ตอนที่ 564 ไม่ใช่ว่าเธอยังคงรักเขาหรอกนะ
เขายังไม่ทันคิดว่าจะอธิบายฉู่เจียเสวียนเรื่องเขากับผู้หญิงคนนั้นอย่างไรดี ผู้สื่อข่าวเหล่านั้นได้รับแจ้งอย่างดี เขากลับประเทศอย่างลับๆ ขนาดนี้ ก็ยังถูกพวกเขาแอบถ่ายจนได้
“ข่าวอะไร” ฉู่เจียเสวียนทำเป็นไขสือ ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงไม่ยอมรับ
“ไม่มีอะไร” เผยหนานเจวี๋ยก็ไม่ต้องการถามต่ออีก ตอบกลับเสียงเบา
“อย่าซ่อนความเจ็บป่วยแล้วหลบเลี่ยงหมออีกเลย” ฉู่เจียเสวียนเอาคำที่เผยหนานเจวี๋ยเคยพุดก่อนหน้านี้คืนกลับไปให้เขา
ฉู่เจียเสวียนนึกว่าอย่างน้อยเธอจะสามารถโน้มน้าวให้เผยหนานเจวี๋ยไปที่โรงพยาบาลได้ แต่ว่าครั้งนี้ไม่ว่าเธอจะเกลี้ยกล่อมอย่างไร เผยหนานเจวี๋ยบอกว่าไม่ไปก็ไม่ไป นิสัยของเขามักจะดื้อรั้นอยู่เสมอ
สุดท้ายเมื่อฉู่เจียเสวียนเห็นว่ากล่อมเผยหนานเจวี๋ยไม่สำเร็จ เธอก็หันหลังจากไปด้วยความโมโห
มองดูเงาของเธอที่ค่อยๆ ลับไป เผยหนานเจวี๋ยยกมุมปากยิ้มเล็กน้อย
ฉู่เจียเสวียน ผมควรทำอย่างไรกับคุณดี ทุกครั้งที่ผมตัดสินใจจะปล่อยคุณไป คุณก็ให้ความหวังผม คุณกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
เขายิ่งไม่เข้าใจเธอมากขึ้นทุกที เขาคิดไม่ออกเลยสักนิด เดิมทีเขาถูกฉู่เจียเสวียนรังเกียจอย่างที่ลึกล้ำ แต่ว่าเธอกลับแสดงอาการเป็นห่วงเป็นใยเขา
จิตใจของเขาว้าวุ่นเพราะฉู่เจียเสวียน ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าเขารู้จักนิสัยของฉู่เจียเสวียนดี เขาจะต้องคิดว่าฉู่เจียเสวียนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความรักแน่ๆ
ฉู่เจียเสวียนลงมาถึงลานจอดรถ สีหน้าโมโห เมื่อคิดว่าเธอมาโน้มน้าวเขาที่บริษัทด้วยตัวเองแล้ว เขาก็ยังไม่ยอมไปที่โรงพยาบาล เธอยิ่งโกรธท่าทีที่ไม่แยแสของเขา เขายิ่งทำให้เธอรังเกียจขึ้นทุกที
ขึ้นรถด้วยความโมโห มุ่งหน้าไปยังร้านชุดแต่งงาน เขาอยากไปหาหมอก็ไป ไม่อยากหาก็แล้วแต่
อากาศดูเหมือนจะเย็นลงทุกที ต้นไม้ตอนนี้เปลือยต้นเปล่าแล้ว บนพื้นผิวน้ำเริ่มมีควันเย็น สภาพอากาศที่เปียกชื้นในตอนแรก เพราะเข้าสู่ฤดูหนาวจึงกลายเป็นแห้งผากและหนาวเหน็บ
ฉู่เจียเสวียนเพิ่งจะเข้าออฟฟิศ เสียงของถังถังก็ดังขึ้น “เจียเสวียน เธอเห็นข่าววันนี้แล้วยัง”
“เห็นแล้ว” ฉู่เจียเสวียนตอบรับเสียงเบา แต่ไม่ได้พูดอะไรอีก เดินไปนั่งที่หน้าโต๊ะทำงาน
ถังถังขมวดคิ้ว เดินเข้าไปหาเธอ “เธอเป็นอะไรไป หรือว่าเห็นเผยหนานเจวี๋ยมีผู้หญิงอื่นก็เลยไม่มีความสุข”
ฉู่เจียเสวียนยกมุมปากยิ้มจางๆ มองดูสีหน้าที่จริงจังของถังถัง “เธอคิดมากเกินไปแล้ว เขาจะเป็นยังไงไม่เกี่ยวกับฉัน”
“จริงเหรอ แต่ว่าสีหน้าของเธอมันบอกฉันว่าเธอไม่มีความสุขนะ” ถังถังไม่คิดที่จะปล่อยฉู่เจียเสวียน
“ฉันมีอะไรให้ทุกข์งั้นเหรอ เธออย่าคิดมาก ตอนนี้ฉันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาทั้งนั้นโอเคไหม” ฉู่เจียเสวียนกล่าวเย็นชา
แม้ว่าเขาจะมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นแล้วยังไงเหรอ มันก็ไม่เกี่ยวกับเธอ
ฉู่เจียเสวียนดูถูกตัวเองจากก้นบึ้งของหัวใจจริงๆ ทั้งๆ ที่ในใจไม่ได้คิดแบบนั้น แต่ว่าแม้แต่เพื่อนสนิทของเธอก็ยังโกหก เฮ้อ
“ก็จริง ตอนนี้แฟนของเธอคือกงจวิ้นฉือ” ถังถังจงใจเตือนสติฉู่เจียเสวียน เธอกลัวจริงๆ ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ ถ้าหากปล่อยให้เธอรักเผยหนานเจวี๋ยไปจะทำอย่างไร
เธอไม่ต้องการเห็นเธอทำผิดโง่ๆ อีกแล้ว
เม้มริมฝีปาก ฉู่เจียเสวียนเอ่ย “นั่นสิ แฟนของฉันคือกงจวิ้นฉือ”
แสร้งบ่นพึมพำ ราวกับว่ากำลังพูดให้ถังถังฟัง และก็ราวกับว่ากำลังพูดให้ตัวเองฟัง
เห็นฉู่เจียเสวียนที่ท่าทางสิ้นหวัง ถังถังปวดใจ “ที่รัก ไม่ใช่ว่าเธอยังคงรักเขาหรอกนะ?”
ฉู่เจียเสวียนส่ายหน้า ไม่ได้พูดอะไร เอกสารที่อยู่ในมืออ่านอย่างไรก็ไม่รู้เรื่อง
ถังถังพยักหน้าราวกับว่ากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ไม่พูดจา หันหลังกลับไปนั่งที่เก้าอี้ทำงานของตัวเอง ยังคงถือหนังสือพิมพ์อยู่ในมือ
ตอนที่ 565 ผู้หญิงโลภกันทั้งนั้น
ปฏิกิริยาของฉู่เจียเสวียนทำให้เธออดเป็นห่วงไม่ได้จริงๆ ตอนที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ เธอไม่เป็นห่วงเรื่องของเผยหนานเจวี๋ยเลยสักนิด
ทางนี้ฉู่เจียเสวียนเพิ่งจากไปได้ไม่นาน โทรศัพท์มือถือของเผยหนานเจวี๋ยก็ดังขึ้น “ฮัลโหล”
“ฮัลโหล หนานเจวี๋ย ร่างกายของคุณยังอ่อนแอมาก หมอบอกแล้วว่าคุณต้องพักผ่อน” เสียงอ่อนโยนดังขึ้นที่ปลายสาย
“ไม่เป็นอะไร ผมวางสายก่อนนะ” เผยหนานเจวี๋ยไม่ต้องการฟังคำไร้สาระของผู้หญิงคนนั้น พูดจบก็วางสาย
เพราะว่าเธอ ตอนนี้เผยหนานเจวี๋ยจึงยุ่งเหยิงมากแล้ว
ผู้ญิงคนนั้นชื่อว่าหลี่เซียนเซียน เป็นคนจีน เมื่อเขาไปเที่ยวพักผ่อนที่สหรัฐอเมริกา ก็ถูกเธอบุกเข้ามาโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า
ถ้าไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุในฮาวาย ทั้งชีวิตนี้เขาจะไม่ชายตามองเธอเลย
หลังจากวางสาย เผยหนานเจวี๋ยรู้สึกว่าสงบจิตใจลงได้ไม่น้อย แต่ว่าหลังจากสงบได้เพียงหนึ่งวินาที โทรศัพท์มือถือขอเขาก็ส่งเสียง “ติ๊ดๆ” ของข้อความที่ยังไม่ได้อ่าน
หลี่เซียนเซียนมาแล้ว หนานเจวี๋ย ตอนเที่ยงฉันจะส่งน้ำแกงไปให้คุณ
เมื่อเห็นข้อความแล้ว เผยหนานเจวี๋ยขมวดคิ้ว หลี่เซียนเซียนคนนี้เคยช่วยเขาไว้ ยิ่งไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนนอกมากขึ้นเรื่อยๆ และก็ยิ่งกล้าแสดงออกมากขึ้นเรื่อยๆ
“ไม่ต้อง ตอนเที่ยงผมจะกลับไป” เผยหนานเจวี๋ยตอบข้อความเธอกลับ
ในตัวของเธอมีจุดน่าสงสัยมากเกินไป เผยหนานเจวี๋ยเป็นคนที่หากมีบุญคุณต้องทดแทนมีแค้นต้องชำระ ในเมื่อเธอเคยช่วยเขา เขาก็ไม่สามารถปฏิบัติไม่ดีต่อเธอได้
แต่ว่าผู้หญิงโลภกันทั้งนั้น ในช่วงนี้หลี่เซียนเซียนมักจะอ้างตัวเองว่าเป็นคนรัก สิ่งนี้ทำให้หัวใจของเขาไม่พอใจและรังเกียจเป็นอย่างยิ่ง
อุบัติเหตุในฮาวายนั้นดูภายนอกเหมือนธรรมดา แต่ก่อนที่เขาจะค้นพบความจริง เขาจะไม่เชื่อหลี่เซียนเซียนโดยเด็ดขาด
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนและบังเอิญเกินไป สิ่งนี้ทำให้เผยหนานเจวี๋ยจำเป็นต้องสงสัยตัวตนของ
หลี่เซียนเซียน
เขาเคยตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับเธอ เขารู้สึกว่าหลี่เซียนเซียนที่อยู่ข้างกายเขาไม่ใช่คนเดียวกัน
ในข้อมูลนั้นครอบครัวของหลี่เซียนเซียนฐานะใช้ได้ แต่ว่าขณะที่เธออายุสิบปี พ่อแม่ของเธอก็จากไปแล้ว ฉะนั้นเธอจึงใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศเป็นเวลานาน และไม่ยอมกลับบ้านด้วยซ้ำ
แต่มันเป็นเรื่องปกติที่ข้อมูลจะแตกต่างจากคนจริง แต่หลี่เซียนเซียนมีข้อสงสัยมากเกินไป ยิ่งรู้จักกับเธอมากขึ้นเท่าไร เผยหนานเจวี๋ยยิ่งรู้สึกว่าเธอมีความรู้สึกคุ้นเคยอันน่าประหลาด
ความคุ้นเคยนี้ทำให้เขารู้สึกรำคาญใจ
ตอนเที่ยงหลังจากเลิกงานแล้ว เผยหนานเจวี๋ยขับรถกลับไปยังวิลล่าซีเจียว วิลล่าซีเจียวมีซูหรานอยู่ เขาสามารถช่วยจับตาดูหลี่เซียนเซียนได้
คนจีนคนหนึ่ง เมื่อก่อนอยู่ต่างประเทศตลอดเวลา แต่คราวนี้กลับยืนกรานที่จะตามเขากลับมา เธอจะต้องมีเป้าหมายหรือสิ่งที่ต้องการอย่างแน่นอน
เช่นนั้นเขาก็จะคอยดูว่าเธอต้องการทำอะไรกันแน่
แม้ว่าโดยปกติแล้วเธอดูใสซื่อไร้ซึ่งแผนการใดๆ แต่ว่าแววตาของเธอหลอกเขาไม่ได้ แววตาของเธอซับซ้อนเกินไป มันเผยความเจ้าคิดเจ้าแค้นและความรู้สึกออกมา
นี่คือหนึ่งในเหตุผลสำคัญว่าทำไมเขาสงสัยเธอ
รถจอดที่ซีเจียว หลี่เซียนเซียนรออยู่ที่หน้าประตูนานแล้ว มองดูเผยหนานเจวี๋ย เธอต้อนรับเขาด้วยสีหน้ายินดี ความสุขที่เธอแสดงออกมานั้นทำให้เขาสงสัย
ถ้าเธอคิดจะจัดการกับเขาจริง เวลาที่เห็นเขาทำไมถึงยิ้มอย่างธรรมชาติและจริงใจแบบนั้น จริงใจจนทำให้เขาคิดว่าเธอจริงใจกับเขาจริงๆ
“หนานเจวี๋ย คุณกลับมาแล้วเหรอ” หลี่เซียนเซียนเดินเข้ามาหาเผยหนานเจวี๋ย มองเขาด้วยรอยยิ้มสดใสอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
เผยหนานเจวี๋ยแสร้งยิ้ม กวาดตามองเธอทีหนึ่ง มองดูบาดแผลบนแขนของเธอ ขมวดคิ้วเข้าหากัน สงสัยว่าความรู้สึกในการช่วยชีวิตคนนั้นช่างทรมานจริงๆ
“ร่างกายของคุณยังไม่หายดี ต้องพักฟื้นให้ดี” กล่าวเสียงเบา ใบหน้าของเผยหนานเจวี๋ยไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆ เกินเลย