แม้เผยหนานเจวี๋ยจะเก็บเรื่องที่เกิดขึ้นในงานแต่งเป็นความลับ สื่อไม่ได้รายงานข่าวออกไป แต่ว่าในตอนนั้นมีแขกที่มาร่วมงานมากมาย แม้สื่อจะไม่ได้รายงานข่าว ตอนนี้เธอก็กลายเป็นเรื่องสนุกปากของคนอื่นไปแล้ว หลังมื้ออาหารเธอก็จะคิดบัญชีกับอีกฝ่าย การที่เธอกลายเป็นแบบนี้ทั้งหมดเป็นเพราะฉู่เจียเสวียน
“พูดเถอะ เธอนัดฉันออกทำไม” พูดเข้าประเด็น ฉู่เจียเสวียนไม่ต้องการพูดจาอ้อมค้อมกับฉู่อีอี ไม่ต้องการอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับเธอหรือหายใจอากาศเดียวกัน เธอรู้สึกรังเกียจ
มือที่อยู่ใต้โต๊ะกำแน่น ฉู่อีอีแอบขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน โมโหในใจ แต่ว่าบนใบหน้ากลับมีสีหน้าน่าสงสารและน่าเห็นใจ “พี่คะ เรื่องคราวที่แล้ว เพราะฉันผิดเอง ตอนนั้นเพราะอารมณ์ชั่ววูบฉันถึงได้ทำแบบนั้น พี่ยกโทษให้ฉันได้หรือเปล่า” ฉู่อีอีร้องไห้สะอึกสะอื้น น้ำตาไหลออกมาจากดวงตา
หลายวันนี้เธออกสั่นขวัญแขวนมาตลอด กินไม่ได้นอนไม่หลับ เธอกลัวว่าจู่ๆ ฉู่เจียเสวียนจะเปิดโปงเรื่องของเธอ
วันคืนแห่งความวิตกกังวลหลายวันนี้ ช่างทรมานมากจริงๆ เธอรู้สึกว่าวิธีที่ทำให้เธอสบายใจได้ก็คือการทำให้ฉู่เจียเสวียนหายไปจากโลกนี้อย่างสมบูรณ์
มีแค่คนตายที่พูดไม่ได้
“เธอคิดว่าฉันจะเชื่อเธอเหรอ” ริมฝีปากแดงของฉู่เจียเสวียนอ้าเล็กน้อย แววตาที่มองเธอเผยความเยือกเย็น
เธอนึกว่าเพียงคำพูดสำนึกผิดของเธอคำเดียวเธอก็จะเชื่องั้นเหรอ อารมณ์ชั่ววูบ? หึหึ ยิ้มเยาะในใจ
“เธอนึกว่าฉันเป็นเด็กสามขวบเหรอ เธอนึกว่าฉันยังเป็นคนนั้นที่ยอมให้เธอรังแกเหมือนสามปีก่อนงั้นเหรอ เธอนึกว่าฉันยังไร้เดียงสาติดกับของเธออีกงั้นเหรอ” ทุกคำพูดของฉู่เจียเสวียนก็เป็นเหมือนมีด ทุกคำพูดทิ่มแทงใจของฉู่อีอี
น้ำเสียงคมกริบ ทำให้ใจของฉู่อีอียิ่งเกลียดเธอมากขึ้นเล็กน้อย
“พี่สาว ฉันคุกเข่าให้พี่ดีไหม ฉันสำนึกผิดแล้วจริงๆ พี่อย่าเอาเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปได้หรือเปล่า ถ้าหากพี่พูดออกไป งั้นฉันก็จะจบเห่จริงๆ”
พูดพลางขยับตัว ฉู่อีอีลุกขึ้นยืนเดินไปยังฉู่เจียเสวียน คุกเข่าลง พิงอยู่บนตัวฉู่เจียเสวียน เดิมทีมือขวานั้นกำแน่นอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้เธอขยับตัวเข้าไปใกล้ฉู่เจียเสวียนมือที่กำแน่นมาตลอดนั้นผ่อนคลาย จากนั้นก็ร้องไห้ต่อไป ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ฉู่เจียเสวียนยังไม่เห็นการเคลื่อนไหวของฉู่อีอี
“ที่ฉันทำแบบนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะฉันกลัวจริงๆ ว่าจะเสียหนานเจวี๋ยไป พี่ก็รู้ว่าหนานเจวี๋ยคือชีวิตของฉัน ฉันไม่มีเขาไม่ได้จริงๆ พี่คะ…”
คิดไม่ถึงว่าฉู่อีอีจะคุกเข่าต่อหน้าเธอจริงๆ ฉู่เจียเสวียนตื่นตกใจ แม้จะไม่อยากเชื่อ แต่ว่าเธอกลับคุกเข่าต่อหน้าเธอจริงๆ
“เธอกลัวว่าฉันจะเปิดโปงขนาดนั้นเลยเหรอ รู้อยู่แล้วว่าจะมีวันนี้เธอก็ยังทำทำไม” ฉู่เจียเสวียนมองดูหน้าฉู่อีอีที่มีน้ำตาไหลไม่หยุด ทนไม่ไหว
แอบกัดฟัน “พี่สาว ฉันสำนึกผิดแล้ว เพราะฉันทำผิดต่อพี่เอง พี่ให้อภัยฉันเถอะ ถ้าพี่ไม่ให้อภัยฉัน ฉันก็จะไม่ลุกขึ้น”
ฉู่เจียเสวียนตอนนี้ฉันคุกเข่าต่อหน้าเธอ คืนนี้ฉันจะทำให้เธอทั้งเสียตัวและพ่ายแพ้!
เธอเห็นว่าเธอฉู่เจียเสวียนเป็นตัวอะไร เธอนึกว่าหลังจากทำเรื่องเหล่านั้นกับเธอแล้ว คำขอโทษคำนี้ก็จะจบเรื่องงั้นเหรอ เรื่องในอดีตผุดขึ้นในสมอง ฉู่เจียเสวียนมีความรู้สึกเจ็บปวดจนพูดไม่ออก
ทันใดนั้นก็รู้สึกระคายเคืองตาเล็กน้อย ความขมขื่นแผ่ซ่านอยู่ในใจ
“ฉู่อีอี เธอนึกว่าเธอคือใคร หลังจากที่ฉันกลับมาเธอก็ต่อต้านฉันมาตลอด ตอนนี้เธอนึกว่าท่าทางเธอแบบนี้แล้วฉันจะยกโทษให้เธอเหรอ เธอจะแสดงละครให้ใครดู” เสียงเย็นชาที่แจ่มชัดดังขึ้น ดวงตาของฉู่เจียเสวียนมีความโกรธแค้น