อู๋หยุนร้องไห้ด้วยหัวใจแหลกสลาย ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว เธอรีบพยักหน้าตกลง“ได้จ้ะๆๆ ลูกอยากแต่งงานกับใครก็ได้ ลูกตัดสินใจเองได้ แม่เห็นด้วยทุกอย่าง”
หลิวเสี่ยวอิงที่เห็นแบบนั้น ในที่สุดก็ยิ้มออกมา
แต่ในเวลานี้เอง จู่ๆสีหน้าของหลิวโก๋จงก็ขรึมลง เขาคว้ามือของอู๋หยุน แล้วจับแยกกับมือของหลิวเสี่ยวอิง หลังจากนั้นก็พูดอย่างเย็นชา
“ฝันไปเถอะ ลูกต้องแต่งงานกับพานปู้ถิงเท่านั้น”
พอได้ยินดังนั้น สีหน้าของหลิวเสี่ยวอิงกับอู๋หยุนก็ตกใจมาก
ไป๋ยี่เฟยเองก็มองไปที่หลิวโก๋จงด้วยความตกใจ ลูกสาวของตัวเองจะตายแล้ว ยังจะดื้อรั้นแบบนี้อยู่อีก?
พานปู้ถิงตื่นเต้นเล็กน้อย แต่เขายังคงไม่ยอม
ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างร้อนใจ“ลุงหลิวครับ เสี่ยวอิงเธอ”
หลิวโก๋จงทำเสียงหึอย่างเย็นชา และขัดไป๋ยี่เฟย“ฉันบอกว่าไม่ต้องก็คือไม่ต้อง พวกเธอเลิกแล้วต่อกันเถอะ”
ทุกคนที่ได้ยินแบบนั้นจึงตกใจมาก
อู๋หยุนจึงผลักหลิวโก๋จงหนึ่งครั้ง“คุณทำอะไรน่ะ?ลูกสาวเป็นถึงขนาดนี้แล้ว คุณเห็นคนตายแล้วยังไม่ช่วยอีก?คุณ……”
หลิวโก๋จงถอยหลังไปหนึ่งก้าว แล้วมองไปที่หลิวเสี่ยวอิงที่อยู่บนเตียงด้วยใบหน้าเคร่งขรึม“ลูกไม่ได้โดนพาด้วยซ้ำ!”
“อะไรนะ?”ทุกคนตกใจมาก
หลิวเสี่ยวอิงเหลือบตาหันไปมองทางอื่นอย่างร้อนตัว
หลิวโก๋จงพูดอีกว่า“เสี่ยวอิง ลูกอย่าลืมนะ ว่าใครเป็นคนสอนพื้นฐานของการแพทย์แผนจีนตอนลูกยังเป็นเด็ก?”
ตระกูลหลิวของพวกเขาเป็นครอบครัวแพทย์แผนจีน ถึงแม้ทักษะการแพทย์ของหลิวโก๋จงจะไม่ได้เก่งเท่าน้ารองของหลิวเสี่ยวอิง แต่เขายังพอได้เรียนรู้อยู่บ้าง อีกทั้งทักษะทางการแพทย์ของเขาก็ไม่แย่
หลิวเสี่ยวอิงไม่กล้าแม้แต่จะลืมตา จึงรีบปิดตาลง
ไป๋ยี่เฟยที่ได้ยินดังนั้น หัวใจของเขาก็เต้นเร็วแรงมาก
อู๋หยุนที่ได้ยินเช่นนั้นจึงอึ้งอยู่นาน แต่พอเห็นหลิวเสี่ยวอิงหลับตาจู่ๆเธอก็ร้อนใจมาก เธอรีบพุ่งตัวเข้าไป แล้วตะโกนเรียกเสียงดัง
“เสี่ยวอิง เสี่ยวอิง ลูกเป็นอะไรไป?”
หลิวโก๋จงทนดูต่อไปไม่ได้อีกแล้ว จึงกระชากตัวอู๋หยุน แล้วหันกลับไปสั่งกับพนักงานว่า“ไปรินน้ำอุ่นมา”
พยาบาลไม่รู้ว่าทำไม แต่คำขอของครอบครัวของคนป่วยก็ไม่ได้เกินไป เธอจึงหันหลังเดินออกไป
ผ่านไปไม่นานพยาบาลก็ยกน้ำอุ่นเข้ามา หลิวโก๋จงถือไว้แล้วนั่งข้างๆเตียงของหลิวเสี่ยวอิงที่แกล้งตายพลางพูดขึ้นมาว่า“ลุกขึ้นมาดื่มน้ำซะ”
หลิวเสี่ยวอิงจึงแกล้งทำอีกครู่หนึ่ง เนื่องจากมันน่าอับอายมากจริงๆ
หลิวโก๋จงที่เห็นแบบนั้นจึงพูดอีกว่า“หยุดแกล้งทำได้แล้ว รีบลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ!”
คราวนี้หลิวเสี่ยวอิงจึงต้องลืมตาขึ้นแล้วลุกขึ้นนั่ง จากนั้นก็ดื่มน้ำร้อนท่ามกลางสายตาสงสัยของทุกคน
หลังจากดื่มน้ำร้อนไปไม่กี่นาที สีหน้าของหลิวเสี่ยวอิงก็แดงระเรื่อขึ้นเล็กน้อย ความเขียวช้ำตามร่างกายของเขาก็ค่อยๆหายไปเรื่อยๆ
พอเห็นฉากนี้แล้ว ทุกคนจึงรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก
หลิวโก๋จงทำเสียงหึอย่างเย็นชาแล้วพูดอธิบายว่า“นี่เป็นยาสมุนไพรที่ประหลาดชนิดหนึ่ง หลังจากที่กินไปแล้วจะเกิดปฏิกิริยาเป็นพิษ แต่ไม่ถึงกับเอาชีวิต และไม่มีความเจ็บปวดใดๆทั้งสิ้น ดื่มน้ำร้อนหนึ่งแก้วก้สามารถละลายความเป็นพิษได้แล้ว”
เมื่อได้ฟังอธิบาย ทุกคนก็เข้าใจได้ในทันที หลังจากนั้นก็ต่างรู้สึกอึดอัดใจ
เพราะนี่คือบทละครที่สร้างขึ้นโดยหลิวเสี่ยวอิงที่กำกับตนเองและแสดงตนเอง
ไป๋ยี่เฟยที่เห็นดังนั้นยิ่งร้อนตัวใหญ่
หลิวโก๋จงจึงมองไปที่ทุกคนแล้วพูดว่า“ตอนนี้ลูกสาวของฉันไม่เป็นอะไรแล้ว ทุกคนแยกย้ายเถอะ”
คราวนี้กลุ่มคนจึงไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ต่อไป จึงพากันล่าถอยออกไป
อู๋หยุนกลับมองไปที่หลิวเสี่ยวอิงเงียบๆโดยไม่พูดอะไร
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้ออกไป เพราะเรื่องนี้เดิมทีเป็นแผนการที่หลิวจู๋เป็นคนวางแผนให้เขา
แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะพึ่งพาไม่ค่อยได้แล้ว แผนดันแตกเร็วขนาดนี้
ในขณะที่ทุกคนอยู่ในความเงียบ จู่ๆอู๋หยุนก็ชี้ไปที่หลิวเสี่ยวอิงแล้วดุด่าว่า“หลิวเสี่ยวอิง!อยากทำให้แม่ตกใจตายรึไง?เรื่องแบบนี้เอามาล้อเล่นได้เหรอ?ห้ะ?”
หลิวเสี่ยวอิงไม่กล้าพูดอะไร
ไป๋ยี่เฟยจึงรีบปกป้องหลิวเสี่ยวอิง“คุณป้าครับ นี่มัน……”
“ไสหัวไปเลยนะ!”อู๋หยุนหันกลับไปชี้ไปที่ไป๋ยี่เฟย แล้วด่าออกไปอย่างเกรี้ยวกราด“ทำไมนายถึงยังมีหน้ายืนอยู่ตรงนี้?รีบไสหัวไปเลยนะ!”
เวลานี้เองพานปู้ถิงที่เห็นแบบนั้นก็เข้าใจได้ในทันที จึงถอนหายใจ หลังจากนั้นก็พูดกับไป๋ยี่เฟยอย่างดูถูกว่า“ไป๋ยี่เฟย นายสอนวิธีนี้ให้เสี่ยวอิงสินะ?”
ไป๋ยี่เฟยไม่พูดอะไร ไม่มีอะไรจะอธิบาย
พานปู้ถิงยิ้มอย่างได้ใจ“ไป๋ยี่เฟยผมขอบอกคุณไว้นะ ไม่ว่าคุณจะใช้วิธีไหนมันก็ไม่ได้ผลทั้งนั้นแหละ สุดท้ายคนที่เธอจะต้องแต่งงานด้วยก็คือผม!”
“นอกเสียจากคุณลุงกับคุณผ้าจะไม่อนุญาต ไม่อย่างนั้นคุณก็ทำได้แค่ยืนมองเธอแต่งงานกับผมเท่านั้น!”
ไป๋ยี่เฟยก้มหน้าลง กำหมัดของตัวเองแน่น
เขากับหยุนอิงทำข้อตกลงกันว่า เรื่องที่หยุนอิงร้องขอเขา เขาจะต้องไปทำ ไม่อย่างนั้นเธอจะคุกคามชีวิตของหลี่เสว่และลูกๆของเขา
แต่เขากำลังจะออกเดินทางแล้ว พรุ่งนี้หลิวเสี่ยวอิงจะแต่งงานกับพานปู้ถิงแล้ว เขาอยากจะขัดขวาง แต่ตอนนี้วิธีการที่ใช้แผนแตกไปแล้ว ยังจะทำอะไรได้อีก?
จู่ๆไป๋ยี่เฟยก็รู้สึกสับสน เขาควรจะทำอย่างไรต่อไป?
และในเวลานี้เอง ก็มีเสียงที่ไป๋ยี่เฟยกับหลิวเสี่ยวอิงคุ้นเคยดังลอดมาจากประตู
“คุณลุงคุณป้า ไม่อยากรู้ความคิดที่แท้จริงของเสี่ยวอิงเหรอคะ?”
ไป๋ยี่เฟยหันกลับไปมองอย่างตกใจ หลิวเสี่ยวอิงจึงเบิกตากว้างแล้วมองไป
คนที่มาคือหลี่เสว่ พวกเขาสองคนไม่มีใครคาดถึง
หลิวโก๋จงกับอู๋หยุนขมวดคิ้วแล้วมองไปที่หลี่เสว่ จากนั้นหลิวโก๋จงก็เอ่ยถามว่า“เธอเป็นใคร?”
“ฉันชื่อหลี่เสว่ค่ะ เป็นภรรยาของไป๋ยี่เฟย”
“คุณลุงคุณป้าครับ เธอคือภรรยาของไป๋ยี่เฟยครับ!”
เสียงของหลี่เสว่กับพานปู้ถิงดังขึ้นพร้อมกัน
หลิวโก๋จงขมวดคิ้วเป็นปมแน่นขึ้น อู๋หยุนกลับอุทานด้วยความตกใจ“ว่าไงนะ?เธอคือภรรยาของไป๋ยี่เฟย?เธอมาที่นี่ทำไม?”
หลี่เสว่ค่อยๆยิ้มให้ทั้งสองคนแล้วพูดว่า“ฉันแค่อยากแก้ไขปัญหาของเรื่องนี้ค่ะ”
พอได้ยินดังนั้น สีหน้าของหลิวโก๋จงก็เคร่งขรึม“ไม่มีอะไรต้องแก้หรอก เสี่ยวอิงจะแต่งงานกับพานปู้ถิง และพวกเธอ ฉันหวังว่าอย่ามารบกวนหล่อนอีก!”
หลี่เสว่ไม่โกรธ เธอได้แต่ยิ้มแล้วพูดว่า“คุณลุงคะ ฟังฉันพูดให้จบก่อนได้ไหมคะ?”
“ครั้งนี้เสี่ยวอิงทำไม่ถูกจริงๆ แต่เธอก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว หรือพวกคุณไม่เคยคิด ครั้งนี้มันเป็นเรื่องโกหก ครั้งต่อไปอาจจะเป็นจริงก็ได้ล่ะ?”
“เป็นไปไม่ได้!จะไม่มีครั้งต่อไปอีกแล้ว!”หลิวโก๋จงทำเสียงหึอย่างเย็นชา
หลี่เสว่พูดอย่างเรียบเฉย“พวกคุณไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะอยู่กับเธอตลอดเวลา อีกทั้งฉันขอพูดอะไรที่ไม่น่าฟังหน่อยนะคะ คนเป็นพ่อเป็นแม่ สิ่งที่คาดหวังที่สุดคือลูกสาวของตัวเองมีความสุขไม่ใช่เหรอ?”
“แต่ตอนนี้เสี่ยวอิงเธอไม่มีความสุขเลย แถมยังเสียใจด้วยซ้ำ เสียใจจนคิดที่จะฆ่าตัวตาย”
แต่แล้วอู๋หยุนโต้กลับไปว่า“เราทำเพื่อเธอ อย่างน้อยก็ดีกว่าพวกเธอ ถึงได้หน้าไม่อายแบบนี้ ยังอยากจะให้เสี่ยวอิงแต่งงานกับไป๋ยี่เฟยอีก ไม่มีทาง!”
“ยังมีเธออีก เธอเป็นภรรยาของไป๋ยี่เฟย เธอสามารถทนได้เหรอ?”
หลี่เสว่ตอบกลับอย่างเรียบเฉย“ฉันกับเสี่ยวอิงเป็นเพื่อนสนิทกันค่ะ”
“เป็นเพื่อนสนิทแล้วยังไง?ฉันไม่เชื่อว่าเธอจะสามารถทนได้ สามารถยินยอมอย่างเต็มใจ”อู๋หยุนพูดเสียงดัง
หลี่เสว่ยังคงรักษาความเงียบสงบแล้วพูดว่า“ฉันยินยอมอย่างเต็มใจค่ะ”
และในเวลานี้เอง เพราะทัศนคติของอู่หยุนที่มีต่อหลี่เสว่ทำไป๋ยี่เฟยโกรธ หลี่เสว่จึงรีบก้าวขึ้นไปข้างหน้าไปยืนอยู่ด้านหน้าของไป๋ยี่เฟยแล้วพูดว่า
“ความจริงฉันไม่ยอมรับหรอกค่ะ แต่เราต่างเป็นผู้หญิง แน่นอนว่าไม่อาจยอมให้หญิงอื่นใช้สามีคนเดียวกับตัวเอง”
“แต่ว่า เรื่องของความรู้สึกไม่สามารถอธิบายให้ชัดเจนได้โดยใช้คำพูดเพียงไม่กี่คำ”
“การที่ชอบคนคนหนึ่งมันไม่สามารถควบคุมได้ นี่ไม่ใช่ความผิดของเสี่ยวอิง และไม่ใช่ความผิดของสามีฉัน ถึงฉันจะรู้สึกเจ็บปวดแต่ไม่สามารถไปปิดกั้นความชอบแบบนั้นได้”
“อีกทั้งเรื่องราวที่เราสามคนผ่านมาพร้อมกันนั้น พวกคุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง โดยเฉพาะเสี่ยวอิง เธอเสียสละเพื่อสามีของฉันมามากมาย รวมถึงชีวิตของเธอด้วย”
“สามีของฉันเขาเสียใจมากกว่าพวกเรา เขาต้องคำนึงถึงความรู้สึกของฉัน และคำนึงถึงความรู้สึกของเสี่ยวอิง เราสามคนต้องเจ็บปวดเพราะเรื่องแบบนี้”
“อุบัติเหตุนั้นก็เป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิด และไม่ใช่สิ่งที่สามีของฉันต้องการจะทำในสภาพที่มีสติสัมปชัญญะ และฉันก็เชื่อว่า เสี่ยวอิงไม่ได้ตั้งใจอยากจะทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเรา”
“แต่เมื่ออุบัติเหตุเกิดขึ้นแล้วก็ทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้เป็นเวลาที่ต้องแก้ไขปัญหา”
“ใช่ ตามมุมมองทางโลกในปัจจุบัน พวกเราคนใดคนหนึ่งจะต้องเจ็บปวดเป็นสองเท่า”
“แต่ฉันเข้าใจสามีของฉัน และเข้าใจเสี่ยวอิง เราสามคนฝ่าฝืนกฎทางโลกพร้อมกัน แต่การทำแบบนี้ มันเป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดแล้ว และมันก็เป็นวิธีที่สามารถลดความเจ็บปวดได้”