ลุงใหญ่เล็งเห็นว่าสถานการณ์เริ่มอยู่เหนือการควบคุมแล้ว เริ่มสังหรณ์ใจไม่ดี รีบเดินเข้าไปพูดกับเถียนรุ่ยซานทันที “รุ่ยซาน นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด ทั้งหมดเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดน่ะ”
เหอหว่านซินเองกระเง้ากระงอดใส่เถียนรุ่ยซาน ส่งเสียงฮึดฮัด พูดอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ “เถียนรุ่ยซาน นาย…นายใส่ร้ายฉันแบบนี้ได้ยังไง นายทำให้ฉันโกรธมาก ฉัน…ฉันขอเลิกกับนาย”
เหอหว่านซินต้องการถอยออกมาตั้งหลักใหม่ก่อน คิดจะใช้คำว่าขอเลิกให้เถียนรุ่ยซานหยุดก่อความวุ่นวาย
เถียนรุ่ยซานชอบเหอหว่านซินมากจริงๆ เมื่อเห็นเหอหว่านซินโกรธเขาก็โอนอ่อนทันที พูดอ้อนวอน “อาซิน ผม…”
คำพูดยังไม่ทันได้ออกจากปากของเถียนรุ่ยซาน ทันใดนั้นลูกโป่งที่อยู่บนเพดานห้องวีไอพีก็ระเบิดออก รูปภาพแต่ละใบล่องลอยลงมาจากด้านบนราวกับเกล็ดหิมะ
รูปภาพทั้งหมดเป็นรูปของหยางเทียนโย่วและเหอหว่านซิน ทั้งสองสนิทชิดเชื้อกันมาก มีจับมือ มีกอด มีจูบอย่างดูดดื่ม…
เถียนรุ่ยซานตะลึงค้างไปครู่หนึ่ง หยิบรูปใบหนึ่งขึ้นมาดู ดวงตาทั้งสองข้างลุกโชนด้วยเปลวเพลิง เขาโกรธจนหน้าเขียว ขบกรามกรอด “เหอหว่านซิน! นึกไม่ถึงว่าคุณจะหักหลังผม เสียเปล่าที่ผมทำดีต่อคุณขนาดนั้น คุณอยากได้อะไรผมก็ซื้อให้หมด ปรากฏว่าลับหลังผมมารดามันกลับไปหาแมงดาตัวหนึ่ง!”
ความโกรธของผู้ชายที่ถูกสวมหมวกเขียว[1] ทำให้เถียนรุ่ยซานเกือบขาดสติ ชูหมัดขึ้นจะต่อยเหอหว่านซินแต่เขายังข่มความโกรธเอาไว้ได้ ทั้งรักและทั้งเกลียดในเวลาเดียวกัน เถียนรุ่ยซานรักเหอหว่านซินมาก ไม่รู้จะทำอย่างไรกับเหอหว่านซินดี จะด่าก็ด่าออกไม่ออกจะตีก็ตีไม่ลง ดังนั้นจึงเอาความโกรธที่มีทั้งหมดระบายใส่ร่างกายของหยางเทียนโย่ว เขากำหมัดพุ่งเข้าไปพร้อมทั้งตะโกนด่า “ใครให้แกแย่งแฟนฉัน ใครให้แกแย่งแฟนฉัน ฉันจะอัดแกให้ตายเลย ไอ้เวรเอ้ย!”
หยางเทียนโย่วถูกต่อยจนกำเดาไหล ต่อให้เขาอ่อนแอแค่ไหนแต่ก็ยังเป็นผู้ชาย ไม่มีทางยอมรับมือรับเท้าอยู่ฝ่ายเดียว ทั้งคู่จึงแกหมัดหนึ่งฉันหมัดหนึ่ง ภายในห้องวีไอพีเริ่มเกิดการฉุดกระชากต่อยตีกันไปมาอย่างดุเดือด ขวดไวน์แหลกละเอียด อาหารทั้งหมดหกเรี่ยราด ห้องวีไอพีเละตุ้มเป๊ะเป็นโจ๊กภายในเวลาอันรวดเร็ว
ลุงใหญ่สีหน้าเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด โมโหจนหน้าเขียวหน้าเทา ตะโกนอยู่ด้านข้าง “หยุด หยุดได้แล้ว…”
เหอหว่านซินดวงตาเบิกโต น้ำตานองหน้า ตะโกนอยู่ด้านข้าง “พอแล้ว อย่าทะเลาะกันอีกเลย…”
ทั้งคู่ไม่ได้ฟังพวกเขาแม้แต่น้อย มีแต่ยิ่งต่อยยิ่งดุเดือด
ป้าสะใภ้ใหญ่ตกใจกลัวกรีดร้องโหยหวนอยู่ข้างๆ
อวี๋กานกานเองก็สะดุ้งตกใจ ฟังจือหันดึงอวี๋กานกานให้มายืนข้างๆ ปกป้องเธอไว้ด้านหลังอย่างมิดชิด ใบหน้าเย็นชาหล่อเหลาปล่อยรังสีเย็นเยียบ มองดูฉากเด็ดอยู่ห่างๆ
ข่าวทะเลาะวิวาทรับรู้ไปถึงผู้จัดการภัตตาคาร พวกเขาเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยมาแยกเถียนรุ่ยซานและหยางเทียนโย่วออกจากกัน
เถียนรุ่ยซานยังดีไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร เพียงแค่โกรธจนตัวสั่น แต่หยางเทียนโย่วถูกต่อยจนค่อนข้างน่าเวทนา บนหน้าถูกต่อยจนมีรอยเขียวหนึ่งรอย รอยม่วงหนึ่งรอย มุมปากแตกมีเลือดสดๆ ไหลออกมาซิบๆ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นค่อนข้างร้ายแรง ผู้จัดการร้านต้องการจะแจ้งความ แต่ถูกลุงใหญ่ห้ามเอาไว้ ลุงใหญ่โมโหจนแทบจะระเบิดอยู่รอมร่อ เรื่องขายขี้หน้าขนาดนี้ เขาไม่อยากให้เรื่องใหญ่ไปกว่านี้
สีหน้าลุงใหญ่ดำทะมึนราวกับเมฆฝน มองหน้าเถียนรุ่ยซานและเหอหว่านซินกล่าวสั่งสอน “เกิดอะไรขึ้นกับพวกเธอ สภาพนี่มันเหมือนกับอะไร”
เถียนรุ่ยซานหอบหายใจฮึดฮัด มองเหอหว่านซินด้วยแววตาเจ็บปวดครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดกับลุงใหญ่ด้วยความโมโห “คุณลุง เรื่องในวันนี้ลุงก็เห็นแล้ว ไม่ใช่เพราะผมไม่ดีต่อเหอหว่านซิน อีกอย่างพวกคุณรู้เรื่องทั้งหมดนี้ตั้งนานแล้วใช่ไหม แต่ก็ไม่มีใครบอกผมสักคน”
ลุงใหญ่รีบอธิบาย “ลุงพูดไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นการเข้าใจผิดกัน ทำไมเธอถึงไม่ถามให้ชัดเจนก่อน แต่ไหนแต่ไรเธอเป็นคนอารมณ์ร้อนแบบนี้เสมอ”
——
[1]สวมหมวกเขียว หมายถึง ถูกสวนเขา ใช้ในกรณีที่ผู้หญิงสวมเขาให้ผู้ชายเท่านั้น