ตอนนั้นเอง ไป๋หลินหลินเดินทอดน่องออกจากห้องนอนและพูดกับไป๋อวี๋ “พี่จำเป็นต้องทำอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ”
“หุบปากไปเลย! แกไม่มีสิทธิ์มาพูดอะไรทั้งนั้น” ไป๋อวี๋ตวาด
“เจฟอยากจะเป็นพ่อคนมาตั้งนานแล้ว แต่พี่กลับไม่เคยมีลูกให้เขาเพราะเห็นแก่อาชีพของตัวเอง แต่ยังไงตอนนี้มันก็ไม่สำคัญแล้วเพราะเขามีฉัน พี่ก็ไปทำอาชีพของพี่ส่วนฉันจะดูแลเขาเอง” ไป๋หลินหลินกล่าวพลางเอนตัวเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเจฟและแสดงให้เห็นถึงความอาจหาญของเธอ
ไป๋อวี๋จ้องมองไป๋หลินหลินอยู่พักใหญ่ ก่อนที่เธอจะตะโกนออกมาผ่านฟันที่ขบแน่น “นังโสเภณี!”
“เซ็นใบหย่าซะ!” เจฟยื่นใบหย่าใส่หน้าไป๋อวี๋อีกครั้งและบังคับมือของเธอไปยังจุดที่จำเป็นต้องเซ็น
“ไสหัวไปเลยไอ้พวกสำส่อน พวกแกสองคนมันหมาสกปรก พวกแกมันไม่ใช่คน!” ไป๋อวี๋กรีดร้องเสียงดังลั่นพลางฉีกใบหย่าออกเป็นชิ้นๆ และปาปากกาในมือทิ้ง
“ไม่ช้าก็เร็วเธอต้องเซ็นอยู่ดีนั่นแหละ” เจฟมองหน้าไป๋อวี๋อย่างใจเย็นก่อนจะเดินกลับเข้าไปยังห้องนอนพร้อมไป๋หลินหลินในอ้อมแขนต่อหน้าต่อตาไป๋อวี๋
ไป๋อวี๋ขว้างปาสิ่งของใส่ประตูอย่างเกรี้ยวกราด ความเกลียดชังในใจเธอมันพุ่งทะลุขีดจำกัดไปแล้ว
เธอไม่เคยจินตนาการเลยว่าเรื่องราวในละครน้ำเน่าจะเกิดขึ้นในชีวิตจริงของเธอ เมื่อเป็นเรื่องของคนอื่น ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะมองมันเป็นเรื่องตลก แต่พอเกิดขึ้นกับตัวเอง เธอกลับอยากจะฆ่าคนสองคนที่อยู่ในห้องนอนนั้นให้ตายจนใจจะขาด
พวกชั้นต่ำ!
ถ้าพวกมันคิดจะเก็บเด็กไว้ละก็ ฝันไปเถอะ!
เธอรู้จักไป๋หลินหลินดีกว่าใครทั้งนั้น เด็กนั่นยังเด็ก ทำตัวเหลวไหลและชอบเรียกร้องความสนใจ ดังนั้นการทำให้ไป๋หลินหลินแท้งจึงไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร เมื่อคิดเช่นนั้น ไป๋อวี๋หยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมาและโทรหาคนที่คุ้นเคยคนหนึ่ง
…
ไม่นานนัก ไป๋หลินหลินก็ได้รับโทรศัพท์เชิญให้ไปร่วมการออดิชั่น
การออดิชั่น!
ไป๋หลินหลินไม่เคยคาดคิดว่าจะมีใครยังจำเธอได้อีก
ดังนั้นเธอจึงบอกกับเจฟด้วยน้ำเสียงมีความสุข “ที่รัก ฉันจะไปร่วมงานเลี้ยงคืนพรุ่งนี้เพราะผู้กำกับเชิญฉันไปแสดงในหนังของเขา”
ทันทีที่เจฟได้ยินเช่นนั้น เขาก็รีบดุอีกฝ่ายทันที “เธอกำลังท้องอยู่นะ เธอจะไปถ่ายหนังอะไรได้ยังไง”
“ถังหนิงเองก็แสดงละครตอนท้องเหมือนกัน แล้วทำไมฉันจะทำไม่ได้ ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะดูแลลูกของเราอย่างดีเลย ให้ฉันไปเจอผู้กำกับเถอะนะ ถึงมันจะเป็นแค่การพบกันแบบสั้นๆ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ฝันของฉันเป็นจริง” ไป๋หลินหลินพนมมืออ้อนวอนอย่างจริงใจ “ฉันสัญญา ฉันจะไม่รับงานนี้ ฉันแค่จะไปงานเลี้ยงเท่านั้น แค่ได้รู้ว่ายังมีใครจำได้ก็พอแล้ว”
“หลังจากเราย้ายไปอเมริกาแล้ว สิ่งเดียวที่เธอต้องทำคือคลอดลูกเท่านั้น หลังจากนั้นฉันจะหาอะไรให้เธอแสดงแล้วทำให้เธอดังเอง ทำไมเธอต้องมาใจร้อนตอนนี้ด้วย”
ถึงเจฟจะชอบร่างกายอันอ่อนเยาว์ของไป๋หลินหลิน แต่บ่อยครั้งที่ความคิดของเธอทำให้เจฟต้องทึ้งผมตัวเองด้วยความหงุดหงิด
“ที่รัก… ให้ฉันไปเถอะนะ…”
“ตามใจ” เจฟถอดใจพลางเปิดประตูออกไปจากห้อง แต่กระนั้นไป๋หลินหลินไม่รู้เลยว่าเธอได้ตกหลุมพรางของไป๋อวี๋เข้าให้แล้ว
ดังนั้นบ่ายวันต่อมา ขณะที่ไป๋หลินหลินกำลังจะเดินทางออกจากบ้าน เธอจงใจพูดโอ้อวดต่อหน้าไป๋อวี๋ “ตอนนี้ฉันว่าคงไม่มีใครอยากทำงานกับพี่สาวของฉันหรอกจริงไหม เพราะภาพลักษณ์อันสมบูรณ์แบบมันถูกทำลายไปแล้วนี่นา
“แต่ฉันจะทำยังไงดีล่ะพี่ ผู้กำกับฉินเชิญฉันไปออดิชั่นด้วยล่ะ ถึงจะเป็นแค่บทเล็กๆ แต่อย่างน้อยฉันก็ยังมีโอกาสห้าสิบห้าสิบในขณะที่พี่ไม่มีเลยนี่นะ” ไป๋หลินหลินเดินวนไปมาต่อหน้าไป๋อวี๋ขณะที่เธอมองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า “โทษทีนะพี่ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะแยกทุกอย่างมาจากพี่ แต่ฉันชอบพี่เขยมากเลย ฉันว่าพี่ควรจะปล่อยวางซะนะ
“ไม่งั้น… พี่จะต้องน่าสมเพชมากกว่าตอนนี้อีก ฉันรับประกันได้เลย”
พูดจบ ไป๋หลินหลินก็เดินทางออกจากบ้านไป ขณะเดียวกันสายตาของไป๋อวี๋มองตามไป๋หลินหลินไปอย่างมีนัย…
เจฟไม่มีวันหยุดไป๋หลินหลินได้ เพราะถ้าเขาทำเช่นนั้น ทั้งสองจะต้องทะเลาะกัน นี่คือสิ่งหนึ่งที่เขาไม่มีวันเข้าใจผู้หญิง แม้ไป๋หลินหลินจะกำลังตั้งท้อง เธอก็ยังอยากจะไปร่วมงานเลี้ยง
ผู้กำกับฉินชื่นชมไป๋อวี๋ ดังนั้นเขาจึงทำสิ่งนี้เพื่อเธอและเชิญไป๋หลินหลิน ซึ่งในงานนอกจากเขาแล้วยังมีทีมงานอีกจำนวนหนึ่งด้วย
ไป๋หลินหลินรู้สึกราวกับตัวเองมีคุณค่าและคิดจริงๆ ว่ามีคนบางคนต้องการเธอไปถ่ายทำในหนังของพวกเขา ดังนั้นต่อให้พวกเขาบังคับให้เธอดื่ม เธอก็รับทุกแก้วที่ยื่นให้เธอ นั่นเป็นเพราะเธอไม่ต้องการเปิดเผยเรื่องที่เธอกำลังตั้งท้อง หากพวกเขารู้ ไม่เพียงแต่เธอจะเสียโอกาสในการออดิชั่น แต่พวกเขาจะหันหลังให้และเขี่ยเธอทิ้งในทันที
ด้วยเหตุนี้ ในคืนนี้ไป๋หลินหลินจึงดึ่มเหล้าไปจำนสนมากและกลับถึงบ้านพร้อมกลิ่นแอลกอฮอล์เหม็นคลุ้ง
เจฟเดือดดาลขึ้นมาในทันทีขณะที่เขาคว้าข้อมือของไป๋หลินหลินและถาม “เธอไปกินเหล้ามางั้นเหรอ”
“ฉันดื่มไปนิดเดียวเอง…” ไป๋หลินหลินพูดพึมพำด้วยน้ำเสียงรำคาญ แต่ก่อนที่เธอจะรู้ตัว เจฟก็ตบเข้าที่ใบหน้าของเธอ
“ให้ตายสิยัยบ้าเอ๊ย เธอท้องแล้วยังไปกินเหล้าอีกเนี่ยนะ คิดไม่เป็นหรือยังไง”
“ฉันกินเหล้าแล้วมันยังไง เด็กก็ยังปลอดภัยดีไม่ใช่เหรอ”
เจฟหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา เขาพลันตระหนักได้ว่าทั้งสองพี่น้องไป๋ไม่ว่าจะเป็นคนพี่หรือคนน้องก็ล้วนแต่ไม่ธรรมดาทั้งนั้น
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะไม่สนใจไป๋หลินหลิน แต่หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ไป๋หลินหลินพลันกุมที่ท้องของเธอและเริ่มร้องออกมา “เจฟ เจฟ… ฉันเจ็บท้อง…”
เจฟก้มลงมองไป๋หลินหลินและตระหนักได้ว่าเธอกำลังนั่งอยู่กลางกองเลือด
จากที่เห็น เด็กได้จากไปแล้ว
เด็กน้อยยังไม่ทันได้เติบโตเป็นรูปร่างแล้วยัยสารเลวนี่กลับออกไปดื่ม…
เธอสมควรได้รับความเจ็บปวดนี้แล้วไม่ใช่หรือ
“เจฟ ช่วยฉันด้วย… ฉันเจ็บ”
กระนั้นเจฟกลับไม่ทำอะไรพลางปัดมือไปมาพร้อมกล่าว “ช่วยเธองั้นเหรอ เธอจะไปโทษใครได้ที่ดันออกไปดื่มทั้งที่ตัวเองกำลังท้องอยู่ล่ะ นังสารเลวเอ๊ย เธอมันก็เหมือนกับพี่สาวของเธอ พวกเธอมันอีตัว ในเมื่อไม่ฟังที่ฉันพูด ฉันก็จะไม่ช่วยอะไรเธอทั้งนั้น ดูแลตัวเองไปก็แล้วกัน!”
หลังพูดจบเจฟเดินออกจากห้อง ปล่อยให้ไป๋หลินหลินนั่งกองอยู่กับพื้นและร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด
จากนั้นไป๋อวี๋ปรากฏตัวที่ประตูทางเข้า ทันทีที่ไป๋อวี๋เห็นฉากตรงหน้า รอยยิ้มก็เผยขึ้นบนใบหน้าของเธอ
“พี่… ช่วยด้วย ช่วยฉันที”
“แน่นอน ฉันจะช่วยเธอ แต่ก่อนเธอฉันต้องการให้เธอได้รับรู้รสชาติของความเจ็บปวดนี้เสียก่อน…” ไป๋อวี๋ยืนกอดอกเงียบอยู่ที่ประตูทางเข้าจนกระทั่งไป๋หลินหลินหมดสติไปเพราะความเจ็บปวด เมื่อนั้นเธอจึงโทรเรียกรถพยาบาล
หลังจากนั้น ไป๋หลินหลินถูกพาตัวส่งโรงพยาบาล แน่นอนว่าไม่สามารถช่วยชีวิตเด็กเอาไว้ได้ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือเธอกลับดึงดูดนักข่าวจำนวนมหาศาล
คราวนี้ไป๋อวี๋ไม่เลี่ยงที่จะตอบคำถามอีกแล้ว เธอเลือกที่จะตอบนักข่าวอย่างตรงไปตรงมา
เธอไม่เก็บทุกอย่างมาคิดและก้าวย่างอย่างระวังเหมือนดั่งในอดีต คราวนี้เธอตัดสินใจที่จะเป็นตัวของตัวเอง!