ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ – ตอนที่ 397 พวกเราแต่งงานกันแล้ว (2) / ตอนที่ 398 พวกเราแต่งงานกันแล้ว (3)

ตอนที่ 397 พวกเราแต่งงานกันแล้ว (2)

 

 

เธอไม่เพียงแค่อยากจะบอกอาจารย์รูปหล่อว่าเธอมีความรักแล้ว

 

 

เธออยากจะบอกทั่วทั้งโลกว่าเธอมีความรักแล้วด้วย!

 

 

อวี๋กานกานเรียบเรียงคำพูดครู่หนึ่งแล้วส่งยิ้มให้เหอสือกุย “อาจารย์รูปหล่อ ฉัน…” มีแฟนแล้ว

 

 

ไม่กี่คำด้านหลังยังไม่ได้พูดออกไปก็ถูกเหอสือกุยแทรกขึ้นมาแล้ว “พรุ่งนี้เช้าเธอไปเฉิงเป่ยกับฉัน”

 

 

“เฉิงเป่ย?”

 

 

“ลืมแล้วเหรอ”

 

 

อวี๋กานกานนิ่งไปพลันเข้าใจขึ้นมา คุณครูของอาจารย์รูปหล่ออยู่ที่เฉิงเป่ย ช่วงเวลาที่อาจารย์หายตัวไป คุณครูก็เป็นห่วงเขามาก ให้คนไปตามหามาไม่น้อยเลย

 

 

ในเมื่อเขาปลอดภัยกลับมาแล้ว ก่อนกลับเมืองไป๋หยางก็ควรจะไปพบคุณครูจริงๆ

 

 

เธอพยักหน้าพร้อมกับยิ้มออกมา “ได้ค่ะ”

 

 

สถานที่ที่คุณครูของอาจารย์รูปหล่ออยู่นั้นอยู่แถบชานเมืองของเฉิงเป่ย ระยะทางยาวไกล กินเวลาไปกลับ งั้นตอนกลางวันพรุ่งนี้ดูเหมือนจะไม่อาจกินข้าวกับฟังจือหันได้แล้ว

 

 

ตอนที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจะส่งข้อความให้ฟังจือหัน นึกเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งที่ยังไม่ได้พูดขึ้นมาได้

 

 

เธอมองเหอสือกุยด้วยแววตาเปล่งประกาย “อาจารย์รูปหล่อ…”

 

 

เหอสือกุยก็กำลังมองอวี๋กานกานอยู่ แววตาลึกลับ ยิ้มอย่างสุภาพเรียบร้อย “ถ้าอาการป่วยของคุณปู่เจียงท่านนี้ดีขึ้นแล้ว ต่อไปเธอไม่ต้องติดต่อกับคุณหนูเจียงผู้นั้นให้มากนัก”

 

 

อวี๋กานกานนิ่งอึ้งไป เอ่ยถามออกไปโดยไม่รู้ตัว “เพราะอะไรคะ”

 

 

เหอสือกุยไม่ได้บอกเหตุผลอะไรเพียงแค่เอ่ย “เธอฟังคำพูดของอาจารย์ดีกว่า เจียงไป่อันเธอก็รู้จัก เขากับพวกเรายังไงก็ไม่ใช่คนสายเดียวกัน เป็นคนของตระกูลเจียง เธอติดต่อกับพวกเขาให้น้อยลงหน่อย”

 

 

พูดจบเหอสือกุยก็กลับห้องตนเองไป

 

 

อวี๋กานกาน “…”

 

 

คนของตระกูลเจียง?

 

 

ฟังจือหันนับว่าเป็นคนของตระกูลเจียงไหม

 

 

อาจารย์ดูเหมือนจะค่อนข้างไม่ชอบคนของตระกูลเจียง ทั้งหมดเป็นเพราะเจียงไป่อันคนนั้น

 

 

อวี๋กานกานกลับห้องแล้วส่งข้อความถึงฟังจือหัน

 

 

บอกประมาณว่าตอนกลางวันพรุ่งนี้ไม่สามารถไปกินข้าวด้วยได้แล้ว เธอจะไปเฉิงเป่ยเพื่อพบคุณครูของอาจารย์รูปหล่อด้วยกัน แต่ว่าว่างตอนกลางคืน สามารถนัดกินข้าวด้วยกันได้

 

 

ฟังจือหันไม่ได้ตอบข้อความของเธอแต่โทรศัพท์ถึงเธออย่างรวดเร็ว “พรุ่งนี้พวกคุณกลับมา เราเชิญอาจารย์ของคุณมากินข้าวด้วยกันสักมื้อ”

 

 

อวี๋กานกานอึ้งไป “พวกเรา?”

 

 

“อืม ตอนกลับเมืองไป๋หยาง พวกเรา…ควรจะเชิญอาจารย์คุณกินข้าวสักมื้อ” เขาพูดเน้นย้ำ ชักชวนเธอไปกับกลุ่มของเขา ลูกสาวที่แต่งงานออกไปก็ย่อมเป็นของบ้านอื่นเป็นธรรมดา

 

 

อวี๋กานกานเอ่ยด้วยความลังเล “แต่ว่า…ฉันยังไม่ได้บอกเรื่องของเรากับอาจารย์เลย เพราะเจียงไป่อันหมอนั่น อาจารย์ฉันจึงมีความทรงจำที่ไม่ดีมากกับคนตระกูลเจียง จะเริ่มพูดอยู่หลายครั้งแล้วก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง ดูเหมือนว่าวันนี้เจียงไป่อันยังมาหาอาจารย์อีกด้วย ฉันกลัวว่าอาจารย์จะไม่พอใจ ก็เลย…”

 

 

อีกฝ่ายนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง หลังจากนั้นจึงเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบ “งั้นคุณไม่กลัวว่าผมจะไม่พอใจเหรอ”

 

 

อวี๋กานกานถือโทรศัพท์ก็สามารถรับรู้ถึงความอิจฉาได้ ฟังแล้วแทบจะอ่อนยวบ มุมปากของเธอเผยขึ้นเป็นรอยยิ้ม “คุณอย่ามาเทียบกับพ่อสิ คนที่ฉันชอบก็คือคุณ”

 

 

น้ำเสียงของเธอผ่อนคลาย อธิบายอย่างน่ารักน่าเอ็นดู ได้ยินเสียงชอบใจดังมาจนถึงข้างในใจ

 

 

ฟังจือหันมีสีหน้าเบิกบานใจ มุมปากปรากฏรอยยิ้มจางๆ ราวกับหิมะแรกละลาย

 

 

เขาว่า “ถ้าคุณกลัวว่าผมจะไม่พอใจ กลับไปถึงเมืองไป๋หยาง คุณก็ย้ายออกมาอยู่ด้วยกัน”

 

 

คำพูดนี้ทำให้อวี๋กานกานนิ่งไม่มีปฏิกิริยาตอบรับไปชั่วขณะ “หา? ย้ายออกไปอยู่ด้วย”

 

 

เธอไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน แต่พอลองคิดดูก็คงต้องมีสักวันที่แต่งงานออกไปและต้องย้ายออกอย่างแน่นอน

 

 

แต่ก็ต้องเป็นหลังจากที่แต่งงานแล้ว

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 398 พวกเราแต่งงานกันแล้ว (3)

 

 

อวี๋กานกานปรึกษาด้วยน้ำเสียงอ่อน “นี่ไม่ค่อยดีมั้ง เรายังไม่ได้แต่งงานเลย ถ้าฉันพักอยู่กับผู้ชาย อาจารย์ของฉันจะต้องว่าแน่นอน”

 

 

ฟังจือหันตอบ “พวกเราแต่งงานกันแล้ว”

 

 

อวี๋กานกานนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วพึมพำ “แต่ว่าเราแต่งงานแบบไม่จริง”

 

 

“เราแต่งงานกันเป็นเรื่องจริง”

 

 

“มาล้อเล่นอะไร”

 

 

“ผมดูเหมือนล้อเล่นเหรอ”

 

 

น้ำเสียงของฟังจือหันจริงจัง เคร่งขรึมเช่นนี้ ไม่มีแววล้อเล่นอยู่เลยสักนิด แต่อวี๋กานกานยังคงไม่เชื่อ เพียงแค่รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ทำหน้าตาย

 

 

เธอรู้สึกขำ “งั้นฉันก็แปลกใจแล้ว พวกเราแต่งงานกันยังไงกันแน่”

 

 

หลังจากที่ฟังจือหันเงียบไปครู่เดียวก็เอ่ยออกมาเบาๆ “ที่จริงคุณก็ไม่ต้องคิดมากว่าจะพูดอะไรกับอาจารย์หรอก ตอนเย็นวันพรุ่งนี้กินข้าวด้วยกัน คุณนั่งกับผม เขาก็จะเข้าใจไปโดยปริยายเลย”

 

 

อวี๋กานกานลองคิดตามก็รู้สึกว่าค่อนข้างถูกต้องจึงพยักหน้าเห็นด้วย

 

 

“เรื่องของเจียงไป่อันคุณจัดการเรียบร้อยรึยัง”

 

 

“พอประมาณแล้ว”

 

 

“งั้นคุณไปจัดการเถอะ ฉันจะไปนอนแล้ว”

 

 

“อืม ฝันดี!”

 

 

“ฝันดี!”

 

 

บ้านเจียงที่เงียบสงัด ห้องหนังสือบรรยากาศอึมครึม ปู่เจียงนั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะหนังสือ เจียงฉี่ยืนอยู่ด้านข้างกำลังมองเขากินอาหารตุ๋นยาจีน

 

 

มือของเธอคอยช่วยลูบหลังให้ปู่เจียง “คุณปู่คะ เรื่องบางเรื่องก็ไม่ต้องกังวลแล้ว มอบหมายให้พี่เถอะค่ะ”

 

 

ปู่เจียงมอบเธอแวบหนึ่ง “ปู่แก่แล้วจริงๆ”

 

 

“คุณปู่ไม่แก่ค่ะ คุณปู่เป็นปู่ที่หล่อที่สุดในใจหนูตลอด เพียงแค่พี่โตแล้ว คุณปู่ก็ให้ตัวเองได้ผ่อนคลายบ้าง” เจียงฉี่เอียงหัวซบไหล่ของปู่เจียงเบาๆ

 

 

ปู่เจียงนัยน์ตาแดง ลูบหัวของหลานสาวอย่างตามใจ

 

 

เสียงเคาะประตูดังขึ้นมา

 

 

ฟังจือหันคุยโทรศัพท์เสร็จแล้วก็กลับไปในห้องหนังสือของปู่เจียงอีกครั้ง

 

 

เจียงฉี่ส่งยิ้มให้ฟังจือหันแล้วเรียกเบาๆ “พี่” หลังจากนั้นก็ยกชามเปล่าออกไป

 

 

ฟังจือหันนั่งลงตรงข้ามปู่เจียง

 

 

“ธุรกิจผลิตยาเป็นธุรกิจเฉพาะทางที่สุด การมีอยู่ของมันล้วนเกี่ยวข้องกับชีวิตและสุขภาพของประชาชนในทุกส่วนเล็กส่วนน้อย ชีวิตคนยิ่งใหญ่กว่าฟ้า ดังนั้นธุรกิจผลิตยาไม่อาจให้เกิดความสะเพร่าตามใจได้อย่างเด็ดขาด กุเรื่องสร้างภาพหลอกลวง สกุลเจียงของเราปฏิบัติตามกฎนี้มาโดยตลอดถึงได้พัฒนาจนมาถึงระดับในวันนี้ แต่ว่าไป่อันถึงอย่างไรก็เป็นลูกหลานของตระกูลเจียง ดอกระฆังจีนกับโสมอเมริกันครั้งนี้ก็พบทันเวลา ไม่อย่างนั้น…”

 

 

หลังจากที่ปู่เจียงครุ่นคิดแล้ว สุดท้ายก็ยังอยากจะให้โอกาสเจียงไป่อันอีกสักครั้ง

 

 

คิดจะมอบบทลงโทษให้เจียงไป่อันสักหน่อย แล้วปล่อยให้เรื่องนี้ก็ผ่านไปแบบนี้เลย

 

 

เขายังคงไม่เห็นด้วยที่จะไล่เจียงไป่อันออกไปจากสกุลเจียง

 

 

ฟังจือหันกลับไม่แปลกใจในการตัดสินใจของเขา

 

 

น้ำเสียงของเขาเป็นกลางไม่อบอุ่นอีกทั้งเข้มงวดอย่างมาก “ก่อนหน้าที่ผมจะตกลงรับช่วงต่อสกุลเจียง ผมให้บอกกับคุณชัดเจนมากแล้ว ไม่ว่าคุณจะเอาผมมาเป็นหินฝึกฝนหรืออยากจะให้ผมเป็นผู้สืบทอดจริงๆ หลังจากที่ผมรับช่วงต่อสกุลเจียงแล้ว คุณก็ต้องไม่มาก้าวก่ายการตัดสินใจของผมอีก รวมถึงเรื่องแต่งตั้งคน ไม่อย่างนั้นการร่วมมือของเราคงต้องจบลงทันที”

 

 

ปู่เจียงถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย

 

 

หลานชายคนนี้ไม่สนิทกับเขา ถึงขึ้นเพราะเรื่องในตอนนั้นยังโทษเขาอยู่บ้าง แต่เขาก็เป็นหลานชายคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดจากทั้งหมด”

 

 

“แกคิดว่าฉันใช้แกเพื่อกระตุ้นไป่อันอยู่ตลอดมา หวังว่าจะสามารถทำให้เขากลายเป็นเสือที่ดุร้ายตัวหนึ่ง มีความสามารถที่จะมารับช่วงต่อสกุลเจียง ถ้าเป็นเช่นนี้จริง ฉันก็คงไม่มอบอำนาจทั้งหมดให้แกหรอก”

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

“ขอโทษนะคะ คุณคือ…” “ฟังจือหัน สามีเธอไง” นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย! นั่งในบ้านอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มีสามีซะยังงั้น! อวี๋กานกาน เป็นแพทย์หญิงผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน เมื่อครึ่งเดือนก่อน เธอประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนเข้าจนหมดสติไป หลังจากฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล บาดแผลไม่ได้สาหัส แต่กลับต้องนอนพักฟื้นเป็นครึ่งค่อนเดือน หลังจากที่เธอฟื้น กลับมีผู้ชายคนหนึ่งดันมายืนตรงหน้าเธอ บอกว่าเธอความจำเสื่อม และยังบอกอีกว่าเขาเป็นสามีของเธอ! เธอคนที่ไม่เคยมีความรัก ไม่เคยมีแฟน จะไปมีสามีได้ยังไงกัน… “คุณเป็นใครกันแน่” “ฟังจือหัน สามีเธอไง!” เจ็ดพยางค์เหมือนเมื่อกี้เป๊ะ… สรุปแล้วมันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นระหว่างที่เธอหมดสติไปกันเนี่ย ในเมื่อเธอไม่รู้จักเขา แล้วเพราะอะไรทำไมเขาถึงต้องอ้างว่าเป็นสามีของเธอด้วย หรือเธอจะความจำเสื่อมเข้าแล้วจริงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset