“ฝีมือเธอจริงเหรอ ถังถัง ตอนนี้เธอกับฉันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพวกเขาแล้ว คราวหน้าเธออย่าทำแบบนี้อีกนะ กว่าฉันมาถึงวันนี้ได้ไม่ง่ายเลย ฉันไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเขาแล้วจริงๆ” รอยยิ้มบนใบหน้าของฉู่เจียเสวียนจางลง กลายเป็นสีหน้าจริงจัง
“ฉันช่วยออกหน้าแทนเธอ ฉันก็แค่อยากให้พวกเขาไม่มีความสุข ฉันรู้สึกไม่คุ้มค่าแทนเธอ ทำไมเธอต้องทนทุกข์ขนาดนั้นด้วย แต่คนเลวคนนั้นกลับได้เสวยสุขกับเกียรติยศและความมั่งคั่งงั้นเหรอ” เธอไม่ต้องการให้พวกเขามีความสุข เธอจงใจทำลายพิธีแต่งงานของพวกเขา ทำให้งานแต่งพวกเขาล้มเหลว
“ถังถัง ฉันรู้ว่าเธอหวังดีกับฉัน แต่ว่าเธอทำแบบนี้ สำหรับฉันแล้วมันไม่มีประโยชน์เลย เพราะว่าตอนนี้พวกเขาไม่สำคัญสำหรับฉันแล้ว”
ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปาก เป็นครั้งแรกที่เธอพูดกับถังถังด้วยอารมณ์แบบนี้ ต่อไปไม่ว่าพวกเขาจะอยู่กันอย่างไร ใช้ชีวิตกันแบบไหน ล้วนไม่เกี่ยวข้องกับเธอแล้ว
“ทำไมเธอโง่แบบนี้ สามปีก่อนพวกเขาทำกับเธอยังไง เธอลืมไปแล้วเหรอ” ถังถังไม่เข้าใจฉู่เจียเสวียนเลยจริงๆ ทั้งๆ ที่เจ็บสาหัสแบบนั้น ตอนนี้ทำเหมือนกับว่าไม่เป็นไร
เธอไม่เข้าใจว่าเธอเดินมาถึงขั้นนี้ได้อย่างไร ถ้าเธอไม่ได้โง่แล้วเรียกว่าอะไร
“ไม่ว่าฉันจะโง่หรือเปล่า ฉันก็ไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเขา เรื่องของฉันกับเขาตอนนี้เป็นอดีตไปแล้ว เธออย่าไปยุ่งอีกเลย”
“ถ้างั้นความหมายของเธอคือฉันยุ่งไม่เข้าเรื่องใช่ไหม” ถังถังขึ้นเสียงสูง มองฉู่เจียเสวียนน้ำเสียงไม่พอใจ
เธอลงทุนลงแรงคิดเพื่อเธอ คิดไม่ถึงว่าเธอจะพูดแบบนี้
“ฉันไม่ได้หมายความแบบนี้ ฉันไม่ได้บอกว่าเธอยุ่งไม่เข้าเรื่อง ฉันแค่บอกอยากบอกเธอว่าเรื่องของพวกเขาไม่เกี่ยวกับฉัน”
“ฉันมีวันนี้ได้มันไม่ง่ายเลย ฉันไม่จำเป็นต้องมีส่วนร่วมอะไรกับพวกเขาอีก ฉันแค่ไม่อยากให้ครั้งหน้าเธอทำเรื่องนี้แบบนี้อีก เพราะว่ามันไม่คุ้ม”
ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปากด้วยความจริงใจและปรารถนาดี เห็นอยู่ว่าเธอไม่ได้หมายความแบบนั้น ทำไมเธอต้องคิดแบบนั้นด้วย เธอแค่รู้สึกว่าเรื่องในอดีตตอนนี้ไม่สำคัญแล้ว
“เธอไม่ได้รู้สึกว่าฉันยุ่งไม่เข้าเรื่องหรอกเหรอ ฉันหวังดีกับเธอแต่เธอกลับไม่ใส่ใจ” ได้ยินนัยยะแฝงในคำพูดของฉู่เจียเสวียน ถังถังรู้สึกว่าเธอหมายความว่าแบบนั้น
เห็นชัดๆ ว่าเธอกำลังวิพากย์วิจารณ์ว่าเธอยุ่งไม่เข้าเรื่อง คิดยิ่งก็ยิ่งโมโห
“ถ้าเธออยากจะพูดแบบนี้ ฉันก็ช่วยไม่ได้” ริมฝีปากแดงอ้าเอ่ย น้ำเสียงที่โมโหเล็กน้อยปรากฏให้เห็น
“หึ ทำคุณบูชาโทษ!” ถังถังพูดจบก็หยิบกระเป๋าแล้วเดินออกไปนอกประตู
เห็นแผ่นหลังของถังถังที่จากไปไกล ดวงตาของฉู่เจียเสวียนแดงก่ำ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเธอจากกันไม่ดีนับตั้งแต่ที่รู้จักกันมานาน
สิ่งที่ถังถังทำเพื่อเธอทั้งหมด เธอต่างรู้ดี แต่ว่าตอนนี้เธอมีทุกอย่างได้ด้วยความยากลำบาก เธอลืม
เผยหนานเจวี๋ยได้ด้วยความยากลำบาก เธอก้าวผ่านช่วงเวลานั้นมาได้อย่างยากลำบาก กำจัดเรื่องในอดีตออกไปได้อย่างยากลำบาก เธอไม่อยากให้ตัวเองมีความสัมพันธ์ใดๆ กับพวกเขาอีกแล้วจริงๆ
“ถังถัง ฉันไม่ได้หมายความจะโทษเธอ ทำไมเธอถึงไม่เข้าใจฉัน” ฉู่เจียเสวียนล้มตัวลงบนโซฟาอย่างเหม่อลอย บ่นพึมพำอยู่ในปาก น้ำเสียงมีความขมขื่น
ออฟฟิศที่กว้างใหญ่เหลือเพียงฉู่เจียเสวียน เธอขดตัวอยู่ในมุมห้อง สองมือกอดตัวเอง ซุกหน้าอยู่ระหว่างมือทั้งสอง
ตกดึก ฉู่เจียเสวียนกลับถึงบ้าน พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงนอนไม่หลับ ในหัวนึกถึงคำพูดที่พูดกับถังถังวันนี้ เธอยากที่จะหลับลง ในใจราวกับถูกคนชก ทรมานจนเธอหายใจไม่ทั่วท้อง
เฮ้อ ช่างเถอะ พรุ่งนี้ก็ไปคุยกับถังถังก็แล้วกัน วันนี้ทั้งสองคนอารมณ์ไม่ดี น้ำเสียงก็วู่วามไปหน่อย ตอนนี้ปล่อยให้ทั้งสองคนเย็นลงก่อนเถอะ