อวี๋กานกานหัวเราะอย่างยียวนกวนประสาท “เหอหว่านซิน บางทีฉันก็สงสัยจริงๆ นะว่าสมองของเธอกับรูทวารเกิดสลับที่กันหรือเปล่า ถึงได้เลือกเดินบนทางที่โง่งมแบบนี้ หนึ่งก้าวทิ้งหนึ่งรอยเท้าเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง แต่ไหนแต่ไรไม่เคยเดินได้ครบรอบ เธอนี่มันเก่งเกินไปแล้ว!” พูดพร้อมยกนิ้วโป้งให้เหอหว่านซิน
ประโยคนี้ทำให้เหอหว่านซินโกรธจนแทบกระอักเลือด สีหน้าดูไม่ได้ “อวี๋กานกาน แกอย่ามาดีแต่เล่นลิ้นเล่นคำด่าคนอื่น”
อวี๋กานกานหัวเราะเยาะ “ด่าคนอย่างเธอไปแล้วฉันได้อะไร แต่ไหนแต่ไรสามทัศนคติ[1]ของพวกเราสองคนมันต่างกันคนละโลก ก็เหมือนกับนอนกับผู้ชาย ชั่วชีวิตนี้ฉันนอนกับผู้ชายเพียงคนเดียว แต่ชั่วชีวิตนี้ของเธอนอนกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้า ดูว่าคนไหนลีลาเด็ดบนเตียงก็เลือกคนนั้น? ถ้าเป็นไปได้ ฉันไม่อยากเสวนากับเธอด้วยซ้ำ”
เหอหว่านซินกำหมัดแน่น มีความรู้สึกบ้าคลั่งอยากจะพุงไปตบ “ใครอยากนอนกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้า เลือกคนที่ลีลาเด็ด? แก…”
“เธอไง!” อวี๋กานกานพูดแทรกขึ้นมา มองเหอหว่านซินอย่างเหยียดหยาม “เมื่อกี้เธอพูดเองไม่ใช่เหรอว่าคนไหนลีลาเด็ดก็คบกับคนนั้น? นี่ไม่ใช่บรรทัดฐานของเธอเหรอ มนุษย์เราจะเอาบรรทัดฐานของตัวเองมาใช้กับผู้อื่น! เข้าใจไหม”
เดิมทีเหอหว่านซินต้องการจะระบายอารมณ์ใส่อวี๋กานกาน ผลปรากฏว่านอกจากจะไม่ได้อะไรแล้ว ยังโมโหจนลมแทบจับ
เธอกุมหน้าอก ตวาดลั่นด้วยความโกรธ “อวี๋กานกาน แกอย่าเพิ่งได้ใจไป ฉันจะบอกอะไรให้ ผู้หญิงปากตะไกร มีพิษร้ายซะยิ่งกว่างูอย่างแก รอไปเถอะแกต้องถูกผู้ชายทิ้งสักวันแน่!”
อวี๋กานกานแบมือทั้งสองออกไปด้านข้าง ท่าทีอวดดีอย่างยิ่ง “ขอโทษนะ ไม่มีผู้ชายคนไหนทิ้งฉันได้ พอดีว่าฉันเพิ่งทิ้งผู้ชายไปคนหนึ่ง ชื่ออะไรน้า อ้อ หยางเทียนโย่ว”
เหอหว่านซินโกรธจนพูดอะไรโดยไม่กลั่นกรองออกจากสมองแล้ว “แกทิ้งเทียนโย่ว เทียนโย่วต่างหากที่ไม่ปรายตามองผู้หญิงอย่างแก ถ้าไม่ใช่เพราะฉันแม้ตาหางตาเขาก็ไม่มีทางชายมามองแก”
อวี๋กานกานหัวเราะ “ดูแล้วความสัมพันธ์ระหว่างพี่กับเทียนโย่วจะไม่ธรรมดาจริงๆ ซะด้วย”
“แน่นอน…” เดิมทีอารมณ์ของเหอหว่านซินก็ไม่ดีอยู่แล้ว ถูกอวี๋กานกานยั่วหน่อยก็โมโห คำพูดที่เมื่อครู่เกือบหลุดปากออกไป ทำให้เธอตกใจเป็นอย่างมาก เธอลนลานเล็กน้อย รีบตะโกนดังลั่น “อวี๋กานกาน แกอย่ายั่วโมโหแล้วใส่ร้ายฉัน แกมันผู้หญิงเจ้าเล่ห์ร้อยเล่มเกวียน” พูดพร้อมกับส่งเสียงขึ้นจมูกดังหึ จากนั้นหมุนตัวเดินจากไป
อวี๋กานกานรู้สึกมาตั้งนานแล้วว่าตอนที่พูดถึงหยางเทียนโย่ว เหอหวานซินจะมีอาการแปลกๆ ตั้งแต่เด็กจนโตเหอหว่านซินมาหาเรื่องและใส่ร้ายเธอก็ไม่น้อย แต่เห็นแก่หน้าของคุณปู่ เธอไม่เคยคิดผูกแค้นกับเหอหว่านซินสักครั้ง อย่างไรเสียเหอหว่านซินก็เป็นหลานแท้ๆ ของคุณปู่ และหากไม่มีคุณปู่ก็ไม่มีอวี๋กานกานอย่างทุกวันนี้
เหอหว่านซินเป็นคนที่ร้ายอยู่บ้าง ชอบแข่งกับเธอ ชอบหาเรื่องเธอ แต่จริงๆ แล้วไม่ได้มีแผนการอะไรในใจ เป็นคนมุทะลุ มีอะไรก็แสดงออกทางสีหน้าหมด
หากไม่ใช่เพราะว่ามีความสัมพันธ์ที่บอกคนอื่นไม่ได้กับหยางเทียนโย่ว เป็นไปไม่ได้ที่ทุกครั้งเมื่อเอ่ยถึงหยางเทียนโย่วเธอจะมีอาการโมโหฟึดฟัดแบบนี้ เหมือนกับถูกแย่งของรักของหวงยังไงอย่างงั้น
อวี๋กานกานเคลื่อนสายตา เหลือบไปเห็นคนสวมชุดสูทสีดำอย่างไม่ตั้งใจ ฟังจือหันยืนกอดอกพิงมุมกำแพงอย่างเอื่อยเฉื่อย ไม่รู้ว่าเขามาตั้งแต่เมื่อไร
“นายมานานแค่ไหนแล้ว” มาถึงแล้วก็ไม่ยอมส่งเสียง
ฟังจือหันมองหน้าเธอ ริมฝีหยักโค้งขึ้นเล็กน้อย “ตอนที่คุณพูดว่าชั่วชีวิตนี้จะนอนกับผู้ชายเพียงคนเดียว”
อวี๋กานกานอับอายจนเหงื่อตก จู่ๆ หน้าก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ
——
[1] สามทัศนคติ ประกอบด้วย ทัศนคติต่อโลก ทัศนติต่อชีวิตและทัศนติต่อคุณค่า