หวังหยุนโมโหอย่างสุด ๆ ที่ให้ฉินจุนมา เพื่อให้มันมาแข็งข้อจัดการ ใครจะคิดว่าไอ้หมอนี่จะไม่ได้เรื่องกลับมากลัวเขาหัวหด
เสียเงินหนึ่งล้านเพื่อมาซื้อแจกันดอกไม้โง่ ๆ นี่จะให้มายอมกันง่าย ๆ เหรอ?
ฉินจุนยิ้มแล้วเอ่ยว่า “ความปรองดองจะนำมาซึ่งความร่ำรวย พวกเรามาคุยกันเรื่องของแถมดีกว่าครับ”
พูดจบ ฉินจุนก็หยิบเอาแก้วเป๊กเหล้าเล็ก ๆ อันเก่า ๆ ขึ้นมาเอ่ย “เอาอันนี้เป็นของแถมแล้วกันว่าไงครับ?”
เจ้าของร้านยิ้มออกมาทันที แก้วเป๊กเหล้าอันเล็ก ๆ นั่นไม่ได้มาตรฐานสักนิดเดียว ต่อให้เป็นวัตถุโบราณจริง ๆ ก็ไม่ได้มีค่าอะไรมากมาย เหมือนว่าเขาจะเก็บมาได้จากร้านขายของเก่าแค่ครึ่งโลละสิบหยวนเอง ขนาดให้คนอื่นฟรี ๆ ยังไม่มีใครเอา
“ได้สิ พ่อหนุ่มนี่รู้เรื่องรู้ราว ของชิ้นนี้ผมแถมให้คุณเลย เอาล่ะ ทุกคนเห็นแล้วนะว่า ให้เงินมาก็ได้ของไป”
หวังหยุนก็ร้อนใจขึ้นมาทันที “ไม่ได้!นี่ไอ้คนแซ่ฉิน เงินหนึ่งล้านนั่นมันเงินฉัน นายมีสิทธิ์อะไรมาตัดสินใจกับเงินฉันหะ?ไม่ได้ ยังไงก็ต้องคืนเงินให้ฉัน!”
ฉินจุนส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ “เป็นคุณที่ไม่ทันระวังเอง คุณทำได้แค่อดทน คนอื่นเขาจะแจ้งตำรวจจับคุณอยู่แล้วยังไม่กลัว คุณจะเอายังไงอีก?”
หวังหยุนโมโหจนกระทืบเท้า ชี้หน้าด่าฉินจุน
“ฉันเรียกนายมาเสียเปล่าจริง ๆ ทำไมนายถึงได้กระจอกแบบนี้ นายเป็นผู้ชายเสียเปล่าแต่กลับสู้กับพวกนั้นไม่ได้!”
ฉินจุนส่ายหน้าไปมา หยิบแก้วเล็ก ๆ นั่นขึ้นมาแล้วหมุนตัวเตรียมจะเดินไป
ทันใดนั้นก็มีผู้อาวุโสคนหนึ่งเดินเข้ามาเรียกฉินจุนเอาไว้
“พ่อหนุ่ม เดี๋ยวก่อน”
ทุกคนต่างหันไปมองตามเสียง เห็นเป็นชายชราคนหนึ่งเดินถือไม้เท้ายืนอยู่ที่ด้านหลังของฉินจุน
“ท่านอาจารย์เกา!”
ทุกคนต่างก็เป็นคนเล่นของเก่ากันทั้งนั้น พอเห็นท่านอาวุโสท่านนี้ สายตาทุกคนก็ต่างสว่างไสวทันที
ท่านเป็นปรมาจารย์ที่มีสายตาเฉียบแหลมที่สุด มีนามว่าเกาชิงซง เขาเป็นปรมาจารย์ด้านโบราณวัตถุ ไม่มีใครเหนือเขา เขาเป็นคนที่มีความน่าเชื่อถือมากที่สุดในตลาดนัดเมืองโบราณฮว๋าเหลียน คนจำนวนมากต่างเชื่อเขา
พอท่านอาจารย์เกาปรากฏตัว ผู้คนก็ต่างพากันมามุงดู
เกาชิงซงมองดูแก้วเป๊กเหล้าที่อยู่ในมือฉินจุนพร้อมเอ่ยถาม
“พ่อหนุ่ม แก้วเหล้านั่นให้ฉันดูหน่อยได้ไหม?”
ฉินจุนเองก็ไม่ได้สนใจอะไร ส่งแก้วเหล้าให้เขาดู
หลังจากท่านอาวุโสเกาสำรวจดูแก้วเหล้าในมือแล้ว ก็ลูบเคราพร้อมกับพยักหน้า
“แก้วเหล้านี่เป็นวัตถุโบราณจริง ๆ ถ้าไม่ได้ดูผิด น่าจะเป็นของราชวงศ์หยวน เพียงแต่ว่ารูปลักษณ์ไม่ปกติ ที่ด้านบนดูเหมือนจะถูกกดทับจนแตก ปนเปื้อนเต็มไปด้วยเศษเหล็ก ราคาจึงตกลงมาก”
เดิมทีแก้วเหล้านี้ทำมาจากเหล็ก ไม่ใช่แก้วเงิน เพราะฉะนั้นต่อให้เป็นวัตถุโบราณราคาก็จะไม่สูงมาก
อีกอย่างที่ด้านบนแก้วมีเศษเหล็กติดอยู่ ยิ่งทำให้มูลค่าของมันน้อยลง แม้แต่มูลค่าความงามสักนิดหนึ่งก็ไม่มี
แต่ว่าท่านอาวุโสเกากลับชอบมันมาก เขารู้สึกว่าถ้านำมันมาทำความสะอาดก็เอามาทำเป็นเครื่องประดับได้
“เอาอย่างนี้พ่อหนุ่ม แก้วเหล้านี้ ฉันขอซื้อต่อแสนนึง”
เพล้ง!
พอเอ่ยราคาออกไป ก็เกิดความโกลาหลขึ้นมาทันที ทุกคนต่างทำหน้าตาตกใจ กับอิแค่แก้วเหล้าใบเล็ก ๆ นั่นสามารถขายได้ในราคา แสนนึง ทำไมก่อนหน้านี้พวกเขาถึงไม่สังเกตเห็นมัน
เจ้าของร้านคนนั้นก็รู้สึกเสียดายมาก ๆ ไม่คิดเลยว่าไอ้ของแถมชิ้นนั้น จะแพงขนาดนี้!หนึ่งแสนเชียวนะ!
แต่ทว่า ฉินจุนกลับส่ายหน้า
“ขอโทษครับ แต่ว่าผมไม่ขาย”
ท่านอาวุโสเกาขมวดคิ้ว “พ่อหนุ่มคิดดีแล้วหรือ?ที่ฉันเสนอราคาหนึ่งแสนก็เพราะว่าฉันชื่นชมมันและก็ชอบมัน ถ้าเกิดวิเคราะห์อย่างละเอียดละก็แก้วเหล้าอันนี้ของนายห้าหมื่นยังขายไม่ออกด้วยซ้ำ ถ้าไม่ขายให้ฉัน นายก็คงขายราคาสูงขนาดนั้นไม่ได้”
ฉินจุนส่ายหน้า “ขอโทษครับ แต่ว่าผมไม่ขาย”
ฉินจุนพูดจบ หวังหยุนก็กระวีกระวาดขึ้นมาทันรีบเอ่ย
“นายมีสิทธิ์อะไรมาตัดสินใจของของฉัน?เป็นของนายหรือไงถึงบอกว่าจะไม่ขาย?เหอะ!”
หวังหยุนแย่งแก้วเหล้ามาไว้ในมือก่อนจะเอ่ย
“อันนี้เป็นของแถมที่ฉันได้จากการซื้อแจกันมาเมื่อกี้ ฉันเป็นคนตัดสินเอง”
พูดจบหวังหยุดก็ส่งแก้วเหล้าให้ผู้อาวุโสเกา
“ฉันขายค่ะ แสนนึง!”
ฉินจุนขมวดคิ้ว “น้าหวังอย่าใจร้อนสิครับ แก้วเหล้านี่มันมีค่ามากกว่านั้น”
หวังหยุนส่งเสียงไม่พอใจ “นายจะไปรู้อะไร ท่านอาจารย์เกาก็บอกแล้วว่าแก้วเหล้าใบนี้อยู่กับเราก็มีค่าแค่ห้าหมื่น นายว่าฉันควรเชื่อท่านอาจารย์เกาหรือว่านายล่ะ ?เลิกไร้สาระได้แล้ว!”
หวังหยุนจ้องหน้าฉินจุนอย่างเอาเรื่อง พร้อมกับมอบแก้วเหล้าให้คนอื่นไปอย่างไม่พูดอะไร
จู้หลินหลินเองก็รู้สึกกังวลใจอยู่ไม่น้อย
“แม่ ถ้าหากว่าพี่เสี่ยวจุนดูออกล่ะ พวกเรานิ่ง ๆ ไว้ดีกว่าอย่าใจร้อนขนาดนั้น”
หวังหยุนส่งเสียงอย่างไม่พอใจ “มันจะไปดูออกอะไร?มันดูของเก่าเก่งกว่าฉันหรือไง?เก่งกว่าท่านอาจารย์เกา?พอแล้ว รีบ ๆ ขายให้เขาไป”
วันนี้หวังหยุนเสียหายไปล้านนึง มันก็ทำให้เธอโมโหมากพอแล้ว ไอ้ฉินจุนมันก็แค่ฟลุ๊คดวงดี หยิบของดีมาขายได้เลยได้เงินมาฟรี ๆ แสนนึง ก็ยังถือว่าได้ทุนคืนมาหน่อยนึง
ท่านอาวุโสเกาโอนเงินเข้าบัญชีของหวังหยุนโดยตรงหนึ่งแสนหยวน
ฉินจุนพูดอะไรไม่ออก ส่ายหน้าอย่างจนปัญญาเอ่ย
“ท่านอาวุโส แก้วเหล้าใบนี้คุณขายให้ผมเถอะ”
ท่านอาวุโสเกาชะงักไปครู่หนึ่ง นี่มันอะไรกัน เดี๋ยวซื้อเดี๋ยวขายวนไปวนมา เห็น ๆ กันอยู่ว่าเป็นพวกเดียวกัน ทำไมถึงมาแบ่งฉันแย่งเธอ?
ท่านอาวุโสเกาเพียงยิ้มบาง ๆ “ดูเหมือนว่านายเองก็จะชอบแก้วเหล้าใบนี้?แต่ว่าคนแก่อย่างฉันเพิ่งได้มันมา อยากจะเล่นมันสัก……”
ขณะที่พูด ฉินจุนก็แบมือต่อหน้าท่านอาวุโสเกา
“ผมให้ห้าแสน”
ทันใดนั้นคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็พากันงงไปหมด
ไอ้หนุ่มนี่มันยังไงกัน แค่หยิบของเก่าโบราณมูลค่าหนึ่งแสนหยวนในแผงลอยขึ้นมาได้ฟรีๆ ก็ถือว่าเก่งมากแล้ว ถือว่าโชคดีมาก แต่ไอ้เด็กนี่กลับไม่รู้จักพอ ยังมาเล่นลูกเล่นแบบนี้อีก
ประเด็นหลักคือ ท่านอาจารย์เกาก็เพิ่งจะวิเคราะห์ไปว่าแก้วนี่เป็นแก้วของราชวงศ์หยวน ไม่ค่อยมีมูลค่าเท่าไหร่ ไม่กี่หมื่นก็ถือว่าสูงแล้ว จะมาซื้อคืนตั้งห้าแสนทำไม?ไม่มีที่ให้ผลาญเงินเล่นหรือยังไง?
หวังหยุนเห็นดังนั้นก็ตะลึง “ฉินจุน นายบ้าไปแล้วหรือยังไง?ห้าแสน?นายมีเงินห้าแสนหรือยังไง?!”
จู้หลินหลินทนดูไม่ไหวอีกต่อไป “แม่ยุ่งเรื่องของเขามากเกินไปแล้วนะคะ ฉันมีค่ะ ใช้ของฉันก่อน”
หลังจากพูดแล้วจู้หลินหลินก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและเตรียมช่วยฉินจุนโอนเงิน
หวังหยุนจ้องเขม็ง “จู้หลินหลิน! ลูกบ้าไปแล้ว! ลูกมีเงินมากนักใช่ไหม มีเงินแล้วมาใช้เงินตามอำเภอใจแบบนี้ ?!”
จู้หลินหลินพูดไม่ออก ภายในใจก็คิดว่าเมื่อกี้แม่ก็เพิ่งจะใช้เงินตามอำเภอใจไปล้านนึงไม่ใช่เหรอ?
ท่านอาจารย์เการู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขารู้สึกว่าพ่อหนุ่มคนนี้ไม่เหมือนกับคนอื่น ๆ
“พ่อหนุ่มแน่ใจนะ?”
“ผมแน่ใจครับ”
“ได้ ถ้านายซื้อต่อในราคาห้าแสน ฉันก็จะยอมตัดใจขาย”
เขาไม่จำเป็นต้องเก็บไว้ให้สูงกว่าราคาจริงหลายเท่า
จู้หลินหลินโอนเงินให้ทันทีห้าแสนหยวน ฉินจุนก็ได้แก้วเกล้าใบเล็กนั่นกลับมาอีกครั้ง
หวังหยุนโมโหจนใบหน้าซีดเผือด
“นังลูกใช้เงินเป็นเบี้ย ไอ้พวกใช้เงินตามอำเภอใจ!”
“ไอ้คนแซ่ฉินแกตั้งใจที่จะทำลายครอบครัวของพวกฉันใช่ไหม!”
ท่านอาวุโสเกาเองก็อยากรู้มากเช่นเดียวกัน
“พ่อหนุ่ม นายบอกฉันได้ไหมว่าทำไมถึงทำแบบนี้?”
ฉินจุนเอ่ย “ผมเคยบอกแล้วว่า พวกคุณมองไม่เห็นคุณค่าที่แท้จริงของแก้วเหล้าใบนี้ด้วยซ้ำ”
“ในเมื่อพวกคุณอยากเห็น ผมก็สนองความต้องการให้”