เมื่อพูดจบ โจวเหวินเซิงหยิบนามบัตรออกมา แล้วยื่นให้ฉินจุน
“นี่คือนามบัตรของฉัน ฉันทำธุรกิจทางทะเล ทั้งเรือสำราญและขนส่งปลาทะเล ถ้าคุณต้องการละก็…”
ฉินจุนส่ายหัว “ผมไม่ต้องการครับ”
หลังจากพูดจบ ฉินจุนก็ออกใบสั่งยาและเดินออกไป
ทัศนคติของของโจวเหวินเซิงที่แสดงต่อเขานั้น ฉินจุนไม่เห็นด้วยกับเขา เขามาเพื่อรักษาให้ในวันนี้ก็เพราะเห็นแก่หน้าของซูเหวินฉี และฉินจุนไม่อยากที่จะพูดอะไรมากมาย
โจวเหวินเซิงดูอึดอัด เขามองไปที่แผ่นหลังของฉินจุนและถอนหายใจอย่างเงียบๆ
เขารู้สึกว่าทัศนคติที่มีต่อฉินจุนก่อนหน้านี้มันดูแย่มากและหากมีโอกาสเขาต้องขอโทษฉินจุนให้ได้ เพราะอาจารย์ฉินถือว่าเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยลูกสาวของเขา
หลังจากที่ ฉินจุนออกไป แพทย์อัจฉริยะเซี๋ยและคนอื่น ๆ ก็รีบออกไปตามฉินจุนโดยไม่ฟังใคร
“อาจารย์ฉิน ฉันเสวี่ยเฟิง นี่คือนามบัตรของฉัน มีอะไรติดต่อได้ตลอดครับ”
“อาจารย์ฉินเพิ่มเพื่อนในวีแชทกันเถอะ ต่อไปเราจะได้นัดคุยกันได้บ่อย ที่ร้านของฉันมีโสมมากมายเลยล่ะ คุณสามารถเลือกได้ตามสบายเลย!”
“พวกคุณนี่คุณจิ๊บจ๊อยเกินไปแล้ว ท่านอาจารย์ จากนี้ไปฉันจะเป็นจัดการหายาให้ร้านของคุณทั้งหมด คุณใช้ได้ตามสบายเลย!”
คนแก่เหล่านี้ค่อนข้างดื้อรั้น และไม่ง่ายเลยที่ฉินจุนจะปฏิเสธพวกเขา ดังนั้นเขาจึงอยู่เดินตามอยู่ข้างหลังตามฉินจุนไปจนถึงที่คลินิกซวนหยวน
ทันทีที่เข้าไปในคลินิก ก็เห็นว่ามีคนทำงานอยู่สองสามคน แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก นี่เป็นเรื่องปกติของการจัดรูปแบบของคลินิค และเป็นเรื่องปกติที่จะมีหมอมาฝึกงานอยู่สองสามคน
แต่เมื่อเห็นคนที่นั่งอยู่ในห้องโถง แพทย์อัจยริยะเซี๋ยก็ตกใจทันที
“อะ…อาจารย์ข่ง?”
ข่งฝานหลิน เป็นอาจารย์แพทย์แผนจีน เขาเคยออกทีวีและได้เปิดเวทีบรรยายด้วย หลายคนรู้จักเขาดี
นี่คืออาจารย์ตัวจริง คนดังในวงการแพทย์แผนจีน คาดไม่ถึงเลยว่าข่งฝานหลินจะมาที่นี่
“อาจารย์ข่ง คุณเป็นเจ้าของคลินิกอย่างนั้นหรือ?”
หรือว่าเหตุผลที่อาจารย์ฉินยอดเยี่ยมมากขนาดนี้ เพราะได้รับการสั่งสองจากข่งฟานหลินงั้นเหรอ? อาจารย์ข่งนี่คุณมีศิษย์ที่เก่งขนาดนี้เลยหรือ?
ข่งฝานหลินกล่าวว่า “ผมไม่ใช่เจ้าของหรอกครับ ผมเป็นแค่เด็กจ่ายยาของหมอฉินจุนเท่านั้นเองครับ”
“……”
ทุกคนถึงกับพูดไม่ออก
นี่เขาพูดเกินจริงไปรึเปล่านะ?
ข่งฝานหลินเป็นถึงอาจารย์แพทย์แผนจีน! แต่กลับมาหยิบยาให้ฉินจุนอย่างนั้นหรือ?
นี่คุณฉินเป็นใครกันแน่!
ข่งฝานหลินพูดอย่างรวดเร็วเมื่อฉินจุนกลับมา
“คุณฉิน มีปัญหาเกิดขึ้นนิดหน่อยครับ เจ้าของถนนแพทย์แผนจีนได้รวมตัวกันแล้ว ตอนนี้เหลือแค่พวกเรา พวกเรารอคุณกลับมาก่อน”
ฉินจุนขมวดคิ้ว “หือ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
ถนนแพทย์แผนจีนมีไม่เคยมีปัญหามาก่อน แต่ตอนนี้เจ้าของคลินิกหลายคนมารวมตัวกัน กลัวว่าน่าจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแน่ๆ
“ดูเหมือนว่าชาวต่างชาติจะมาชิงตำแหน่ง”
ชิงตำแหน่ง?
ฉินจุนยิ้มเยาะ พวกเขาก็ไม่ใช่เจ้าของยิมต่อสู้สักหน่อย พวกเขาจามาชิงตำแหน่งบ้าบออะไรกัน หรือถ้าพวกเขาต้องการจะแข่งขันโดยใช้ทักษะแพทย์แผนจีนละก็นะ แต่พวกเขาเป็นชาวต่างชาติ?
“อาจารย์ฉินมาเร็วยังสู้มาโดยบังเอิญไม่ได้ ให้พวกเราไปด้วยเถอะ” แพทย์อัจฉริยะเซี๋ยและคนอื่นๆ ก็กระตือรือร้นมากเช่นกัน รู้สึกเหมือนจะมีเรื่องใหญ่กำลังจะเกิดขึ้น
ฉินจุนพยักหน้า “ในเมื่อมันเป็นแบบนี้แล้ว พวกเราก็ไปดูกันหมดนี่แหละ”
เจ้าของคลินิกที่อยู่รอบๆ มารวมตัวกันครบแล้วตอนนี้ พวกเขาคิดว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ จึงออกไปดูกัน
กลุ่มคนกว่าสิบคนมาถึงหน้าประตูคลินิกแพทย์แผนจีนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง คลินิกนี้ชื่อว่า ศูนย์การแพทย์ฮั่นซิง และเจ้าของคือหม่าฮันซิงเขา เป็นแพทย์ชาวจีนอายุ 50 ปี ทักษะทางการแพทย์อยู่ในระดับค่อนข้างดี
ในเวลานี้ เจ้าของคลินิกจำนวนมากและลอบล้อมไปด้วยผู้ป่วย และมีชาวต่างชาติผิวขาวยืนอยู่ตรงกลาง ชายร่างสูงที่มีเคราและเสื้อคลุมสีขาวที่แสดงสีหน้าทะเล้นๆ
“แพทย์แผนจีนงั้นเหรอ? ไร้สาระมาก มันเหมือนกับเล่ห์กลของพวกคุณคนจีนใช่ไหมล่ะ มันดูน่าทึ่ง แต่ที่จริงแล้วมันก็เป็นแค่เรื่องโกหก?”
ทันทีที่เสียงฝรั่งผิวขาวดังขึ้น แพทย์ชาวจีนหลายคนที่นั่นก็รู้สึกโกรธมาก
“แม่ง พูดบ้าอะไรเนี่ย!”
หม่าฮันซิงก้มศีรษะลงและถอนหายใจและพูดกับทุกคน
“ต้องขอโทษด้วย ฉันผิดเองที่ทำให้ทุกคนอับอายเช่นนี้”
หลังจากอธิบายบางอย่างแล้ว ฉินจุนก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นทันที
วันนี้ชาวต่างชาติคนหนึ่งเป็นลมหมดสติไป มีคนใจดีสองสามคนช่วยเขามาส่งที่คลินิกเพื่อรับการรักษา และที่นี่ก็คือศูนย์การแพทย์ฮั่นซิงของหม่าฮันซิง หลังที่เขาทำการฝังเข็มเสร็จก็ยังไม่เห็นผลแต่อย่างใด เมื่อครอบครัวของชาวต่างชาติคนนี้มาถึง พวกเขาก็อาละวาดด่าทอทันที
ครอบครัวของฝรั่งคนนี้เป็นหมอที่โด่งดังไปทั่วโลก แค่ให้ยาเม็ดหนึ่งแก่เขา เขาก็ฟื้นขึ้นทันที ฝรั่งคนนี้จึงเริ่มวิจารณ์จะบอกว่าแพทย์แผนจีนเป็นเรื่องโกหก
ฝรั่งชื่อคนนี้ชื่อโอเว่น สามารถหาประวัติของเขาได้ใน Baidu เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีอำนาจมาก และยังได้รับรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์อีกด้วย พูดได้เลยว่า เขายังเป็นคนชั้นนำในการแพทย์ฝั่งตะวันตก
ดังนั้นทุกคนกล้าที่จะโกรธแต่ไม่กล้าที่จะพูดอะไร จึงทำให้เขาดูหยิ่งผยอง
เมื่อเห็นใครบางคนยังคงกระตือรือร้นที่จะลอง โอเว่นก็เยาะเย้ยทันที
“ทำไม พวกหมอชาวจีน จะใช้กำลังงั้นเหรอ รักษาคนไข้ไม่ได้ ก็ทำร้ายคนไข้งั้นเหรอ ทำร้ายจนพวกเขาไม่กล้าออกมาพูดความจริงงั้นสินะ?”
“ฮ่าฮ่า วันนี้ได้เห็นความ ‘กว้างไกล’ ของการแพทย์แผนจีนจริงๆ พวกคุณรอดูเถอะ!”
โอเว่นคนนี้ดูจะอยู่ที่จีนมานานแล้ว เขาพูดภาษาจีนได้ดี พูดจบ เขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมากดหมายเลขหนึ่ง
ไม่นาน รถตู้และรถรับจ้างก็ขับผ่านเข้ามา แต่คนที่ลงมาจากรถคันนี้ไม่ใช่พวกอันธพาล แต่เป็นนักข่าว
ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ และมีบางส่วนเป็นนักข่าวจากประเทศจีน ทุกคนยกกล้องขึ้นและชี้ไปที่แพทย์หลายคนบนถนนแพทย์แผนจีน
ชื่อบริษัทสื่อเขียนไว้บนรถ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสื่อต่างประเทศ
สื่อต่างประเทศเหล่านี้ที่อยู่ในประเทศจีน เป็นคนที่ชอบเรื่องที่ตื่นเต้นมากที่สุด พวกเขาชอบ รายงานข่าวเรื่องอื้อฉาวของจีน โดยเฉพาะสิ่งที่เราถือเป็นสมบัติล้ำค่าที่สืบทอดกันมา
เช่นการแพทย์แผนจีน,ศิลปะการต่อสู้
ตราบใดก็ตามที่มีข่าวเชิงลบพวกเขาก็พร้อมที่จะรายงานทันที
เมื่อหม่าฮันซิงและคนอื่นๆ เห็นฉากนี้ สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันที นี่มันกลายเป็นเรื่องใหญ่แล้ว!
โอเว่นพูดกับกล้องเป็นภาษาอังกฤษ เนื้อหาประมานว่า
“ดูหมอที่เรียกกันว่าแพทย์แผนจีนพวกนี้สิ น้องชายฉันเป็นลมและถูกส่งตัวมาที่คลินิกของพวกเขา พวกเขาแทงเข็มลงไปบนรางกายของน้องชาย แต่สุดท้ายแล้วน้องชายฉันก็ฟื้นขึ้นหลังจากที่ได้กินยาแก้อักเสบที่ฉันให้ไป หมอแบบนี้ การรักษาแบบแพทย์แผนจีนนี่ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนจีนถึงยังคงชื่นชมทักษะทางการแพทย์แบบนี้”
หลายคนในที่นั้นก็เข้าใจภาษาอังกฤษเหมือนกัน เห็นโอเว่นพูดแบบนี้กับสื่อพวกนี้ พวกเข้าก็โกรธมาก ถ้านักข่าวไม่อยู่ที่นั่น พวกเขาคงลงมือไปนานแล้ว
นักข่าวหญิงคนหนึ่งเข้ามาสัมภาษณ์หม่าฮั่นซิงทันที “ขอโทษนะคะ คุณช่วยอธิบายการฝังเข็มแบบจีนได้ไหมว่าทำไมมันถึงไม่ได้ผล?
หม่าฮั่นซิงหน้าแดงและโกรธมาก
“คุณเรียกอะไรว่าการฝังเข็มรมยมไม่ได้ผล โรคที่เขาเป็นนี้ มันเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ในทันทีอยู่แล้ว แต่เป็นเพราะว่าฉันได้ทำการฝังเข็มรมยาไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน และเมื่อโอเว่นใช้ยาปฏิชีวนะกับเขาอีกครั้งในเวลานี้ มันเลยทำให้ดูเหมือนว่าเขาหายเพราะการกินยา”
“ไม่งั้นละก็ ผู้ป่วยที่เป็นลมไป จะต้องกินยาได้อย่างไรกัน?”
เมื่อได้ยินคำอธิบายนี้ โอเว่นก็ยิ้มเยาะเย้ย “ทำไมกินยาไม่ได้ การกลืนเป็นปฏิกิริยาโดยสัญชาตญาณ แม้ว่าคุณจะเป็นลม ตราบใดที่เม็ดยามีขนาดเล็กพอ คุณก็สามารถกลืนมันได้”