ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ – ตอนที่ 299 กอดทักทาย / ตอนที่ 300 สามสิบหกวิธีหลอกล่อภรรยา

ตอนที่ 299 กอดทักทาย

 

 

ในน้ำเสียงนุ่มนวลของเธอราวกับถูกลมพัดหายไปแต่กลับทำให้คนฟังรู้สึกถึงความเศร้าโศกที่อยู่ลึกๆ

 

 

อวี๋กานกานนึกถึงตอนที่ลุงใหญ่ถามถึงพ่อแม่ของฟางจือหัน เขากลับไปหาพ่อแม่ที่ล่วงลับไปแล้ว

 

 

ในตอนนั้นเธอคิดว่าเขาพูดไปเรื่อยเพียงแค่โกหกลุงใหญ่เท่านั้นแต่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริง… ไม่แปลกใจเลยตอนที่เธอมาบ้านตระกูลเจียงก็ไม่เคยพบพ่อแม่ของฟางจือหันและเจียงฉี่เลยสักครั้ง

 

 

อวี๋กานกานตอบเสียงเบา “ขอโทษนะที่ทำให้เธอต้องนึกถึงเรื่องเจ็บปวด”

 

 

เจียงฉี่ส่ายหน้าและยิ้มเล็กน้อย ยกมือขึ้นแตะหน้าอกตัวเองแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร แม้ว่าพ่อจะไม่อยู่แล้วแต่ว่าพ่อจะอยู่ในใจของฉันเสมอ”

 

 

“เรื่องสุขภาพของนายผู้เฒ่าเธอเองก็ไม่ต้องกังวลให้มากนัก เห็นได้ชัดว่าสองวันมานี้อารมณ์ของท่านดีขึ้นมากแล้ว ต่อไปก็อยู่เป็นเพื่อนท่านให้มากๆ โดยธรรมชาติแล้วผู้สูงอายุจะค่อยๆ เดินออกมา ค่อยๆเข้าใจว่าคนเราได้จากไปแล้วต้องใส่ใจคนที่ยังมีชีวิตอยู่มากกว่า”

 

 

“คุณมีเวลาว่างก็มาอยู่เป็นเพื่อนคุณปู่นะ คุณปู่ชอบคุณมาก”

 

 

อวี๋กานกานไม่คาดคิด “นายท่านชอบฉันงั้นเหรอ”

 

 

นี่อาจเป็น “ความจริง” ที่แปลกประหลาดที่สุดที่เคยได้ยินมาในปีนี้

 

 

เจียงฉี่ยิ้ม “ไม่ใช่เหรอ สองวันมานี้ท่านเอาแต่มาถามเรื่องคุณกับฉัน อยากรู้ว่าความสัมพันธ์ของคุณกับพี่ชายเป็นยังไงบ้าง คุณอยู่ที่สมาคมการแพทย์เป็นยังไงบ้าง ฉันเพิ่อจะเคยเห็นคุณปู่สนใจอยากรู้เรื่องของคนอื่นเป็นครั้งแรก แต่กลับต้องแสร้งทำเป็นไม่สนใจ ก่อนหน้านี้หากๆม่ใช่เรื่องของบริษัทคุณปู่ก็จะไม่ค่อยชอบพูดคุย แต่ตอนนี้ที่เป็นอย่างนี้ทำให้รู้สึกดีมาก หากว่าพี่…”

 

 

เสียงพลันเงียบลง

 

 

เธอยิ้มอย่างยากลำบากให้อวี๋กานกาน “พี่ไม่ค่อยชอบฉัน แต่ว่าแม่จากไปแล้ว พ่อก็จากไปแล้ว ตอนนี้ฉันมีแค่เขาคนเดียว”

 

 

“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ ฟางจือหันก็ดีกับเธอไม่ใช่เหรอ”

 

 

“พี่คิดมาตลอดว่าฉันกับแม่ของฉันทำให้แม่เขาต้องตาย…แต่ดูเหมือนจะเป็นความจริงที่ฉันกับแม่เป็นสาเหตุ พี่กับแม่ของเขาถึงได้…” พูดไปพูดไป น้ำตาของเจียงฉี่ก็ไหลลงมา

 

 

ในความทรงจำของอวี๋กานกาน ลูกสาวเศรษฐีทุกคนเต็มไปด้วยพลังและหยิ่งผยอง ทว่าเจียงฉี่กลับดูนุ่มนวลอ่อนหวาน

 

 

หุ่นที่สมส่วนที่สวมใส่เสื้อผ้าฤดูหนาวหลายชิ้นดูผอมและอ่อนแอ เด็กผู้หญิงแบบนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงเมื่อเห็นแล้วก็ต้องอยากที่จะปกป้องเธอในทันที

 

 

อวี๋กานกานปลอบใจเธอ “เธออย่าคิดแบบนี้สิ ฟางจือหันเพียงแค่ไม่ค่อยชอบพูดจาไม่ชอบยิ้มดูแล้วเย็นชามากก็จริง แต่หากเขาไม่ชอบเธอล่ะก็ คืนนั้นเขาคงจะไม่ปล่อยให้เธอไปพักผ่อนหรอก ดูแล้วเหมือนเขาจะเปนห่วงเธอนะ”

 

 

เจียงฉี่ฟังดังนั้นก็สูดจมูก เปลี่ยนจากร้องไห้เป็นยิ้มร้องถามด้วยนัยย์ตาใส “จริง จริงเหรอ”

 

 

อวี๋กานกานพยักหน้า “เธอเป็นน้องสาวของเขา เขาไม่ทำดีกับเธอแล้วจะให้เขาไปทำดีกับใคร”

 

 

เจียงฉี่ยิ้ม “แน่นอนว่าต้องทำดีกับพี่สะใภ้สิ”

 

 

เสียงของเธอเบาและบางมาก

 

 

แต่อวี๋กานกานก็ยังได้ยินชัด “……”

 

 

เด็กน้อยอ่อนต่อโลกแบบนั้นรู้จักหยอกล้อคนอื่นด้วยเหรอ

 

 

อ่อนแอเพียงแค่ภายนอกเท่านั้น

 

 

ที่แท้ก็เป็นคนบ้านเดียวกันกับฟางจือหัน!

 

 

 

 

ในช่วงค่ำ ณ พระราชวังที่มีชื่อเสียงในเกียวโต เยี่ยซียืนอยู่ที่ประตูมองไปข้างหน้า เธอถูมือเป็นระยะๆ แสดงให้เห็นถึงความปั่นป่วนในใจของเธอในขณะนี้

 

 

เมื่ออวี๋กานกานและฟางจือหันปรากฏตัวขึ้น เขาก็รีบร้อนวิ่งเข้าไปจะกอดฟางจือหันด้วยความตื่นเต้น ทว่าหางจือหันกลับหลบเขา

 

 

อยากจะกอดอวี๋กานกานแต่ฟางจือหันก็ดึงเธอออกไป

 

 

เขามองเยี่ยซีอย่างเย็นชาและน้ำเสียงของเขาก็เย็นชาราวกับน้ำแข็ง “ เธอทำอะไร”

 

 

เยี่ยซีตื่นตระหนก คงไม่ได้เข้าใจผิดกันหรอกนะ เขารีบอธิบาย “กอดทักทาย”

 

 

ฟางจือหัน “……”

 

 

อวี๋กานกาน “……”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 300 สามสิบหกวิธีหลอกล่อภรรยา

 

 

เยี่ยซีอารมณ์ดี มีความสุขกระฉับกระเฉงเหมือนนกกระจอก ตอนที่ผู้จัดการทักทายก็ยังบอกว่า “นี่พี่ชายผม”

 

 

เวลาเจอคนรู้จักก็พูดอีก “นี่พี่ชายผม”

 

 

ตอนที่นั่งลงสั่งอาหารก็ยังพูด “นี่พี่ชายผม”

 

 

สุดท้ายยังทอดถอนใจออกมาอีก “พี่นี่ดีจริงๆ ถ้าผมดีเหมือนพี่นะ ผมต้องยอดเยี่ยมมากแน่ๆ”

 

 

ไม่ว่าจะตกลงหรือไม่ แต่เขาก็ให้อีกฝ่ายเป็นพี่แล้ว

 

 

หลังจากสั่งอาหารเสร็จ พนักงานออกไปแล้ว เขาก็เอาโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปคู่ แต่ถูฟางจือหันปฏิเสธ

 

 

เขาเองก็ไม่ได้สนใจ เอ่ยด้วยความเข้าใจและใส่ใจเป็นพิเศษ “ผมเข้าใจๆ ไม่ถ่ายแล้ว”

 

 

เพราะมีความนับถือ ต่อให้ถูกปฏิเสธ แววตาที่มองฟางจือหันก็ยังเป็นประกาย

 

 

อวี๋กานกานไม่รู้ว่าเขาเข้าใจอะไร ยังไงเธอก็ไม่เข้าใจ

 

 

เธอรู้แค่ว่าเยี่ยซีเป็นแฟนตัวยงของฟางจือหัน

 

 

ฟางจือหันนี่เนื้อหอมจริงๆ

 

 

อวี๋กานกานพลันนึกถึงที่หลินจยาอวี่พูดกับเธอ เยี่ยซีเป็นปีศาจร้ายในร่างมนุษย์ที่กินได้ทั้งชายและหญิง

 

 

จากนั้นเธอก็นึกถึงมิตรภาพพี่น้องในโลกสังคมนิยม

 

 

อดเดาไม่ได้ว่าเยี่ยซีอาจจะมีความรู้สึกแบบนั้นให้ฟางจือหัน?

 

 

เมื่ออาหารมาเสิร์ฟครบแล้ว เยี่ยซีก็เลิกเกาะติดฟางจือหันแบบที่ไม่ได้เห็นง่ายๆ เขาหันมายกแก้วพลางพูดกับอวี๋กานกาน “พี่สาว ผมขอดื่มให้ ขอบคุณที่ช่วยฝังเข็มรักษาโรคที่ทรมานคุณยาของผม”

 

 

อวี๋กานกานที่ดื่มน้ำผลไม้ก็ยกแก้วขึ้น พลางพูดพร้อมรอยยิ้ม “คุณขอบคุณมากหลายครั้งแล้ว ไม่ต้องขอบคุณแล้วล่ะค่ะ อีกอย่าง โรคของคุณย่าของคุณต้องยกความดีความชอบให้แพทย์หลัก ไหนจะผู้จัดการหลี่ว์ของสมาคมแพทย์แผนจีนของเราด้วย คุณเองก็วิ่งวุ่นไปทั่วเหมือนกัน”

 

 

“พี่พูดถูก ผมจะปฏิบัติกับเขาอย่างไม่ยุติธรรมไม่ได้”

 

 

เยี่ยซีรู้สึกว่าผู้หญิงตรงหน้านี่ดีจริงๆ มีน้ำใจ มีคุณธรรม

 

 

สมกับที่เป็นผู้หญิงที่พี่ชายชอบ

 

 

ในอนาคตเขาก็จะหาผู้หญิงดีๆ เหมือนพี่ชายแบบนี้

 

 

เมื่อดื่มไปหลายแก้ว เยี่ยซีก็เริ่มกรึ่ม ทว่ากลับยังพูดแบบมีสติครบถ้วนมากๆ “ต่อไปผมจะเป็นผู้ตามของพี่เอง พี่ให้ทำอะไรผมก็จะทำตามไม่ฝ่าฝืนทั้งนั้น”

 

 

ฟางจือหันคีบอาหารให้อวี๋กานกาน จากนั้นถึงได้หันมองเยี่ยซี พลางตอบเรียบๆ “ไม่จำเป็น”

 

 

อวี๋กานกานหลุดหัวเราะออกมา “คนที่ไม่รู้คงคิดว่าพวกคุณจะตั้งแก๊งอะไรกันแน่ๆ” เด็กน้อยจริงๆ

 

 

เยี่ยซีตบอกตัวเอง “ถ้าพี่ชายจะตั้งแก๊งจริงๆ ผมยินดีเป็นมือขวามือซ้ายให้เอง”

 

 

เขามีความคิดแบบนี้จริงๆ น่ะเหรอ? อวี๋กานกานปาดเหงื่อ “มือขวามือซ้ายต้องมีความสามารถพิเศษ คุณมีความสามารถพิเศษอะไรคะ”

 

 

ความสามารถพิเศษ?

 

 

เยี่ยซีกลุ้มใจ

 

 

เมื่อก่อนเขาคิดว่าตัวเองมีความสามารถไร้ขีดจำกัด ใต้หล้าไม่มีใครสู้ได้

 

 

แต่ตอนนี้อยู่ต่อหน้าไอดอลของตัวเอง เขาไม่มีจุดเด่นอะไรเลย ไม่ว่ามองไปทางไหนก็เทียบไม่ติด…ไม่สิ มีอย่างหนึ่งที่เขาแข็งแกร่งกว่าสองหนุ่มสาวตรงนี้

 

 

เขาหัวเราะคิกคัก “ผมมีสามสิบหกวิธีจีบสาว เจ็ดสิบสองวิธีอ่อย สิบแปดจุดไวต่อความรู้สึก ขอแค่ต้องการก็จะไม่มีผู้หญิงคนไหนที่พากลับบ้านไม่ได้”

 

 

อวี๋กานกานที่กำลังกินข้าวอยู่ถึงกับข้าวติดคอ

 

 

ฟางจือหันลูบหลังเธอเบาๆ พลางยื่นแก้วน้ำให้ อวี๋กานกานรับแก้วน้ำไปดื่ม แล้วถึงสังเกตเห็นว่าเป็นแก้วของฟางจือหัน

 

 

อวี๋กานกานตัวแข็งทื่อ มือที่ถือแก้วก็แข็งเป็นหิน

 

 

คิดจะแกล้งทำเป็นไม่เห็นอะไรทั้งนั้น

 

 

ทว่าเยี่ยซีที่อยู่ตรงกันข้ามกลับพูดล้อแบบคลุมเครือ “พวกพี่รักกันดีจริงๆ…” แล้วทำหน้าเศร้า “เมื่อกี้ผมพูดผิด พี่สะใภ้อย่าเพิ่งโมโห จริงๆ ที่ผมถนัดก็คือสามสิบหกวิธีอ่อยภรรยา เจ็ดสิบสองวิธีง้อภรรยา”

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

“ขอโทษนะคะ คุณคือ…” “ฟังจือหัน สามีเธอไง” นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย! นั่งในบ้านอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มีสามีซะยังงั้น! อวี๋กานกาน เป็นแพทย์หญิงผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน เมื่อครึ่งเดือนก่อน เธอประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนเข้าจนหมดสติไป หลังจากฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล บาดแผลไม่ได้สาหัส แต่กลับต้องนอนพักฟื้นเป็นครึ่งค่อนเดือน หลังจากที่เธอฟื้น กลับมีผู้ชายคนหนึ่งดันมายืนตรงหน้าเธอ บอกว่าเธอความจำเสื่อม และยังบอกอีกว่าเขาเป็นสามีของเธอ! เธอคนที่ไม่เคยมีความรัก ไม่เคยมีแฟน จะไปมีสามีได้ยังไงกัน… “คุณเป็นใครกันแน่” “ฟังจือหัน สามีเธอไง!” เจ็ดพยางค์เหมือนเมื่อกี้เป๊ะ… สรุปแล้วมันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นระหว่างที่เธอหมดสติไปกันเนี่ย ในเมื่อเธอไม่รู้จักเขา แล้วเพราะอะไรทำไมเขาถึงต้องอ้างว่าเป็นสามีของเธอด้วย หรือเธอจะความจำเสื่อมเข้าแล้วจริงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset