ทันทีที่ซูเหวินฉีนำหลักฐานชิ้นนี้ออกมา ในอินเทอร์เน็ตก็ทัวร์ลงทันที
“ฉันก็ว่าอยู่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ที่แท้ก็ลู่ฟานนั่นเล่นสกปรก!”
“ก่อนหน้านี้ที่ลู่ฟานถูกถอนทุนไป เป็นการแบนทางอ้อม หรือว่าเป็นเพราะพี่ซู?”
“อาจจะเป็นไปได้นะ ลู่ฟานกับพี่ซูไม่กินเส้นกัน จากนั้นก็โดนแบน ลู่ฟานแค้นก็เลยตอบกลับด้วยแผนสกปรก แม่เจ้าทุกอย่างลงล็อคเป๊ะ!”
“ลู่ฟานสมควรตายจริงๆ กล้าเล่นสกปรกแบบนี้ เข้าไปกินข้าวในคุกสักหน่อยไป!”
“……”
ชาวเน็ตฉลาดมาก สิ่งที่ซูเหวินฉีนำออกมาล้วนเป็นหลักฐานที่มีประโยชน์มาก แค่เห็นก็ไม่สามารถปฏิเสธได้แล้วแล้วยังโยงไปถึงเรื่องก่อนหน้านี้ได้ด้วย ทุกคนต่างก็เข้าใจแล้วว่านี่เป็นการแก้แค้นของลู่ฟาน!
แม้ว่าซูเหวินฉีจะไม่ได้พูดอะไรมาก แต่เพราะหม่าหรุ่ยเป็นพิธีกรที่มีประสบการณ์มากมาย ทั้งสองคนคุยกันเพียงสิบกว่านาที แต่พวกเขาก็ได้พูดถึงละเอียดของเรื่องนี้อย่างชัดเจนแล้ว
“เหวินฉีดูแข็งแกร่งมากเลยนะคะ ถ้าเป็นฉันเผชิญหน้ากับความคิดเห็นของประชาชนเช่นนี้ ฉันคงจะจัดการไม่ไหวแน่ๆ”
“อ้อ เมื่อกี้คุณบอกว่ามีชายคนหนึ่งช่วยชีวิตคุณออกมา คนคนนี้เป็นใครคะ? สะดวกเปิดเผยข้อมูลไหมคะ?”
ซูเหวินฉีลังเลเล็กน้อยและส่ายหน้า
“เขาไม่ใช่คนวงในวงการค่ะ ฉันบอกไม่ได้ว่าเขาเป็นใคร”
หม่าหรุ่ยยิ้ม “ดูจากท่าทางของเหวินฉีแล้ว น่าจะเป็นคนที่คุณสนิทมากใช่ไหมคะ?”
ซูเหวินฉียังยิ้มบางๆ “นี่คุณวางกับดักฉันหรือเปล่าคะเนี่ย?”
สไตล์การเป็นพิธีกรของหม่าหรุ่ยเป็นแบบนี้แหละ ดูเหมือนพูดคุยกันแบบธรรมดา แต่จริงๆแล้วกำลังมองหาโอกาสถามหัวข้อที่ละเอียดอ่อน
ดาราดังหลายคนเปิดเผยชีวิตส่วนตัวของตัวเองในรายการนี้ และก็เพราะอย่างนี้แหละ รายการนี้ถึงมีเรตติ้งสูง
หม่าหรุ่ยยิ้ม “เหวินฉีก็ดังมาหลายปีแล้ว และทุกคนต่างก็ให้ความสนใจกับเรื่องชีวิตส่วนตัวของคุณมาก แทนที่จะปล่อยให้ฉันหลอกถาม คุณน่าจะเล่าด้วยตัวเองดีกว่านะคะ”
ซูเหวินฉียิ้มและนิ่งไปครู่หนึ่ง เธอมองไปที่กล้องแล้วพูดอย่างนุ่มนวล
“เขาคือแฟนของฉันค่ะ”
ทันใดนั้นอินเทอร์เน็ตก็เดือดทันที
ครั้งแรกที่ซูเหวินฉีเปิดเผยเรื่องความรัก!
นี่มันสุดยอดมาก ข่าวใหญ่ขนาดนี้!
บทสัมภาษณ์ของหม่าหรุ่ยเฉียบมาก แม้แต่เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของพี่ซูก็ถูกขุดขึ้นมาเหรอเนี่ย?
แน่นอนว่านี่ถูกเซ็ทไว้ล่วงหน้าแล้ว หากต้องการสัมภาษณ์กับหม่าหรุ่ยก็ต้องมีประเด็นอะไรให้พูดหน่อย ไม่งั้นรายการก็จะไม่ค่อยได้รับความสนใจและเรตติ้งตก
หม่าหรุ่ยเริ่มพูดคุยกับซูเหวินฉีเรื่องความสัมพันธ์ของเธอ และซูเหวินฉีก็พูดออกมาตรงๆ
“มีช่วงหนึ่งฉันกดดันกับเรื่องงานมาก ฉันแอบหนีผู้จัดการออกไปดื่ม มีอยู่ครั้งหนึ่งดื่มจนเมา และไปโผล่ที่หน้าประตูบ้านของเขา และเขาก็ช่วยฉันไว้”
หม่าหรุ่ยตกใจเล็กน้อย “คุณเป็นดาราดังนะ แล้วยังสวยขนาดนี้อีก เขาไม่ฉวยโอกาสตอนคุณเมาทำอะไรคุณเหรอคะ?”
ซูเหวินฉียิ้ม “ไม่เลย พูดแล้วก็ตลก เขาดูเหมือนจะไม่รู้จักฉัน ครั้งแรกที่ฉันอยู่ที่บ้านของเขา เขาพยายามไล่ฉันออกไปสามครั้งติด จนฉันถึงกับสงสัยว่าเสน่ห์ของฉันมันลดลงหรือเปล่า”
หม่าหรุ่ยก็หัวเราะเช่นกัน “ถ้าอย่างนั้นผู้ชายคนนี้ก็ดูเป็นสุภาพบุรุษจริงๆ นะคะเนี่ย”
ซูเหวินฉีพยักหน้า “ใช่ค่ะ เขาเป็นตรงๆ น่ะค่ะ และก็เป็นหมอ ในสายตาของเขา ฉันน่าจะเป็นแค่ขี้เมาคนหนึ่ง…”
ซูเหวินฉีพูดจริงครึ่งเท็จครึ่ง เผยความรู้สึกออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ และฟังดูโรแมนติกมาก แต่ไม่มีใครรู้ว่าเธอกำลังพูดถึงฉินจุน
ยกเว้นคนคนหนึ่ง นั่นก็คือหลิ่วชิงชิง
หลิ่วชิงชิงนั่งอยู่ในสำนักงานก็เห็นรายการของซูเหวินฉี เมื่อเห็นสิ่งนี้เธอก็ส่งข้อความหาฉินจุนทันที
“พวกคุณเป็นแฟนกันเหรอ?”
ไม่กี่นาทีต่อมาฉินจุนก็ตอบกลับ
“ไม่ใช่ หลอกน่ะ”
หลิ่วชิงชิงแสดงสีหน้าพึงพอใจ “งั้นก็ดี”
ฉินจุนมองคำตอบของหลิ่วชิงชิง และทันใดนั้นก็พูดไม่ออก วงจรสมองของนักธุรกิจสาวคนนั้นช่างแปลกประหลาดจริงๆ
คิดไม่ถึงว่าคนแรกที่ถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของฉินจุนกับกับซูเหวินฉีจะเป็นหลิ่วชิงชิง!
ครั้งก่อนที่ฉินจุนไปขอความช่วยเหลือจากเธอ หลิ่วชิงชิงก็สงสัยในความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนอยู่แล้ว
หลิ่วชิงชิงเป็นนักธุรกิจหญิงอันดับต้นๆ ของประเทศ ทั้งสวยและใจกว้าง เป็นตัวท็อปสุดในบรรดาผู้หญิงสวยรวยมีความสามารถ คนที่สามารถทำให้เธอรู้สึกว่าถูกคุกคามนั้นยังค่อนข้างหายาก
ซูเหวินฉีก็เป็นหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน
แม้ว่าในเรื่องกำลังเงินซูเหวินฉีจะสู้หลิวชิงชิงไม่ได้ แต่ซูเหวินฉีก็มีความสามารถด้านร้องเพลงและเต้น มีพรสวรรค์มาก ในเรื่องนี้ทำให้ผู้ชายคลั่งได้เลย
ถ้าให้ผู้ชายเลือก คนหนึ่งเป็นซุปตาร์นักร้องสาว และอีกคนหนึ่งเป็นนักธุรกิจสาวผู้มั่งคั่ง ก็เกรงว่าจะเลือกไม่ถูกจริงๆ
ฉินจุนยิ้มและตอบกลับ “ถ้าจริงแล้วจะทำไม?”
หลิ่วชิงชิงตอบกลับอย่างไม่ลังเลเลย “ถ้าเป็นความจริง ฉันจะถอนการสนับสนุนซูเหวินฉี”
ฉินจุน: “……..”
หลิ่วชิงชิงพูด “คุณอย่าเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ใช้วิธีนี้ข่มขู่เธอ ฉันแค่ลงโทษที่เธอโกหกฉัน”
ครั้งที่แล้วหลิ่วชิงชิงถามซูเหวินฉีเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเขาอย่างจริงจัง ถ้าซูเหวินฉีโกหกเธอล่ะ? เธอก็จะถอนทุนอย่างแน่นอน
แต่ก็โชคดีที่เธอไม่ได้โกหก หลิ่วชิงชิงจึงโล่งใจ
……….
หลังจากเรื่องของซูเหวินฉีออกอากาศไป อินเทอร์เน็ตก็ระเบิดทันที และทิศทางความคิดเห็นของสาธารณชนก็เอนเอียงไปที่ซูเหวินฉี
แม้แต่ตำรวจก็ออกมาแจ้งว่าเรื่องนี้ซูเหวินฉีเป็นเหยื่อจริงๆ และพวกเขาจะทำการสอบสวนต่อไป และนำผู้กระทำความผิดไปสู่กระบวนการยุติธรรม
ทางด้านโรงพยาบาล ทั้งช่องหลัก และเวยป๋อทางการต่างก็ออกมาสนับสนุนซูเหวินฉี
แน่นอนว่าคนเหล่านี้อย่างน้อยก็อยากได้ผลประโยชน์บ้าง ถ้าไม่เห็นหลักฐานที่ชัดเจนของซูเหวินฉีพวกเขาก็คงไม่เรียงแถวกันเข้ามาหรอก
ไม่เพียงเท่านี้หลิ่วชิงชิงและแอคเคาท์เวยป๋อทางการของบริษัทเครื่องสำอางแบรนด์เฉิงยวินก็ออกมาสนับสนุนซูเหวินฉีเช่นกัน
เพราะยังไงซูเหวินฉีก็เป็นพรีเซนเตอร์ของแบรนด์เฉิงยวินเธอก็ต้องสนับสนุนอยู่แล้ว
ฉินจุนมองไปที่ข้อความนี้ในเวยป๋อก็พูดไม่ออกเลย ผู้หญิงนี่นะ ช่างแปรปรวนเหลือเกิน
ฉินจุนขี้เกียจเกินกว่าสนใจแล้ว ตอนแรกคิดหาโอกาสที่จะจัดการลู่ฟาน แต่ตอนนี้ความลับได้เปิดเผยแล้ว ลู่ฟานคงหนีไม่รอดแน่ หลีกเลี่ยงคุกไม่ได้หรอก ทำผิดร้ายแรงและยังเป็นคนของสาธารณะอีก จะต้องถูกตัดสินโทษร้ายแรง ฉินจุนจึงไม่สนใจเขาแล้ว
หนึ่งในบรรดาคนที่ออกมาสนับสนุนมากมาย ฉินจุนก็เห็นชื่อที่คุ้นเคย
หวังตงเสวี่ย
ตงเสวี่ยจากแพลตฟอร์ม Tigerfish ก็ได้โพสต์เวยป๋อสนับสนุนซูเหวินฉี แต่เวยป๋อนี้ไม่ได้ถูกใครรีซ้ำไม่นานมันก็ถูกดันลงไป ถ้าไม่ใช่เพราะฉินจุนติดตามเธอไว้เขาก็คงไม่เห็นเวยป๋อนี้
ผู้ติดตามของหวังตงเสวี่ยในเวยป๋อมีเพียงแปดเก้าพันคนเท่านั้น และส่วนใหญ่ก็มาจากแพลตฟอร์ม Tigerfishทั้งนั้น
ในตอนแรกหวังที่ตงเสวี่ยร้องเพลงกับคนอื่นๆ ซูเหวินฉีก็มาช่วย ดังนั้นหวังตงเสวี่ยจึงต้องสนับสนุนเธอ
ฉินจุนตอบอย่างเงียบๆ ที่ด้านล่าง “สนับสนุนหวังตงเสวี่ย”
หลังจากนั้นไม่กี่นาทีหวังตงเสวี่ยก็ส่งข้อความวีแชทมา
“โดนพี่ฉินเห็นแล้วเหรอเนี่ย!” และก็ส่งสติกเกอร์น่ารักมาด้วยหนึ่งอัน
ช่วงนี้วงการบันเทิงมีเรื่องใหญ่แบบนี้เกิดขึ้น แพลตฟอร์มไลฟ์สดต่างก็กำลังพูดถึงซูเหวินฉี โดยเฉพาะหวังตงเสวี่ยที่รู้จักซูเหวินฉี ดังนั้นเมื่อเริ่มไลฟ์ทุกคนก็มาถามเธอทันที ไม่มีทางเลือก สองวันมานี้หวังตงเสวี่ยจึงขอหยุด ไม่ได้ไลฟ์สด
ในที่สุดตอนนี้ทุกอย่างก็เรียบร้อยแล้ว หวังตงเสวี่ยก็เตรียมที่จะกลับไปไลฟ์สดแล้ว
“พี่ฉิน ฉันจะไลฟ์สดแล้วนะ พี่จะมาดูไหม?”
“ได้สิ เดี๋ยวฉันไปดู”
“อ้อ ชื่อแอคเคาท์พี่ชื่ออะไรนะ พี่เคยคอมเมนท์ในห้องไลฟ์ไหม?”
ฉินจุนยิ้ม โดยคิดในใจว่าฉันนี่แหละป้าเฟิงแห่งตระกูลฉินผู้โด่งดัง
