โดยปกติเมื่อยอดฝีมือระดับหนึ่งถูกเขาโจมตี ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ไป๋ยี่เฟยกลับไม่ตาย ยังสามารถลุกขึ้นมาได้ เขาประเมินความแข็งแกร่งของร่างกายไป๋ยี่เฟยต่ำไป
และเมื่อหวังเจียจุ้นเห็นไป๋ยี่เฟยในสภาพหมดแรง เขาจึงไม่กลัวอีกต่อไป เขาหลบอยู่ด้านหลังของหวังสือชิ่ง แล้วหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง“โง่เง่าเต่าตุ่นจริงๆ ทั้งๆที่รู้ว่าสู้ไม่ได้ยังจะรนหาที่ตายอีก!”
“ถ้าจู่ๆแกไม่โผล่ออกมา ฉันก็คิดว่าแกตายไปแล้ว แต่คิดไม่ถึงเลย แกว่าแกมีชีวิตอยู่ไม่ดีกว่าเหรอ?ถึงได้ออกมารนหาที่ตายแบบนี้?”
“แต่ก็ดี ฉันว่านายคงชอบนังแพศยานี่สินะ?งั้นฉันก็จะให้แกเห็นกับตาว่าฉันข่มเหงหล่อนยังไง?”
เขาพูดไปด้วยเดินไปข้างหน้าของหลงหลิงหลิงไปด้วย ยื่นมือไปกระชากผมของหลงหลิงหลิง
“โอ้ย!”
หลงหลิงหลิงร้องด้วยความเจ็บปวด ถูกกระชากมาที่ตรงหน้าของไป๋ยี่เฟย
“เพี๊ยะ!”
หวังเจียจุ้นตบหลงหลิงหลิงไปหนึ่งฉาดอย่างไม่ลังเล
“เห็นแล้วใช่ไหม?”หวังเจียจุ้นหัวเราะอย่างได้ใจ“ฮ่าๆ……”
แต่ไป๋ยี่เฟยที่เห็นฉากนี้ถึงกับโกรธเกรี้ยวขึ้นมาในทัน“ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้นะ!”
ความโกรธของเขาทำให้พลังในตัวของเขาเพิ่มกลับมาอีกครั้ง ดวงตาของเขาแดงก่ำ
หลังจากนั้นเขาก็พุ่งเข้าไปหาหวังเจียจุ้นทันที
หวังเจียจุ้นปล่อยหลงหลิงหลิง แล้ววิ่งกลับไปด้านหลังของหวังสือชิ่ง“พ่อครับ!”
หวังสือชิ่งยื่นริ้วออกไปหนึ่งนิ้วด้วยสีหน้าหน้าเฉยเมย แล้วแตะบนตัวของไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยรับรู้ได้ถึงพลังมหาศาลที่ไม่สามารถต้านทานได้
แต่ถึงจะเป็นแบบนี้ ไป๋ยี่เฟยยังคงพุ่งเข้าไปอย่างไม่สนใจ
ในขณะเดียวกัน สิ่งที่จื่ออีพร่ำสอนเขาก็ปรากฏขึ้นมาในสมอง วิชาหมัดที่ฉินหัวสอน กระทั่งยังมีคลิปที่เมิ่งหลินถ่ายทอดให้ฉายซ้ำไปซ้ำมา
ไป๋ยี่เฟยหลับตาลง
ทันใดนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงนิ้วมือของหวังสือชิ่ง เหมือนจะมีกระแสลมหลั่งไหลมาที่เขา
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ พลังของเขาไม่ได้มาจากนิ้วมือของเขาเอง แต่มาจากนิ้วมือของกระแสลมที่มาจากบริเวณโดยรอบ
ชั่วพริบตาเดียว ไป๋ยี่เฟยรู้สึกว่าตัวเองเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง แต่ตอนนี้ในใจของเขาเต็มไปด้วยไฟแห่งโทสะจึงไม่มีเวลาคิด และไม่สนใจมัน
ต่อมาเขารับแรงโจมตีที่เกิดขึ้น และส่งศอกออกไป
ศอกนี้มีความแตกต่างจากแต่ก่อน เมื่อก่อนไม่มีพลังอ้านจิ้งใดๆ แต่ครั้งนี้เขาใช้พลังอ้านจิ้งทั้งหมดที่เขามี
ส่งพลังอ้านจิ้งไปที่ปลายศอกของเขา ราวกับนำพลังทั้งหมดทำให้เป็นเหมือนสว่านก็ไม่ปาน
และในตอนที่นิ้วมือของหวังสือชิ่งกับศอกของเขาปะทะกันนั้น จู่ๆไป๋ยี่เฟยก็ส่งปลายศอกไปที่ด้านข้าง
“พึบ……”
พลังอ้านจิ้งนับไม่ถ้วนของปลายศอกทิ่มแทงไปที่นิ้วมือของหวังสือชิ่ง ก็เหมือนกับแผ่นเหล็กดาบของเขา
เขานำเทคนิคต่างๆที่ได้เรียนรู้นำมาปรับใช้ แล้วรวมมาไว้ด้วยกัน
แต่ทว่า……
“ปึ้ง!”
ไป๋ยี่เฟยกระเด็นออกไปอีกครั้ง
แต่คราวนี้ การกระทำของไป๋ยี่เฟยไม่ได้มีผลต่อหวังสือชิ่งเลย
เพราะเขาใช้พลังอ้านจิ้งนับไม่ถ้วน ทิ่มแทงนิ้วมือนั้นจนแหลกเป็นชิ้นๆ
ด้วยเหตุนี้เองหวังสือชิ่งถึงกับเผยให้เห็นถึงท่าทีตกใจ
หลังจากคราวนี้ไป๋ยี่เฟยถูกโยนลงกับพื้น เขาก็รู้สึกไร้เรี่ยวแรงในทันที แม้แต่ปลายนิ้วมือก็แทบจะขยับไม่ได้แล้ว
หวังสือชิ่งเก็บสีหน้าท่าทางของความดูถูก และพูดด้วยท่าทีเคร่งขรึม“แกเก่งจริงๆนั่นแหละ”
“เพียงแค่หมัดเมื่อครู่ก็สามารถจัดการยอดฝีมือระดับสูงคนหนึ่งได้แล้ว”
“แต่สิ่งที่น่าเสียดายก็คือ ฉันเป็นผู้แข็งแกร่งแห่งแดนเทพยุทธ์!”
หลงหลิงหลิงที่เห็นไป๋ยี่เฟยถูกทำร้ายจนกระเด็นอีกครั้ง จึงรีบคลานไปที่ข้างๆของไป๋ยี่เฟย พอมองเห็นหวังสือชิ่งจะลงมือ เธอจึงยื่นมือไปขวางหวังสือชิ่งไว้ แล้วขวางอยู่ตรงหน้าของไป๋ยี่เฟย
“อย่าฆ่าเขานะ!ขอร้องล่ะอย่าฆ่าเขาเลย!”
“คุณจะให้ฉันทำอะไรก็ได้ ขอแค่ไม่ฆ่าเขา ให้ฉันทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น!”
หลงหลิงหลิงขอร้องอ้อนวอน
หวังสือชิ่งคิ้วขมวดเป็นปม หวังเจียจุ้นกลับโกรธจนแทบทนไม่ไหว
“นังแพศยา!”
“ปกป้องผู้ชายคนอื่นต่อหน้าสามีของตัวเอง นังหน้าไม่อาย!”
“เพี๊ยะ!”
หลงหลิงหลิงถูกหวังเจียจุ้นตบไปอีกฉาด
ต่อมา หวังเจียจุ้นก็ยกเท้าขึ้นมาถีบไปที่หลงหลิงหลิง
หลงหลิงหลิงเจ็บจนร่างกายสั่นเทา แต่กลับทรุดอยู่บนร่างของไป๋ยี่เฟย ปกป้องเขาไว้
แต่แล้วหลงหลิงหลิงยิ่งเป็นแบบนี้ หวังเจียจุ้นก็ยิ่งโมโห ลงมือหนักขึ้นมาเรื่อยๆ“ได้ เธอเข้าข้างเขาใช่ไหม?วันนี้กูจะกระทืบมึง ให้พวกมึงตายเป็นคู่ผีสัมภเวสี!”
น้ำหนักมือของหวังเจียจุ้นเริ่มลงอย่างไม่บะยะบันยัง
หลงหลิงหลิงถูกทำร้ายจนใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด แต่ยังคงไม่ขยับไปไหน
หวังสือชิ่งที่เห็นแบบนั้นจึงขมวดคิ้วแล้วเตือนไปว่า“เจียจุ้น อย่าซ้อมเธอจนตายล่ะ!”
หวังเจียจุ้นกลับตะโกนคำรามด้วยความโมโหไปว่า“ตายก็ตายไปสิ ผมไม่เชื่อว่าจะมีผู้หญิงที่เกิดปีหยินเดือนหยินยามหยินแค่คนเดียวในโลกหรอก!”
พูดจบ เขาก็เตะไปที่หลงหลิงหลิงหนึ่งที
หลงหลิงหลิงทอดถอนใจ ยังคงไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย
หลงหลิงหลิงถูกทำร้ายหนึ่งครั้ง ไป๋ยี่เฟยก็จะรู้สึกปวดใจไปด้วย หัวใจของเขาเหมือนถูกอะไรบางอย่างทุบตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้เขากำหมัดแน่น จนเผยให้เห็นถึงเส้นเลือดของเขา
อย่างไรก็ตามไม่ว่าเขาจะรู้สึกโกรธแค้น เจ็บปวดมากแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถขยับได้เลย
ขยับแค่นิดเดียว!
นิดเดียว!
“อ้าก!”
ทันใดนั้น จู่ๆไป๋ยี่เฟยก็เงยหน้าขึ้นคำราม
ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกว่าเหล้าสีเขียวที่อยู่ภายในร่างกายของตัวเองค่อยๆเลือนหายไปในตอนที่เขาร้องคำราม
และเหล้าสีเขียวเหล่านั้นก็ค่อยๆหลอมรวมกับเลือดของตัวเองเข้าด้วยกัน
ดวงตาของเขาเป็นสีแดงเพิ่มขึ้น กระดูกของเขามีสีดังกร๊อบๆดังขึ้น
ราวกับไป๋ยี่เฟยรู้สึกว่าร่างกายของตนเองเต็มไปด้วยพลัง
“เจียจุ้น รีบหลบไป!”
หลังจากที่หวังสือชิ่งเห็นฉากนี้เขาก็ตกใจมาก รีบตะโกนเรียกหวังเจียจุ้นให้หลบไป
แต่มันสายไปแล้ว
“อ้าก!”
หลังจากที่มีเสียงร้องตกใจ หวังเจียจุ้นก็ถูกโยนขึ้นไปกลางอากาศ
และหวังเจียจุ้นเองก็เงื้อมือขึ้นเตรียมจะตบหลงหลิงหลิง แต่กลับถูกไป๋ยี่เฟยสาวหมัดไปที่ท้องอย่างรุนแรง
หลังจากนั้นเขาก็ถูกโยนขึ้นไปกลางอากาศ
ไป๋ยี่เฟยพุ่งขึ้นไปในอากาศ
หวังสือชิ่งอยากจะหยุดยั้ง แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเกินไป และมันสายไปแล้ว
คนอื่นๆถึงกับมึนงง
“อ้าก!”
หวังเจียจุ้นร้องเสียงดังกลางอากาศ แขนโบกไปมากลางอากาศ หลังจากที่ถึงจุดสูงสุดแล้ว ก็ร่วงลงพื้นอย่างรวดเร็ว
“ปึ้ง!”
หลังจากที่มีเสียงดังสนั่นขึ้น หวังเจียจุ้นก็ล้มลงกับพื้นทันที
มุมปากของเขามีเลือดไหลออกมาเป็นสาย เขายื่นแขนออกไปเพียงแค่ข้างเดียว อยากจะขอร้องหวังสือชิ่ง“พ่อครับ……ช่วย……ผม……”
แต่แล้ว หวังสือชิ่งกลับยืนนิ่งอยู่กับที่