ในเวลานี้ หนิวต้ายกำลังนอนพักผ่อนอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก เมื่อได้ยินเสียงก็ตกใจและลุกขึ้นยืน“เกิดอะไรขึ้น?”
ยอดฝีมือสามคนที่ยืนอยู่หน้าประตู รีบหันไปมองทันที จากนั้นสีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยน
หนิวต้ายก็รีบวิ่งออกมาดู เมื่อมาถึงลานหน้าคฤหาสน์ เขาตกใจจนเบิกตากว้างทันที
ไป๋ยี่เฟยเดินมาหาเขาทีละก้าวๆ
หนิวต้ายตกใจจนอึ้งไปเลย
“คุณ……คุณอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”หนิวต้ายได้สติแล้วชี้ไปที่ไป๋ยี่เฟยและตะโกน“แม่งเอ๊ย คุณทำไมไม่ไปวัดฝูอิง คุณมาที่นี่ทำไม?”
“เดี๋ยวก่อน คุณรู้ได้ยังไงว่าเป็นฉัน?แล้วคุณหาที่นี่เจอได้ยังไง?”
ขณะนี้เขาพึ่งสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติไป
แต่ไป๋ยี่เฟยไม่ได้สนใจเขา เขาเดินตรงเข้าไปในคฤหาสน์
“เฮ้ย คุณอวดเก่งมากเกินไปแล้ว!”
ไป๋ยี่เฟยมองไปข้างหน้าและไม่สนใจเขา ทำให้หนึ่งในยอดฝีมือระดับที่สามไม่พอใจ ยอดฝีมือทุกคนก็คงเป็นอย่างนี้ ไม่ชอบการถูกเพิกเฉยและดูถูก
ทำให้ยอดฝีมือระดับที่สามคนนั้นขวางทางไป๋ยี่เฟยไว้ และพูดด้วยสีหน้าเย็นชา:“หยุดเดี๋ยวนี้!”
หลังจากพูดจบ เขาก็ยกหมัดแล้วต่อยใส่ไป๋ยี่เฟย
ยอดฝีมือระดับที่สามอีกสองคนยืนอยู่กับที่และไม่ได้ขยับ พวกเขาสองมือกอดอก ราวกับว่าพวกเขากำลังดูหนังอยู่
ตั้งแต่พวกเขาสามคนติดตามหนิวต้าย อยู่ในเมืองเทียนเป่ยก็ไม่เคยเจอบอดี้การ์ดคนไหนที่เก่งกว่าพวกเขา และเมืองเทียนเป่ยก็เป็นแค่เมืองเล็กๆ ดังนั้นพวกเขาจึงนึกว่าในเมืองเทียนเป่ยไม่มีใครเก่งกว่าพวกเขาอีกแล้ว
อันที่จริง ความคิดของพวกเขาก็ไม่ผิด ในเมืองเล็กๆอย่างเมืองเทียนเป่ย ยอดฝีมือระดับที่สามแข็งแกร่งที่สุดแล้ว พวกเขาก็เหมือนกับไป๋หู่ที่ติดตามไป๋ยี่เฟยในตอนแรก
แต่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่แน่นอนอยู่แล้ว
ไป๋ยี่เฟยยกมือขึ้นเบาๆ จากนั้นเหยียดนิ้วชี้ออกไป เตะโดนหมัดของเขา
สีหน้าดูถูกเหยียดหยามของยอดฝีมือระดับที่สามคนนั้น ชะงักอยู่บนใบหน้าของเขา จากนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นหวาดกลัว
เพราะเขาสัมผัสได้ว่านิ้วมือนั้นมีพลังมหาศาล ราวกับภูเขาลูกใหญ่ทับลงมา
“กร๊อบแกร๊บ!”
“อ๊าก!”
ยอดฝีมือระดับที่สามคนนั้นกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด จากนั้นร่างกายของเขาก็ปลิวออกไป เพราะด้านหลังของเขาเป็นประตูเข้าห้องรับแขก เมื่อเข้าปลิวเข้าไปก็กระแทกโซฟาจนกระเด็น
ยอดฝีมือระดับที่สามคนนั้นล้มลงกับพื้นและไม่ขยับตัว มือข้างที่ต่อยหมัดกระดูกหักทั้งหมด
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ยอดฝีมือระดับที่สามอีกสองคนและหนิวต้ายตกใจจนอึ้งไปเลย
ไป๋ยี่เฟยมองพวกเขาสามคนที่เหลืออยู่ พูดอย่างเย็นชา:“อย่ามายุ่งกับฉัน!”
หลังจากพูดจบ เขาก็ไม่สนใจพวกเขาอีก เขาก็เดินเข้าไปในคฤหาสน์
ยอดฝีมือระดับที่สามอีกสองคนเห็นกับตาว่าไป๋ยี่เฟยใช้เพียงนิ้วเดียวก็สามารถจัดการยอดฝีมือระดับที่สามคนนั้นได้ พวกเขาสองคนตกใจมากๆ หลังจากพวกเขาสบตากันก็เดินตามไป๋ยี่เฟยเข้าไป
พวกเขาไม่ได้จะตามไปขัดขวางไป๋ยี่เฟย แต่เดินไปด้านหน้าของยอดฝีมือระดับที่สามที่นอนอยู่บนพื้น“เฉียงจือ คุณ……คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?”
ยอดฝีมือระดับที่สามคนนั้นหน้าขาวซีด พยายามอดกลั้นความเจ็บปวดของร่างกายและพูด:“หนีไปเร็วๆ!เขา……เขา……เป็นยอดฝีมือระดับที่สอง……”
“อะไรนะ?”
ยอดฝีมือที่เหลืออีกสองคนตกตะลึง
พวกเขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าไป๋ยี่เฟยจะเป็นยอดฝีมือระดับที่สอง!
ถ้าเป็นอย่างนั้น พวกเขาคิดจะหนีไปก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องดูว่าไป๋ยี่เฟยจะยอมปล่อยพวกเขาไปหรือเปล่า?
ด้วยฝีมือของไป๋ยี่เฟยในตอนนี้ คนพวกนี้ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขา เขาไม่ได้สนใจคนพวกนั้น แต่เดินตรงไปยังชั้นที่สอง
ขณะเดินอยู่บนทางเดิน ไป๋ยี่เฟยเห็นชายใส่แว่นดำที่ไปก่อเรื่องที่โรงพยาบาล และชายรอยสักที่ยืนอยู่ข้างๆเขา
ทั้งสองคนมองเห็นไป๋ยี่เฟยก็อึ้งไปเลย ก่อนหน้านี้ไป๋ยี่เฟยทำให้พวกเขากลัวมากๆ ทำให้พวกเขารีบหลีกทางให้เขาโดยไม่รู้ตัว
ไม่เพียงแค่นั้น ตอนนี้พวกเขาสองคนเข่าอ่อน เกือบจะคุกเข่ากับพื้นอีกด้วย
ไป๋ยี่เฟยไม่สนใจพวกเขาและเดินตรงไปแล้วเปิดประตู
ภายในห้อง หลี่เสว่กับหลิวเสี่ยวอิงนั่งอยู่บนโซฟาโดยไม่ได้รับอันตรายใดๆ แต่ดูเหมือนพวกเธอจะอ่อนเพลีย
เมื่อเห็นดังนั้น ไป๋ยี่เฟยก็โล่งอกขึ้นมาทันที
พวกเธอสองคนที่อยู่ในห้องเมื่อได้ยินเสียงก็หันกลับมาดู เมื่อเห็นว่าเป็นไป๋ยี่เฟย พวกเธอก็ดีใจและรีบยืนขึ้น กำลังจะเดินมาหาเขา
ขณะที่หลี่เสว่ยืนขึ้นและกำลังจะก้าวออกไป จู่ๆเธอก็จับหน้าท้องตัวเองและนั่งลงบนโซฟา
หลิวเสี่ยวอิงสังเกตเห็นเธอมีอาการผิดปกติ รีบหันหลังและประคองหลี่เสว่ไว้ และสีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกังวล“เสว่เอ๋อ เธอเป็นอะไรเหรอ?”
เมื่อไป๋ยี่เฟยเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก็รีบเดินเข้ามา จับมือของหลี่เสว่ไว้ เมื่อเห็นว่าหลี่เสว่เจ็บปวด เขาก็กังวลมากๆ“ที่รัก คุณเป็นอะไร?ไม่สบายตรงไหน?”
หลี่เสว่กัดริมฝีปากของตัวเอง ดูเหมือนเธอเจ็บปวดมากๆจนไม่มีเรี่ยวแรงที่จะพูด
หลิวเสี่ยวอิงที่อยู่ข้างๆเข้าใจในทันที พูดกับไป๋ยี่เฟยว่า:“รีบเรียกรถพยาบาลด่วน เสว่เอ๋อใกล้จะคลอดแล้ว”
เมื่อไป๋ยี่เฟยได้ยินคำพูดนี้ก็ตื่นตระหนกตกใจ จากนั้นเขารีบหยิบโทรศัพท์โทรไปที่โรงพยาบาล“เฝิงจั๋ว รีบส่งรถพยาบาลมาที่นี่ด่วน พี่สะใภ้กำลังจะคลอดแล้ว เดียวฉันส่งที่อยู่ไปให้ ฉันพาเธอนั่งแท็กซี่ไปโรงพยาบาล พวกเราเจอกันกลางทาง”
เฝิงจั๋วรับทราบแล้วก็กดวางสาย จากนั้นรีบวิ่งไปจัดรถโรงพยาบาลทันที
ก่อนหน้านี้ไป๋ยี่เฟยต้องการให้หลิวเสี่ยวอิงเป็นผู้อำนวยการของโรงพยาบาลโว่หลง ภายหลังมีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย และหลิวเสี่ยวอิงก็ตามไป๋ยี่เฟยไปที่หลันเต่า ดังนั้นเขาจึงให้เฝิงจั๋วดูแลโรงพยาบาล
หลังจากไป๋ยี่เฟยวางสายโทรศัพท์ก็รีบอุ้มหลี่เสว่วิ่งลงไปด้านล่างทันที
เมื่อเห็นเขาวิ่งลงมา ไม่มีใครกล้าขวางทางเขา
เมื่อวิ่งถึงลานหน้าคฤหาสน์ หนิวต้ายเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก็ตระหนักได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้เขาคิดยังไง แต่เขารีบวิ่งตามไปและตะโกนว่า:“รีบไปขับรถของฉันเร็วๆ!”
ถึงแม้ไป๋ยี่เฟยจะไม่พูดอะไร แต่ก็รีบหยิบกุญแจรถยนต์จากมือของเขา
ไป๋ยี่เฟยเปิดประตูรถยนต์แล้ววางเธอไว้ที่เบาะหลัง หลิวเสี่ยวอิงก็ตามเข้าไปดูแลหลี่เสว่ ไป๋ยี่เฟยรีบขึ้นรถยนต์และสตาร์ทรถทันที และรีบขับรถไปโรงพยาบาล
……
เมื่อถึงโรงพยาบาล หลี่เสว่โดนส่งตัวเข้าห้องคลอด หลิวเสี่ยวอิงก็เดินตามเข้าไปด้วย
ไป๋ยี่เฟยมองเห็นเธอเข้าไปในห้องคลอด เขาก็โล่งอกทันที
ตอนนี้เขาพึ่งจะมีเวลาก็เลยโทรหาหลี่เฉียงตง
หลังจากวางสาย เขาก็พิงกำแพงและรออย่างกังวลใจเพียงคนเดียว
ผ่านไปชั่วครู่ จู่ๆบนทางเดินก็มีคนเดินเข้ามา คนที่เดินอยู่ข้างหน้าคือหนิวต้าย
หนิวต้ายเดินมาข้างหน้าไป๋ยี่เฟย ถามด้วยความห่วงใย:“เธอเป็นยังไงบ้าง?เธอเป็นอะไรไหม?”
ไป๋ยี่เฟยเหลือบมองเขา จากนั้นส่ายหัวและพูด“เธอไม่เป็นไร”
เมื่อหนิวต้ายได้ยินคำพูดนี้ก็โล่งอกขึ้นมาทันที
ในขณะนี้ ไป๋ยี่เฟยพูดเบาๆว่า:“คุณถามประโยคนี้กับฉัน ทำให้ฉันดีใจมาก”
หนิวต้ายรีบหลบสายตาและไม่พูดอะไรอีก
ไป๋ยี่เฟยหยิบบุหรี่ออกจากกระเป๋ากางเกงและจุดไฟ จากนั้นพูดกับหนิวต้ายเบาๆว่า:“ถ้าคุณไม่มาที่โรงพยาบาล และไม่สนใจเรื่องที่เกิดขึ้น ฉันคงจะฆ่าคุณแน่ๆ”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ หนิวต้ายก็ตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
“พูดตรงๆ พ่อของคุณตายเพราะฉัน คุณจะเกลียดฉันมันก็เป็นเรื่องปกติ อยากจะแก้แค้นก็สมเหตุสมผล เรื่องพวกนี้ฉันไม่โทษคุณ แต่ว่า……”
“ถ้าคุณถูกศัตรูที่แท้จริงของคุณหลอกใช้ และเต็มใจที่จะให้เขาหลอกใช้ ฉันจะไม่มีวันให้อภัยคุณเด็ดขาด!”
“ส่วนเรื่องของพ่อคุณ ที่ฉันจะไม่ฆ่าคุณ ไม่ใช่เพราะคุณมีป้ายทองนิรโทษ แต่ตราบใดที่คุณไม่ทำผิดหลักมนุษยธรรม ฉันสามารถทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น”
“แต่คุณเติมใจให้คนอื่นหลอกใช้และจับภรรยาของฉัน……”
ไป๋ยี่เฟยพูดถึงตรงนี้ก็หยุดไปชั่วครู่ จากนั้นก็พูดต่อ:“ยังดีที่คุณไม่ได้ทำร้ายเธอ เห็นได้ชัดว่าคุณยังไม่ชั่วร้ายจนเกินจะเยียวยา คุณแค่เห็นแก่ตัวมากเกินไป”
จากนั้น ไป๋ยี่เฟยก็หยุดพูดอีกครั้ง หันหน้าไปมองหนิวต้ายและพูด:“ยังมีอีกเรื่อง คุณเป็นผู้ชายเหี้ยๆ!”
“อ๊าก?”หนิวต้ายตกตะลึง ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงกลายเป็นผู้ชายเหี้ยๆ
ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างเย็นชา“เมื่อคืน มีผู้หญิงคนหนึ่งเล่าเรื่องของเธอให้ฉันฟัง”
หนิวต้ายยังคงงุนงง มันเกี่ยวข้องอะไรกับที่พูดว่าเขาเป็นผู้ชายเหี้ยๆ
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้พูดต่อ แต่ถามกลับไปว่า:“คุณแปลกใจใช่ไหม ว่าฉันหาคุณเจอได้ยังไง?”
หนิวต้ายพยักหน้าทันที