DC บทที่ 218: กลุ่มสาวสวยกลับมาอีกครั้ง
บรรยากาศภายในห้องน้ำเงียบและสงบสุขเป็นอย่างมากจนหลานลี่ชิงที่พิงศีรษะบนหัวไหล่ของซูหยางในเวลานั้นรู้สึกผ่อนคลายและปลอดภัยเป็นพิเศษ บางสิ่งที่เธอไม่เคยประสบมาก่อนเหมือนกับความฝัน ซึ่งหลานลี่ชิงต้องการให้ช่วงเวลาคงอยู่อย่างนั้นชั่วนิรันดร์
“ซูหยาง…” เธอพลันกล่าวขึ้น “เมื่อไหร่เจ้าจึงจะกลายเป็นศิษย์หลัก ข้าจะได้ไม่ต้องปิดบังความสัมพันธ์กับเจ้าอีกต่อไป”
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อที่เก็บความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของพวกเขาจากฐานะผู้อาวุโสนิกายและศิษย์ไว้เป็นความลับ เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ถูกลงโทษโดยนิกาย เธอต้องโกหกศิษย์ของเธอเองเพื่อที่จะพบกับเขา บางสิ่งที่เธอไม่อาจปฏิเสธว่าเธอไม่รู้สึกผิด
“เจ้ายังคงกังวลเกี่ยกับเรื่องพวกนี้รึ” ซูหยางส่ายหน้า “ถ้าใครมีปัญหาก็ให้มาหาข้า”
“เจ้ายังมิเข้าใจ ซูหยาง… มันมิใช่อะไรที่ไม่สำคัญอย่างเช่นแค่เพียง “ปัญหา” แม้ว่าจะเป็นเรื่องธรรมดาของนิกายนี้ แต่นี่เป็นเรื่องต้องห้ามสำหรับผู้อาวุโสนิกายและศิษย์ที่จะฝึกคู่ร่วมกัน ถ้าความสัมพันธ์ของเราถูกเปิดเผย เราคงจะถือได้ว่าโชคดีถ้านิกายเพียงแค่ทำลายพลังการฝึกปรือก่อนที่จะไล่พวกเราออกจากสำนัก ในกรณีที่เลวร้ายอาจลงโทษเราถึงตาย”
“จะเกิดอะไรขึ้นรึถ้าผู้นำนิกายฝึกคู่ร่วมกับศิษย์ ยังมีกฏพวกนี้อยู่หรือไม่” ซูหยางถามง่ายๆ
“ผ-ผู้นำนิกายรึ ร-เรื่องนี้ไม่เคยคิดมาก่อน ในเมื่อเหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมานับตั้งแต่นิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยถูกก่อตั้ง ถ้ามันเกิดขึ้นนั่นต้องยิ่งกว่าเพียงแค่เรื่องอื้อฉาว”
ซูหยางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะในใจ ในเมื่อประวัติศาสตร์ของนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยถูกเขียนไว้เรียบร้อยแล้วเมื่อเขาได้ร่วมฝึกคู่กับโหลวหลานจีระหว่างการประเมินศิษย์ใน
“ข้ามิเข้าใจทำไมเรื่องเช่นนั้นจึงต้องห้าม นั่นมิได้ทำร้ายผู้ใด และศิษย์ย่อมได้ผลประโยชน์มากมายถ้าพวกเขาฝึกคู่ร่วมกับผู้อาวุโสนิกาย” ซูหยางถอนหายใจ
“ข้าก็มิเข้าใจเช่นกัน แต่ข้าเคยได้ยินจากผู้นำนิกายคนก่อนว่ากฏดังกล่าวไม่ได้มีมาตั้งแต่ต้น มันเกิดขึ้นหลังจากมีเหตุที่ทำให้เกิดความวุ่นวายอย่างมากภายในนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยจนทำให้พวกเขาต้องตั้งกฏนั้นขึ้น”
“อย่างนั้นรึ…” แม้ว่าซูหยางไม่ได้สนใจมากนักเกี่ยวกับกฏของนิกายนี้ หลานลี่ชิงดูเหมือนว่าจะเป็นกังวลเกี่ยวกับมันมาก
“อย่างไรก็ตามเจ้าอย่าเครียดเกินไปกับสิ่งที่ไม่สำคัญ และถึงแม้ว่ามันถูกเปิดเผยให้กับนิกายว่าเราร่วมฝึกคู่กัน ก็จักมิมีอะไรเกิดขึ้นกับเราทั้งคู่ นี่ข้าสามารถรับประกันเจ้าได้” เขากล่าวกับเธอด้วยรอยยิ้มมั่นใจบนใบหน้า
“ถ้าเจ้ากล่าวเช่นนั้น…” แม้ว่าเธออาจจะไม่สามารถหยุดกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ทั้งหมด เธอก็ยังรู้สึกว่าน้ำหนักที่กดอยู่บนบ่าเบาลงหลังจากที่เห็นความมั่นใจของเขา มันเหมือนกับว่าซูหยางสามารถแบ่งปันความรู้สึกของเขาให้กับใครก็ตามที่อยู่ข้างเขา
หลังจากที่มีความสุขกับการอาบน้ำอีกชั่วขณะ ซูหยางก็อุ้มหลานลี่ชิงออกจากอ่างอาบน้ำไปเช็ดตัวให้แห้งก่อนที่จะสวมชุดกลับคืนลงบนร่างเธอ
เพียงหลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมงที่หลานลี่ชิงมีแรงพอที่จะยืนขึ้นโดยไม่ล้มลงหลังจากที่ยืนได้สองสามวินาที และเมื่อเธอสามารถเดินได้โดยไม่ล้มลงแทบทุกก้าวหลายนาทีหลังจากนั้น หลานลี่ชิงก็กล่าวคำอำลากับซูหยางและกลับไปยังตำหนักโอสถที่ซึ่งศิษย์ของเธอยังคงทำงานก้าวหน้าอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งสร้างความงุนงงให้กับหลานลี่ชิงเป็นอย่างมากเมื่อเธอเห็นภาพนั้น
เมื่อหลานลี่ชิงจากไปแล้ว ซูหยางได้นำเอายาเม็ดสีแดงจากถุงเก็บที่ทิ้งไว้เบื้องหลังโดยชิวเยวี่ยและกลืนมันเข้าไปก่อนที่จะหลับตาฝึกฝน
แม้ว่าหลานลี่ชิงจะอยู่เพียงแค่เขตปฐพีวิญญาณระดับต้น แต่เพราะว่าน้ำมันที่เพิ่มปราณหยินของเธอและยาเม็ดสีแดงนี้ที่เต็มไปด้วยปราณหยาง จึงเพียงพอให้ซูหยางสามารถฝึกปราณไร้ลักษณ์ให้ก้าวหน้าต่อไปยังเขตอัมพรวิญญาณได้ และแม้ว่าก้าวนี้จะเชื่องช้าและอ่อนแอ แต่เขาก็ยังเติบโตต่อไปได้
และด้วยความเร็วระดับนี้ เขาไม่ต้องใช้เวลาถึงครึ่งปีในการที่จะเข้าสู่เขตอัมพรวิญญาณ
–
–
–
ขณะที่ซูหยางกำลังฝึกวิชาอย่างสงบสุข บรรดาศิษย์ของตำหนักโอสถก็เคลื่อนไหวอย่างเร่งร้อนเพื่อที่จะทำให้งานวันนั้นของตนเองเสร็จตราบเท่าที่เป็นไปได้เพื่อพวกเธอจะได้ไปหาซูหยาง ทำให้สถานที่แห่งนั้นสับสนวุ่นวาย
และเมื่อหลานลี่ชิงเห็นภาพนั้นครั้งแรก เธอถึงกับตกตะลึงกับการทำงานของพวกเธอ เพราะว่าเธอไม่เคยเห็นพวกเธอทำงานอย่างหนักในหลายปีที่อยู่ด้วยกันมา
อย่างไรก็ตามเมื่อหลานลี่ชิงถามหนึ่งในบรรดาศิษย์ว่าเหตุใดพวกเธอจึงพลันกระฉับกระเฉงและได้รับคำตอบว่าซูหยางได้เปิดกิจการนวดเล็กๆของเขาขึ้นมาอีกครั้งแล้ว เธอจึงตกตะลึงกับข่าวอีกครั้ง
“ซูหยางจักรับลูกค้าอีกครั้งรึ” หลานลี่ชิงอดนึกไม่ได้ว่าความวุ่นวายจะเป็นอย่างไรหากเหล่าศิษย์หญิงรู้ข่าวนี้ ในเมื่อมันเกิดความวุ่นวายมาแล้วเมื่อซูหยางเปิดธุรกิจครั้งแรก
“เช่นนี้พวกหญิงสาวเช่นเจ้าทุกคนวางแผนที่จะไปหาซูหยางหลังจากทำงานวันนี้รึ” เธอถามพวกเธอด้วยท่าทางแปลกประหลาดใบใบหน้า
“เป็นเช่นนั้น พวกเราต้องการเป็นกลุ่มแรกที่อยู่ในแถว”
“หวังว่าศิษย์พี่ชายซูเพียงบอกกับพวกเราเกี่ยวกับการเปิดอีกครั้ง มิเช่นนั้นพวกเราคงต้องเข้าแถวหลายวันก่อนที่พวกเราจะสามารถเจอเขา”
“ย-อย่างนั้นรึ…” หลานลี่ชิงไม่ต้องการที่จะยุ่งเกี่ยวกับความวุ่นวายของพวกเธอมากเกินไป ในเมื่อมันอาจจะทำให้ความลับของเธอกับซูหยางเปิดเผยออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ดังนั้นเธอจึงปล่อยพวกเธอไป และกลับขึ้นไปยังชั้นบนที่ห้องของตนเองเพื่อที่จะฝึกฝนปราณหยางในร่างเธอ
สองสามชั่วโมงหลังจากนั้น หลังจากบรรดาศิษย์ของตำหนักโอสถเสร็จสิ้นงานของประจำวันของพวกเธอแล้ว พวกเธอทั้งหมดพากันวิ่งไปยังที่พักของซูหยางราวกับฝูงสัตว์ร้ายที่หิวโหย
ยามเมื่อพวกเธอไปถึงที่พักของซูหยางและเห็นว่ายังไม่มีใครเข้าแถว ดวงตาของพวกเธอเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น รู้สึกดีใจที่พวกเธอเป็นกลุ่มแรกที่มาถึง
“ศ-ศิษย์พี่ชายซู ตามสัญญา พวกเราอยู่ที่นี่แล้ว” หนึ่งในพวกเธอเคาะประตู
ไม่นานหลังจากนั้นซูหยางก็เปิดประตู
“เข้ามาข้างในสิ” เขาทักทายพวกเธอด้วยรอยยิ้ม และเหล่าหญิงสาวก็เข้าไปในบ้านอย่างมีความสุขโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย