว้ารางวัลชนะเลิศมาได้ก็ไม่มีใครพูดกับเธอแบบนี้ แน่นอนว่าหลงเจี่ยเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้

 

 

เธอจึงจ้องมองหลงเจี่ยด้วยดวงตาแดงก่ำ… หากจะพูดให้ถูกคือดวงตาของเธอกลายเป็นสีแดงด้วยความโกรธเกรี้ยว

 

 

ทว่าเธอคิดว่าหลงเจี่ยเป็นใครกัน เป็นคนที่จะกลัวอะไรอย่างนั้นหรือ

 

 

หลี่ชั่นเป็นแค่นักร้องธรรมดา หากจะพูดกันตามตรง การมาพูดคุยกับเธอก็นับว่าหลงเจี่ยลดตัวลงมามากแล้ว หลี่ชั่นคิดว่าตัวเองมีความสำคัญกับวงการบันเทิงขนาดนั้นจริงๆ หรือ

 

 

สำหรับจู้ซิงมีเดียและไห่รุ่ยแล้ว การจัดการกับเธอนั้นเหมือนการบี้มดตัวหนึ่งเท่านั้น

 

 

ท้ายที่สุดหลี่ชั่นจึงยอมแพ้และบอกผู้จัดการ “ขอโทษซะ”

 

 

แม้ว่าผู้จัดการจะไม่พอใจกับการตัดสินใจครั้งนี้ แต่เธอไม่มีทางเลือกนอกจากทำตามคำสั่ง

 

 

ขณะเดียวกันนั้น หลี่ชั่นเองก็เอ่ยขอโทษทั้งที่ยังหันหลังให้กับซิงหลานอย่างส่งๆ ก่อนจะจากไปพร้อมกับผู้จัดการของเธอ

 

 

“นังสวะ” หลงเจี่ยมองหญิงสาวทั้งสองคนเดินจากไปก่อนที่จะพูดกับหลินเฉี่ยน “ไปติดต่อฝ่ายรักษาความปลอดภัยและขอภาพจากกล้องวงจรปิดมา อย่าปล่อยให้นังนั่นมาหาเรื่องได้อีก”

 

 

“โอเคค่ะ อย่างนั้นฉันฝากซิงหลานไว้กับคุณหน่อยนะคะ” พูดจบหลินเฉี่ยนก็ทิ้งซิงหลานไว้กับหลงเจี่ย และรีบไปจัดการกับภาพจากกล้องวงจรปิดก่อนที่หญิงสาวสองคนนั้นจะรู้ตัว

 

 

หลงเจี่ยกลับเข้ามาในห้องพร้อมกับซิงหลาน และตรวจดูบาดแผลของอีกฝ่ายทันทีหลังจากเข้ามาในห้องนั่งเล่น “เธอโชคดีนะเนี่ย ถึงมันจะดูรุนแรงแต่แผลของเธอแค่หนังเปิดนิดหน่อย”

 

 

ซิงหลานอึ้งจนพูดไม่ออกกับการตอบโต้อันดุเดือดของหลงเจี่ย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นหลี่ชั่นโดนใครสักคนสั่งสอน

 

 

“คุณสุดยอดไปเลยค่ะ…”

 

 

“ไม่ถึงขนาดนั้นสักหน่อย” หลงเจี่ยหัวเราะขณะที่ช่วยซิงหลานทำแผล “ต่อไปเธอจะได้เห็นมากกว่านี้อีก”

 

 

“ฉัน… ไม่คิดว่าฉันจะสามารถทำได้อย่างคุณเลยค่ะ” ซิงหลานส่งยิ้มเจื่อนๆ มาให้

 

 

“เธอไม่ต้องกลัวนังนั่นไปหรอกนะ จำเอาไว้ว่าตราบใดที่เธอไม่ผิด เราจะช่วยให้เธอได้สิ่งที่เป็นของเธอคืนมา อย่าดูถูกตัวเองหรือกลัวไปเลยนะ จู้ซิงมีเดียอาจจะไม่เก่งเรื่องอื่น แต่ถ้าพูดถึงเรื่องการเอาคืนแล้วเราไม่เคยแพ้ใครเลยล่ะ” หลงเจี่ยพูดปลอบ

 

 

“คุณคือคนที่ให้คำแนะนำฉันระหว่างการประกวดหรือเปล่าคะ”

 

 

หลงเจี่ยส่ายหน้า “แน่นอนว่าไม่ใช่ ยังมีคนที่น่าทึ่งกว่านี้อีกนะ”

 

 

ซิงหลานอยู่ในอาการตกใจ หลงเจี่ยเองก็เป็นคนที่สุดยอดมากแล้ว ยังจะมีคนที่น่าทึ่งกว่านี้อีกหรือ

 

 

“แค่ตั้งใจกับการประกวดของเธอไป จู้ซิงมีเดียจะจัดการทุกอย่างให้เอง” หลงเจี่ยตบบ่าซิงหลานเบาๆ อย่างให้กำลังใจ “ถ้าเธอเจอคนอย่างหลี่ชั่นอีกก็โทรหาฉันได้เลยนะ แต่ฉันไม่คิดว่าเธอจะกล้าพอจะกลับมาแล้วล่ะ”

 

 

“ถ้าอย่างนั้น…ฉันทำงานกับคุณได้ไหมคะ” ซิงหลานรู้สึกว่าหลงเจี่ยสามารถปกป้องเธอได้

 

 

“หลินเฉี่ยนดูแลเธอไม่ดีเหรอ” หลงเจี่ยถามด้วยรอยยิ้ม “ไม่ว่าเธอจะทำงานกับหลินเฉี่ยนหรือไม่ได้ทำงานกับใครเลย จู้ซิงมีเดียก็ไม่เคยมีศิลปินที่แย่รวมถึงไม่มีผู้จัดการที่ไม่มีคุณภาพด้วย”

 

 

หลังจากได้ยินดังนั้น ซิงหลานก็พยักหน้ารับ “ฉันจะตั้งใจทำให้ดีค่ะ”

 

 

“พักผ่อนเถอะ ฉันยังมีธุระต้องไปทำต่องั้นฉันไปก่อนนะ” หลังจากหลงเจี่ยพูดจบ เธอหยิบกระเป๋าและลุกขึ้นออกไป เธอเป็นคนไม่อ้อมค้อมและจริงใจ นั่นเป็นสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ช่วงก่อนแต่งงาน เธอเป็นคนมองโลกในแง่ดีและใช้ชีวิตอย่างอิสระ หากแต่หลังจากแต่งงานเธอก็โตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นและกลายมาเป็นพี่สาวคนโตที่ทำให้คนอื่นเห็นว่าเธอมีประสบการณ์และเชื่อถือได้

 

 

ไม่นานหลินเฉี่ยนก็กลับมาในห้อง เธอรีบเข้าไปขอโทษอีกฝ่ายทันทีที่เธอเห็นแผลของซิงหลานถูกพันไว้เรียบร้อยแล้ว “วันนี้ฉันปกป้องเธอได้ไม่ดีเลย”

 

 

“ไม่หรอกค่ะ เป็นความผิดของฉันเองที่ไม่ได้ติดต่อคุณก่อนหน้านี้ ถ้าคุณมาไม่ทัน หลี่ชั่นอาจจะจากไปทั้งอย่างนั้นแล้ว…”

 

 

“ฉันรู้ว่าเธอต้องคิดว่าฉันไม่เก่งเท่าหลงเจี่ย แต่ฉันจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อช่วยให้เธอชนะการประกวดนี้ ฉันหวังว่าจะไม่ทำให้คุณผิดหวังนะคะ”

 

 

อันที่จริงเป็นเรื่องปกติที่ซิงหลานจะคิดว่าหลงเจี่ยดีกว่าหลินเฉี่ยน

 

 

ทว่าหลังจากเงียบไปชั่วขณะ ซิงหลานก็ตอบกลับมา “ฉันเชื่อใจคุณค่ะ”

 

 

 

 

ระหว่างทางกลับบ้าน หลงเจี่ยโทรรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ถังหนิงรู้ “ตอนนี้หลี่ชั่นรู้แล้วว่าซิงหลานเข้าร่วมการประกวด ระหว่างการแข่งขันต้องมีเรื่องวุ่นเกิดขึ้นแน่ค่ะ มันยากที่จะเลี่ยงได้แล้ว เราจะทำยังไงกันดีคะ”

 

 

“ใครว่าเรื่องวุ่นวายเป็นสิ่งที่แย่กันล่ะ” ถังหนิงเอ่ยถาม “ในเมื่อเธอทำทุกอย่างไปเพื่อทำลายพี่สาวของเธอ สิ่งที่เราต้องทำก็แค่จดจำสิ่งที่เธอทำไว้และให้เธอชดใช้สำหรับทุกๆ อย่างคืนในทีเดียว”

 

 

“เข้าใจแล้วค่ะ แต่ยังไงฉันว่าคุณอาจจะต้องปลอบใจหลินเฉี่ยนสักหน่อยนะคะ ถึงยังไงเธอก็ยังใหม่กับวงการนี้ มีหลายอย่างที่เธอยังไม่รู้ว่าต้องรับมือยังไง”

 

 

“โอเค เธอกลับไปทำงานของเธอเถอะ” ปลายสายตอบกลับ

 

 

ถังหนิงแค่หวังว่าซิงหลานจะเข้มแข็งขึ้น พวกเธอต้องผ่านการถูกคนอื่นกดขี่ไปให้ได้เพื่อไปให้ถึงจุดที่ต้องการ เธอจึงหวังว่าจะได้เห็นซิงหลานตบหน้าทุกคนในสักวันหนึ่ง

 

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

ถังหนิง ผู้กำลังจะก้าวขึ้นไปเป็นนางแบบแนวหน้า แต่เพราะรักจึงสละสิ้นทุกอย่าง ทว่าคืนก่อนวันวิวาห์ที่เธอกำลังจะได้ครองรักดั่งหวังนั่นเอง คู่หมั้นของเธอกลับหนีออกไปกับหญิงอื่น ด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ เธอจึงเดินจ้ำไปหาผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าสำนักงานเขต “ประธานโม่คะ ในเมื่อเจ้าสาวของคุณยังไม่มาและเจ้าบ่าวของฉันก็หนีไปแล้วอย่างนี้… ฉันว่า… เรามาแต่งงานกันเสียเลยดีไหมคะ” … ก่อนแต่งงานเธอเอ่ยว่า “แม้เราจะนอนร่วมเตียงกัน แต่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา” หลังแต่งงานเขาเอ่ยว่า “ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้หรือ”

Options

not work with dark mode
Reset