TMFH ตอนที่ 131 : จุดเริ่มต้นของการลอบสังหาร
ทั้งห้องจัดเลี้ยงตกอยู่ในความโกลาหล
ผู้ร่วมงานแต่ละคนเผยให้เห็นสีหน้าและท่าทางราวกับไม่เชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น
‘นั่นคือหัวหน้าตระกูลฟีบี้!’
‘เขาเป็นผู้มีอิทธิพลในโลกการค้าของอเมริกา!’
‘เขาเป็นเจ้าสัวในวงการธุรกิจ ถ้าเขาเกิดไม่พอใจขึ้นมาเขาสามารถทําลายระบบเศรษฐกิจและการค้าทางตอนใต้ของประเทศได้ทั้งหมด!’
ทุกคนต่างล้วนสงสัยเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของเย่เฟิง ว่าทําไมหัวหน้าตระกูลฟีบี้ถึงเกรงกลัวเขาได้ขนาดนี้!
“โอ้พระเจ้า! คุณเย่มาจากตระกูลโบราณลึกลับหรือเปล่านะ ? ไม่อย่างนั้นทําไมหัวหน้าตระกูลฟีบี้ถึงเคารพเขามากขนาดนั้น!”
“เหลือเชื่อ! บุคคลที่แม้แต่หัวหน้าตระกูลฟีบี้ยังต้องเกรงกลัว…ซึ่งอยู่ในเมืองเจียงซี! เขาคือใครแน่ ?”
“เมื่อกี้เรากําลังเยาะเย้ยคุณเย่ แต่ตอนนี้…ไอ้บ้าเอ้ย! เราตาบอด พวกเราตาบอดกันทุกคน!”
แขกทุกคนในห้องต่างสงสัยเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของเย่เฟิง
แขกบางคนนั้นที่คุ้นเคยกับหลินหลาน ยังคงระดมถามคําถามใส่เธอ
ทว่าหลินหลานนั้น ก็ตอบกลับได้เพียงแค่รอยยิ้มเจื่อน ๆ
เพราะแม้แต่เธอก็ไม่รู้ว่าทําไมหัวหน้าของตระกูลฟีบี้ถึงกลัวเย่เฟิงมากขนาดนี้
นี่นับเป็นเหตุการณ์ที่น่าเหลือเชื่อสําหรับหลินหลานเองเช่นกัน
“ผู้ชายคนนี้ช่าง…”
หลินหลานเผยรอยยิ้มให้กับความคิดตัวเอง
เธอไม่รู้ว่าทําไมเขาถึงทําให้เธอประหลาดใจได้อยู่เสมอและเธอก็มั่นใจว่าเขาสามารถทําอะไรก็ตามในโลกนี้ให้สําเร็จได้แน่ ๆ
ในสายตาของหลินหลาน เย่เฟิงเป็นเหมือนปริศนา เมื่อเธอเปิดผ้าคลุมชั้นหนึ่งออกเธอจะพบอีกชั้นที่ซ่อนไว้ข้างใต้
‘นี่ฉัน…ฉันตกหลุมรักปีศาจแบบไหนลงไปเนี่ย!’
หลินหลานเผยรอยยิ้มจาง ๆ ออกมา ทว่าใบหน้างดงามของเธอนั้นกลับดูแดงซ่าน
ในขณะนั้นโม่เต๋กําลังรู้สึกหัวเสียอย่างที่สุด ขณะที่เขานั่งอยู่ที่มุมหนึ่งของห้องจัดเลี้ยง!
“ไอ้บ้า! ไอ้สารเลว! ให้ตายเถอะ!”
โม่เต๋าพึมพําด้วยใบหน้าที่ยังคงไม่ยอมรับกับเหตุการณ์ที่ เฟิงจะเกิดขึ้น
“ไอ้สารเลว! มันชนะอีกแล้ว!”
เย่เฟิงกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของโม่เต๋าอย่างรวดเร็ว
‘ครั้งที่แล้วมันหลอกฉันที่ตรอกขายของโบราณ จากนั้นมันก็ทําให้ดวงใจของราชินีของฉันไร้ค่าด้วยสร้อยข้อมือหินของมัน แล้วคราวนี้แม้แต่หัวหน้าของตระกูลฟนี้ก็ยัง เข้าข้างมันอีก’
“ไอ้สารเลว! แกทําลายแผนการของฉันที่ละแผนจนหมด! แกคงเบื่อที่จะหายใจบนโลกนี้แล้วสินะ!”
ดวงตาของโม่เต๋านั้นมีเจตนาร้ายแฝงอยู่
หลังจากมองดูรอบ ๆ ห้องจัดเลี้ยงแล้ว เขารู้ว่าเขาจะต้องอับอายมากขึ้นถ้าเขายังคงฝืนอยู่ต่อไป ดังนั้นเขาจึงรีบออกจากห้องนี้ไปทันที!
อย่างไรก็ตามไม่มีใครในห้องจัดเลี้ยงสนใจโม่เต๋ที่เดินจากไป
พวกเขาทุกคนเชื่อว่าโม่เต๋านั้นไม่สามารถเทียบกับเย่เฟิง ได้แม้แต่น้อย
และทุกคนต่างพูดคุยและสนใจถึงตัวตนที่แท้จริงของเย่เฟิงมากกว่า!
ทางเดินของโรงแรมจิงหัว เวลานี้นั้นบรรยากาศค่อนข้างน่ากลัว!
เย่เฟิงยืนอยู่ข้างหน้าตรงทางเดิน ขณะสายลมพัดผ่านผมของเขาปลิวไปในอากาศ นั่นทําให้เขานั้นดูโหดร้ายมากยิ่งขึ้น
หัวหน้าตระกูลฟีบี้กําลังเดินเข้ามาหาเขาจากทางด้านหลัง!
ด้วยเสียงอู้อี้ เขาคุกเข่าลงบนเข่าข้างหนึ่งและกํามือไปวางไว้ตรงหัวใจ!
“ผมขอทําความเคารพเจ้านาย ผมหัวหน้าของตระกูลฟีบี้ 1 ใน 12 ตระกูลที่อยู่ในกลุ่มความมืด!”
หัวหน้าของตระกูลฟีบี้นั้นดูเจียมเนื้อเจียมตัวและให้ความเคารพอย่างมาก เขาพยายามไม่สบตากับเย่เฟิง
“เจ้านาย ก่อนหน้านี้ผมวางแผนจะไปเยี่ยมคุณในวันพรุ่งนี้ ไม่คาดคิดว่าวันนี้ผมจะมีโอกาสได้พบคุณที่นี่! โปรดยกโทษให้ผมด้วยสําหรับความหยาบคายของผมก่อนหน้านี้!”
หัวหน้าตระกูลฟีบี้ก้มหัวลง!
เย่เฟิงสงบนิ่งขณะที่เขามองไปยังทิวทัศน์อันมืดมิดนอกหน้าต่างและถามว่า “นายรู้ไหมว่าซวินเอ๋ออยู่ที่ไหน ?”
“เจ้านาย คุณหนูนั้นมักจะดําเนินการเรื่องต่าง ๆ อย่างลึกลับอยู่เสมอ ตามที่ผู้ใต้บังคับบัญชาของผมรู้มา พวกเขาพบร่องรอยของคุณหนูในภูมิภาคเมียวเจียง!
เมื่อหัวหน้าตระกูลฟีบี้กล่าวถึงเย่ซวินเอ๋อ เขาดูมีความสุขมาก
‘ภูมิภาคเมียวเจียง ?’
หลังจากได้ยินคําพูดของเขาเย่เฟิงก็เผยรอยยิ้มจาง ๆ
“ดูเหมือนว่าสาวน้อยนั่นพร้อมที่จะปลุกกายาพิษระดับสูงสุดขั้น 2 ของเธอ โดยใช้พิษแมลงจากภูมิภาคเมียวเจียง!”
หลังจากพูดจบเย่เฟิงก็หยิบสร้อยข้อมือหินออกมาจากกระเป๋าของเขาและมอบให้หัวหน้าตระกูลฟีบี้แล้วพูดว่า “นำไปมอบให้ซวินเอ๋อ!”
“อุปกรณ์เวทมนตร์!”
เมื่อเห็นอักษรรูนที่อยู่บนสร้อยข้อมือหิน ใบหน้าของหัวหน้าตระกูลฟีบี้ก็เป็นประกายตกใจ
ในฐานะที่เป็นหัวหน้าตระกูลระดับสูงมาเป็นเวลานาน แน่นอนว่าเขานั้นรู้ดีเกี่ยวกับมูลค่าของอุปกรณ์เวทมนตร์!
อุปกรณ์เวทมนตร์แต่ละชิ้นต่างถูกแย่งชิงโดยตระกูลระดับสูงหลายต่อหลายครั้ง และมันสามารถทําให้เกิดการต่อสู้ที่ดุเดือดและโหดเหี้ยมได้อยู่เสมอ!
‘ผู้ที่สามารถสร้างอุปกรณ์เวทมนตร์ได้นั้นต้องเป็นบุคคลระดับปรมาจารย์อย่างแน่นอน!’
‘เจ้านายคนใหม่ของเรานั้นเป็นปรมาจารย์หรือเปล่า ?’
‘นั้น…เป็นไปไม่ได้’
หัวหน้าตระกูลฟีบี้เปิดเผยสีหน้าที่ดูไม่อยากจะเชื่อ เขาเคยเห็นบุคคลระดับปรมาจารย์มาก่อน ทว่าแต่ละคนนั้นมีอายุมากกว่า 70 ปี
เขาไม่เคยเห็นปรมาจารย์ที่ยังเด็กเช่นนี้
‘ไม่น่าแปลกใจ…ไม่แปลกใจเลยที่คุณหนูได้ยกกลุ่มเงามืดให้กับเขา! ผู้ชายคนนี้เป็นปีศาจ!’
หัวหน้าตระกูลฟีบี้ได้ไตร่ตรองอย่างรอบคอบ ขณะที่เขาปฏิบัติต่อเย่เฟิงด้วยความสุภาพและให้ความเคารพกับเย่เฟิงอย่างสูงสุด
งานเลี้ยงนั้นกินเวลาไปถึง 22.00 น.!
แน่นอนว่าเย่เฟิงเป็นซุปเปอร์สตาร์ของงานเลี้ยง!
แขกแต่ละคนต่างตั้งใจที่จะทําความรู้จักกับเย่เฟิง ในตอนที่เย่เฟิงกําลังจะกลับ เขามีนามบัตรหลายสิบใบอยู่ในมือ และกระเป๋าของเขา
ใบหน้างดงามของหลินหลานนั้นแดงระเรื่อ
คืนนั้นเธอเป็นเด็กสาวที่มีความสุขมาก และเนื่องจากเธอ ดื่มไปพอสมควรเธอจึงรู้สึกเมานิดหน่อย
ตอนนี้มียานพาหนะเพียงไม่กี่คันบนท้องถนน
รถปอร์เช่ของหลินหลานทะยานไปบนท้องถนนด้วยความเร็วสูง
“เย่เฟิง นายเป็นใครกันแน่ ?”
หลินหลานถามเย่เฟิง ด้วยความอยากรู้ขณะที่เธอกําลังขับรถ
หลังจากได้ยินคําถามของเธอ เย่เฟิงก็เผยรอยยิ้มจาง ๆ
ทว่าเมื่อเขากําลังจะตอบเธอ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกถึงวิกฤตอะไรบางอย่างที่ใกล้เข้ามา!
ดวงตาของเขาเบิกกว้าง ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปในเสี้ยววินาที!
“ไม่นะ!”
เย่เฟิงรีบคว้ากอดหลินหลานและกระแทกประตูรถให้เร็ว และแรงที่สุด!
ปัง!
เย่เฟิงกระแทกประตูให้หลุดออกด้วยเรี่ยวแรงราวกับสัตว์ร้าย จากนั้นเขาและหลินหลานก็กระเด็นออกมาจากตัวรถ
เย่เฟิงลอยไปในอากาศขณะที่เขาโอบกอดหลินหลานเอาไว้ในอ้อมอก ก่อนที่เขาจะควบคุมร่างกายของตัวเองและลงมายืนอยู่บนพื้นราวกับกระโดดลงมาเฉยๆ
หลินหลานไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย!
เธอตกตะลึงอย่างมาก
เธอไม่รู้ว่าทําไม เย่เฟิงถึงกอดเธอและกระโดดลงจากรถของเธอ!
“เย่เฟิง ทําไม…”
เมื่อหลินหลานกําลังจะถามเหตุผลของเขา เธอก็เห็นรถของเธอแล่นไปข้างหน้าและเริ่มมีไฟลุก!
ตูม!
ด้วยเปลวไฟที่รุนแรงรถทั้งคันถูกระเบิดออก
ในเสี้ยววินาทีรถปอร์เช่กลายเป็นกองเศษเหล็ก เปลวไฟพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า!
หลินหลานตกตะลึง
เธอไม่เคยคิดเลยว่าปอร์เช่ของเธอจะระเบิด
“มีคนวางระเบิด!”
เย่เฟิงดูมืดมนอย่างยิ่งในขณะที่ดวงตาของเขาแสดงเจตนาร้ายลึก
เห็นได้ชัดว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้มีพลังอํานาจ ระเบิดนั้นประณีตมาก มันไม่มีเสียงใด ๆ แม้แต่น้อย ตัวเย่เฟิงเองก็เกือบพลาดเช่นกัน!
หากไม่ใช่เพราะประสาทสัมผัสที่ละเอียดอ่อนของเย่เฟิง พวกเขาคงจะต้องได้รับบาดเจ็บแม้ว่าพวกเขาจะได้รับการปกป้องด้วยอุปกรณ์เวทมนตร์อันทรงพลัง
“นี่มันอาจจะเป็นแค่การเริ่มต้น!”
เย่เฟิงหันกลับมาขณะที่เขาจ้องมองอาคารที่สร้างไม่เสร็จริมถนนตรงนั้นด้วยใบหน้าที่มืดมน
“อะไรนะ!”
หลังจากได้ยินคําพูดของเย่เฟิง หลินหลานก็ตกตะลึง
ทันใดนั้น!
ปัง!
พวกเขาได้ยินเสียงปืน!
กระสุนถูกยิงตรงไปที่เย่เฟิง!