ผู้รักษาสุดแกร่ง – ตอนที่ 19 เขามีความสามารถนี้เหรอ

เมื่อฉินจุนได้ยิน ก็ขมวดคิ้วเลย

“คุณช่วยงั้นเหรอ? ”

ที่ฉินจุนช่วยจู้หลินหลินนั้นไม่ได้อยากได้การตอบแทนจากเธอเลย แต่จินซานหลงนี่มันหน้าด้านเกินไปแล้ว เขาเนี่ยนะ จะสามารถจัดการตระกูลฉีได้

ทันทีที่จินซานหลงเดินเข้ามาเขาก็ได้สังเกตฉินจุนแล้ว ตำแหน่งการยืนของฉินจุนกับจู้หลินหลินนั้นดูใกล้ชิด เหมือนทั้งสองจะสนิทสนมกันมาก

หมายความว่าไง?

ตอนที่เขาอยู่กับจู้หลินหลิน เวลากินข้าวตักกับข้าวยังต้องแบ่งตะเกียบกลางตะเกียบส่วนตัว แต่เมื่อได้เจอกับชายคนนี้ กลับทำตัวสนิทสนมกัน ไอ้หมอนี่มันเป็นใคร?

จินซานหลงยืนขึ้น แล้วเดินไปตรงหน้าฉินจุน ทำท่าทางหยิ่งยโส

“สวัสดี ฉันชื่อ ผมซานหลง ตระกูลจินจากเมืองหลวง”

ฉินจุนมองไปที่เขา แล้วพูดเบาๆ ว่า “ฉินจุน”

รอไปสักพัก เห็นฉินจุนไม่ได้พูดต่อ จินซานหลงรู้สึกแปลกใจ “หมดแล้ว? ”

ฉินจุนถามกลับ “อะไรหมด? ”

จินซานหลงรู้สึกหมดคำพูดเลย เท่าที่เขารู้ คนที่สามารถคบหากับตระกูลจู้นั้น ต้องเป็นคนที่มีอำนาจใหญ่โต เวลาแนะนำตัวเอง ต้องแนะนำตระกูลของตัวเองตามด้วย

อย่างเช่นพ่อทำอะไรบ้าง ตระกูลของตัวเองทำอะไรบ้าง แบบนี้ถึงจะสามารถทำให้คนอื่นเคารพ

อย่างตอนที่ที่เขาแนะนำตัวเอง ข้างหลังก็จะตามด้วยตระกูลจินจากเมืองหลวง ทำให้คนอื่นได้รู้ว่าเขาเป็นคนตระกูลจินที่อยู่เมืองหลวง ให้รู้ว่าเป็นคุณชายของตระกูลจิน

แต่ฉินจุน นอกจากแนะนำแต่ชื่อตัวเองแล้ว ข้างหลังก็ไม่มีอะไรอีกเลย ดูจากการแต่งตัวแล้วก็เหมือนคนธรรมดาคนหนึ่ง หรือเขาเป็นแค่ประชาชนทั่วไป?

ตระกูลใหญ่ๆ ในตงไห่ก็เคยได้ยินมาหมดแล้ว แต่ไม่เคยได้ยินคนที่แช่ฉินเลย

เมื่อนึกถึงจุดนี้ จินซานหลงก็เผยรอยยิ้มตรงมุมปากแบบเย้ยหยัน คิดว่าจะเป็นคู่ต่อสู้ที่ร้ายกาจอะไร สุดท้ายก็แค่คนธรรมดาทั่วไป

ดูๆแล้ว พวกเขาเหมือนยังมีความสัมพันธ์เก่าๆ ต่อกัน

สมัยนี้ รักเก่าๆ แบบนี้ไร้ค่าไปแล้ว หลายครั้งเมื่ออยู่ต่อหน้าเงินทองกับอำนาจ มันไม่มีค่าอะไรเลย

หวังหยุนเดินออกมา จ้องไปที่ฉินจุนแล้วทำเสียง เหอะๆ แบบเยาะเย้ย

“เขาก็แค่ลูกชายของเพื่อนเก่าเราในเมื่อก่อน ก็ถือว่าเป็นญาติกัน คุณชายจินไม่ต้องสนใจหรอก”

ที่พูดว่าฉินจุนเป็นญาติ หลักๆ คือไม่อยากให้คุณชายจินเข้าใจผิด ฉินจุนกับจู้หลินหลินเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว

ไม่กี่ชั่วโมงที่อยู่ในบ้านตระกูลฉี หวังหยุนก็รู้แล้วว่า ฉินจุนไอ้หมอนี่กลับมาถึงก็ไม่หยุดนิ่งเลย หาเรื่องตระกูลถัง หาเรื่องตระกูลฉี ถ้าไม่ใช่เพราะเขาไปทำร้ายคุณชายของตระกูลฉี หวังหยุนจะโดนจับได้ไง? พวกเขาทั้งสามจะโดนไล่ออกจากตระกูลฉีได้ไง?

ไอ้ตัวกาลกิณี ถ้ากลับมาแล้วทำตัวอ่อนน้อมถ่อมตน เธออาจจะช่วยเหลือเขาได้ หางานที่ไม่ค่อยเป็นจุดสนใจให้เขาทำ ใช้ชีวิตอย่างสงบสบายตลอดไป

แต่ไอ้หมอนี่มันไม่รู้ลิมิตตัวเอง เอาตัวเองไปชนกับพวกอำนาจใหญ่ๆ เธอเลยอยากตัดความสัมพันธ์กับฉินจุนให้ เพื่อไม่ให้เขาได้มาทำลายชีวิตตัวเองในตอนนี้

หวังหยุนขมวดคิ้ว มองไปที่ฉินจุน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

“เมื่อก่อนเราสองตระกูลมีความสัมพันธ์กันก็จริง แต่มีบางอย่างที่ฉันอยากบอกกับนายตรงๆ ตอนนี้นายเทียบกับคนธรรมดาทั่วยังไม่ได้เลย แต่ลูกสาวฉันเป็นถึงคุณหนูของตระกูล นายอย่าใฝ่สูงเลย นายสองคนเป็นไปไม่ได้หรอก ”

สภาพฉินจุนปัจจุบันแย่ขนาด ถึงสิ่งที่หวังหยุนทำนั้นไม่ได้ถึงขั้นซ้ำเติม แต่เธอก็ไม่อยากให้เขามากระทบถึงชีวิตตัวเอง

สิบปีที่แล้วฉินจุนกับจู้หลินหลินก็สนิทสนมมีใจกันมาตั้งแต่เด็ก ทั้งสองตระกูลต่างก็เชียร์ให้เป็นคู่กัน แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว ฉินจุนไม่ได้เป็นคุณชาย พูดหยาบกว่านี้ก็คือ ตอนนี้เขาเป็นแค่หนูที่เดินผ่านถนน แน่นอนว่าต้องให้เขาออกห่างจากจู้หลินหลิน

จู้หลินหลินขมวดคิ้ว “แม่พูดอะไรเนี่ย พี่เสี่ยวจุนทำไม? ตอนนี้พี่เสี่ยวจุนเป็นถึงหมอเทพและเก่งมากเลยนะ ”

ดูออกเลยว่า จู้หลินหลินนั้นยังมีความรู้สึกดีๆ ต่อฉินจุน หวังหยุนอึ้งไปเลย ไม่นึกเลยว่าผ่านไปหลายปีแล้ว ในใจจู้หลินหลินยังคงชอบฉินจุน แบบนี้ไม่ได้แล้วแหละ

หวังหยุนทำตาโต “หลินหลิน หมอทงหมอเทพอะไรกัน ก็แค่หมอจะมีอนาคตที่ดีได้ไง แล้วมันเก่งกว่าคุณชายจินเหรอ?

แกระวังสถานะตัวเองด้วย ตอนนี้เรากับตระกูลจินมีสัญญาสมรสกันนะ อีกอย่าง แกอย่าลืมไปว่าคุณชายจินเพิ่งช่วยชีวิตฉันเมื่อกี้

“หนู……”

ถ้าเป็นปกติ จู้หลินหลินยังพอมีคำที่จะตอบเถียงบ้าง แต่ตอนนี้ มันจริงที่ว่าคุณชายจินเพิ่งจะช่วยหวังหยุน ช่วยแก้ปัญหาใหญ่ของตระกูลเขาขนาดนี้ แม้จะมีคำพูดอะไร ก็ไม่เหมาะที่จะพูดในเวลานี้

ได้แต่ทนไปก่อน

ฉินจุนหัวเราะเยาะ “เขาช่วย? เขามีปัญญาช่วยเหรอ? ”

ฉินจุนเพิ่งพูดจบ จินซานหลงยังไม่ทันได้พูด หวังหยุนก็ไม่พอใจแล้ว

“ไร้สาระ คุณชายจินไม่มีปัญญาช่วย แล้วนายมีเหรอ? ช่วยอะไรไม่ได้ ก็อย่าพูดจาแดกดัน ตอนที่ฉันกำลังลำบาก นายทำอะไรอยู่? ”

จู้หลินหลินพูด “แม่อย่าพูดแบบนี้ พี่เสี่ยวจุนเขาก็ช่วยหาวิธีตลอดเลยนะ!”

หวังหยุนแบะปากแล้วพูด “เหอะ และมันมีประโยชน์อะไร ไม่มีตำแหน่งฐานะแบบนั้น กังวลไปเปล่าๆ ”

จินซานหลงมองดูฉินจุนที่ท่าทางไม่พอใจ แล้วพูดเยาะเย้ยว่า

“น้องฉินคนนี้ดูเหมือนจะไม่พอใจนะ พ่อผมเป็นถึงนายทหารกองร้อยเขตตะวันออกเฉียงใต้ อยู่ฮั่นตงก็พอมีอำนาจ ฟังดูเหมือนจะไม่พอใจ?”

ฉินจุนเย้ยหยัน “แค่นายทหารกองร้อย กล้าทำตัวหยิ่งผยองแบบนี้ได้ไง? คิดว่าแค่พวกคุณสองพ่อลูก จะสามารถทำให้ตระกูลฉีปล่อยคนได้เหรอ? ”

จินซานหลงขมวดคิ้ว โดนฉินจุนถามขนาดนี้ก็ขาดความมั่นใจเหมือนกัน

ก็จริง ตระกูลฉีอยู่ตงไห่มานานขนาดนี้ นายทหารกองร้อยคนหนึ่ง คงไม่มีหน้ามีตาถึงขนาดนี้

แต่ฉินจุนธรรมดาๆ คนนี้ ก็คงไม่ปล่อยอยู่ในสายตาเขา

“นายหมายความว่าไง? ไม่ใช่ตระกูลจินฉันช่วย? แล้วจะเป็นนายเหรอ? ”

ฉินจุนตอบ “ถูกต้อง”

“ฮ่าๆ ก่อนขี้โม้ไม่คิดจะร่างบทก่อนเหรอ ตระกูลฉีนั้นน่าเกรงขาม ถ้าเป็นเหมือนที่แกพูด เขาก็คงไม่ไว้หน้าตระกูลจินน่ะสิ แบบนี้เขาจะไว้หน้าแกได้ยังไง? อย่าขี้โม้เลย”

หวังหยุนกลอกตา หน้าตาแสดงออกถึงความรังเกียจ

“ไปอยู่ข้างนอกมาตั้งหลายปี ไม่เรียนรู้ความสามารถอะไร นอกจากโกหก นายเห็นพวกฉันเป็นคนโง่เหรอ ใครที่สามารถช่วยฉันได้ ฉันจะไม่รู้ได้ไง?”

จู้หลินหลินยังรู้สึกว่าที่พี่เสี่ยวจุนพูดแบบนี้เกินไปจริงๆ ถึงจะพูดเพื่อเอาหน้าแต่ก็ไม่ควรพูดโอ้อวดขนาดนี้

ตั้งแต่ที่ลงจากภูเขา ฉินจุนก็อยู่กับพวกเขาตลอด ไม่เห็นทำอะไรเลย แม้แต่โทรศัพท์สักสายก็ยังไม่โทร เป็นไปได้ไงที่เขาจะเป็นคนช่วย?

จู้หลินหลินดึงชายเสื้อฉินจุน แล้วพูดเบาๆ ว่า

“ช่างมันเถอะ พี่เสี่ยวจุน ไม่ต้องพูดแล้ว ไม่จำเป็นต้องเถียงเรื่องนี้กับเขา”

เห็นทั้งสองทำท่าทางซุกซิกกันอีกครั้ง สีหน้าของจินซานหลงก็ยิ่งดูเข้มไปกว่าเดิม

เขาเป็นผู้ช่วยชีวิตและเป็นว่าที่สามีของตระกูลจู้แท้ๆ แต่จู้หลินหลินกลับเฉยชากับเขา แล้วไปสนิทสนมกับไอ้คนแซ่ฉินนี้อีก เขาไม่พอใจอย่างมาก

“เหอะ พูดแล้วไม่อายบ้างเหรอ นายพูดว่านายเป็นคนช่วยใช่ไหม? แน่จริง ก็เรียกเฮลิคอปเตอร์พวกนั้นมาสิ”

ที่ช่วยคนคือเฮลิคอปเตอร์ ถ้าเขาบอกว่าเขาเป็นคนช่วย เขาก็คงสามารถเรียกเฮลิคอปมาได้สิ?

ฉินจุนเยาะเย้ย “ได้ ผมจะทำให้คุณสมใจเลย”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset