ลูเซียนรู้สึกว่าเขาเพิ่งพบเรื่องประหลาดพิลึกพิลั่น แน่นอนว่ามาสเกลีนไม่มีเหตุผลที่จะโกหกเขาเรื่อง ‘มงกุฎสุริยัน’ และไม้กางเขนตรงกลางของ ‘มงกุฎสุริยัน’ ก็ดูเหมือนกับที่เขาเห็นบน ‘เหรียญตราสัจธรรม’ ของเบนจามินทุกกระเบียดนิ้ว
ทุกอย่างยิ่งดูเป็นปริศนามากขึ้นๆ ลูเซียนคิดว่าจริงๆ แล้ว ‘นักบุญสัจธรรม’ เป็นจุดเริ่มต้นพัฒนาการและการเติบโตตั้งแต่แรกเริ่ม
เมื่อหยุดคิดถึงความกังวลต่างๆ ลูเซียนปฏิบัติตามคำแนะนำที่มาสเกลีนทิ้งไว้และสร้างรูปแบบเวทที่มีรูปร่างประหลาดด้วยพลังวิญญาณของเขาเป็นอย่างแรก แล้วเขาก็ประทับรูปแบบดังกล่าวลงบนอุปกรณ์เวทมนตร์นั้น
ทันทีที่พลังวิญญาณของลูเซียนเชื่อมโยงกับ ‘มงกุฎสุริยัน’ เรียบร้อย เขารู้สึกว่าทั้งร่างกำลังอาบไปด้วยแสงที่ศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์ อุปกรณ์เวทมนตร์ชิ้นนี้เต็มไปด้วยแสงพลังบริสุทธิ์ที่สุด
ลูเซียนประทับตราวิญญาณของเขาลงบน ‘มงกุฎสุริยัน’ โดยไม่ลำบาก และกลายเป็นผู้ครอบครองอุปกรณ์เวทมนตร์ชิ้นนี้อย่างแท้จริง เขายังมองดูผลึกภายในอุปกรณ์เวทมนตร์ซึ่งซับซ้อนมาก
ตอนนั้น ลูเซียนมั่นใจเต็มร้อยกว่าพลังของ ‘มงกุฎสุริยัน’ มีที่มาจากพลังเทพ ซึ่งต่างจากพลังเวทมนตร์โดยสิ้นเชิง เขาแขวนเครื่องรางชิ้นนั้นไว้ที่คอภายใต้เสื้อผ้าและสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น พลังแผ่ออกไปได้ด้วยการใช้พลังวิญญาณของลูเซียนสวดมนต์ภาวนาและปลดปล่อยดวงวิญญาณ
ลูเซียนร่ายคาถาใส่ม้วนกระดาษหนังและบันทึกจนลุกเป็นไฟ และเผาจนไม่เหลือซาก เนื่องจากข้อมูลทั้งหมดถูกเก็บไว้ในห้องสมุดห้วงจิตของเขาแล้ว ขณะมองดูเปลวไฟ เขากำลังกังวลหนัก เพราะเขาอาจเข้าไปล่วงรู้ความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกใบนี้โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ซึ่งพัวพันกับ ‘ศาสนจักร’ ‘สภาเวทมนตร์’ และแม้กระทั่ง ‘ลัทธิอาร์เจนต์ ฮอร์น’
เขาเชื่อว่า ‘อาร์เจนต์ ฮอร์น’ ก็พัวพันกับเรื่องนี้ด้วย เพราะเขาจำได้ว่าคนที่เรียกว่า ‘เจ้ามหาลัทธิอาเจนต์’ ใช้คำว่า ‘ความเงียบงันนิรันดร์กาล’ เป็นชื่อตำแหน่ง ลูเซียนมีความรู้สึกตั้งแต่ก่อนหน้านี้อยู่แล้วว่าชื่อตำแหน่งแปลกๆ แบบนี้ต้องมีที่มาที่ไป และตอนนี้เขาย่างก้าวมาสู่ ‘โลกแห่งความเงียบงันนิรันดร์กาล’ ด้วยตัวเขาเองเสียแล้ว
บางทีอันตรายอันใหญ่หลวงที่ ‘ศาสดาพยากรณ์’ ทำนายไว้อาจเกี่ยวข้องกับลัทธิอาร์เจนต์ ฮอร์น ก็เป็นได้… การเปิดเผยเอกสารลับโบราณอาจเป็นแผนการอันจงใจของพวกนอกรีต…
ลูเซียนไม่รู้เลยว่าเขากำลังจะเผชิญกับอะไร แต่เขารู้แค่ว่าต้องใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงที่มีอยู่ให้คุ้มค่าที่สุด และต้องเก็บสารประกอบเวทต่างๆ เพื่อใช้ในการเพิ่มพลังวิญญาณของเขา
สูดลมหายใจยาว ลูเซียนเดินออกจากห้องโถงและมุ่งหน้าไปยังห้องหมายเลขหนึ่ง
มีชั้นวางของและตู้กระจกสูงระดับเอวตั้งอยู่เต็มห้อง ทุกอย่างดูเป็นสีขาวดำ
ลูเซียนเห็น ‘ลูกตา’ รูปร่างแปลกๆ แช่อยู่ในของเหลวสีดำ ดอกไม้ที่ดูเหมือนแมงมุมอยู่ใต้ฝาแก้ว หินสีเทาลอยอยู่กลางอากาศ และศพแห้งๆ พันด้วยผ้าห่อศพ… มีวงเวทหลายแบบสลักบนชั้นและตู้ตามความหมายกระบวนการเก็บที่ต่างกันออกไป
ลูเซียนไม่มีเวลามาไล่เลียงสำรวจทีละชั้น เขาเดินตามความจำหาชั้นหมายเลขเจ็ดสิบสองสำหรับ ‘ผงมัยซินเขียวหยก’
แม้ผงวัตถุประกอบเวทดังกล่าวน่าจะเป็นสีเขียวหยก แต่ในโลกนี้ มันกลับเป็นสีเทาเกลี้ยงๆ ลูเซียนกลั้นหายใจตอนที่ตักผงมัยซินจากขวดโหล เพราะการสูดผงเข้าไปอาจทำลายอวัยวะภายในของมนุษย์
จากนั้น ลูเซียนเดินไปยังอีกห้องและเก็บ ‘เกล็ดงูหิน’ ที่ดูเหมือนเกล็ดจริงๆ ‘ดอกชมจันทร์แห่งคนเลี้ยงแพะ’ และ ‘ใบไม้หน้าผี’ ลูเซียนรู้สึกขยะแขยงตอนที่เขาหยิบใบไม้หน้าผีออกมา เนื่องจากใบไม้แต่ละใบมีหน้าคนอยู่บนนั้น บางหน้ากำลังหัวเราะ และบางหน้าหน้าตาดูชั่วร้าย
ดอกชมจันทร์แห่งคนเลี้ยงแพะ+ใบไม้หน้าผี+เกล็ดงูหิน+ผงมัยซินเขียวหยก = ‘น้ำยาจันทราสีเงิน’
ลูเซียนไม่คิดว่าจะปรุง ‘น้ำยาประตูเวทมนตร์’ ในตอนนี้ แม้ว่าเขาพยายามวิเคราะห์ ‘น้ำยาประตูเวทมนตร์’ มาก่อนแล้ว แต่กระบวนการปรุงน้ำยาตัวนี้ยังยุ่งยากอยู่ดี โดยเฉพาะเมื่อเขาต้องรีบร้อนแบบนี้
…
ภายใน ‘ห้องเล่นแร่แปรธาตุ’ ที่กว้างขวาง เต็มไปด้วยการทดลองทางวิชาการมากมายที่ลูเซียนไม่เคยเห็นมาก่อน มีมือเหล็กมือหนึ่งแขวนอยู่ด้านบน ของเหลวปริศนาสีเทาวิ่งผ่านหลอดแก่วโปร่งใส โต๊ะทดลอง เตาไฟสูง วงเวทสามมิติแวววาวอยู่ทั่วทั้งห้อง
ลูเซียนเดินตรงไปยังโต๊ะทดลองและร่ายคาถาสร้างวงเวทลงบนเตียง เขาวางหลอด ‘ผงมัยซินเขียวหยก’ ในภาชนะ ครึ่งนาทีต่อมา ผงสีเทาก็กลายเป็นของเหลวสีขุ่นภายในวงเวท
เขาปฏิบัติตามขั้นตอนเดิม ลูเซียนทำวิธีเดิมกับ ‘ดอกชมจันทร์แห่งคนเลี้ยงแพะ’ และ ‘เกล็ดงูหิน’ เมื่อเขาวาง ‘ใบไม้หน้าผี’ ที่ดูชวนหลอนบนวงเวทวงหนึ่ง หน้าของใบไม้เริ่มร้องไห้และตะโกนโวยวายเหมือเด็กที่ร้องอยากได้ของเล่น แต่เสียงกรีดร้องไม่ได้เล็ดลอดออกมาแม้แต่เล็กน้อย
ลูเซียนประทับใจมาก เทียบกับห้องทดลองใต้ดินของเขาก่อนหน้านี้ ที่นี่เป็นเหมือนสวรรค์ของเขา แล้วห้องทดลองนี้ยังเคยเป็นของ ‘ผู้วิเศษชั้นตำนาน’
เมื่อส่วนผสมทุกอย่างพร้อม ลูเซียนเริ่มผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน อุณหภูมิของไฟเป็นองค์ประกอบสำคัญ และขั้นตอนที่ยากที่สุดสำหรับลูเซียนคือการสร้างรูปแบบเวทด้วยพลังวิญญาณของเขา และรวมรูปแบบเวทเข้ากับของเหลวที่ได้จากขั้นตอนก่อนหน้านี้
ห้านาทีต่อมา ยาวิเศษที่เสร็จไปแล้วครึ่งทางของลูเซียนเริ่มกลายเป็นควัน
‘เร็วเกินไป… เรารวมรูปแบบเวทกับของเหลวเร็วเกินไป’ ลูเซียนสรุปผลอย่างใจเย็นจากข้อผิดพลาดครั้งแรก
…
อีกห้านาทีต่อมา ลูเซียนขวมดคิ้วมองเจลสีเทาในภาชนะ ‘เราใส่น้ำมัยซินเขียวหยกช้าไป…’
…
มองฟองอากาศเล็กๆ ที่สะท้อนไปมาในภาชนะ ลูเซียนรู้สึกผิดหวัง นี่เป็นความผิดพลาดครั้งที่หก
หลังจากใช้มือปาดเม็ดเหงื่อบนหน้าผาก เขาเริ่มการทดลองครั้งที่เจ็ด
ในที่สุด ครั้งนี้ทุกอย่างก็ออกมาเหมือนจะดูดี ลูเซียนหรี่ตาลงครึ่งหนึ่งพยายามเพ่งพลังวิญญาณให้เสถียร ขณะกำลังสร้างรูปแบบเวท
เมื่อของเหลวสีเทาค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีขาว ลูเซียนส่งร่ายคาถาสร้างรูปแบบเวทและรวมเข้ากับของเหลวสีขาวนั้น
พลังถูกกักอยู่ในรูปแบบเวท ของเหลวในภาชนะกลั่นออกมาเป็นหยดน้ำคล้ายลูกปัดในทันที ในแต่ละหยดมีพระจันทร์ดวงเล็กอยู่ภายใน
ลูเซียนเก็บ ‘น้ำยาจันทราสีเงิน’ ใส่ในหลอดแก้วและกลับไปยังห้องโถง ลูเซียนนั่งลงบนพื้นและต้องฟื้นฟูพลังสักพัก แม้มีเวลาเหลือเพียงยี่สิบนาที ก่อนที่ประตูมิติเวทมนตร์จะถล่ม
…
หกนาทีต่อมา ลูเซียนรู้สึกว่าพลังของเขาพร้อมแล้ว
เขามองที่ ‘ลูกปัด’ ภายในหลอดแก้ว เขาหยุดคิดอยู่แว่บหนึ่งว่าควรกินมันเข้าไปหรือไม่ เขาตลกกับความคิดแปลกๆ นี้
แล้วเขาก็ตัดสินใจเงยหน้าขึ้น เทลูกปัดทั้งหลอดแก้วเข้าปาก และในไม่กี่วินาทีต่อมา ลูเซียนก็เข้าสู่ห้วงฌานสมาธิ
ห้องโถงและโลกสีขาวดำหายไป ตอนนี้ที่ลูเซียนเห็นมีเพียงท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดาวระยิบระยับ เขาสัมผัสได้ถึงความเกรี้ยวกราดของธาตุไฟ ความไร้น้ำหนักของธาตุลม และความอ่อนนุ่มของธาตุน้ำ
นับเป็นครั้งแรก ลูเซียนเห็นวิญญาณของตัวเองที่มองจากมุมมองภายนอก ลูเซียนสังเกตว่าวิญญาณของเขามีแสงเปล่งปลั่งเหมือนพระจันทร์สีเงิน และภายในวิญญาณของเขา ก็มีภาพสะท้อนกลับหัวกลับหางของดาวเป็นร้อยเป็นพันเต็มท้องฟ้า
มุมมองจากภายนอกนี้เป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างรูปแบบเวทที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น โชคร้ายที่ระดับพลังวิญญาณของลูเซียนยังไม่มากพอที่จะทำให้เขามีมุมมองจิตวิญญาณภายนอกแบบนี้ และเหตุผลที่ลูเซียนสามารถเข้าถึงมุมมองภายนอกได้ในตอนนี้ก็เพราะยาวิเศษเท่านั้น
เขาเริ่มสร้างรูปแบบเวทภายในวิญญาณของเขาเองอย่างใจเย็น พลังวิญญาณของเขาเริ่มกลายเป็นรูปเป็นร่างด้วยเส้นพลังเปล่งแสงบนท้องฟ้า ซึ่งลูเซียนควบคุมได้ และค่อยๆ รวมตัวเป็นมวลพลังเดียว
การสร้างรูปแบบเวทต้องใช้ความยาวของเส้นพลังและมุมที่ถูกต้องแม่นยำ เฉพาะผู้ที่เข้าใจความรู้เชิงคณิตศาสตร์และเรขาคณิตอย่างลึกซึ้งเท่านั้นที่จะสามารถสร้างรูปแบบเวทได้ นักเวทฝึกหัดจำนวนนับไม่ถ้วนติดอยู่ในจุดนี้ทั้งชีวิต และไม่โอกาสยกระดับขึ้นเป็น ‘นักเวทตัวจริง’
……………………………………….