ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ – ตอนที่ 203 อ่อยใครก็ไม่อ่อยนาย / ตอนที่ 204 แมวเหมียวบนหิมะ

ตอนที่ 203 อ่อยใครก็ไม่อ่อยนาย

 

 

อวี๋กานกานรู้สึกเหลือเชื่อ เธอเองก็ไม่รู้ว่าแผ่นผับโฆษณานี้คืออะไร ยิ่งไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้คนที่ทางสมาคมหมายตาไว้คือซูจิ่วซานและซย่าเฉิงโจว เนื่องจากเธอถูกโยงว่าเป็นคนปล่อยข่าวลือเรื่องซย่าเฉิงโจวไม่รับรักซูจิ่วซาน ดังนั้นอวี๋กานกานจึงพยายามอยู่ห่างจากสองคนนี้ให้ได้มากที่สุด

 

 

วันกำหนดถ่ายแผ่นผับโฆษณาใกล้เข้ามาทุกที ตอนพักรับประทานอาหาร อวี๋กานกานตามหาซย่าเฉิงโจว ต้องการจะสอบถามเรื่องสถานที่และเวลา

 

 

ตอนนี้โรงอาหารไม่มีคน อวี๋กานกานถือถาดอาหารเดินตรงเข้าไปนั่งโต๊ะเดียวกันกับซย่าเฉิงโจว เธอได้ยินมาว่าซย่าเฉิงโจวมีประสบการณ์ด้านการถ่ายโฆษณามาก่อน จึงถามไว้เพื่อเป็นแนวทาง “การถ่ายโฆษณาครั้งนี้ พวกเราต้องเตรียมอะไรไหม”

 

 

ซย่าเฉิงโจวชำเลืองมองเธอแวบหนึ่ง เอ่ยเสียงเรียบ “มาตามนัดก็พอ”

 

 

อวี๋กานกานตอบ “อ่อ” พร้อมกับพยักหน้า “แล้วแผ่นผับนี้มีไว้ทำอะไรเหรอ”

 

 

“ทำขึ้นเพื่อจุดประสงค์อะไรเรื่องแค่นี้คุณก็ยังไม่รู้? แล้วยังจะถ่ายอยู่อีก?” น้ำเสียงของซย่าเฉิงโจวแฝงไว้ด้วยความเหน็บแนม สีหน้าแววตาเย็นชา

 

 

“คะ?” อวี๋กานกานขมวดคิ้วเล็กน้อย นัยน์ตาเจือไว้ด้วยความสับสนงุนงง

 

 

ซย่าเฉิงโจวไม่ได้ตอบอวี๋กานกาน ลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ จังหวะที่เอื้อมมือไปหยิบถาดอาหาร มือของเขาชนเข้ากับถ้วยน้ำซุปของอวี๋กานกาน ทำให้ซุปกระเด็นออกมาเล็กน้อย ทั้งยังเปรอะแขนเสื้อของซย่าเฉิงโจวอย่างพอดิบพอดี

 

 

อวี๋กานกานหยิบกระดาษทิชชู่เช็ดไปที่แขนเสื้อของซย่าเฉิงโจวทันที ผลปรากฏว่าถูกซย่าเฉิงโจวสะบัดออกอย่างรุนแรง พร้อมทั้งตวาดเสียงดังลั่น “พอแล้ว!”

 

 

ดูเหมือนว่าเขาขยะแขยงอวี๋กานกานเป็นอย่างมาก

 

 

อวี๋กานกานสะดุ้งตกใจ เพลิงโกรธพุ่งทะยานขึ้นมา เธอแทบอยากจะเอาถ้วยน้ำซุปถ้วยนั้นราดลงไปตรงๆ บนศีรษะของซย่าเฉิงโจว หมอนี่สวมสุดสูทราคาแพงทั้งตัว มีออร่าของผู้ดีมีการศึกษาเปร่งประกายออกมาตั้งศรีษะจรดปลายเท้า ดูสะอาดเอี่ยมอ่อง เป็นผู้เป็นคน ทำไมถึงได้ไร้เหตุผลและดูหมิ่นคนอื่นแบบนี้ วางมาดยิ่งใหญ่เหมือนกับไพ่นกกระจอกสองห้าแปด[1]ไม่มีผิด

 

 

หรือจะเป็นเพราะข่าวลือนั่น?

 

 

อวี๋กานกานสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ด้วยกันสองครั้ง พูดอธิบายอย่างใจเย็น “คุณหมอซย่าคะ วันนั้นที่คุณกับคุณหมอซูคุยกันตรงระเบียง ฉันไม่ได้ยะ..”

 

 

สีหน้าซย่าเฉิงโจวแปรเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงทันที พูดตัดบทอวี๋กานกาน “แพทย์แผนจีนต้องการแค่คนที่มีเจตนารมณ์อยากจะเป็นหมอจริงๆ งานสัมมนาเป็นงานสำหรับแลกเปลี่ยนความรู้เท่านั้น ไม่ใช่งานที่จะให้ใครมาชุบตัวสร้างชื่อเสียงจอมปลอม ทำตัวสะดีดสะดิ้ง”

 

 

อวี๋กานกานโกรธขึ้นมาแล้วจริงๆ “…”

 

 

ถ้าไม่ใช่เพราะต้องถ่ายแผ่นผับโฆษณา เธอไม่มีทางมานั่งสนทนากับหมอนี่แน่ หมอนี่คิดว่าตัวเองเป็นใคร ถึงได้มาดูถูกเหยียดหยาม ลบหลู่ศักดิ์ศรีความเป็นคนของเธอ!

 

 

อวี๋กานกานหัวเราะเสียงเย็น กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบประหนึ่งธารน้ำแข็ง “ฉันชุบตัวสร้างชื่อเสียงจอมปลอมหรือไม่ คนไข้ในอนาคตของฉันพวกเขาจะเป็นคนตัดสินเอง ส่วนเรื่องทำตัวสะดีดสะดิ้ง แม้ว่าฉันจะชอบให้ท่าผู้ชาย มีแฟนหลายคน เหยียบเรือหลายแคม นั่นก็เป็นเรื่องส่วนตัวของฉัน เกี่ยวอะไรกับนายไม่ทราบ นายคงไม่คิดไปเองว่าการที่ฉันมาคุยกับนายแค่สองสามประโยค คือฉันกำลังให้ท่านายหรอกนะ ฉันอ่อยหมาอ่อยแมวที่ไหน ก็ไม่ไม่มีทางอ่อยนาย”

 

 

อวี๋กานกานโยนทิชชู่ลงบนโต๊ะ จากนั้นก้าวเท้าเดินออกมาทันที เธอไม่ได้ต้องการให้มันรุนแรงแบบนี้ แต่กริยามารยาทของซย่าเฉิงโจว มันน่าขยะแขยงเกินไปแล้วจริงๆ

 

 

น่ารำคาญใจ

 

 

ซูจิ่วซานยืนอยู่ด้านนอกโรงอาหาร บังเอิ้นบังเอิญเห็นฉากนี้เข้าพอดี เธอขวางทางอวี๋กานกานไว้นัยน์ตาเต็มไปด้วยความรังเกียจและความขยะแขยง จ้องมองอวี๋กานกานด้วยคำเตือน “เธอคงไม่ได้กำลังคิดว่าใช้วิธีนี้แล้วจะดึงดูดความสนใจจากรุ่นพี่ซย่าได้ใช่ไหม”

 

 

มุมปากอวี๋กานกานกระตุก “คุณหมอซู คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าคะ”

 

 

“เข้าใจผิดหรือเปล่า ใจเธอรู้ดีที่สุด” ซูจิ่วซานหัวเราะเสียงเย็น “ฉันต้องขอเตือนเธอไว้ อย่าคิดว่าตัวเองยังสาวแล้วผู้ชายทุกคนจะชอบ รุ่นพี่ซย่าเป็นผู้ชายสุขุมนุ่มลึก เขาไม่มีทางชอบผู้หญิงอย่างเธอ!”

 

 

 

 

 

 

——

 

 

[1] ไพ่นกกระจอกสองห้าแปด  ไพ่เลขสอง ห้า และแปดถือเป็นไพ่ที่มีความสำคัญกับการชนะ เนื่องจากสามารถเรียงเข้าคู่ได้หลายรูปแบบ 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 204 แมวเหมียวบนหิมะ

 

 

อวี๋กานกานทนไม่ไหวแล้ว เธอกลอกตาขึ้นฟ้าชนิดที่ว่าไม่สนใจภาพลักษณ์กุลสตรีใดๆ ทั้งสิ้น

 

 

ผู้ชายสุขุมนุ่มลึก?

 

 

ซย่าเฉิงโจวน่ะนะ? ผู้ชายไร้เหตุผลน่ะสิไม่ว่า

 

 

ซูจิ่วซานชอบซย่าเฉิงโจวเลยเห็นเขาเป็นของล้ำค่า แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคนอื่นก็จะชอบซย่าเฉิงโจว เห็นเขาเป็นของล้ำค่าเหมือนที่ตัวเองเห็น!

 

 

สองคนนี้ช่างเป็นคู่สรรค์สร้าง นิสัยเหมือนกัน ไม่เห็นหัวใคร ทะนงว่าตนเองถูกต้อง ถ้าไม่ได้ครองคู่กันต้องเป็นเภทภัยต่อคนอื่นอย่างแน่แท้!

 

 

แน่นอนว่าหลังจากผ่านเรื่องราวเหล่านี้ อวี๋กานกานก็ไม่ได้ไปหาซย่าเฉิงโจวอีกเลย ทางสมาคมแจ้งเวลาและสถานที่ถ่ายโฆษณาให้กับเธอ เธอเตรียมตัวไปด้วยตนเองเพียงคนเดียว โชคยังดีที่สถานที่ถ่ายทำอยู่ไม่ไกล เดินเท้าแค่สิบนาทีนิดๆ

 

 

ช่วงวันหยุดสองสามวันนี้เธอเอาแต่อยู่ในหอพัก แม้ว่าวันนี้ทุกหนทุกแห่งจะยังคงถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ทว่ามองเห็นพระอาทิตย์บนท้องฟ้าแล้ว พอดีเลยได้เดินออกกำลังกายสักหน่อย

 

 

ด้านหน้าสมาคมมีแผงลอยขายเนื้อแพะเสียบไม้ย่างอยู่ร้านหนึ่ง อวี๋กานกานเลือกมาย่างสองสามไม้ เดินไปกินไป ในขณะที่กำลังจะส่งไม้เสียบเข้าปาก เธอได้ยินเสียงแมวร้องอยู่หลายครั้ง “เมี๊ยว….”

 

 

อวี๋กานกานหันไปตามทิศทางของเสียงร้องเห็นเจ้าเหมียวตัวหนึ่งกำลังวิ่งมาทางเธอ ขนสีเทามันวาวเรียบลื่น ลวดลายสวยงาม มองแวบแรกเหมือนเห็นลูกเสือน้อยน่าเกรงขามกำลังนั่งอยู่ตรงปลายเท้า มันมองเธอด้วยสายตาแสนเชื่องพร้อมกับส่งเสียงร้อง “เมี๊ยว~”

 

 

อวี๋กานกานงับเนื้อแพะย่างหนึ่งคำ จากนั้นสอดส่องสายตามองไปรอบๆ ทว่าก็ไม่เห็นใครสักคน เธอนั่งยองๆ ลงบนพื้น ปลายนิ้มแตะลงบนใบหูแหลมๆ ของเจ้าเหมียว “เจ้าหนูเป็นแมวบ้านใครเนี่ย ทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้ หืม”

 

 

หรือว่าเป็นแมวจรจัด ไม่น่าจะใช่ นี่มันแมวลายเสือสีเงิน เป็นแมวที่มีราคาสูง อีกอย่างทั่วทั้งตัวก็ดูสะอาดสะอ้าน มองแค่แวบเดียวก็รู้ว่าเจ้าของดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี

 

 

“เมี๊ยว~” เจ้าเหมียวเงยหน้าของมันขึ้นพร้อมกับส่งเสียงร้องอีกครั้ง ดวงตาเป็นประกายสุกใสประหนึ่งอำพันเม็ดงามส่งแสงระยิบระยับ เกิดเป็นแสงทรงกลดสีเหลืองอร่ามที่ทั้งอบอุ่นและสดใสมีชีวิตชีวา เจ้าเหมียวจ้องตรงมาที่อวี๋กานกานโดยไม่ละสายตา ราวกับว่ามันกำลังยืนยันอะไรบางอย่าง

 

 

อวี๋กานกานสวาปามเนื้อแพะย่างเรียบร้อยไปแล้วหนึ่งไม้ เธอหยิบไม้ใหม่ขึ้นมายืนไปตรงหน้าเจ้าเหมียว “แกอยากกินบ้างใช่ไหม”

 

 

ดวงตาของเจ้าเหมียวกระพริบอย่างช้าๆ แล่บลิ้นสีชมพูออกมาเลียบนเนื้อแพะสองสามครั้ง ก่อนจะเอาศีรษะของมันไปคลอเคลียอยู่กับขาของอวี๋กานกานและส่งเสียงร้องอีกครั้ง “เมี๊ยว~”

 

 

น้ำเสียงเจื้อยแจ้ว น่ารักน่าชัง

 

 

อวี๋กานกานรู้สึกว่าหัวใจของตนเองกำลังถูกความน่ารักหลอมละลาย อยากจะอุ้มเจ้าเหมียวไปเลี้ยงเสียเอง แต่ถ้าเธออุ้มไปแล้วเจ้าของแมวออกตามหาล่ะ?

 

 

เธออุ้มเจ้าเหมียวขึ้นจากพื้นหิมะ เหมือนกับว่าเจ้าเหมียวทนหนาวมานาน มันมุดเข้าอ้อมอกของอวี๋กานกานเหมือนกับว่าในที่สุดก็หาไออุ่นพบ ดวงตากลมโตจดจ้องมาที่เธอ “เมี๊ยว~”

 

 

นะ นี่แทบจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารักที่สุดในโลก

 

 

อวี๋กานกานมองซ้ายแลขวา เธอไม่ได้จะขโมยแมวนะ รออีกสิบนาที ถ้าหลังจากสิบนาทีผ่านไปแล้วยังไม่มีเจ้าของมารับ เธอจะอุ้มกลับไป อากาศหนาวขนาดนี้ ถ้าปล่อยให้เจ้าเหมียวร่อนเร่อยู่ท่ามกลางหิมะ มันต้องหนาวแย่แน่

 

 

รถที่จอดอยู่ริมถนนคันหนึ่ง จู่ๆ ก็เปิดประตูออกมา อวี๋กานกานนึกว่าเป็นเจ้าของแมวที่ออกมาตามหา ผลปรากฏว่าเป็นฟังจือหันที่ลงมาจากรถ เขาสวมเสื้อเชิ้ตทับด้วยโอเวอร์โค้ทขนสัตว์สีน้ำตาลเข้ม ทั้งยังพันคอพันคอสีดำ

 

 

“ทำไมนายมาอยู่นี่” อวี๋กานกานอุ้มเจ้าเหมียวเดินไปหยุดอยู่ด้านข้างฟังจือหัน

 

 

ฟังจือหันอยู่ในรถนานแค่ไหนแล้วนะ ครั้งนี้จงใจมาหาเธอหรือเปล่า แต่เขาไม่ได้โทรศัพท์มาหาเธอ หลายครั้งที่เธอคาดเดาคิดเข้าข้างตัวเอง ครั้งนี้อวี๋กานกานจึงไม่กล้าด่วนสรุปว่าฟังจือหันออกมาหาเธอ

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

“ขอโทษนะคะ คุณคือ…” “ฟังจือหัน สามีเธอไง” นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย! นั่งในบ้านอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มีสามีซะยังงั้น! อวี๋กานกาน เป็นแพทย์หญิงผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน เมื่อครึ่งเดือนก่อน เธอประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนเข้าจนหมดสติไป หลังจากฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล บาดแผลไม่ได้สาหัส แต่กลับต้องนอนพักฟื้นเป็นครึ่งค่อนเดือน หลังจากที่เธอฟื้น กลับมีผู้ชายคนหนึ่งดันมายืนตรงหน้าเธอ บอกว่าเธอความจำเสื่อม และยังบอกอีกว่าเขาเป็นสามีของเธอ! เธอคนที่ไม่เคยมีความรัก ไม่เคยมีแฟน จะไปมีสามีได้ยังไงกัน… “คุณเป็นใครกันแน่” “ฟังจือหัน สามีเธอไง!” เจ็ดพยางค์เหมือนเมื่อกี้เป๊ะ… สรุปแล้วมันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นระหว่างที่เธอหมดสติไปกันเนี่ย ในเมื่อเธอไม่รู้จักเขา แล้วเพราะอะไรทำไมเขาถึงต้องอ้างว่าเป็นสามีของเธอด้วย หรือเธอจะความจำเสื่อมเข้าแล้วจริงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset