ผู้รักษาสุดแกร่ง – ตอนที่ 121 หวังตงเสวี่ย

ฉินจุนนำโทรศัพท์ออกมาโทรหาหวังอี้สุ่ย

หวังอี้สุ่ยเขาก็คือพ่อของหวังจื่อ

เมื่อก่อนเขาเคยรักษากับฉินจุน เป็นโรคข้อกระดูกสันหลังอักเสบ หลังจากที่ฉินจุนรักษาให้หายแล้วเขาก็เคารพและชื่นชมฉินจุนอย่างมาก

ฉินจุนจำได้ว่าชายชราผู้นี้ทำงานเกี่ยวกับการกุศล

“ปรมาจารย์ฉิน คุณมีคำสั่งอะไรหรือเปล่า ? ”

“มีอยู่คนหนึ่งชื่อว่าติงหมิงเลี่ยง ทำงานเป็นรองผู้จัดการในบริษัทการกุศล ไม่รู้ว่าคุณรู้จักหรือเปล่า ”

“เหมือนจะนึกออกอยู่บ้าง ขอแค่ทำงานเกี่ยวกับการกุศล ไม่ว่าบริษัทไหนผมก็คุยได้ทั้งนั้น ปรมาจารย์ฉินคุณหมายความว่า ? ”

“คนๆนี้ศีลธรรมไม่ดี ไล่ออกไปซะ ”

“ได้ครับ ผมจะไปไล่ออกให้วันนี้ และจะทำการติดแบล็กลิสเขาในสายอาชีพนี้ ต่อไปภายในประเทศจีนแห่งนี้จะไม่มีใครรับเขาเข้าองค์กรอีก ”

“อืม ”

หลังจากวางสายโทรศัพท์ ฉินจุนก็พอใจไม่น้อย ติงหมิงเลี่ยงคนนี้ไม่ใช่คนดีอะไร ถ้าปล่อยให้เขาได้ทำงานในบริษัทการกุศล ต่อไปไม่ช้าก็เร็วคงจะทำให้เสียชื่อเปล่าๆ

ฉินจุนไปส่งเย่หวันเอ๋อกลับบ้าน แล้วตนเองก็เดินกลับ

ระหว่างทางตอนที่ผ่านสะพานเส้นหนึ่ง ก็มองเห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังใจลอยอยู่บนสะพาน

ใบหน้าของเธอสวยงามมาก มัดผมหางม้าและดูบริสุทธิ์ผุดผ่อง

แน่นอนแม้ว่าจะสวยแต่ฉินจุนก็ไม่ได้มองมากเท่าไหร่นัก เพราะตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ถ้าถูกคนหาว่าเป็นไอบ้ากามก็คงไม่ดีนัก

ลงมาจากสะพานได้ไม่ไกล มีเด็กชายตัวเล็กนั่งร้องไห้อยู่ที่พื้น ดูแล้วอายุไม่มากประมาณ8-9ขวบได้

ฉินจุนเข้าไปถาม “เด็กน้อย เป็นอะไรหรอ ? ”

เด็กชายชี้ไปที่แม่น้ำแล้วตอบ “คุณน้าครับ กระเป๋านักเรียนของผมตกลงไปในนั้นแล้ว…… ”

ฉินจุนยิ้มเจื่อน เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้แน่นอนว่าต้องให้การช่วยเหลือ

“ได้ หนูรอก่อนนะ น้าช่วยหยิบให้ ”

ฉินจุนถอดรองเท้าและกางเกง กระโดดลงแม่น้ำ

……

ขณะเดียวกันหวังตงเสวี่ยที่ยืนอยู่บนสะพานใบหน้าประกอบแววตาเศร้าสร้อย ถ้ายังไม่จ่ายค่าเทอม เทอมหน้าจะต้องถูกไล่ออกจากโรงเรียนแล้ว

ช่วยไม่ได้ ทุนการศึกษาเพียงอย่างเดียวไม่สามารถสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเข้ามหาวิทยาลัยได้

และเพื่อที่จะได้รับทุนการศึกษา เธอไม่มีเวลาที่จะได้ออกไปทำงาน จะทำอย่างไรดี

ในตอนที่เธอกำลังมืดแปดด้าน ทันใดนั้นก็ได้รับโทรศัพท์จากหวังเจียหมิง

“หวังตงเสวี่ย เธอได้เงินสนับสนุนแล้ว เทอมหน้าก็จ่ายค่าเล่าเรียนได้แล้วหละ ”

หวังตงเสวี่ยชะงักไปเดี๋ยวนั้น “จริงหรอ ? ก่อนหน้าไม่ใช่ว่าไม่มีฉันหรอกเหรอ ? ”

เงินสนับสนุนนักศึกษาปริญญาค่อนข้างขาดแคลน แม้ว่าครอบครัวของหวังตงเสวี่ยจะลำบากมาก แต่ว่าเธอได้รับทุนการศึกษาแล้ว ดังนั้นก็ไม่ต้องพิจารณาอะไรอีกแล้ว วันนี้ยิ่งได้ฟังหวังเจียหมิงบอกว่าได้รับเงินแล้ว เธอยิ่งดีใจมากๆ

“ใช่ตอนนี้มีแล้ว พวกผู้มีอิทธิพลรายใหญ่ท้องถิ่นเราบริจาคเงินเพิ่ม20ล้านหยวน พอจ่ายค่าเทอมให้เธอจน

จบการศึกษาเลยหละ ”

หวังตงเสวี่ยดีใจจนยิ้มออกมา “ดีมากเลย ! ถ้ามีโอกาสจะต้องขอบคุณพี่ชายเหล่านั้นอย่างดีแน่นอน…… ”

ตอนที่กำลังพูดอยู่นั้นหวังตงเสวี่ยก้มหัว และพบว่าด้านล่างมีคนกระโดดน้ำ เธออุทานออกมาด้วยความ

ตกใจ

“เอาหละเลิกพูดแล้ว มีคนกระโดดน้ำแล้ว ! ”

หวังตงเสวี่ยกระโดดจากบนสะพานลงไปยังแม่น้ำ ด้วยท่าทีที่สวยงามไร้ที่ติ

ฉินจุนขมวดคิ้ว เขาพึ่งจะหยิบกระเป๋าได้และเตรียมจะว่ายกลับไป แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับกระโดดลงมาไม่รู้ว่าทำไม ?

ยังไม่ทันที่ฉินจุนจะได้หันกลับมา หวังตงเสวี่ยที่อยู่ในน้ำแล้วก็กอดเขาไว้ทันที

“นี่ ! มีสติไว้ จับฉันไว้นะ ! ”

ฉินจุนงงนิดหน่อย นี่เธอ……มาช่วยเขาหรอ ?

ทักษะการว่ายน้ำของฉินจุนค่อนข้างดี เขาถูกอาจารย์ฝึกจนสามารถกลั้นหายใจใต้น้ำได้นานกว่า10นาทีและไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นมาช่วย ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้จะเข้าใจผิดแล้ว ?

ฉินจุนกลัวว่าเธอจะเสียความรู้สึก จึงปล่อยให้เธอจับและว่ายกลับไปที่ฝั่ง

เมื่อกลับถึงฝั่ง หวังตงเสวี่ยจับฉินจุนพลิกตัวหันมา บีบปากของเขาไว้แล้วเป่าลมเข้าไปในปากทันที

เธอทำการผายปอด

ขณะที่ฉินจุนกำลังจะอธิบาย ผลสุดท้ายเขาก็ถูกจูบ

“ฮู่ว…… ”

หวังตงเสวี่ยเริ่มรู้สึกว่าจูบแบบนี้มันไม่ปกติ เธอรีบผละออกลุกขึ้นมา เห็นฉินจุนลืมตามองอยู่ ทันใดนั้นหน้าเธอก็แดง

“นี่ อะไรของคุณเนี่ย ! ไม่ได้เป็นอะไรแล้วจะแกล้งตายทำไม ! ”

ฉินจุนหมดคำจะพูด “สาวน้อย ผมไปแกล้งตายตอนไหนไม่ทราบ ? ”

“คุณ …… คุณยังมาพูดอีก ! ”

หวังตงเสวี่ยเช็ดปากตัวเอง แก้มเธอแดงก่ำ เมื่อครู่นี้เขาคิดว่าฉินจุนเป็นลมไปจึงรีบขึ้นจากฝั่งเพื่อช่วยผายปอด แต่ไม่นึกเลยว่าผู้ชายคนนี้จะไม่ได้เป็นอะไรเลยสักนิดตั้งแต่แรก

“คุณไม่เป็นไรแล้วไปกระโดดน้ำทำไม มีเรื่องอะไรที่ต้องคิดมากหรือไง ! ”

ฉินจุนยิ้มเจื่อน “ผมไม่ได้โดดน้ำ ”

พูดจบเด็กชายคนนั้นก็เดินเข้ามา

“คุณน้า ขอบคุณที่ช่วยเก็บกระเป๋าหนังสือให้นะครับ ”

พูดจบเด็กชายคนนั้นก็สะพายกระเป๋าพร้อมกับเดินจากไป

ถึงตอนนี้หวังตงเสวี่ยก็เข้าใจแล้ว คนเขาไม่ได้ตกน้ำตั้งแต่แรกแล้ว เขาแค่ช่วยเด็กนักเรียนเก็บกระเป๋าหนังสือเท่านั้นเอง

หวังตงเสวี่ยถึงกับหน้าแดงยกใหญ่ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือจูบแรกของเธอไม่มีแล้ว……

เธอกลอกตาไปมาและเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรเลย

ฉินจุนรู้สึกเสียดายอยู่นิดหน่อย สาวน้อยคนนี้ น่าสนใจอยู่ไม่น้อย

กลับถึงบ้านอาบน้ำอุ่น น้าเฝิงเตรียมเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนไว้ให้ในห้องนั่งเล่น

“คุณชายอยากกินอะไรคะ เดี๋ยวน้าจะทำไว้ให้ ”

“บะหมี่สักชามก็ได้ ”

น้าเฝิงรีบไปจัดแจงทำอาหารที่ห้องครัว เธอวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะพร้อมกับเปิดการถ่ายทอดสด

ฉินจุนมอง สมัยนี้การถ่ายทอดสดเป็นที่นิยมจริงๆ แม้แต่น้าเฝิงอายุปูนนี้แล้วก็ดูกับเขาด้วย

เหลือบมองแค่แวบเดียว เหมือนจะเป็นบล็อกเกอร์อาหารที่สอนทำอาหาร ไม่ได้ตั้งใจดูขนาดนั้น

“ขอโทษนะทุกคน วันนี้ระหว่างทางกลับบ้านฉันเปียกน้ำนิดหน่อย เพราะฉะนั้นคืนนี้จะสอนทุกคนทำปลาเปรี้ยวค่ะ ”

เมื่อได้ยินเสียงนี้ ฉินจุนรู้สึกคุ้นหูนิดหน่อย หันไปดูอีกครั้ง นี่ไม่ใช่สาวน้อยคนที่พึ่งจะช่วยผายปอดให้เขาเมื่อครู่หรอกเหรอ ?

ขณะนี้ผมของหวังตงเสวี่ยเปียกและยังไม่ทันได้เป่าให้แห้ง น่ารักมากกว่าเดิมอีก แม้ว่าในจอจะไม่ได้สวยมาก แต่ดูบริสุทธิ์น่ารื่นรมย์ ไม่มีฟิลเตอร์ใดใดเปิดอยู่ เป็นความงามตามธรรมชาติของผู้หญิงล้วนๆ

นึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นนักถ่ายทอดสดด้วย

ฉินจุนรู้สึกว่ามันน่าสนใจ จึงดูไปสักพัก

หวังตงเสวี่ยเป็นบล็อกเกอร์ด้านอาหารอย่างจริงจัง เธอทำอาหารเก่งมาก เธอเชี่ยวชาญทั้งการใช้มีดและการทำอาหาร ดูเหมือนว่าเธอจะทำอาหารเป็นตั้งแต่ยังเด็ก

แต่ว่าพวกที่มาดูถ่ายทอดสดนั้นไม่ใช่พวกที่จริงจังอะไรหรอก

“สาวสวย แต่งตัวมิดชิดเกินไปแล้ว ทำอาหารร้อนไหม ”

“น้องสาว พี่ส่งข้อความไปส่วนตัวแล้ว เพิ่มเพื่อนวีแชทกันดีไหม เดี๋ยวจะเอากุญแจแลมโบกินี่ให้เธอดู ”

“พอแล้วหละสาวน้อย เข้าประเด็นหลักกันเถอะ สาวน้อยข้างห้องถอดจนแทบเปลือยแล้ว ”

เดิมทีบล็อกเกอร์อาหารส่วนใหญ่จะมีแฟนคลับเป็นพวกผู้หญิง และแม่บ้านหลายคนอย่างน้าเฝิงก็ให้ความสนใจ แต่เนื่องจากรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของหวังตงเสวี่ย จึงดึงดูดพวกกะล่อนทั้งหลาย

บล็อกเกอร์ทำอาหารดีๆ ถูกจัดไปอยู่บล็อกเกอร์ประเภทความงามเสียได้

ความคิดเห็นด้านล่างก็มีทุกประเภททุกรูปแบบ รวมทั้งพวกที่พูดจาหยาบคายว่าผู้หญิงคนนี้แสร้งทำเป็นว่าตนบริสุทธิ์ ไม่น่าดูเอาเสียเลย

ฉินจุนเหลือบมองไปที่การแนะนำตัวของเธอ หวังตงเสวี่ย นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮั่นตง และรองประธานของสมาคมการศึกษาและทำงาน

ฉินจุนชะงักไป มหาวิทยาลัยฮั่นตง เมื่อครู่เขาพึ่งบริจาคเงินให้นักศึกษาในมหาวิทยาลัยฮั่นตงใช่ไหม ?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset