กับดักรักในรอยแค้น – ตอนที่ 570 หญิงผู้โชคดี / ตอนที่ 571 ยกเลิกความสัมพันธ์

    ตอนที่ 570 หญิงผู้โชคดี

 

 

           ถ้าหากตามปกติแล้ว ฉู่เจียเสวียนอาจเดินเข้าไปดู แต่ว่าวันนี้เธอไม่มีอารมณ์จริงๆ จึงก้าวไปยังออฟฟิศโดยตรง

 

 

           ได้ยินเสียงของพนักงานที่กำลังหารือกันดังมาจากด้านหลังเลือนลาง

 

 

           “ว้าว ผู้หญิงคนนี้โชคดีจริงๆ เลยนะ”

 

 

           “นั่นสิ ได้เป็นสะใภ้บ้านเผยเป็นเรื่องที่มีความสุขขนาดไหน”

 

 

           “ใช่แล้วๆ วันๆ ไม่ต้องทำงานแถมได้ใช้เงินด้วย”

 

 

           “น่าอิจาผู้หญิงวาสนาดีพวกนี้จริงๆ…”

 

 

“……”

 

 

           ได้ยินเสียงด้านหลังตัวเอง ฉู่เจียเสวียนยิ้มขมขื่น ลูกสะใภ้บ้านเผยนั้นไม่น่าเป็นเอาเสียเลย ตอนนั้นเธอแต่งงานเข้าบ้านเผยสามปี เคยได้รับการปฏิบัติที่ดีเมื่อไรกัน

 

 

           แต่ว่าในเวลานี้ บางทีผู้หญิงคนนี้อาจจะดวงดีกว่าเธอ มุมปากยกขึ้นยิ้มเยาะตัวเอง เดินเข้าไปในออฟฟิศ

 

 

           ทันทีที่เข้าออฟฟิศ ถังถังเห็นเธอแล้วก็พุ่งเข้ามา พูดเจื้อยแจ้ว “จุ๊ๆ เธอเห็นพาดหัวข่าววันนี้แล้วยัง”

 

 

           ฉู่เจียเสวียนพยักหน้า แต่ไมได้ตอบอะไรมาก เดินตรงไปยังที่นั่ง เธอไม่ต้องการที่จะสนใจเกี่ยวกับเรื่องของเผยหนานเจวี๋ยและผู้หญิงคนอื่น

 

 

           ถังถังเดินตามหลังเธอ มองดูสีหน้าไม่สู้ดีของเธอ “เธอเป็นอะไรไป ฉันเห็นสีหน้าเธอไม่ดีเลยนะ”

 

 

           “สงสัยเมื่อคืนนอนไม่เต็มอิ่มมั้ง” ฉู่เจียเสวียนเงยหน้า ยิ้มเอ่ย

 

 

           “คิดอะไรน่ะ คิดจนนอนไม่หลับเลยเหรอ” สำรวจสีหน้าของเธอ ความคิดร้อยพันวนเวียนอยู่หัวใจของถังถัง

 

 

           “มีอะไรน่าคิดกัน ก็แค่คุณภาพการนอนฉันมันไม่ดี เธอน่ะ ทำงานเถอะ เดี๋ยวฉันต้องไปที่บริษัทกง” เธอมีแบบร่างการออกแบบที่ต้องส่งไปยังบริษัทกง

 

 

           ตั้งแต่กงจวิ้นฉือกลับมาจากต่างประเทศ เธอก็ไม่ค่อยไปบริษัทแล้ว  

 

 

           หนึ่งเป็นเพราะร้านชุดแต่งงานมีงานยุ่ง ข้อสอง เธอไม่ต้องการเจอหน้ากงจวิ้นฉือบ่อยๆ สองข้อนี้ล้วนอยู่ในจิตใต้สำนึก เธอก็บอกไม่ถูกว่าเป็นเพราะอะไร

 

 

           ทั้งๆ ที่พวกเขาเป็นแฟนกัน แต่ว่าน่าประหลาด จิตใต้สำนึกของฉู่เจียเสวียนต้องการที่จะอยู่ห่างจากกงจวิ้นฉือ

 

 

           ถังถังพยักหน้า พูดอย่างไม่ใส่ใจ “อ่อ ไปเถอะ ไม่ต้องรีบกลับ”

 

 

           ฉู่เจียเสวียนหยิบต้นฉบับที่ออกแบบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตรวจอย่างละเอียดรอบหนึ่ง หลังจากพบว่าไม่มีปัญหาอะไรก็ใส่ในกระเป๋าเอกสาร

 

 

           ที่ห้องทำงานของท่านประธาน กลุ่มบริษัทเผย

 

 

           “ก๊อกๆ…” เสียงเคาะประตูที่ห้องทำงานของเผยหนานเจวี๋ยดังขึ้น

 

 

           “เข้ามา” เผยหนานเจวี๋ยเงยหน้า ละสายตาออกจากเอกสาร เห็นผู้ช่วยกำลังอุ้มเอกสารกองหนึ่งอยู่ในมือ

 

 

           “ประธานเผย ตอนนี้ผมได้จัดการตามที่คุณสั่งแล้วครับ” ผู้ช่วยเอ่ยด้วยความนอบน้อม สีหน้าขึงขัง

 

 

           “จัดการจนสะอาดหมดจดแล้วเหรอ” เอ่ยปากเย็นชา

 

 

           “ไม่เหลือสักแผ่นครับ” ผู้ช่วยทำงานอย่างน่าเชื่อถือเสมอ วิธีการของเขาโหดร้าย และประสิทธิภาพการทำงานก็สูงมาก

 

 

           “นี่คือเอกสารที่พวกเขาเซ็นครับ” ขณะที่ผู้ช่วยพูดเขาก็วางเอกสารไว้บนโต๊ะ

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยปฏิบัติตามกฎระเบียบเสมอ ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็จะให้พวกเขาเซ็นสัญญาเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต

 

 

           “เอาใส่ตู้เซฟ” เผยหนานเจวี๋ยมองอย่างเย็นชา ไม่ได้ตั้งใจจะอ่านเอกสารเหล่านั้น

 

 

           “หาเจอแล้วยังว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวลือ” ดวงตาของเผยหนานเจวี๋ยเย็นชา ระยะหลังนี้เมือง A ดูเหมือนไม่ค่อยสงบ มีคนกล้าเอาเขามาเป็นจุดสนใจ

 

 

           “ตอนนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด” เขาส่งคนจำนวนมากเพื่อติดตามเรื่องนี้ แต่ไม่มีความคืบหน้าอะไร

 

 

           “หาต่อไป จะต้องหาจนกระทั่งน้ำลดตอผุด เอาตัวการออกมาให้ได้” เผยหนานเจวี๋ยโมโหแล้วจริงๆ

 

 

           มีคนกล้าเล่นอยู่บนหัวของเขา เขาก็ควรคิดถึงผลที่จะตามมา

 

 

           นิ้วของเผยหนานเจวี๋ยเคาะอยู่บนโต๊ะแผ่วเบา “คุณออกไปก่อนเถอะ”

 

 

           “ครับ”

 

 

           มองดูเงาของผู้ช่วยที่ไกลออกไป มุมปากของเผยหนานเจวี๋ยยกยิ้มเย็นชา

 

 

 

 

        ตอนที่ 571 ยกเลิกความสัมพันธ์

 

 

           เขาก้มศีรษะลงและจัดการกับเอกสารต่อไป หลังจากจัดการกับเรื่องเร่งด่วนที่อยู่ในมือเสร็จแล้ว เขาต้องหาโอกาสอธิบายให้ฉู่เจียเสวียนเข้าใจอย่างชัดเจน

 

 

           ตอนกลางคืน เผยหนานเจวี๋ยมีมื้ออาหารค่ำต้องเข้าร่วม ถ้าหากในสถานการณ์ปกติแล้วเขาจะไม่ไป แต่ว่าเขาไม่ต้องการกลับไปเจอกับหลี่เซียนเซียน ดังนั้นจึงไปร่วมงานแล้ว

 

 

           ร่างกายของเขายังไม่หายดี ที่โต๊ะอาหาร ค่ำเขากำลังดื่มไวน์แก้วแล้วแก้วเล่า จนในที่สุดเขาก็ดื่มจนเวียนหัว

 

 

           เมื่อผู้ช่วยพาเขากลับไปที่วิลล่าซีเฉียว ซูหรานก็เข้ามารับเขาอย่างรวดเร็ว

 

 

           เขาช่วยประคองเผยหนานเจวี๋ยลงจากรถ ตอนนี้เผยหนานเจวี๋ยเมาจนไม่เป็นผู้เป็นคนแล้ว

 

 

           “ท่านประธาน ร่างกายของคุณยังไม่หายดี ไปดื่มได้ยังไงครับ” ซูหรานพูดอย่างร้อนใจ น้ำเสียงเจือปนการตำหนิ

 

 

           “ไม่เป็นไร แหวะ…” ก่อนที่เผยหนานเจวี๋ยจะพูดจบเขาก็อาเจียนออกมาอย่างหมดสภาพ

 

 

           หลี่เซียนเซียนรีบออกมา เป็นห่วงสภาพร่างกายของเผยหนานเจวี๋ย

 

 

           “ส่งเขาไปโรงพยาบาลเถอะ”

 

 

           “ไม่ต้อง ผมมีวิธีทำให้ท่านประธานสร่างเมา” เผยหนานเจวี๋ยไม่ใช่เรื่องใหญ่ ซูหรานเองก็เป็นหมอ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะส่งเผยหนานเจวี๋ยไปที่โรงพยาบาล

 

 

           พวกเขาช่วยกันประคองเผยหนานเจวี๋ยเข้าไปในบ้าน มองดูเผยหนานเจวี๋ยที่เมาจนหน้าแดง ซูหรานสบตากับหลี่เซียนเซียน พวกเขาต่างหายใจหอบ

 

 

           กลางคืนยิ่งล้ำลึก ดวงดาวส่องสว่างวูบวาบอยู่บนท้องฟ้า กลางคืนของฤดูหนาวนั้นมืดมิดกว่ากลางคืนของฤดูร้อน

 

 

           เมื่อเผยหนานเจวี๋ยหลับไป ก็หลับจนถึงเช้าวันต่อมาแล้ว

 

 

           เขาลืมตาขึ้นด้วยอาการปวดหัว เห็นซูหรานยืนอยู่ข้างๆ เขา

 

 

           “ท่านประธาน ตื่นแล้วเหรอครับ”

 

 

           “อืม” เผยหนานเจวี๋ยตอบรับเสียงเบา จากนั้นก็เห็นหลี่เซียนเซียน อยู่ถัดจากซูหราน

 

 

           ดูเหมือนว่าสมรรถภาพทางกายของเขาแย่ลงมาก แม้แต่ความสามารถในการดื่มไวน์ก็แย่ลงมาก เมื่อก่อนเขาเคยดื่มเป็นพันแก้วโดยไม่เมา

 

 

           ยื่นมือลูบคลำบริเวณหน้าอก เผยหนานเจวี๋ยพยายามลุกนั่งด้วยความยากลำบากเล็กน้อย

 

 

           หลี่เซียนเซียนเห็นแล้ว เอื้อมมือต้องการจะประคองเขา แต่ว่าเขากลับเบี่ยงหนี

 

 

           “หลี่เซียนเซียน” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปากเย็นชา

 

 

           “หืม”

 

 

           “ต่อไปวิลล่าหลังนี้เป็นของคุณแล้ว” เสียงของเผยหนานเจวี๋ยเหนื่อยล้าเล็กน้อย

 

 

           คำพูดของเผยหนานเจวี๋ยเป็นเหมือนระเบิด ทำให้หลี่เซียนเซียนมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีในใจ

 

 

           เธอไม่รีบร้อนที่จะตอบ จากนั้นฉันก็ได้ยินเสียงของเผยหนานเจวี๋ยดังขึ้นอีกครั้ง “ทั้งหมดของที่นี่เป็นของคุณ”

 

 

           “หมายความว่าไง” หลี่เซียนเซียนเอ่ยปากอย่างเขินอาย

 

 

           “ต่อไปที่นี่ก็จะเป็นบ้านของคุณ ส่วนผมก็จะกลับบ้านของผม” เผยหนานเจวี๋ยพูดอย่างเด็ดขาด

 

 

           เขาไม่ต้องการให้คนอื่นเข้าใจความสัมพันธ์ของเขากับเธอแบบผิดๆ ยิ่งไม่ต้องการให้ฉู่เจียเสวียนเข้าใจผิด หากเขาต้องการอยู่กับฉู่เจียเสวียน เขาต้องแก้ไขเรื่องของหลี่เซียนเซียนก่อน

 

 

           สีเลือดบนใบหน้าของหลี่เซียนเซียนจางหายไปในทันที เขาต้องตัดขาดจากเธองั้นหรือ

 

 

           “ไม่นะ ที่นี่คือบ้านของเรา” หลี่เซียนเซียนยื่นแขนออกมาดึงแขนของเผยหนานเจวี๋ย น้ำตาปรากฎอยู่ในดวงตาของเธอ

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยดึงแขนออกจากมือของหลี่เซียนเซียน เรื่องที่เหลือยกให้ซูหรานจัดการก็พอแล้ว

 

 

           สายตาที่คมกริบของเขามองไปที่หลี่เซียนเซียนผู้ซึ่งต้องการจะก้าวเข้ามาใกล้กว่านี้ หลี่เซียนเซียนกลัวเกินกว่าจะก้าวไปข้างหน้า

 

 

           เขาลงจากเตียง ตรงไปที่ตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อผ้าออกมาแล้วเปลี่ยนทันที

 

 

           หลี่เซียนเซียนพยายามที่จะออกมาข้างหน้าเพื่อช่วยเหลือหลายครั้ง แต่ดวงตาเลือดเย็นของเขาทำให้เธอกลัว

 

 

           เขาไม่ต้องการให้เรื่องราวเลยเถิดไปมากกว่านี้ ความสัมพันธ์ของเขากับหลี่เซียนเซียนถูกทำให้กลายเป็นเรื่องโกลาหล เขาจำเป็นต้องขีดเส้นให้กับหลี่เซียนเซียน

 

 

           เมื่อเขากลับมาคืนดีกับฉู่เจียเสวียนแล้ว เขาจะให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลแก่เธอ

กับดักรักในรอยแค้น

กับดักรักในรอยแค้น

ฉู่เจียเสวียนตกหลุมรักเผยหนานเจวี๋ยตั้งแต่แรกพบ แต่ก็เพียงชื่นชมเขาจากที่ไกลๆ เท่านั้น ด้วยรู้ดีว่าคนที่เขารักอย่างสุดหัวใจคือ ฉู่อีอี ผู้เป็นน้องสาว ทว่าเมื่อสามปีก่อนฉู่อีอีกลับมาขอให้เธอช่วยปลอมแปลงการตาย และเข้าพิธีแต่งงานกับเผยหนานเจวี๋ยแทนตัวเอง จนคนอื่นพากันคิดว่าเธอจงใจ ‘ฆ่าน้องสาว’ เพื่อแย่งเขามาครอบครอง! ถึงอย่างนั้น…เธอก็ยังคิดว่านี่เป็นโอกาสได้อยู่ข้างกายเขา และดูแลเขาอย่างเปิดเผยในฐานะที่ ‘ฉู่อีอีไว้วางใจ’ ทว่าทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เธอคิด เผยหนานเจี๋ยเอาแต่โทษเธอและทำร้ายจิตใจเธอ จนสร้างรอยแผลในหัวใจของเธออย่างสุดประมาณ…

Options

not work with dark mode
Reset