ผู้รักษาสุดแกร่ง – ตอนที่ 285 ถูกไล่กลับไป

……

เมื่อลู่ฟานและคนอื่นมองเห็นเกาะเป่ยซาอยู่ด้านหน้า จู่ๆก็มีเรือประมงขนาดใหญ่สองลำปรากฏขึ้น บนเรือแต่ละลำมีคนอยู่เป็นสิบในมือพวกเขาถือไม้ยาว

“นี่พวกคุณจะทำอะไร ? “ลู่ฟานขมวดคิ้ว

“บริเวณนี้อยู่ในขอบเขตของเกาะเป่ยซา คนนอกเข้าไปไม่ได้ กรุณาออกไปเดี๋ยวนี้ ”

ลู่ฟานทำท่าไม่พอใจเล็กน้อย “ฉันคุยกับผู้จัดการซูของพวกคุณแล้ว ถ้าคุณไม่เชื่อฉันก็ลองไปถามผู้จัดการซูได้ ! ”

คนเหล่านั้นปฏิเสธที่จะให้เข้าไป “ตอนนี้ผู้จัดการซูเองก็เข้าไปไม่ได้เช่นกัน เจ้านายของเราสั่งห้ามไม่ให้ใครเข้าไป ”

สีหน้าของลู่ฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อย ผู้จัดการซูก็ไม่ได้งั้นหรอ ? ก่อนหน้านี้ผู้จัดการซูพูดเหมือนมันง่ายมาก ว่าถ้าจะไปเกาะเป่ยซาแค่สักพักหนึ่ง ก็ไม่มีปัญหาแน่นอน

แม้ว่าตระกูลของลู่ฟานเองก็ไม่ธรรมดา มีสิทธิและอำนาจ แต่ในทะเลแห่งนี้เขาไม่กล้าสร้างปัญมากนัก ทำได้เพียงเปลี่ยนน้ำเสียงให้ดีขึ้นและกล่าวว่า

“พี่น้องทุกท่าน จะช่วยอำนวยความสะดวกให้เราหน่อยได้ไหม พวกเราแค่จะไปที่เกาะเพื่อรำลึกถึงคนตายและเราจะไม่ทำอะไรเสียหายทั้งนั้น ”

หลังจากนั้น ลู่ฟานก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เปิดหน้าชำระเงินของวีแชทและโชว์ให้พวกเขาดู ความหมายของเธอนั้นชัดเจนว่าเพียงแค่อำนวยความสะดวกให้เขา เรื่องเงินก็ไม่ใช่ปัญหา

ถึงอย่างไรผู้จัดการเรือประมงเหล่านั้นก็ไม่แยแสเลยสักนิด และตอบอย่างเย็นชา

“กรุณากลับออกไปเถอะครับ ไม่เช่นนั้นอย่าโทษว่าผมไม่เกรงใจ ”

ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่อยากได้เงินกันนะ แต่คำสั่งจากเจ้านายถือเป็นคำขาด ถ้าปล่อยให้คนเข้าไปจริงๆ คงจะตกงานและแม้แต่ข้าวสักชามก็ไม่มีให้กินเป็นแน่

พวกเขารู้ดีว่าอะไรสำคัญกว่ากัน ชามข้าวหรือกำไรเพียงเล็กๆน้อยๆ

ลู่ฟานเหลือบมองไปที่อาจารย์หยางปิงที่อยู่ข้างๆเธอ หญิงชราเองก็เริ่มมีสีหน้าที่มืดมน เธอกำลังจะได้ลงไปบนเกาะแล้ว แต่กลับเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา เธอกำลังจะทำความปรารถนาสุดท้ายของเธอสำเร็จในไม่ช้า ถ้าเธอได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปบนเกาะต่อให้ต้องตายในไม่ช้าเธอก็ไม่เสียใจ

หญิงชราไม่อยากกลับไปทั้งแบบนี้จริงๆ

ลู่ฟานกัดฟันและพูดกับคนขับเรือ “ฝ่าเข้าไปเลยไม่ต้องไปสนใจพวกมัน ! ”

ขึ้นเกาะไปให้ได้ก่อน ยังไงเธอก็รู้จักกับผู้จัดการซู คงจะไม่แตกหักกันเพราะเรื่องแค่นี้หรอกมั้ง ?

แต่ถึงยังไงคนเหล่านี้ก็ล้วนเชี่ยวชาญด้านทะเลทั้งหมด และไม่ว่าลู่ฟานคิดจะทำอะไรพวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้น ต้องให้บังคับกันใช่ไหม ?

ทันใดนั้นเหล่าชายร่างใหญ่บนเรือประมงสองลำหยิบสปริงเกอร์ฉีดน้ำขึ้นมาแล้วเปิดวาล์ว จากนั้นไอน้ำหนาก็พุ่งออกมา เหมือนกับหัวฉีดน้ำดับเพลิงของหน่วยดับเพลิง !

กระแสน้ำพุ่งเข้าใส่ลู่ฟานและคนอื่นๆ ที่ฝั่งตรงข้ามอย่างจัง เพราะแรงดันน้ำของหัวฉีดนี้สูงมาก และแรงกระแทกนั้นรุนแรงมาก กระแสน้ำพุ่งกระฉูดจนแรงกระแทกทำให้ทุกคนล้มลงทันที

หยางปิงนั้นแก่มากแล้ว เดิมทีก็รับแรงน้ำนี้ไม่ไหวอยู่แล้ว เธอปล่อยมือและรูปที่ถืออยู่ในอ้อมแขนก็ตกลงไป

“รูปของฉัน ! ”

หยางปิงเปลี่ยนสีหน้าทันที นั่นเป็นรูปภาพของสามีเธอ !

หญิงชราร้อนรนมากจนอยากจะไปหยิบมันขึ้นมาเดี๋ยวนั้น แต่เธอถูกฉีดด้วยที่ฉีดน้ำแรงดันสูงและตัวเธอก็ล้มลงกับพื้นอีกครั้ง ตัวเธอเปียกไปหมดจนยืนขึ้นไม่ไหว

หลังจากนั้นไม่กี่นาที ปืนฉีดน้ำก็หยุดลง หญิงชราตัวสั่นเทาด้วยความโกรธ ช่างอัปยศอดสูจริงๆ !

หยางปิงไม่เคยถูกทำอย่างนี้มาก่อน !

และในขณะเดียวกัน ฉินจุนพร้อมกับเรือประมงของพวกเขาก็แล่นผ่านไป ทันใดนั้นสีหน้าของซูเหวินฉีก็เปลี่ยนไปทันทีเมื่อเขาเห็นภาพที่ลอยอยู่ในทะเลนั่น

“นั่นมันภาพสามีของอาจารย์หยางปิงนี่ ! ”

โจวเหวินเซิงเห็นแบบนั้นก็รีบเอ่ยปาก “รีบไปเก็บมาให้ฉัน เร็ว ! ”

เมื่อสิ้นเสียงคำสั่ง ลูกเรือทั้งสี่ก็กระโดดลงไปในทะเลทันที

คนเหล่านี้ล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญที่สามารถเอาชีวิตรอดในทะเลได้ตลอดทั้งปี การที่จะหยิบของในทะเลและรีบเก็บขึ้นมาอย่างรวดเร็วจึงไม่เป็นปัญหาใหญ่อะไร

ทางด้านหยางปิงที่เปียกไปทั้งตัว เธอนั่งทรุดตัวลงบนดาดฟ้าเรือ ในดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความโกรธ !

ขณะนี้หยางปิงเปียกไปทั้งตัวและหน้าตาดูไม่ได้ หญิงชราเธอมีชีวิตอยู่มาได้หลายปีขนาดนี้ ทำไมต้องมาได้รับความอัปยศเช่นนี้ ?

ที่พื้นถูกพ่นด้วยที่ฉีดน้ำแรงดันสูงจนมีน้ำเต็มไปหมด แม้กระทั่งรูปสามีของเธอก็ร่วงลงทะเลไป ถือเป็นการดูหมิ่นผู้ตายอย่างมาก !

ใบหน้าของลู่ฟานตอนนี้ซีดเผือดจนดูไม่ได้ เธอประจบประแจงจนเรื่องมันจะดีขึ้นอยู่แล้วเชียว แต่กลับกลายเป็นแบบนี้ไปซะได้

เธอไม่เพียงแค่ล้มเหลวในการเอาใจอาจารย์หยางปิง แต่ยังเป็นต้นเหตุของสถานการณ์นี้ อาจารย์หยางปิงจะต้องโทษว่าความผิดพลาดพวกนี้เป็นความผิดของเขาทั้งหมดแน่ๆ !

หยางปิงสั่นไปทั้งตัว ไม่รู้เลยว่าเป็นเพราะเธอโกรธหรือถูกน้ำทะเลเย็นกันแน่ เธอกัดฟันและพูดอย่างเย็นชา

“ลู่ฟาน ! เธอทำงามหน้าจริงๆ เลยนะ ! ”

โจวเหวินเซิงสั่งให้เข้าไปใกล้เรือประมงมากขึ้นแล้ววางไม้กระดานบนดาดฟ้าของเรือทั้งสองลำ แล้วกล่าวว่า

“คุณผู้หญิงท่านนี้ ขึ้นมาที่เรือลำนี้เถอะ คุณอยากไปที่เกาะเป่ยซาใช่ไหม ผมจะพาคุณไปที่นั่นเอง ”

เมื่อหญิงชราได้ยินดังนั้น เธอก็ลุกขึ้นทันทีและก้าวขาอย่างรวดเร็วขึ้นไปบนเรือของพวกฉินจุน

โจวเหวินเซิงกล่าวว่า “คุณผู้หญิงเข้าไปข้างในเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สะอาดก่อนเถอะ และเราก็จะไปที่เกาะเป่ยซากัน ”

ซูเหวินฉีช่วยพยุงหยางปิงเข้าไปในห้องโดยสาร จากนั้นโจวเหวินเซิงก็หยิบวิทยุสื่อสารออกมาและเริ่มสั่งการ

“เปิดทางให้ฉัน เตรียมคันเบ็ดมาสองสามอัน เตรียมเตาย่างบาร์บีคิวด้วย แล้วปิดเกาะเป่ยซาห้ามให้บุคคลภายนอกเข้ามาเด็ดขาด ”

ในเมื่อได้มาเที่ยวเกาะเป่ยซาแล้ว โจวเหวินซิงก็ต้องดูแลอย่างดีที่สุด

ในสถานที่ที่ยังไม่เปิดเป็นที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ ทิวทัศน์ค่อนข้างที่จะมีเอกลักษณ์มาก และการตกปลาที่นี่เป็นการผ่อนคลายมากๆ

แน่นอนว่าจะตัองได้รับการอนุญาตจากโจวเหวินเซิงก่อนเท่านั้น ถึงจะมีสิทธิ์ได้เข้ามาเที่ยวที่นี่ ถ้าเป็นคนอื่นหละก็ อย่าแม้แต่จะคิด ที่จะได้เข้ามา

เมื่อหญิงชราเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยก็ขึ้นไปที่เกาะ

ส่วนเรือของลู่ฟานนั้นถูกให้ออกไป และกลับไปที่ท่าเรือแล้ว

หลังจากขึ้นไปที่เกาะ หญิงชราก็ถือรูปสามีของตนไว้ และเธอก็น้ำตาซึมเมื่อเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามเหล่านั้น

“ตาแก่ คุณเห็นแล้วหรือยัง นี่คือสถานที่ที่คุณฝันอยากจะมาที่สุดไงหละ ตอนนี้ฉันพาคุณมาแล้วนะ ”

หญิงชรานั่งลงบนชายหาดไว้ทุกข์อยู่ครู่หนึ่ง และอารมณ์ของเธอก็ค่อยๆดีขึ้น ชายชรานั้นจากไปหลายปีแล้วและนี่เป็นเพียงการเติมเต็มความปรารถนาของเขาเท่านั้น

หลังจากนั้น หญิงชรา ฉินจุน ซูเหวินฉี และคนอื่นๆก็พากันตกปลาบนเกาะนี้ เนื่องจากเป็นเกาะที่ยังไม่ได้เปิดรับนักท่องเที่ยวและสภาพแวดล้อมทางนิเวศวิทยาก็ดีมาก แม้ว่าหญิงชราเองจะไม่ชอบตกปลาแต่เธอก็ยังรู้สึกว่ามันน่าสนใจมาก

การจัดเตรียมของโจวเหวินเซิงก็ทำได้ดีพอสมควร และเพื่อที่จะทำให้ฉินจุนพอใจ เขาได้พยายามอย่างเต็มที่

ตกเย็นทุกคนก็กินปลาย่างบาร์บีคิวรอบกองไฟและบรรยากาศก็ดูอบอุ่นมาก

หญิงชราและซูเหวินฉีนั่งด้วยกัน เธอมองดูกองไฟแล้วพูดว่า

“เหวินฉี เธอกับเสี่ยวลู่ มีเรื่องขัดแย้งกันใช่หรือเปล่า ”

ซูเหวินฉีเริ่มกระตือรือร้นขึ้นมาและพยักหน้าอย่างรวดเร็ว การที่เธอมาในครั้งนี้ก็เพื่อเรื่องนี้

ซูเหวินฉีถอนหายใจและกล่าวว่า “อาจารย์หยางปิง ฉันเองไม่ได้อยากจะรบกวนคุณ คุณแค่ไม่ต้องยื่นมือเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็พอ ”

คำขอของเธอไม่มาก ขอแค่เพียงหยางปิงไม่ช่วยลู่ฟาน เพราะหากไม่มีอาจารย์หยางเข้ามายุ่ง ลู่ฟานก็ไม่สามารถทำอะไรเธอได้

หยางปิงยิ้มจางๆ “เสี่ยวลู่คนนี้นิสัยแย่มาก คนแบบนี้ไม่เหมาะสำหรับการอยู่ในวงการบันเทิง เหวินฉี เรื่องนี้เธอวางใจเลย ฉันจะทำตามที่เธอขอ ”

ซูเหวินฉีพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณอาจารย์หยางปิงมากค่ะ ”

ลู่ฟานก่อกวนเธอมาตลอด จนทำให้ซูเหวินฉีต้องลำบากมามากแล้ว คราวนี้เธอทำเกินไป และซูเหวินฉีตอบโต้เธออย่างที่อีกฝ่ายไม่ต้องมีแรงกดดันในใจ

อาจารย์หยางปิงโกรธมาก ถ้าเป็นอาจารย์หยางปิงคนก่อนกับเรื่องที่เธอทำในวันนี้ เขาคงแบล็กลิสเธอในจีนแผ่นดินใหญ่

แต่ตอนนี้หยางปิงเกษียณแล้ว และไม่ได้มีอำนาจมากขนาดนั้น แต่ก็สามารถทำให้ครึ่งชีวิตของลู่ฟานไม่กล้าที่จะมาหาเรื่องกับซูเหวินฉีได้อีกต่อไป

Comment

Options

not work with dark mode
Reset