แม้จะไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ว่าแอนนี่เป็นคนต้นเรื่องของข่าวฉาวในครั้งนี้ แต่ทุกคนต่างรู้ดีโดยไม่มีข้อสงสัยว่าเธอเป็นคนทำ
ถังหนิงขอให้หลงเจี่ยช่วยสืบเรื่องนี้โดยใช้เส้นสายในช่องทางเล็กๆ น้อยๆ ผลที่ได้คือหลงเจี่ยกลับมาพร้อมข้อมูลว่าแอนนี่ได้มีความสัมพันธ์อันไม่เหมาะสมกับบอสของเอเจนซี่เจ้าใหม่ในวงการบันเทิง ที่จริงทั้งสองถูกพบว่าจองโรงแรมอยู่ด้วยกัน!
“ฉันถามเพื่อนให้ลองหาข้อมูลเกี่ยวกับประธานหวังคนนั้นแล้วค่ะ ขอเวลาฉันคืนหนึ่งแล้วฉันจะรีบบอก” หลงเจี่ยแจ้งความคืบหน้า
“เวลามีเศรษฐีหน้าใหม่ตัดสินใจเปิดเอเจนซี่ คนพวกนั้นมีเจตนาแค่อย่างเดียวเท่านั้นแหละ คือพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้นอนกับพวกนักแสดงหน้าใหม่ที่กระหายชื่อเสียงให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ พวกเขาได้ทั้งเรื่องอย่างว่าและผลประโยชน์ รู้นะว่าฉันหมายถึงอะไร” ถังหนิงกล่าวอย่างมีนัยแอบแฝง “จัดการกับคนพวกนั้นอย่างเงียบๆ แล้วเธอจะได้หลักฐานที่มีประโยชน์มาไว้ในมือ”
“เข้าใจแล้วค่ะ” หลงเจี่ยตอบด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นที่ยากจะปิดบัง เธอไม่ได้ใช้ทักษะของเธอในวงการนี้มาพักใหญ่แล้ว
เมื่อถึงคราวต้องจัดการกับคนอย่างประธานหวัง ถังหนิงไม่จำเป็นต้องปรากฏตัว แต่เธอสามารถพบกับผู้กำกับของ ‘The Savage Wars’ ได้แน่นอน
“เธอช่วยนัดหมายฉันกับผู้กำกับอเมริกันคนนั้นหน่อยได้ไหม ฉันอยากจะถามอะไรเขาสักหน่อย”
“ไม่มีปัญหา” หลงเจี่ยตอบ
หลังจากผ่านเรื่องราวทั้งดีและร้ายรวมกับถังหนิงมาหลายต่อหลายครั้ง ในที่สุดเธอก็คุ้นเคยกับวิธีการของถังหนิง เมื่อไหร่ก็ตามที่ถังหนิงปรากฏตัว ฝ่ายตรงข้ามก็ได้แค่ภาวนาขอให้โชคคุ้มครองเท่านั้น
…
อันจื่อเฮ่าไม่มีทีมงานที่เขาทำงานด้วย ดังนั้นข่าวที่ถูกปล่อยออกมาในครั้งนี้จึงเป็นผลเสียกับเขาเท่านั้น แต่เขาก็ไม่มีใครช่วยสื่อสารกับทุกคนให้
ในส่วนของผู้กำกับเฉินเฟิงนั้น อันจื่อเฮ่าได้พยายามอธิบายทุกอย่างกับอีกฝ่ายแล้ว แต่ผู้กำกับได้บอกกับเขาอย่างชัดเจนว่าหากเขายังไม่สามารถจัดการกับข่าวฉาวนี้ได้ เขาก็ควรถอดใจออกจากฐานะผู้ช่วยผู้กำกับ อันจื่อเฮ่าเป็นชายที่มีเกียรติ เขาจึงให้คำมั่นกับผู้กำกับว่าเขาจะทำให้อีกฝ่ายพอใจกับผลที่ออกมา
ครั้นเขาพิจารณาถึงข่าวฉาวที่เกิดขึ้น ก็ต้องยอมรับว่าเขาไม่ระวังเพียงพอ ในเวลาแบบนี้ เขาควรรู้ดีกว่าใครว่าการก้าวพลาดเพียงครั้งเดียวสามารถทำลายทุกสิ่งทุกอย่างได้ แต่กระนั้นเขากลับโอ๋เฉินซิงเยียนและทำให้เกิดความพลาดครั้งใหญ่
เมื่อคิดถึงเฉินซิงเยียน เขาจำได้ว่าเขาไม่ได้อธิบายสถานการณ์ให้อีกฝ่ายฟังอย่างชัดเจนในเช้าวันนั้น ดูจากอารมณ์ของเธอแล้ว วันนี้เธอจะสร้างปัญหาอะไรอีกกันนะ
ด้วยความกังวล อันจื่อเฮ่าจึงตัดสินใจยังไม่ตรงกลับบ้านแต่เลือกที่จะไปยังอะพาร์ตเมนต์ของเฉินซิงเยียน แต่ทันทีที่เขาก้าวออกจากลิฟต์ ก็สังเกตเห็นว่าประตูด้านหน้าไม่ได้ล็อก
อันจื่อเฮ่ารีบเปิดประตูและเข้าไปภายในทันที ภายในห้อง เขาพบเฉินซิงเยียนนอนกระตุกด้วยความโกรธอยู่กับพื้นและปกคลุมไปด้วยของเหลวกลิ่นเหม็น
อันจื่อเฮ่าตกใจ รีบวิ่งเข้าไปช่วยอีกฝ่ายให้ลุกจากพื้น แต่เฉินซิงเยียนพลันตะโกนออกมาอย่างฉับพลัน “ฉันจะฆ่าแอนนี่!”
“เกิดอะไรขึ้น” อันจื่อเฮ่าถามขณะที่เขาสังเกตเห็นบาดแผลที่ปรากฏอย่างชัดเจนบริเวณใบหน้าและลำคอของอีกฝ่าย
เฉินซิงเยียนสะบัดตัวเองออกจากอันจื่อเฮ่าและผลักเขาออกไป “ไม่ใช่เรื่องของนาย! บอกฉันมาว่าแอนนี่อยู่ที่ไหน!”
คำตอบสำหรับคำถามของอันจื่อเฮ่านั้นชัดเจน เขาพอเดาได้คร่าวๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างที่เขาไม่อยู่
การได้เห็นเฉินซิงเยียนที่พร้อมจะทำลายทุกอย่างที่ขวางทาง อันจื่อเฮ่านึกสงสัยว่าความเจ็บปวดแบบไหนที่ทำให้เธอมาถึงจุดนี้ได้
เมื่อเขามองดูที่พื้น จึงตระหนักได้ว่าของเหลวกลิ่นเหม็นพวกนั้นคือปัสสาวะ…
อันจื่อเฮ่าไม่อาจจินตนาการได้ว่าแอนนี่ทำอะไรลงไปบ้าง
“บอกฉันมาว่ามันอยู่ไหน!”
“สงบสติก่อน โกรธไปก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้ มีแต่จะสร้างปัญหาให้เธอมากขึ้น” อันจื่อเฮ่ากอดเฉินซิงเยียนแน่น
“ฉันไม่สน!”
“ฉันสน!” อันจื่อเฮ่าตะโกน “ตอนนี้อดทนไว้ก่อน ฉันจะทำให้แอนนี่ต้องชดใช้กับสิ่งที่ทำลงไปเป็นร้อยเท่า ไม่สิ ต้องพันเท่า!”
ดวงตาเฉินซิงเยียนแดงก่ำ เธอต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการอดทนกับความเจ็บปวดและความโกรธที่เธอกำลังรู้สึก
อันจื่อเฮ่าใช้โอกาสนี้อุ้มเฉินซิงเยียนไว้ในอ้อมแขนและเดินตรงไปยังห้องอาบน้ำ จากนั้นเขาก็วางเธอลงในอ่างอาบน้ำและล้างตัวอีกฝ่ายด้วยน้ำอุ่น
“เชื่อฉันนะ เชื่อฉัน!”
เมื่อได้ยินอันจื่อเฮ่าพูดย้ำคำสองคำนี้ เฉินซิงเยียนก็พลันเงยหน้ามองอีกฝ่ายราวกับเด็กน้อย อันจื่อเฮ่าได้เห็นเช่นนั้นเขายิ่งรู้สึกผิดยิ่งกว่าเดิม “ฉันไม่ควรปล่อยให้เธออยู่ที่นี่ด้วยตัวเองเลย จากนี้ไปฉันจะพาเธอไปด้วยทุกที ฉันจะไม่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียวอีกแล้ว”
เฉินซิงเยียนได้วางเจตนาที่จะล้างแค้นเดี๋ยวนั้นลงไว้ก่อนแต่กำปั้นของเธอยังคงกำแน่น “ฉันจะทำลายมัน ฉันจะทำ!”
เมื่อมองจากมุมนี้ เฉินซิงเยียนดูคล้ายกับถังหนิงเป็นอย่างมาก เธอไม่เคยทำตัวอ่อนแอต่อหน้าคนอื่น เผยให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างเธอกับผู้หญิงคนอื่นๆ อย่างชัดเจน
แต่กระนั้นความแตกต่างระหว่างเฉินซิงเยียนกับถังหนิงนั้น คือความจริงที่ว่ายิ่งถังหนิงเงียบเท่าไหร่ ก็ยิ่งอันตรายมากเท่านั้น เพราะยิ่งเธอเงียบ เธอก็ยิ่งคิดคำนวณสิ่งที่เธอจะทำกับศัตรู ในขณะที่เฉินซิงเยียนนั้นมุทะลุกว่ามาก
หากแอนนี่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้ ไม่ต้องสงสัยว่าเฉินซิงเยียนจะลงมือฉีกอีกฝ่ายเป็นชิ้นๆ โดยไม่ลังเล
อันจื่อเฮ่ารู้สึกปวดใจ เหตุการณ์ในครั้งนี้ย้ำเตือนถึงความที่เขาไม่อาจปกป้องอวิ๋นซินได้ในอดีต ดูเหมือนเขามีแต่จะทำให้คนที่อยู่รอบกายต้องเจ็บปวด
“ไปกันเถอะ ฉันจะพาเธอไปพัก” หลังช่วยเฉินซิงเยียนล้างตัว อันจื่อเฮ่าก็อุ้มเธอกลับไปยังห้องนอน “หลับให้สบายแล้วสงบสติตัวเองนะ”
“ไปทำธุระของนายเถอะ ฉันจะไม่เพิ่มงานอะไรให้นายอีก” เฉินซิงเยียนกล่าวขณะที่เธอนั่งอยู่บนเตียง
อันจื่อเฮ่ากำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่เขากลับถูกขัดด้วยสายเรียกเข้าจากไป๋ลี่หวา อันจื่อเฮ่ารีบกดรับสายทันทีและส่งให้เฉินซิงเยียน
เฉินซิงเยียนก้มหน้าและร้องออกมา “แม่…”
คำพูดง่ายๆ นี้กลับทำให้หัวใจของทั้งไป๋ลี่หวาและอันจื่อเฮ่าแตกสลาย
“เอาโทรศัพท์ให้อันจื่อเฮ่าซิ” ไป๋ลี่หวากล่าวด้วยความโกรธ
อันจื่อเฮ่าได้ยินก็รีบคว้าโทรศัพท์จากมือของเฉินซิงเยียน เขาพร้อมที่จะถูกต่อว่า
“คุณควรจะออกมาพูดแก้ต่างให้ลูกสาวของป้า ไม่งั้นป้าจะไม่เอาเธอไว้”
“ป้าไป๋ครับ ไม่ต้องกังวล ไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไรก็ตาม ผมจะช่วยทำให้เสี่ยวซิงกลับมาเป็นปกติให้ได้”
“ทำให้ได้อย่างที่พูดเถอะ” ไป๋ลี่หวาขู่ “ถึงบ้านเราจะไม่มีผู้ชายเลยสักคน ก็ไม่ได้หมายความว่าใครจะมารังแกพวกเราได้ง่ายๆ ถ้าคุณปกป้องลูกสาวป้าไม่ได้ ก็ส่งลูกสาวป้ากลับมา ป้าจัดการเรื่องนี้เองได้”
“เชื่อผมเถอะครับป้าไป๋”
“ไปปลอบลูกสาวป้าแทนเถอะ”
ไป๋ลี่หวากดวางโทรศัพท์หลังพูดจบ แน่นอนว่าถังหนิงยิ้มเมื่อเธอได้ยินบทสนทนาทั้งหมดจากห้องนั่งเล่น
แม่ของโม่ถิงควรจะเป็นแบบนี้สิ นี่คือความทรงอำนาจอย่างที่แม่ของโม่ถิงควรจะมี
เธอไม่มีอะไรเหมือนกับฮว่าเหวินเฟิ่งที่ไร้ยางอาย
แน่นอนว่าไม่มีใครสามารถปั่นหัวคนในตระกูลโม่ได้ ในเมื่อมีคนกล้าทำ คนพวกนั้นก็ต้องเตรียมรับผลที่จะตามมา
…
หลังวางโทรศัพท์ อันจื่อเฮ่าก็เอื้อมมือไปลูบหัวเฉินซิงเยียนอย่างอ่อนโยน “เป็นความผิดของฉันเองที่ไม่ปกป้องเธอให้ดี”
“ทำไมนายต้องแอบทำอะไรให้ฉันลับหลังตั้งเยอะแยะ” เฉินซิงเยียนถามด้วยความสับสน “ทั้งบท ทั้งเครื่องเล่นเกม แล้วก็เรื่องต่างๆ อีกมากมาย ทำไมนายถึงทำแบบนั้น”