เมื่อซีหวังพูดถึงพิษในร่างของซีซิงฟางนั้น ทั้งห้องก็พลันเงียบลง
“ตระกูลซีได้รวบรวมส่วนผสมทุกอย่างในรายการแล้วยกเว้นเพียงสามอย่าง รากปีศาจ เลือดกิเลนม่วง และโสมเลือดอสูร”
“ทั้งรากปีศาจและกิเลนม่วงนั้นสามารถพบเห็นได้ภายในป่าต้องห้าม สถานที่อันตรายสูงแห่งหนึ่งที่มีสัตว์ร้ายที่ทรงพลังที่อาศัยอยู่ภายในนั้น และหมอกพิษที่เปี่ยมไปทั่วทุกที่แห่งนั้น แม้ว่าพวกเราจะมีความสามารถที่จะไปเอารากปีศาจที่อยู่ใกล้กับพื้นที่ขอบรอบนอก พวกเราก็มิสามารถที่จะเข้าไปถึงกิเลนม่วงที่ท่องเที่ยวอยู่ภายในส่วนลึกที่สุดของป่าต้องห้ามได้”
“นอกจากว่าคนผู้นั้นมีร่างที่ต่อต้านพิษร้ายเหมือนซิงเอ๋อร์ พวกเขาก็มิอาจจะที่เข้าไปถึงกิเลนม่วงได้ อย่าว่าแต่จะเอาเลือดของมัน ซิงเอ๋อร์สามารถเข้าไปถึงกิเลนม่วงได้โดยการอาศัยร่างสวรรค์ของเธอ แต่เธอก็อยู่เพียงแค่ในระดับแรกของเขตอัมพรวิญญาณ แต่กิเลนม่วงก็มีระดับอย่างน้อยที่ระดับหกเขตอัมพรวิญญาณ”
“ส่วนสำหรับโสมเลือดอสูรนั้น… ความคืบหน้าของเจ้าเป็นอย่างไร” ซีหวังถามเขา
“เอ้อ ตอนนี้มันเติบโตอยู่ในที่ปกปิด ซึ่งมิมีใครสามารถหามันพบได้ และมันก็ควรจะพร้อมเก็บเกี่ยวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า” เขาตอบอย่างใจเย็น
“จริงรึ นั่นเป็นเรื่องยอดเยี่ยมที่ได้ยินเช่นนั้น” ซีซิงฟางกล่าว
“ตอนนี้ในเรื่องพิษที่อยู่ในป่าต้องห้าม… พิษในนั้นมีความแข็งแกร่งมากเพียงใด มันสามารถหยุดท่านไว้มิให้เข้าไปหรือไม่” จากนั้นซูหยางก็ถามซีหวัง
“แม้ว่าข้าเกลียดที่จะยอมรับ แต่ข้าก็มีความสามารถต่อต้านพิษนี้ก่อนที่จะเข้าไปในพื้นที่ส่วนกลาง ส่วนที่เกินเข้าไปกว่านั้นแม้ว่าในระดับพลังการฝึกปรือของข้าก็มิสามารถที่จะปกป้องข้าจากหมอกพิษได้”
ซูหยางพยักหน้าและกล่าวว่า “เอาล่ะ ข้าจักหาหนทางปกป้องท่านจากหมอกพิษและต่อสู้กับกิเลนม่วง”
“เจ้ามีแผนแล้วรึ” ซีหวังเลิกคิ้วด้วยท่าทางแปลกใจ
“แน่นอน” เขาตอบกลับอย่างรวดเร็ว “ข้ามียาสองสามอย่างในใจที่จักเพิ่มความต้านทานต่อพิษให้กับท่านได้”
“ยารึ…” สีหน้าซับซ้อนพลันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซีหวัง และเขาก็กล่าวต่ออีกว่า “แต่มิมียาใดในโลกนี้ที่ทรงอำนาจมากพอที่จะต่อต้านหมอกพิษได้ มิเช่นนั้นพวกเราก็คงได้ส่วนประกอบพวกนั้นมานานแล้ว”
ซูหยางส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ถ้าข้ามิมีความมั่นใจในผลลัพธ์ของมัน ข้าจักกล่าวอ้างถึงมันไปทำไมกัน อย่างไรก็ดีข้ามิประหลาดใจท่านที่มิรู้จักมัน ในเมื่อมันยังมิได้มีปรากฏในทวีปตะวันออก”
“อ-อะไรนะ…” ซีหวังมองดูซูหยางด้วยดวงตาเบิกกว้าง เขาพลันนึกถึงเทพธิดาที่ระหว่างการแข่งขันระดับภูมิภาค
“โอ ตัวยาเหล่านี้คงต้องมาจากทวีปศักดิ์สิทธิ์กลาง ใช่ไหม” เขาถามด้วยความตื่นเต้น
“เอ๋” ซูหยางเลิกคิ้ว
“เอ้อ ข้าเดาว่ามันเป็นอะไรทำนองนั้น” ซีหวังกล่าวหลังจากนั้นอีกชั่วขณะ
แม้ว่าตัวยาเหล่านี้มาจากสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ แต่มันก็เป็นเรื่องดีกว่าที่จะพูดว่ามันมาจากทวีปศักดิ์สิทธิ์กลาง ในเมื่อมันเป็นเรื่องสะดวกและเชื่อได้ง่ายกว่า
“นี่เป็นข่าวที่ยอดเยี่ยม ท่านปู่” ซีซิงฟางกล่าวด้วยรอยยิ้มสดใส “ตอนนี้พวกเราสามารถได้ส่วนผสมเพิ่มขึ้นอีกสองตัว ครั้นเมื่อโสมเลือดอสูรพร้อมเก็บเกี่ยวแล้ว พวกเราก็จักมีส่วนผสมทั้งหมดสำหรับการรักษา”
“อย่าเพิ่งตื่นเต้นเพียงแค่นั้น” ทันใดนั้นซูหยางก็พูดขึ้น “แม้ว่าพวกเรามีหนทางที่จะจัดการกับหมอกพิษพวกเราก็ยังต้องการตัวยาสำหรับให้แผนการสำเร็จ สำหรับการรักษาพิษในร่างของซีเอ๋อร์นั้น ข้ามิมั่นใจว่าส่วนผสมที่จำเป็นสำหรับตัวยาทั้งหมดนั้นจักมีอยู่ในโลกแห่งนี้ครบหรือไม่”
“ถึงแม้ว่าพวกเรามิมีส่วนประกอบในทวีปตะวันออก พวกเราก็สามารถที่จะเอามันได้จากทวีปศักดิ์สิทธิ์กลาง มิใช่รึ แม้ว่าข้ามิเคยไปที่นั่นด้วยตนเอง อาจารย์ของเจ้าก็ควรจะสามารถไปถึงที่แห่งนั้นได้ ใช่ไหม” ซีหวังถามเขา
“อาจารย์ของข้ารึ… ถ้าท่านพูดถึงสาวสวยคนนั้น เช่นนั้นก็ต้องบอกว่าเธอมิใช่อาจารย์ของข้า” ซูหยางถอนใจคิดสงสัยว่าทำไมทุกคนจึงพลันทึกทักเอาว่าชิวเยว่นั้นเป็นอาจารย์ของเขา
“เทพธิดาที่ปรากฏตัวที่ตอนจบการแข่งขันระดับภูมิภาคนั่น เธอมิได้เป็นอาจารย์ของเจ้ารึ เช่นนั้นจอมยุทธคนนั้นเป็นใครกัน ข้ามิเคยเห็นคนที่ทรงอำนาจเช่นเธอในระยะเวลาห้าร้อยปีในโลกนี้ของข้ามาก่อน” ซีหวังถามด้วยใบหน้างุนงง
“เพื่อนคนหนึ่ง” เขาตอบอย่างผ่านๆ
“มิว่าอย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะมิมีตัวยา ข้าก็ยังมีความคิกอีกสองสามอย่าง”
จากนั้นเขาก็หันไปมองดูซีซิงฟางและกล่าวว่า “ข้าพอจะดูฝ่ามือของเจ้าในตอนนี้ได้หรือไม่”
ซีซิงฟางพยักหน้าและยื่นฝ่ามือของเธอไปให้กับเขา
ซูหยางจับมือเรียบเนียนของเธอไว้และหลับตาลง
สองสามนาทีในความเงียบให้หลัง เขาก็ลืมตาขึ้นและกล่าวว่า “เจ้ามีเวลาอีกครึ่งปีก่อนที่เจ้าจะเริ่มประสบกับอาการ ซี่งยากที่จะทนได้”
“ครึ่งปี… นั่นจักเพียงพอสำหรับพวกเราในการเสร็จสิ้นการรักษาหรือไม่” เธอถามเขาด้วยใบหน้าเป็นกังวล
ซูหยางแสดงสีหน้ามั่นใจและกล่าวว่า “ถึงแม้ว่านั่นจะมีเวลามิเพียงพอ ข้าก็จักทำให้มันเพียงพอ ดังนั้นเจ้ามิควรกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น”
“ถึงแม้ว่าข้ามาจากตระกูลที่ทรงอำนาจที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปตะวันออก ข้าก็มิรู้ว่าควรจักขอบคุณท่านสำหรับทุกอย่างที่ท่านได้ทำไว้ให้กับข้าและตระกูลข้า” ซีซิงฟางถอนหายใจ
“นั่นมิมีความจำเป็นที่จะต้องขอบคุณข้า ข้าเพียงทำทุกอย่างตามความต้องการของข้า” เขากล่าว
“มิว่าอย่างไรก็ตาม เจ้ามีคำถามอะไรมากไปกว่านี้กับตัวข้าหรือไม่”
“เจ้ามีคำถามอะไรอีกสำหรับเขาหรือไม่ ซิงเอ๋อร์” ซีหวังถามเธอ
“ไม่” เธอส่ายหน้า
“เช่นนั้นเจ้าพอจะรอคอยข้าอยู่ข้างนอกหรือไม่ ข้ามีเรื่องที่จะพูดกับเขาเป็นการส่วนตัว มันมิควรจักใช้เวลานานเกินไปนัก” ซีหวังกล่าว
ซีซิงฟางมองดูอีกฝ่ายอย่างเงียบๆชั่วขณะก่อนที่จะพยักหน้า “อย่าทำอะไรเกินเลยไปเพียงเพราะว่าข้ามิได้อยู่ที่นี่ ท่านปู เพราะว่าข้าจักพบเจอในภายหลัง”
“ข้ามิกล้า” อีกฝ่ายตอบ
ครั้นเมื่อซีซิงฟางออกไปจากห้องแล้ว ซีหวังก็มองดูซูหยางด้วยสีหน้าจริงจังและกล่าวว่า “ข้าจักมิกล่าวอ้อมค้อมและพูดอย่างตรงไปตรงมาถึงหัวข้อนั้น”
“เจ้า… เจ้าสนใจที่จะมาเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลซีหรือไม่” เขาถามซูหยางพร้อมกับหรี่ตา