แผนกทันตกรรมส่วนใหญ่ต้องการความร่วมมือจากผู้ป่วย เนื่องจากในช่องปากมีหลอดเลือดและเส้นประสาทจำนวนมาก ซึ่งจะไปเกี่ยวข้องกับจุดสำคัญต่างๆของศีรษะและลิ้น
เมื่อผู้ป่วยช็อกก็จะทำการผ่าตัดจะทำได้ยาก
ถ้าในขณะที่มีดผ่าตัดเข้าไปในปากของผู้ป่วยแล้ว ถ้าผู้ป่วยชัก เอียงศีรษะ หรือสั่นร่างกาย อาจจะไปตัดโดนลิ้นหรือไปโดนที่หลอดเลือดแดงได้ ซึ่งจะอันตรายถึงชีวิตเลย ดังนั้นในกรณีนี้ผู้อำนวยการจงจึงไม่กล้าทำการผ่าตัด
ตราบใดที่เขาไม่ได้แตะต้องผู้ป่วย ความรับผิดชอบนี้ก็ไม่ใช่ของเขา
ตอนนี้หลินเยวี่ยเหยาเหงื่อผุดขึ้นมาเต็มหน้า แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้ เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องช่องปาก ผู้เชี่ยวชาญหลายสิบคนที่ยืนรายล้อมผู้ป่วยต่างก็ทำอะไรไม่ถูก
หลังจากที่ฉินจุนเข้าในโรงพยาบาลแล้ว เขาก็ใช้เวลานานมากในการหาห้องผ่าตัดที่หลินเยวี่ยเหยาอยู่ เมื่อเขาเดินไปถึงหน้าประตู หลินเยวี่ยเหยสก็เดินออกมาพอดี เตรียมจะไปหยิบยาชา จะฉีดยาชาให้ผู้ป่วยก่อน เพื่อให้เขาสงบลงก่อน จากนั้นค่อยทำการรักษา
“คุณมาได้ยังไง?”
เมื่อเห็นฉินจุน หลินเยวี่ยเหยาก็แปลกใจ
“ฉันได้ยินมาว่าคุณมีเรื่อง ฉันก็เลยจะมาช่วย”
หลินเยวี่ยเหยาถอนหายใจ “คุณช่วยได้เหรอ ด้านทันตกรรม ฉันยังทำไม่ได้เลยคุณทำได้เหรอ?”
เมื่อหลินเยวี่ยเหยากำลังจะไปเรียกวิสัญญีแพทย์ จู่ๆ ครอบครัวของผู้ป่วยหลายคนก็พุ่งเข้ามาหาเธอ
“อีหมอเถื่อน! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
คนของครอบครัวคนไข้หลายคนต่างก็มีร่างสูงใหญ่เข้ามาคุกคามล้อมหลินเยวี่ยเหยาไว้
ชายวัยกลางคนสวมแว่นคนหนึ่งพูดว่า “ฉันจะบอกให้นะ ฉันเป็นหัวหน้าบรรณาธิการของ China News นะ! ถ้าวันนี้คุณไม่ให้คำอธิบายกับฉัน ฉันรับประกันเลยว่าพรุ่งนี้โรงพยาบาลของคุณจะได้ขึ้นข่าวหน้าหนึ่งแน่!”
สีหน้าของหลินเยวี่ยเหยาเปลี่ยนทันที ตอนแรกเธอก็คิดอยู่แล้วว่าครอบครัวของผู้ป่วยเหล่านี้ไม่ธรรมดา แต่คิดไม่ถึงว่าภายในเวลาสั้นๆ จะมีนักข่าวมาเยอะขนาดนี้
คิดไม่ถึงว่าคนนี้จะเป็นหัวหน้าบรรณาธิการของ China News!
“คุณใจเย็นก่อนค่ะ ทางเรากำลังพยายามรักษาอย่างสุดความสามารถ ตอนนี้ฉันจะไปวางยาสลบก่อน พวกคุณอย่าทำให้เสียเวลาค่ะ!”
หัวหน้าบรรณาธิการฉู่แค่นหัวเราะอย่างเย็นชา “คุณคิดว่าฉันจะยังเชื่อใจไหม? ข้างในนั้นน่ะคือพี่ชายของฉัน รีบเรียกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เก่งที่สุดในโรงพยาบาลมารักษาเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นพวกคุณเจอดีแน่!”
ฉินจุนเดินเข้าไปในกลุ่มคน และปกป้องหลินเยวี่ยเหยาไว้ข้างหลังเขา
“พวกคุณไม่ต้องห่วง คนไข้จะไม่เป็นไร เราจะไปรักษาเขาเดี๋ยวนี้”
หัวหน้าบรรณาธิการฉู่พูด “ดี! คุณพูดเองนะ ถ้าพี่ชายฉันเป็นอะไรขึ้นมา ฉันจะไม่ปล่อยพวกคุณแน่!”
หลังจากพูดจบ คนที่อยู่ข้างๆ หัวหน้าบรรณาธิการฉู่หลายคนก็หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายทันที เขาพานักข่าวสองสามคนเข้ามาด้วย เตรียมพร้อมสำหรับการถ่ายรายงานแบบเรียลไทม์
ฉินจุนก็ไม่ได้อธิบายอะไรต่อ ดึงหลินเยวี่ยเหยาเข้าไปในห้องผ่าตัด
หลินเยวี่ยเหยาขมวดคิ้ว และสะบัดแขนออก
“พี่! พูดบ้าอะไรเนี่ย? คุณจะซวยนะ ! คุณไปสัญญากับพวกเขาได้ยังไง ตอนนี้ผู้ป่วยแทบจะไม่รอดแล้ว รอแค่ความตาย เดี๋ยวตอนออกมาจะอธิบายว่ายังไง!”
อำนาจของหัวหน้าบรรณาธิการฉู่นั้นไม่ธรรมดาเลย คนไข้ยังไม่ตาย แต่เมื่อกี้ก็มีข่าวออกไปว่า รพ.ประชาชนรักษาคนไข้ตาย และข่าวนั้นฉินจุนก็เห็นแล้ว
หากตายจริงๆ ข่าวเสียๆหายๆคงจะเยอะมากแน่นอน เมื่อถึงตอนนั้นหลินเยวี่ยเหยาก็จะกลายเป็นเหมือนนักโทษของโรงพยาบาลประชาชน
ฉินจุนพูด”วางใจเถอะ ฉันจะไปดูเอง”
หลินเยวี่ยเหยาพูดไม่ออก “พี่ไปดูจะมีประโยชน์อะไรล่ะ พี่เป็นแพทย์แผนจีนนะ!”
ฉินจุนพูดยิ้มๆ “ก็เพราะว่าเป็นแพทย์แผนจีนนี่แหละถึงมีความหวัง”
แพทย์แผนตะวันตกมีระบบรองรับอย่างสมบูรณ์ มีเทคนิคเฉพาะ ดังนั้นแผนกต่างๆ จึงมีการแบ่งออกอย่างชัดเจน ทันตกรรมก็ได้แค่ทันตกรรม ไม่มีความชำนาญในแผนกอื่นหรือรู้เรื่องมากนัก
แต่แพทย์แผนจีนไม่เหมือนกัน แพทย์แผนจีนจะต้องเรียนรู้อย่างรอบด้าน
พูดได้มากอายเลยว่าสาขาวิชาของแพทย์แผนตะวันตกฉินจุนก็มีความเชี่ยวชาญอย่างมาก แม้แต่แผนกสูตินรีเวชเขาก็ชำนาญเช่นกัน
ในด้านเทคนิคที่หลากหลายอย่างนี้หลินเยวี่ยเหยาไม่สามารถเทียนบได้เลย
เมื่อเข้ามาในห้องฉุกเฉินแล้ว ก็เห็นผู้อำนวยการจงและคนอื่นๆยืนอยู่รอบผู้ป่วย แต่ก็ทำอะไรไม่ถูก
ฉินจุนพูด “คนที่ไม่เกี่ยวข้องกรุณาออกไปก่อนครับ”
ผู้อำนวยการจงขมวดคิ้ว “คุณเป็นใคร?”
ตอนนี้หลินเยวี่ยเหยาไม่มีทางเลือกอื่น จึงทำได้แค่พูดความจริง
“นี่คือลูกพี่ลูกน้องของฉันเอง เปิดพิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนจีน”
ผู้อำนวยการจงแค่นหัวเราะ “เปิดคลินิกนอกก็กล้าเข้ามาในโรงพยาบาลของเรางั้นเหรอ? หมอหลินคุณจนปัญญาขนาดนั้นเลยหรอ คุณรักษาด้วยตัวเองไม่ได้ ก็เรียกแพทย์แผนจีนจากข้างนอกมาเนี่ยนะ ถ้ามีอะไรผิดพลาดคุณจะรับผิดชอบไหวเหรอ!”
หลินเยวี่ยเหยาใบหน้าบูดบึ้ง “ถ้ามีอะไรผิดพลาดฉันก็ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว คุณไม่ต้องกังวลเรื่องนี้หรอกค่ะผู้อำนวยการจง!”
หลินเยวี่ยเหยากลอกตาใส่หนึ่งที คนที่ไม่เหมือนผู้ชายอย่างนี้ บวกกับเป็นหมอด้วยแล้ว ช่างน่าขำสิ้นดี
ผู้อำนวยการจงหัวเราะเยาะ “ถ้าอย่างนั้นเราก็ออกไปกันเถอะ เกรงว่าถ้าอยู่ที่นี่เดี๋ยวจะติดรากแหไปด้วย! ไป!”
ผู้อำนวยการจงพาแพทย์สองสามคนของโรงพยาบาลทันตกรรมออกจากห้องฉุกเฉินไป คราวนี้พวกเขาไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุแล้ว ถ้าเกิดอะไรขึ้นพวกเขาก็ไม่เกี่ยวด้วยแล้ว
ทุกคนออกไปแล้ว เหลือเพียงหลินเยวี่ยเหยาและฉินจุน
ใบหน้าของหลินเยวี่ยเหยาบูดเบี้ยวมาก น้ำตาของเธอไหลลงมาขณะที่เธอมองไปที่คนไข้นอนหายใจรวยรินอยู่
เธอรู้สึกเสียใจมากที่เธอไม่สามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้ ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวกับความรับผิดชอบใดๆ
ฉินจุนพูด “ไม่ต้องร้องไห้แล้ว ช่วยฉันเตรียมอุปกรณ์ผ่าตัด”
หลินเยวี่ยเหยาปาดน้ำตา “พี่เลิกไร้สาระได้แล้ว! ในสถานการณ์แบบนี้ใครก็รักษาไม่ได้หรอก ให้ฉันรับความรับผิดชอบคนเดียวเถอะ”
ตอนนี้หลินเยวี่ยเหยาคิดถึงอาจารย์ฉิน ถ้าอาจารย์ฉินอยู่ที่นี่ก็อาจจะรักษาให้หายได้
แต่ในช่วงเวลาสั้นๆ แบบนี้ เธอไม่สามารถติดต่อกับอาจารย์ฉินได้เลย และนี่ยิ่งอยู่ในโรงพยาบาลทันตกรรมอีก ผู้ป่วยก็ดูเหมือนจะไม่ไหวแล้ว น่าจะเหลือเวลาให้พวกเขาแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น
ฉินจุนพูด”วางใจเถอะ ฉันเรียนตำราสมุนไพรพื้นบ้านมามันสามารถใช้รักษาได้”
คำพูดของฉินจุนทำให้หลินเยวี่ยเหยามีความหวังขึ้นมา ยาจีนโบราณนั้นมีเยอะมาก สมุนไพรพื้นบ้านดีๆมีเยอะมาก หากรักษาถูกต้องก็เป็นไปได้มากว่าจะสามารถรักษาโรคที่ซับซ้อนมากๆได้ การแพทย์แผนตะวันตกเทียบไม่ได้เลย
บางทีฉินจุนอาจมีวิธีรักษาจริงๆ ก็ได้ ลองดูก็ไม่เสียหายไปกว่านี้แล้ว เพราะยังไงตอนนี้ก็ไม่มีทางไหนจะดีไปกว่านี้อีกแล้ว
หลินเยวี่ยเหยาเริ่มเป็นผู้ช่วยฉินจุน
นอกจากหลินเยวี่ยเหยาก็ไม่มีคนอื่นอีก และฉินจุนจึงไม่ต้องคอยกังวล
ตรวจชีพจรคนไข้ ตรวจเปลือกตา ดึงปากออกเพื่อดูลิ้น อาการลามไปถึงหน้าอกแล้ว
แพทย์แผนจีนก็เป็นอย่างนี้แหละ จะต้องมีความเชี่ยวชาญทุกแขนง เรื่องปัญหาในช่องปากก็ไม่มีข้อยกเว้น
คนอื่นไม่กล้าทำการผ่าตัดก็ไม่ได้หมายความว่าฉินจุนไม่กล้า
การจะรักษาโรคก็ต้องรักษาที่ต้นเหตุก่อน ปัญหาในช่องปากก็ต้องแก้ไขในปากอยู่แล้ว
พยุงผู้ป่วยขึ้น ให้เขานอนเอนตัว 45 องศา จากนั้นก็ใช้เข็มเงินสองเล่มปักไปที่มุมปากทั้งสองข้างของผู้ป่วย
ทันใดนั้นผู้ป่วยก็อ้าปากโดยไม่ขยับเขยื้อน