เซี๋ยต้าหลินเป็นคนที่ค่อนข้างตรงไปตรงมา เขาจะพูดสิ่งที่เขาคิดเสมอและไม่เคยหลอกตัวเอง จนทำให้หวังตงเสวี่ยทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ฝืนหัวเราะเพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อไปดี
ฉินจุนหัวเราะออกมา “เอาหละๆ ถ้ามีโอกาสฉันจะสอนนายสักสองสามกระบวนท่า ”
“เยี่ยมไปเลยพี่ฉิน ! ”
เหอเนี่ยนอิงอ้าปากค้าง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร แม้ว่าการนับรุ่นจะซับซ้อนนิดหน่อย ถ้าลูกชายของเธอมีความสัมพันธ์อันดีกับศิษย์พี่ได้ นั่นก็เป็นเรื่องที่ดีมากแล้ว
เมื่อตู้เซฟเปิดออก เหอเนี่ยนอิงก็หยิบกล่องสีแดงออกมาจากด้านในและเปิดมันออก ทันใดนั้นก็มีแสงสีแดงส่องประกายออกมา
ดวงตาของหวังตงเสวี่ยเป็นประกาย ช่างเป็นอัญมณีที่สวยงามจริงๆ !
ภายในกล่องเป็นจี้ทับทิมขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือ พลอยสี่เหลี่ยมด้านนอกห่อหุ้มด้วยเงิน รูปแบบสวยงามมากมองแวบแรกก็รู้ว่ามาจากฝีมือของผู้เชี่ยวชาญ และเป็นอัญมณีที่ใสไร้ที่ติปราศจากสิ่งเจือปนใดๆ
แม้ว่าทับทิมเม็ดนี้จะไม่ใช่อันที่ราคาแพงที่สุด แต่ก็ยังคงเป็นทับทิมที่มีสีที่หายากมาก
“คุณนายหวัง สร้อยเส้นนี้มีชื่อว่าสุ่ยฟูหรง ฉันคิดว่ามันเหมาะกับคุณมาก ฉันมอบมันให้คุณค่ะ ”
พูดจบเหอเนี่ยนอิงก็เดินไปที่ด้านหลังและช่วยสวมสร้อยคอให้กับหวังตงเสวี่ย
เครื่องประดับจะสามารถแสดงคุณค่าสูงสุดของตัวมันได้เมื่อตอนที่มันอยู่กับผู้หญิงสวยเท่านั้น
เดิมทีผิวของหวังตงเสวี่ยนั้นขาวมาก และด้วยเธอสวมอัญมณีสีแดงเม็ดนี้ จึงทำให้เธอดูสวยงามและสูงส่งยิ่งขึ้นไปอีก งดงามราวกับดอกบัวในน้ำสมกับชื่อสร้อยคอสุ่ยฟูหรงจริงๆ
“สวยดี “ฉินจุนเองก็ยังเอ่ยปากชม
หวังตงเสวี่ยหน้าแดง เธอรู้สึกเขินนิดหน่อย
เซี๋ยต้าหลินไม่ใส่ใจเหตุการณ์ก่อนหน้า “เสื้อผ้าของซ้อแค่ดูเก่าไปหน่อยเท่านั้น หันมาสิผมเอาเดรสมาให้สองชุดแหนะ ! ”
หลังจากที่หวังตงเสวี่ยขอบคุณพวกเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอก็กลับถึงโรงเรียนเสียที
อัญมณีถูกเธอเก็บเข้าไปไว้ในเสื้อผ้า แม้ว่าเธอเองจะชอบมันมาก ๆ แต่ถ้าใส่ไว้ข้างนอกก็จะดูโอ้อวดเกินไปควรจะใส่แอบๆไว้หน่อย
เพราะเธอไม่ใช่พวกผู้หญิงที่ชอบโอ้อวดอะไร
ระหว่างทางกลับหวังตงเสวี่ยเห็นร้านขายเสื้อผ้าผู้ชายหลายร้าน เธอเดินเข้าไปดูและอยากจะซื้อเสื้อผ้าให้ฉินจุนสักสองสามชุด
แม้ว่าเธอจะรู้ว่าฉินจุนไม่ได้ขาดแคลนเสื้อผ้า แต่มันคือความตั้งใจของเธอที่อยากจะให้
เธอเลือกชุดที่มีความเป็นทางการมาสองชุด และจ่ายเงินไปทั้งหมดกว่า 3,000 หยวน
ถ้าหากว่าเป็นตัวเธอเอง เงิน 3,000 หยวนคงซื้อเสื้อผ้าได้เป็น10ตัว แต่ซื้อให้ฉินจุนราคาตัวละพันหยวนกลับไม่รู้สึกว่าแพง
หลังจากจ่ายเงินแล้วร้านค้าก็ให้ตั๋วลอตเตอรี่กับหวังตงเสวี่ยหนึ่งใบ
“คุณผู้หญิง ลอตเตอรี่ใบนี้สามารถตรวจรางวัลทางออนไลน์ได้ รางวัลที่หนึ่งคือได้ล่องเรือสำราญสุดหรูหนึ่งวันครับ ”
“อ๋อ ขอบคุณนะคะ ”
หวังตงเสวี่ยรับล็อตเตอรี่มาจากนั้นเธอก็กลับไปที่ห้องเรียนและเริ่มคาบเรียน
ระหว่างที่เรียนเธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเช็ครางวัลลอตเตอรี่ดูสักหน่อย
นักเรียนหญิงที่นั่งอยู่ข้างๆเมื่อเห็นก็ถามเธอว่า “ตงเสวี่ย เธอทำอะไรอยู่หรอ ? ”
หวังตงเสวี่ยตอบกลับเสียงเบา “ตรวจรางวัลอยู่น่ะ ”
“เฮ้ย พวกนี้มันหลอกทั้งนั้น รางวับพวกนี้มันถูกกันง่ายๆซะที่ไหนหละ ? ”
หวังตงเสวี่ยหัวเราะออกมา “ลองดูเถอะ ”
ช่วงนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองโชคดี โดยเฉพาะหลังจากที่เธอได้เจอกับฉินจุนแล้ว
มีคนให้ทุนการศึกษากับเธอ เป็นบล็อกเกอร์ก็ได้รับรางวัลมากมาย และชีวิตก็ดีขึ้นทุกวัน บางทีเธออาจถูกรางวัลลอตเตอรี่ก็ได้
หวังตงเสวี่ยใช้โทรศัพท์แสกน โหลดอยู่ไม่นานบนหน้าจอโทรศัพท์ก็ปรากฎหน้าจานหมุนวงล้อเสี่ยงโชค และในนั้นเขียนรางวัลไว้มากมาย
เธอกดปุ่มเสี่ยงโชค วงล้อรูเล็ตเริ่มหมุน และในไม่ช้าลูกศรก็ค่อยๆ หยุดลง
ไปหยุดอยู่ที่ตำแหน่งที่มีพื้นที่น้อยที่สุดและโอกาสสุ่มได้น้อยที่สุด
รางวัลที่หนึ่ง !
หวังตงเสวี่ยอึ้งไปแล้ว ถูกรางวัลจริงๆด้วย !
แม้ว่าปกติแล้วหวังตงเสวี่ยจะไม่ใช่พวกหมกมุ่นอยู่กับการจับฉลากเสี่ยงโชค และเธอก็ไม่เคยซื้อลอตเตอรี่มาก่อนเลย
แต่การถูกรางวัลครั้งนี้ทำให้เธอประหลาดใจอย่างมาก
พวกนักเรียนหญิงที่นั่งอยู่ถัดจากเธอก็ประหลาดใจกันมาก “ตงเสวี่ย เธอถูกลอตเตอรี่จริงๆหรอเนี่ย ? รีบดูสิว่าเธอถูกรางวัลอะไร ”
หวังตงเสวี่ยสแกนรหัส QR ทันทีและผลการถูกลอตเตอรี่ก็แสดงออกมา
“มันคือตั๋วล่องเรือสำราญหรูสองใบ ”
“ว้าว ตงเสวี่ยเธอโชคดีเกินไปแล้ว ฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับเรือสำราญลำนี้ ดูเหมือนว่าในตงไห่จะมีแค่ปีละครั้งเท่านั้น คนที่สามารถขึ้นไปได้นั้นต้องเป็นคนใหญ่คนโตและรวย คนธรรมดาต่อให้มีเงินก็ไม่มีประโยชน์ ”
“ถูกต้อง เรือสำราญลำนี้ชื่อจินไถ คนที่สามารถขึ้นไปได้เป็นลูกเศรษฐีกันหมด ถ้าชีวิตนี้ได้ไปสักครั้งคงจะคุ้มแล้ว ”
“หวังตงเสวี่ยเธอมีตั๋วสองใบ อีกใบหนึ่งขายให้ฉันไหมหละ ? ”
“เธอคิดอะไรอยู่น่ะ ตงเสวี่ยก็ต้องไปกับแฟนของเธอสิ ”
หวังตงเสวี่ยหน้าแดงขึ้นมาทันที เธอดีใจมากๆ ตั๋วสองใบนี้เธออยากใช้มันเพื่อไปกับฉินจุน
เหล่าเพื่อนนักเรียนต่างก็อิจฉาเธอ ทว่าจู่ๆก็มีคนพูดขึ้นมา
“เหมือนจะมีเพื่อนในห้องเราโชคดีได้ไปล่องเรือจินไถสินะ ? ”
“ใครกัน ? ”
“คุณหนูข่งไงหละ ! ”
พูดถึงคุณหนูข่ง แววตาของทุกคนก็จะรู้ทันทีว่าถ้าจะมีคนในชั้นเรียนที่มีคุณสมบัติที่จะไปล่องเรือลำนั้น คนนั้นจะต้องเป็นคุณหนูข่งแน่นอน
คุณหนูข่งเป็นทายาทเศรษฐีและเป็นเพื่อนร่วมชั้นอยู่ห้องเดียวกับหวังตงเสวี่ย ฐานะทางบ้านค่อนข้างดี เธอมักจะเข้าร่วมในงานสังคมระดับไฮเอนด์ต่างๆ และเธอไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับพวกเขา
หลังเลิกเรียน เพื่อนร่วมชั้นสองสามคนกระตือรือร้นมา “คุณหนูข่ง ! ”
ข่งหลิงหลิงหันกลับมาพร้อมกับขมวดคิ้ว “มีอะไร ? ”
“คุณหนูข่ง ตงเสวี่ยก็จะได้ไปร่วมงานเลี้ยงท่องเรือสำราญจินไถด้วยหละ ! ”
ข่งหลิงหลิงแสดงทาทีไม่พอใจ “จะเป็นไปได้ยังไง เธอมีปัญญาไปซะที่ไหน ”
น้ำเสียงของข่งหลิงหลิงมีความดูถูก เพื่อนร่วมชั้นที่เธอดูถูกมากที่สุดในห้องเรียนนี้ก็คือหวังตงเสวี่ย บ้านของเธอฐานะยากจนและชอบแสร้งทำเป็นว่าเป็นคนใสซื่อบริสุทธิ์
“จริงๆนะ หวังตงเสวี่ยถูกลอตเตอรี่ ได้ตั๋วมาสองใบเลยนะ ! ”
ข่งหลิงหลิงขมวดคิ้วและเดินเข้ามา เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูข้อความที่ปรากฏบนหน้าจอ และยิ้มเยาะ
“โง่เอ้ย แค่นี้ก็เชื่อหรอ ของปลอมทั้งนั้น ถ้าไม่เชื่อก็ลองไปแลกเป็นตั๋วมาดูสิ ”
เมื่อได้ยินสิ่งที่ข่งหลิงหลิงพูด ทุกคนต่างก็แสดงท่าทีผิดหวัง ที่แท้มันก็แค่โกหก เหมือนกับคำพูดที่ว่า บนท้องฟ้าจะมีพายหล่นลงมาได้อย่างไร
แต่หวังตงเสวี่ยกลับขมวดคิ้วและรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ นี่คือตั๋วลอตเตอรี่ที่เธอได้มาตอนเธอซื้อเสื้อผ้าให้ฉินจุน แม้ว่าจะไม่ใช่แบรนด์หรูอะไร แต่ทั้งหมดล้วนเป็นร้านเสื้อผ้าระดับไฮเอนด์ พวกเขาจะให้ตั๋วลอตเตอรีปลอมกับเธอได้ยังไง ?
หลังเลิกเรียนหวังตงเสวี่ยนำโทรศัพท์มือถือของตนเองไปด้วยและออกจากโรงเรียน ไปยังสถานที่ที่แลกรางวัล เธอไปขอพบเจ้าหน้าที่และถาม
“สวัสดีค่ะ ฉันถูกรางวัลที่หนึ่ง…… แลกรางวัลที่นี่ได้ไหม ”
“ได้ครับคุณผู้หญิง กรุณาลงทะเบียนและสแกน QR Code ให้ผมด้วย “พนักงานก็แต่งกายสุภาพเรียบร้อย สถานีแลกรางวัลก็ใหญ่มากเช่นกัน ดูไม่เหมือนโกหกเลยสักนิด
ผ่านไปไม่นานพนักงานก็หยิบตั๋วสองใบออกมาแล้วยื่นให้กับหวังตงเสวี่ย ล็อกอินข้อมูลของเธอก็หมายความว่ารับรางวัลสำเร็จแล้ว
หวังตงเสวี่ยได้ตั๋วสองใบนี้มาเธอมีความสุขมาก ไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะโชคดีมากจนได้รับรางวัลใหญ่ขนาดนี้
พอดีเลยไปเที่ยวกับฉินจุน เธอยังไม่เคยนั่งเรือสำราญมาก่อน ดังนั้นเธอน่าจะชอบมากๆ
หวังตงเสวี่ยทนรอไม่ไหวเลยส่งข้อความไปให้ฉินจุน
“พี่ฉิน ฉันถูกรางวัลตั๋วเรือสำราญจินไถสองใบ พรุ่งนี้เราไปเที่ยวด้วยกันไหม ? ”
ฉินจุนตอบกลับข้อความอย่างรวดเร็ว “ไปสิ “